ภาค 1 ตอนที่ 2 เนื้อแกะปิ้งครุ่นคิดสมการ
ตอนที่ 2 เนื้อแกะปิ้งครุ่นคิดสมการ
หยิบปากกาอัดเสียงขึ้นมา เสี่ยวเจ๋อเริ่มวางฟอร์มชันสูตรศพ
“ผู้ตายชื่อ สวีลี่ อายุ 24 ปี ความสูงประมาณ 162 เซนติเมตร” เสี่ยวเจ๋อเริ่มสังเกตรอยแผลบนร่างของผู้เสียชีวิต “กระโหลกของผู้ตายมีรอยกระแทกเล็กน้อย มือทั้งสองข้างไขว้อยู่ที่หน้าอก นิ้วงอ ท้องน้อยมีร่องรอยบาดเจ็บจากการกระแทก จากเอวลงไปจนถึงเหนือหัวเข่าขึ้นมาถูกทับจนเสียรูป กระดูกขา...กระดูกหักมั้ง...” เสี่ยวเจ๋อไม่ค่อยแน่ใจ มองไปที่โกโก้
“...พี่สวินครับ”
โกโก้ดูเหมือนใจลอย
“พี่สวินครับ”
“หือ โอ้ ไม่มีอะไร ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ทำไมมือทั้งสองไขว้อยู่ที่หน้าอก”
“หือ”
โกโก้เดินเข้าใกล้หน้าอกของศพหญิงสาว สังเกตมือทั้งสองที่ไขว้อยู่ที่หน้าอกซึ่งเป็นท่าที่ค่อนข้างประหลาด
“นายคิดว่ายังไง” โกโก้ถาม
“มัมมี่รีเทิร์น” เสี่ยวเจ๋อกลุ้มเล็กน้อย
โกโก้ค้อนขวับเข้าให้ ขมวดคิ้วคิดไม่ออก
“ก็จริงนะครับ” เสี่ยวเจ๋อเข้ามาสมทบ เปิดดูรูปถ่ายในที่เกิดเหตุ “เวลานั้นศพนอนราบอยู่กับพื้น โดยปกติเมื่อศพเริ่มแข็งตัว มือน่าจะตกอยู่ข้างลำตัว”
“นอกจากศพเป็นตะคริว เสี่ยวเจ๋อ ทดสอบนาย นิยามของศพเป็นตะคริวคืออะไร”
“เอ่อ เนื่องจากก่อนตายกล้ามเนื้ออยู่ในสภาวะตึงเครียดอย่างหนัก ทำให้บางส่วนของศพแข็งทื่ออยู่ในท่าก่อนเสียชีวิต”
“ไม่ถือว่าเป็นนิยาม แต่ก็ใกล้เคียง” โกโก้ขมวดคิ้วต่อ “ถึงแม้ว่าเกิดจากกล้ามเนื้อตึงเครียดก่อนตาย ท่าสองมือกอดอกเช่นนี้ ก็ไม่เหมือนกับปฏิกิริยาเผชิญกับรถที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วอยู่ดี”
เสี่ยวเจ๋อกอดอกของตัวเอง แล้วจินตนาการตามไปพักหนึ่ง ดูเหมือนแปลกอยู่ไม่น้อย ถ้ามีรถพุ่งเข้ามาหาผม แสงไฟหน้ารถสาดเข้าตา เสียงเบรคดังสนั่น ผมมีปฏิกิริยาแบบไหน สองมือกอดอกเหรอ
มองไปที่สวินเข่อหรัน เธอจ้องมองมือสองข้างที่ไขว้อยู่หน้าอกของศพหญิงสาวอย่างจริงจัง ขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า
“ฉันอยากกินเนื้อแกะปิ้ง”
อะไรนะ
——————————————
เนื้อแกะปิ้งโอ้เนื้อแกะปิ้ง ท่านหมอนิติเวชเกิดอยากกินเนื้อแกะปิ้งกะทันหัน ดังนั้น การทดสอบและการชันสูตรทั้งหมดชิดซ้าย โกโก้กับเสี่ยวเจ๋อสองคนออกจากประตูใหญ่ของกองบังคับการตำรวจอย่างเปิดเผยทั้งที่ยังติดป้ายพนักงานอยู่ คุณอา รปภ. ทักว่า “โอ้ อาจารย์สวินออกไปข้างนอกหรือครับ”
“เอ่อ จะไปเอาข้อมูลภูมิหลัง เฮ่อ ตำรวจสมัยนี้ขี้เกียจกันทั้งนั้น ฉันต้องไปเอาด้วยตัวเอง”
รปภ. “เหอะๆ ลำบากหน่อยนะครับ”
เสี่ยวเจ๋อพูดในใจ ผมไม่ได้ละทิ้งหน้าที่ ผมไม่ได้ละทิ้งหน้าที่
อากาศหนาว ลมในฤดูใบไม้ร่วงพัดอย่างแรง หน้าร้านเนื้อแกะปิ้งมีคนไม่น้อย เมื่อเห็นว่าต้องเข้าแถว โกโก้กับเสี่ยวเจ๋อก็รู้กัน เริ่มคุยถึงขั้นตอนการชันสูตรศพ สีหน้าคนรอบๆ เริ่มเปลี่ยนไป พอพูดถึงการควักหัวใจออกมาทดสอบแรงดัน เหลือเพียงชายหนุ่มสองสามคนที่อดกลั้นจนหน้าเขียว คุยต่อถึงหัวข้อลำไส้ใหญ่ถูกกดเบียดออกมานอกลำตัวอัตโนมัติหลังจากตายแล้ว รอบตัวเหลือเพียงคนปิ้งเนื้อแกะที่มองทั้งสองคนอย่างทำหน้าไม่ถูก
โกโก้พอใจมาก
นั่งลงบนม้ายาว โกโก้เคี้ยวเนื้อแกะพลางพูดอ้อแอ้ “คาดีนี้ ปาหลาดนิดหน่อย โอ้! ร้อน”
“ประหลาดตงหนาย” เสี่ยวเจ๋อก็เต็มใจถูกเนื้อแกะลวก
“ไม่รู้สิ...” โกโก้ทำหน้าไร้เดียงสา
เสี่ยวเจ๋อพูดไม่ออก
ทั้งสองคนทำตัวเหมือนนักศึกษา ลมพัดใบไม้ร่วง นั่งอยู่บนม้านั่งข้างถนน เนื้อแกะคนละสิบไม้ กินอย่างเอร็ดอร่อย
เสียงรองเท้าส้นสูงดังมาจากไกลจนใกล้ ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้น ตำรวจหญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนทำงานเสมียนยืนอยู่หน้าพวกเขา “เธอคือสวินเข่อหรันเหรอ” สหายตำรวจหญิงหน้าตาเคร่งเครียด ท่าทางอย่างกับหญิงที่มาจับชู้
โกโก้ส่ายหน้า “ไม่ใช่” เธอชี้ไปที่เสี่ยวเจ๋อ “เขาคือสวินเข่อหรัน”
เสี่ยวเจ๋อกำลังงุนงง อะไรนะ
“อย่ามาทำไขสือ! ฉันบอกเธอนะ สวินเข่อหรัน คนแบบเธอไม่คู่ควรกับหัวหน้าของพวกเรา อย่าหวังจะจับเขา!” ตำรวจหญิงส้นสูงกล่าวอย่างดุดัน
“เธอชื่ออะไร” โกโก้ถาม
“สวีหวั่นลี่” ส้นสูงฮึกเหิม
“โอ้...เสี่ยวเจ๋อ ศพผู้หญิงที่ถูกบดจนละเอียดที่พวกเราเพิ่งชันสูตรไปชื่ออะไรนะ”
“หา สวีลี่...มั้ง”
หน้าของสวีหวั่นลี่เริ่มเขียว
“เฮ่อ หญิงสาวหน้าตาดี เสียดายจัง โอ้ย เธอยังอยู่อีกเหรอ เดี๋ยวข้ามถนนต้องระวังหน่อยนะ อย่าเหมือนพี่น้องเธอล่ะ ถูกล้อรถทับไปทับมา เสียดายรองเท้าส้นสูงคู่นี้จริงๆ” โกโก้พูดด้วยหน้าตาเศร้าเสียใจ
สวี่หวั่นลี่ถลึงตาใส่ “อย่าคิดว่าเธอแอบหนีออกมากินอะไรในเวลางาน ฉันไม่กล้าไปฟ้องนะ”
โกโก้หัวเราะ “ได้เลย เชิญเธอไปเปิดโปงฉันเลย รอผู้การปลดฉันออกเมื่อไหร่ เธอต้องไปช่วยชันสูตรศพพี่สาวเธอนะ”
ฮึ่มๆ สีหน้ารองเท้าส้นสูงเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง ประกายไฟปะทุไปรอบทิศ...เดินกลับไปที่ประตูกองบังคับการตำรวจ
“เกิด...เกิดอะไรขึ้นเหรอ” เสี่ยวเจ๋อยังงุนงงอยู่
โกโก้ส่ายหน้าอย่างทำหน้าไม่ถูก “ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยเป็นผู้หลงใหลหัวหน้าหน่วยอาชญากรรมมั้ง มีคนแบบนี้อยู่จริงๆ”
หา?
“ไป พวกเราไปหลอกกินฟรีที่หน่วยจราจรกัน” โกโก้ลุกพรวดขึ้นมา
หา??
“หาอะไร พวกเขาให้พวกเราช่วยชันสูตรศพก็ต้องมีสิ่งตอบแทนบ้าง” โกโก้รีบรุดไปหาแท็กซี่
หา???
——————————————
ซย่าเหอหยวนที่ดูแลส่วนอุบัติเหตุของตำรวจจราจรถือว่าเป็นศิษย์สำนักเดียวกับโกโก้ แต่เรียนนิติเวชไม่ทันจบก็เปลี่ยนใจไปสู่อาณาจักรของตำรวจ เนื่องจากทำงานเร็วกว่าสองปี ตอนนี้ถือว่าได้ดิบได้ดีพอสมควรในแวดวงตำรวจจราจร เมื่อนับว่าเป็นศิษย์ผู้พี่ครึ่งหนึ่งแล้ว โกโก้จึงรับเรื่องที่ซย่าเหอหยวนไหว้วานมา
“โอ้ ไต้เท้าสวิน ท่านมาแล้วเหรอ รายงานได้แล้วใช่ไหม” นับว่าซย่าเหอหยวนเชื่อมือโกโก้อยู่ไม่น้อย เพราะเป็นศิษย์ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาอย่างครบถ้วนเพียงผู้เดียวของท่านผู้เฒ่า เพียงแต่ รายงานนี้ได้มาเร็วจังเลย
โกโก้แบมือ ไม่มี
ท่านศิษย์ผู้พี่สีหน้าเปลี่ยนทันที “เข่อหรัน ไม่ใช่ศิษย์ผู้พี่จะว่าเธอนะ แค่รายงานชันสูตรศพจากอุบัติเหตุจราจร ต้องใช้เวลากี่วันถึงเสร็จ อย่างนี้มีผลกระทบต่อความคืบหน้าของงานแผนกอื่นนะ เธอว่าไหมล่ะ”
โกโก้เงยหน้า ยิ้มมองศิษย์ผู้พี่ที่พูดจาเป็นทางการ
ซย่าเหอหยวนอ่านสัญญาณอันตรายออกในสีหน้านั้นทันที “แต่แน่นอน การทำงานอย่างละเอียดก็เป็นเรื่องที่ดี ฮ่าๆ ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ทำ เอ่อ...มีอะไรหรือเปล่า”
เสี่ยวเจ๋อประหลาดใจต่อความสามารถในการเปลี่ยนหน้าของคนนี้อยู่ไม่น้อย ยังไม่ทันหายประหลาดใจก็ถูกใช้ไปช่วยงานอย่างอื่นซะแล้ว
โกโก้ตามซย่าเหอหยวนเข้าในห้องทำงาน นั่งลงในเก้าอี้หมุนของเขาอย่างไม่เกรงใจ “ฉันอยากได้รายงานอย่างละเอียดของอุบัติเหตุนั้น รวมทั้งเสื้อผ้า คำให้การของผู้ก่อเหตุ ถ้าเป็นไปได้ เทปบันทึกของที่เกิดเหตุก็เอาด้วย”
ซย่าเหอหยวนตะลึง ทำไม
“ไม่ทำไม ฉันรู้สึกพิกล”
ซย่าเหอหยวนขมวดคิ้ว “โกโก้ เธอคิดว่าผู้หญิงคนนั้นฆ่าตัวตายอย่างนั้นเหรอ”
โกโก้เงยหน้ามองเพดานอย่างครุ่นคิด แล้วหันกลับมามองตาซย่าเหอหยวน
“ไม่รู้สิ”
ซย่าเหอหยวนเหวอ เสี่ยวเจ๋อตบบ่าเขาอย่างเข้าใจ
“แล้วก็” โก้โก้ทำหน้าไร้เดียงสาต่อ “คืนนี้ฉันอยากกินสุกี้”
ท่านศิษย์ผู้พี่เตือนใจตัวเอง ถ้าเสียดายเด็กก็จับหมาป่าไม่ได้ เสียดายเด็กจับหมาป่าไม่ได้
หมาป่าที่อยู่บนเก้าอี้หมุนเรอออกมา ในอากาศมีกลิ่นเนื้อแกะนิดๆ