บทที่ 4 ฮีโร่! ฮีโร่! ฮีโร่!
บทที่ 4 ฮีโร่! ฮีโร่! ฮีโร่!
“ฮีโร่มิอาจช่วยเหลือโลกอันเสื่อมโทรมนี้ได้ ท่านซาฮัตตันผู้ยิ่งใหญ่จะทำลายล้างมัน และฆ่าฮีโร่ไร้ประโยชน์พวกนั้นด้วย”
“พี่ชาย...”
“ข้าไม่ใช่พี่ชายเจ้า ข้าเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ที่สุดของท่านซาฮัตตัน สิ่งที่ข้าพูดกับเจ้าทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเหลวไหล มนุษย์ธรรมดาช่างโง่เขลา อย่างไรก็อ่อนปวกเปียกไม่เคยเปลี่ยนแปลง เจ้าก็แค่เด็กอ้วนขี้มูกไหลที่เพื่อนๆ รังเกียจ! การมีอยู่ของเจ้าต่ำต้อยที่สุดของโลกใบนี้!”
“แม่จ๋า...”
“จินตนาการเพ้อฝันของเจ้า ข้าจะเป็นคนทำลายมันเอง ศักดิ์ศรีของเจ้าข้าจะเป็นคนเหยียบย่ำ เจ้าบังอาจหมิ่นท่านซาฮัตตัน ต้องได้รับการลงทัณฑ์ที่โหดร้ายที่สุด!”
“เสี่ยวฮ่าวจื่อ เสี่ยวเหล่ย...”
“กลัวสินะ สิ้นหวังสินะ มนุษย์ทั้งหลาย ท่านซาฮัตตันมาถึงแล้ว! วันอวสานของพวกเจ้ามาถึงแล้ว! กาลอวสานของโลกมาถึงแล้ว! เพื่อนของเจ้า เด็กผู้หญิงที่เจ้าชอบกำลังจะตาย ทุกคนล้วนต้องตายไร้ดินกลบหน้าเพราะเจ้า!”
“ฮึกฮึกฮืออ...”
“...”
สือเสี่ยวไป๋ใช้เท้าเหยียบร่างของเด็กอ้วนที่ล้มอยู่บนพื้น หน้าตาเหี้ยมโหด คำรามไม่หยุด ส่วนเด็กอ้วนใต้ฝ่าเท้าเขาได้แต่ร้องไห้ครวญคราง เสียงเจ็บปวดทรมานราวกับหมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางรอด
ซาฮัตตันมองดูภาพนี้ด้วยความสนุกสนาน เขาที่ฐานะต่ำต้อยในโลกปีศาจเคยได้รับการยกย่องเช่นนี้เมื่อไหร่กัน ยิ่งไปกว่านั้นละครเรื่อง ‘ความสิ้นหวัง’ ที่มนุษย์ผู้นี้กำลังเล่นอยู่ก็ไม่น่าเบื่อ ได้เห็นมนุษย์ต่ำช้ากระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดโดยการหันมาฆ่าแกงกันเอง ละทิ้งมนุษยธรรมไป สำหรับเขาแล้วเป็นความสุขที่หาไม่ได้ง่ายๆ
“ที่แท้วิธีทรมานมนุษย์ที่ดีที่สุดคือทำให้พวกมันรู้สึกถึงความสิ้นหวัง” ซาฮัตตันชอบความรู้ใหม่นี้ ดวงตาทั้งสามมองไปยังแผ่นหลังของหนุ่มน้อยตรงหน้า ฉายแววเย็นชาแวบหนึ่ง
“เจ้ามนุษย์หน้าโง่ เจ้าคิดว่าการยกยอข้าจะทำให้ข้าไว้ชีวิตเจ้างั้นหรือ? รอเจ้าทรมานเด็กอ้วนนี่จนตายแล้ว ข้าค่อยทรมานเจ้า ให้เจ้าหมดสิ้นความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ อุวะฮะฮ่าๆ ความสิ้นหวังนี้ช่างดีจริงๆ ข้าต้องสำราญกับความสิ้นหวังของเจ้าเป็นแน่”
ซาฮัตตันคิดดังนี้ ใจก็ยิ่งเฝ้ารอ แต่ไม่นานเขาก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว เพราะเขาพบว่าหนุ่มน้อยตรงหน้านอกจากใช้คำพูดทำร้ายจิตใจเด็กอ้วนแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นอีก นอกจากเตะครั้งแรกที่ทำร้ายร่างกายของเด็กอ้วน นอกนั้นเหมือนจะเป็นการวางท่าพูดจาเท่านั้น
ดังนั้นซาฮัตตันจึงกล่าวอย่างโกรธขึ้งว่า “พอแล้ว! ข้าจะจัดการด้วยตัวข้าเอง”
สือเสี่ยวไป๋ที่หันหลังให้ซาฮัตตันสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แววตาวูบไหวอย่างรุนแรง ทันใดนั้นก็ออกแรงถีบช่องท้องของเด็กอ้วน เด็กอ้วนร้อง “โอ๊ย” กุมท้องจนตัวงอ
สือเสี่ยวไป๋ออกแรงถีบเด็กอ้วนอีกไม่กี่ครั้ง ก็หันมาเอ่ยกับซาฮัตตันด้วยความเคารพ “ท่านซาฮัตตันได้โปรดให้โอกาสข้าน้อยสักครั้ง ให้ข้าน้อยได้ฆ่ามนุษย์โง่เขลาที่บังอาจล่วงเกินท่านด้วยตัวข้าเอง ได้เป็นแรงน้อยนิดอีกแรงหนึ่งของท่านถือเป็นความหมายในการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ของข้า!”
ในตาของสือเสี่ยวไป๋เปี่ยมไปด้วยความเคารพ ความบ้าคลั่ง และความซื่อสัตย์ที่ไม่อาจทำลายลงได้
ซาฮัตตันนิ่งไปพักหนึ่งจึงพยักหน้าเห็นด้วย สำหรับเขาแล้ว มนุษย์ที่ขวนขวายเอาชีวิตรอดโดยการฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง เป็นภาพไร้มนุษยธรรมที่ทำให้เขาตื่นเต้นที่สุด อีกอย่าง...ความหวังยิ่งสูง เวลาความหวังถูกทำลายลง ความสิ้นหวังจะยิ่งทวีคูณ เพราะฉะนั้นเขายินดีเล่นตามหนุ่มน้อย ทำเรื่องหลอกลวงนี้ให้เหมือนจริงที่สุด
เมื่อสือเสี่ยวไป๋เห็นว่าซาฮัตตันเห็นด้วย ก็พลิกตัวกลับมาเตะเด็กอ้วนอีกหลายที แล้วจึงหันกลับมาคำนับซาฮัตตันอีกครั้งพร้อมกล่าว “ท่านซาฮัตตันผู้ยิ่งใหญ่ ข้าน้อยรู้จักวิชาลับวิชาหนึ่ง เมื่อร่ายวิชาแล้ว ผู้ถูกวิชาจะรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น อยู่เหมือนตายแต่ตายไม่ได้!”
ดวงตาของซาฮัตตันวูบไหวอย่างระแวดระวัง แต่เขาไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพลังวิญญาณจากตัวเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ถึงแม้เขาจะรู้สึกอันตราย แต่ก็อยากจะรู้ จึงกล่าวว่า “เร็วเข้า ความอดทนของข้ามีไม่มากนัก”
“ขอรับ!” สือเสี่ยวไป๋พยักหน้าด้วยความยินดี รีบประกบมือทั้งสองข้างไว้ที่หน้าอก ปากท่องอะไรบางอย่าง
“เปลวเพลิงทมิฬ! จงมอดไหม้กายข้า! เป็นกุญแจสู่รัตติกาล เปิดประตูสองโลก! เมื่อพิภพร้อยรัดกับด้ายแดง! ข้าและผืนปฐพีจะคืบคลานแทนเจ้า! ตื่นเถิด ตื่นขึ้น จงตื่นขึ้นมา เพื่อใช้เลือดของข้าเป็นเพลิงคำสาปอันโหดร้ายที่สุด!”
สือเสี่ยวไป๋กางแขนสูดหายใจเข้าลึก เงยหน้าสู้ฟ้า ราวกับว่ากำลังเรียกพลังดำมืดบางอย่าง
“เศษเสี้ยวของราชาปีศาจร้าย มนต์ดำของเทพแห่งการทรมาน จงดลบันดาลฝันร้ายไม่สิ้นสุด ให้ร่างกายแหลกสลาย ให้วิญญาณเกรี้ยวกราดลงทัณฑ์คนบาปตรงหน้าข้า...”
สือเสี่ยวไป๋กราดเกรี้ยวเปลี่ยนท่าทางไม่หยุด แลดูศรัทธาเลื่อมใสเหมือนกำลังเรียกหาสรรพสิ่งน่ากลัวเพื่อปลดปล่อยวิชาลับเก่งกาจบางอย่าง
แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายนาที สือเสี่ยวไป๋ยังคงร่ายวิชาไม่หยุด ซาฮัตตันจึงกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “เจ้ากำลังหลอกข้าอยู่หรือ?”
สือเสี่ยวไป๋หันกลับมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความจงรักภักดีและเกรงกลัว แย้มยิ้มพลางตอบว่า “ใกล้จะเสร็จแล้วขอรับ จุดอ่อนของวิชานี้คือต้องร่ายวิชาเป็นเวลานาน แต่ท่านโปรดวางใจ เมื่อวิชานี้ปรากฏขึ้น ท่านจะได้เห็นการทรมานอย่างโหดเหี้ยมที่สุดบนโลกนี้!”
แววตาของซาฮัตตันประกายเย็นชาวูบหนึ่ง ความอดทนได้หมดสิ้นลงแล้ว ทันใดนั้นยกขาขวาถีบหน้าอกของสือเสี่ยวไป๋ สือเสี่ยวไป๋ร้องด้วยความเจ็บปวดลอยกระเด็นออกไป ตกลงที่ด้านนอกบ่อทรายอย่างแรง
“ข้าจะเว้นชีวิตไร้ค่าของเจ้าก่อน เจ้าดูให้ดีว่าข้าทรมานพวกมนุษย์อย่างไร การทรมานที่โหดร้ายที่สุดบนโลกงั้นรึ? ข้าจะทำให้เจ้าเห็นเอง!” ซาฮัตตันมองไปยังใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาและขี้มูกของเด็กอ้วนด้านล่าง พร้อมเผยรอยยิ้มสุดสยดสยอง
“หยุดก่อน!” สือเสี่ยวไป๋โดนถีบครั้งนี้หน้าอกถึงกับปริแตก แต่เมื่อได้ยินคำกล่าวของซาฮัตตันก็รีบตะโกนห้าม
เห็นซาฮัตตันยกแขนเคียวข้างขวาขึ้น สือเสี่ยวไป๋ดวงตาเป็นประกาย รีบเงยหน้าขึ้นฟ้าตะโกนว่า “ฮีโร่! ฮีโร่! ฮีโร่...”
ซาฮัตตันตะลึง หัวเราะล้อเลียนขึ้นทันที พลางกล่าว “เจ้ามนุษย์หน้าโง่ที่แท้ก็ทำเพื่อยื้อเวลา แต่น่าเสียดาย บนโลกนี้ไม่มีฮีโร่ และเจ้าก็อยู่ไม่ถึงเวลาที่ฮีโร่จะมา รอข้าจัดการทรมานไอ้หมูหน้าโง่นี่ก่อน ค่อยมอบความสิ้นหวังที่แท้จริงให้กับเจ้า”
สือเสี่ยวไป๋ยังคงหลับหูหลับตาตะโกนว่า “ฮีโร่” อย่างบ้าคลั่ง ตะโกนสุดเสียงทุกครั้ง จนดังก้องไปทั่วสวนสาธารณะ ราวกับจะทำลายม่านหมอกแห่งความสิ้นหวังไปเสีย
เด็กอ้วนได้ยินดังนั้นก็รีบตะโกนตาม เสียงตะโกนสะอื้นผสมปนเปกับเสียงแผดร้องของสือเสี่ยวไป๋ กลายเป็นเสียงคร่ำครวญอันน่าเวทนาที่สุด
“ฮีโร่! ฮีโร่! ฮีโร่...”
“หุบปาก!” ซาฮัตตันคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ไม่ลังเลอีกต่อไป ขยับเคียวมือขวาฟันไปที่เด็กอ้วนทันที!
“เคร้ง!”
แสงสีเงินของดาบวงพระจันทร์หยุดเคียวของซาฮัตตันไว้!
เงาร่างไม่สูงไม่ใหญ่เข้ามาขวางระหว่างปีศาจร้ายกับเด็กอ้วน
น้ำเสียงดึงดูดแฝงไปด้วยความอ่อนโยน เสียใจ และโกรธแค้นดังขึ้น
“ฮีโร่มาแล้ว!”