ตอนที่แล้วบทที่ 3 พวกเราต้องไม่ตาย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 Loading

บทที่ 4 วิ่ง!!!!!


บทที่ 4 วิ่ง!!!!!

 

ตอนที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนจากไปเป็นเวลาตีห้ากว่า

 

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเขาก็เกือบสิ้นหวังถึงขีดสุด!

 

เขาเดินไปทางทิศใต้... นาฬิกาของเขามีฟังก์ชั่นเข็มทิศอยู่

 

เดินอยู่ในป่าราวๆ สามชั่วโมง จนกระทั่ง... เขาเห็น...

 

ทะเล!

 

เส้นแนวชายฝั่ง

 

คลื่นที่ม้วนตัวซัดเข้ากับโขดหิน ทำเอาเฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกสิ้นหวังนิดหน่อย

 

เขารู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย

 

เพราะว่า... ตลอดทางที่เดินมาไม่ว่าจะเป็นในป่า หรือชายฝั่งแห่งนี้ ก็ไม่เห็นร่องรอยของมนุษย์เลยสักนิด

 

แนวชายฝั่งแห่งนี้ยาวมาก หาดทรายก็ไม่เลวนัก ถ้ามองในมุมการท่องเที่ยวแล้ว นับว่าเป็นที่ที่เหมาะแก่การพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจอย่างมาก ทว่าที่นี่กลับไม่ปรากฏร่องรอยกิจกรรมใดๆ ของมนุษย์เลย

 

ชายหาดสะอาดมาก ไม่มีขยะหรือของใช้ที่เป็นร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์อยู่สักนิด

 

ในป่าเองก็ไม่มีเหมือนกัน

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนตะโกนด้วยความโมโหใส่ทะเล ปลดปล่อยความโกรธในใจออกมา

 

“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะหาคนไม่เจอ!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนเตะก้อนหินก้อนหนึ่งจนกระเด็นเต็มแรง

 

คนบนเครื่องบินมากมายขนาดนั้นหายไปกันหมด เห็นชัดๆ ว่าหนีไปก่อนแล้ว... แปลว่าที่นี่จะต้องมีคนอยู่แน่นอน! จะต้องถูกช่วยไปแล้วแน่ๆ! แต่ว่าทำไมพวกเขาไม่พาฉันไปด้วยล่ะ?

 

เอาเถอะ ไม่เอาศพนั่นไปก็พอเข้าใจได้ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าคนตายแล้ว...

 

แต่กูยังไม่ตายโว้ย!!!

 

โลลิเกาหลีกับแอร์โฮสเตสนั่นก็ยังไม่ตายเหมือนกัน!!!!

 

แล้วทำไมถึงไม่ช่วยพวกเราสามคนล่ะ?!

 

รอให้เจอพวกนั้นก่อนเถอะ... เฉินเสี่ยวเลี่ยนสาบานว่าจะต้องต่อยนักบินคนนั้นแรงๆ สักหลายที!!

 

กลับไปที่เดิมเหอะ!

 

เวลาประมาณสี่โมงเย็นกว่าๆ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็กลับถึงต้นทางที่ออกเดินทางในตอนเช้า

 

ตอนที่เห็นซากเครื่องบิน เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา

 

อืม! ไม่ได้หลงทาง! ถ้าหลงทางในป่าคงตายแน่

 

กองไฟดับไปแล้ว แต่ว่า...

 

ผู้หญิงสองคนนั่นไม่อยู่

 

“...เชี่ย!! ไม่ใช่มั้ง! สองคนนั่นหนีไปแล้วเหรอ?!!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกเหมือนจะคลั่งไปชั่วขณะ

 

เดินจนล้ามาทั้งวันแถมยังหิวอีก... น้ำเปล่าสองขวดนั่นเขาดื่มไปจนหมดแล้ว

 

“ไม่รอฉันแล้วหนีไปกันเองงั้นเหรอ? มีคนมาช่วยแล้วหรือยังไง?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนโมโหเตะกองฝืนจนกระจุย

 

แต่ทว่าในตอนนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงหนึ่ง

 

ดังมาจากในซากเครื่องบิน!

 

เขามองไปก็เห็นหน้าคนโผล่ออกมาครึ่งหนึ่งจากด้านในซากห้องเคบิน เป็นแอร์โฮสเตสสาวชาวญี่ปุ่นคนนั้นเอง

 

ผมของแอร์โฮสเตสสาวยุ่งเหยิง ใบหน้ารูปไข่ที่แต่เดิมสวยงาม กำลังบิดเบี้ยวจากการออกแรงตะโกนมาทางเขา

 

“Come here!!! Come here!!!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกตัวเองโชคดีขึ้นมาทันที อย่างน้อยก็โชคดีที่ไม่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวละนะ...

 

เขายิ้มขื่นเดินไปทางซากเครื่องบิน พลางพูดเสียงดังโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ “บอกว่าอย่าไปไหนไง? ไม่เห็นใครทำเอาฉันตกใจแทบแย่ รู้บ้างไหม...”

 

สีหน้าแอร์โฮสเตสสาวชาวญี่ปุ่นคนนั้นยิ่งดูน่ากลัวขึ้นมาในฉับพลัน ใบหน้านั้นยิ่งบิดเบี้ยว จู่ๆ ก็ตะโกนร้องด้วยความตื่นตระหนกขึ้นมา: “Run!!!!!!!!!”

 

......

 

ในคืนวันนับครั้งไม่ถ้วนหลังจากวันนั้น ทุกครั้งที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนหวนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นก็รู้สึกโชคดีอย่างประหลาดกับปฏิกิริยาในตอนนั้นของตน

 

ตอนนั้นเขาไม่ได้แสดงท่าทางหรือว่าพูดพล่ามอะไร และก็ไม่ได้มัวแต่อ้อยอิ่งซักไซ้ให้อีกฝ่ายอธิบายให้รู้เรื่อง

 

คล้ายกับว่าเป็นสัญชาติญาณ พอได้ยินแอร์โฮสเตสสาวชาวญี่ปุ่นตะโกนร้อง ในใจก็คล้ายเลือกปฏิกิริยาตอบกลับที่ไวที่สุดไว้แล้ว

 

กระทั่งในหัวเขาก็ไม่ได้ลังเลหรือคิดอะไร ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือ...

 

สับขาวิ่งอย่างไว!

 

ใช้ความเร็วสูงสุดของตนเองวิ่งอย่างบ้าคลั่ง! ใส่เกียร์หมาพุ่งไปทางซากห้องเคบินเครื่องบิน!!!

 

ในตอนที่เขาเพิ่งขยับได้ไม่กี่วินาที เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ได้ยินเสียงคำรามดังมาจากด้านหลัง!

 

เสียงคำรามนั้น ไม่รู้แน่ว่าเป็นของสัตว์ชนิดไหน ในหัวของเฉินเสี่ยวเลี่ยนมีเพียงความคิดเดียว!

 

วิ่ง!!

 

หัวใจเต้นรัวเร็วอย่างกับกลอง ใบหน้าที่บิดเบี้ยวและสายตาที่ตื่นตระหนกของแอร์โฮสเตสสาวชาวญี่ปุ่นดูเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที!

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนไม่ลังเลแม้แต่น้อย เค้นแรงเฮือกสุดท้ายอันน้อยนิดของตนออกมาจนหมด!

 

ในตอนก่อนจะถึงประตูซากห้องเคบินนั่นเอง เฉินเสี่ยวเลี่ยนเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาความว่องไวนั้นมาจากไหน ในชั่วแวบเดียวก็จะพุ่งกระโจนสุดแรง ทิ้งตัวเข้าไปทางรอยแยกของซากเครื่องบิน ใช้ท่าทางแสนตลกและสุดโอเวอร์มุดเข้าไปในช่องว่างนั้น

 

ด้านหลังเกิดเสียงดังกึกก้องตามมา

 

ตึง!!

 

ดูเหมือนว่าของหนักๆ บางอย่างชนเข้ากับผิวภายนอกห้องเคบินโดยสารอย่างแรง

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนตกลงบนพื้น ยังไม่ทันได้ขยับตัวให้ดีก็รีบหันกลับไปมองท่ามกลางความชุลมุนแวบหนึ่ง

 

ทว่าในแวบเดียวนั้น เกือบทำให้เขาแทบหยุดหายใจ

 

เงาร่างดำทะมึนร่างหนึ่ง ดูด้วยสายตาแล้วน่าจะสูงเกือบสองเมตร บนลำตัวคล้ายกับมีขนยาวสีดำอยู่ทั่ว ก้อนสีดำปี๋ใหญ่ยักษ์นั่นชนเข้ากับภายนอกห้องเคบินแล้วก็กลิ้งไปบนพื้นรอบหนึ่ง จากนั้นก็ยืนขึ้นมาใหม่ เงยหน้ากู่ร้องเสียงดังอย่างดุร้าย!

 

เขี้ยวโค้งแหลมคมสองข้างและปากใหญ่กว้างสีแดงฉานดั่งเลือด ทำเอาเฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกหวาดผวา!

 

หากว่ากันตามแหล่งความรู้ทั้งหลายแหล่ที่ได้จากการอ่านหนังสือตลอดระยะเวลาสิบแปดปีของเขา ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียนเล่มไหน ทีวีช่องใด สวนสัตว์ที่ไหนๆ หรือจะเป็นพวกนิตยสารภูมิศาสตร์แห่งชาติ อะไรจำพวกนั้น...

 

เขากล้าสาบานต่อหน้าแบร์ กริลราชาแห่งนักผจญภัยเลย!

 

เจ้าสิ่งนี้... เฉินเสี่ยวเลี่ยนไม่รู้จักอย่างแน่นอน!!

 

มัน... คือตัวอะไรกันแน่?!

 

มันมีรูปร่างคล้ายกับหมูป่า หัวคล้ายกับสัตว์ตระกูลแมว ทว่าตรงบริเวณเหนือจมูกดันมีนอโค้งใหญ่ยักษ์เหมือนกับแรด ในปากอันใหญ่โตที่มีสีแดงเหมือนกับเลือดยังมีเขี้ยวโค้งคมอีกคู่หนึ่ง!

 

ขนาดตัวอันบึกบึนมโหฬารนั่นคงไม่ต้องพูดถึง ส่วนตาของมัน...

 

ผีหลอกชัดๆ!

 

คุณเคยเห็นสัตว์ตระกูลแมวที่มีสี่ตาบ้างไหมล่ะ ทั้งข้างซ้ายและขวา แต่ละข้างมีลูกตาอยู่สองดวง!!!

 

สัตว์ตัวนั้นค้อมเอวแอ่นตัวอยู่กับที่ กู่ร้องเสียงดังสนั่นใส่ซากห้องเคบิน สั่นหัวไปมา คล้ายกับว่าความดุร้ายของมันไม่ได้ลดทอนลง มันโก่งตัวอีกครั้งแล้วพุ่งมาทางซากเครื่องบิน

 

คราวนี้เฉินเสี่ยวเลี่ยนมองเห็นได้ชัดแจ๋ว

 

ตอนที่สัตว์ประหลาดนั่นยังไม่ทันถึงตัวซากเครื่องบิน จู่ๆ ตรงส่วนพื้นผิวของซากเครื่องบินก็ปรากฏแสงสีฟ้ากลุ่มหนึ่งที่คล้ายกับกระแสฟ้าแลบขึ้นมา กลุ่มแสงนั้นดีดเข้าใส่สัตว์ประหลาดอย่างรุนแรง

 

เจ้าสัตว์ประหลาดถูกแสงยิงใส่ก็ร่วงลงกับพื้น มันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดและคำรามอย่างไม่ยอมแพ้แล้วหมุนตัวอยู่กับที่อีกสองรอบ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นใช้ขาหน้าอันใหญ่โตแทกใส่ลำต้นไม้ที่อยู่ด้านข้างอย่างแรง

 

สวรรค์เป็นพยาน ต้นไม้ต้นนั้นมีขนาดหนาพอๆ กับเอวของเฉินเสี่ยวเลี่ยน แต่กลับถูกโค่นลงดื้อๆ ลำต้นกระเด็นปลิวไปไกล!

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนมองตาถลนจนแทบจะหลุดลงมาอยู่แล้ว!

 

สัตว์ประหลาดตัวนั้นพ่นลมทางจมูกทีหนึ่งพลางมองมาทางเฉินเสี่ยวเลี่ยนที่อยู่ในเครื่องบินอย่างชั่วร้าย คล้ายกับยังไม่ยอมถอดใจ ร่างอันใหญ่โตค่อยๆ เดินไปทางป่า และหายไปลับไปในดงไม้

 

“ชะ ชิบหายเอ๊ย!! แม่งถ่ายหนังอยู่หรือไงวะ!!!!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนแทบบ้า: “นั่นมันอะไรกัน?! พวกเรายังอยู่บนโลกใช่หรือเปล่า?!!”

 

…………………………

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด