ตอนที่แล้วบทที่ 2 พูดภาษาคนได้ไหม?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4 วิ่ง!!!!!

บทที่ 3 พวกเราต้องไม่ตาย!


ตอนที่ 3 พวกเราต้องไม่ตาย!

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนพาสาวน้อยโลลิเกาหลีกับแอร์โฮสเตสชาวญี่ปุ่นออกมาจากตัวเครื่องบิน

 

โลลิน้อยยังเดินได้เอง แต่แอร์โฮสเตสก้าวขาแทบไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะตกใจหรือได้รับบาดเจ็บ ต่อให้ตอนที่อุ้มแอร์โฮสเตสออกจากตัวเครื่องบิน รู้สึกเหมือนคล้ายๆ กับว่าหน้าอกนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายจะเบียดเข้ากับแขนเขา เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ไม่ได้คิดอะไรทั้งสิ้น... ต้องรีบเอาชีวิตรอดก่อนสิ พวกเรื่องไร้สาระพรรณนั้นใครมันจะไปสนใจกันเล่า!

 

ออกห่างจากตัวเครื่องบินได้สักสิบเมตร ทั้งสามคนก็นั่งลงกับพื้น

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนถึงค่อยสนใจหันกลับไปมองเครื่องบินลำนั้น

 

ตัวเครื่องยังถือได้ว่าสมบูรณ์อยู่ แต่ปีกทั้งสองข้างหายไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าปีกหักไปทั้งคู่

 

ที่นี่เป็นผืนป่า ดูจากพรรณไม้แล้ว... เอาเถอะ จริงๆ แล้วเฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ดูอะไรไม่ออกเหมือนกัน

 

เขาไม่ใช่พวกกูรูการเอาชีวิตรอดในป่า ไม่สามารถดูพรรณไม้เพื่อวิเคราะห์ว่าที่นี่อยู่ในตำแหน่งไหน เป็นพื้นที่เขตร้อนหรือเขตอบอุ่นกันแน่

 

แต่จากที่มองเห็น ภาพตรงหน้าก็ชวนให้คนตื่นตระหนกไม่น้อย

 

ด้านหลังเครื่องบิน ผืนป่าถูกถางออกเป็นทางตรงยาวเหยียดเส้นหนึ่ง! น่าจะเป็นเพราะเครื่องบินตกกระแทกลงบนผืนป่าแล้ว ‘พุ่งชน’ อย่างแรงจนถากออกเป็นทาง

 

ความยาวน่าจะหลายร้อยเมตร ต้นไม้พืชพรรณทั้งหลายต่างถูกเครื่องบินชนจนหักโค่นหรือไม่ก็ล้มเอียง

 

ล้อขึ้นลงก็ไม่รู้ปลิวหายไปไหนแล้ว ตัวเคบินโดยสารนอนราบอยู่กับพื้นอย่างนั้น ต้นไม้สองฟากที่หักก็หักไป ที่ปลิวก็ปลิวไป...

 

ถึงแม้จะดูฉากทำลายล้างในภาพยนตร์ฮอลลีวูดมามากมาย ทว่าภาพความจริงตรงหน้ากลับไม่ได้เกิดจากการใช้สเปเซียลเอฟเฟกต์ แต่เป็นภาพเหตุการณ์จริงสดๆ ร้อนๆ ที่กองอยู่ตรงหน้า ทำเอาเฉินเสี่ยวลี่ยนตื่นตะลึงไปหลายวินาที!

 

แอร์โฮสเตสคนนั้นดูเหมือนจะค่อยๆ สงบลงช้าๆ และพยายามจะลุกขึ้นเอง ยังดีที่ดูเหมือนขาและเท้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหน้านี้คงเป็นเพราะว่าตกใจเท่านั้น

 

แอร์โฮสเตสสาวเกาะต้นไม้ มองไปรอบๆ อย่างหวาดกลัวและสิ้นหวัง แล้วเปล่งเสียงที่ค่อนข้างแหบแห้งออกมา

 

“help!!”

 

“Ta su ke te!!”

 

คราวนี้ฟังรู้เรื่องแล้ว ‘Tasukete’ ประโยคหลังนั่น คงจะหมายความว่าช่วยด้วยสินะ?

 

สาวน้อยโลลิเกาหลีเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น เด็กอายุเท่านี้ ดูแล้วท่าทางอายุไม่น่าเกินสิบขวบ แต่ยังคงสามารถนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นไม่เป็นลมล้มพับไปก็ถือว่าเข้มแข็งมากแล้ว จะไปคาดหวังเรื่องอื่นๆ ได้ยังไง...

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนสูดลมหายใจลึก แล้วจู่ๆ ก็วิ่งเข้าไปทางเคบินโดยสาร

 

แอร์โฮสเตสสาวเห็นเฉินเสี่ยวเลี่ยนทำเช่นนั้นก็ตะโกนใส่เขาหลายประโยค คล้ายว่าต้องการห้ามปราม แต่เฉินเสี่ยวเลี่ยนโบกมือใส่เธอแล้วก็เข้าไปในตัวเคบินโดยสาร

 

ผ่านไปสักครู่ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ยกกล่องออกมากล่องหนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวกลับเข้าไปอีก แล้วก็ยกออกมาอีกกล่อง

 

แอร์โอสเตสสาวก็ดูจะเข้าใจแล้ว หลังจากยืนลังเลอยู่ที่เดิมสักครู่หนึ่งก็กัดริมฝีปาก ถอดรองเท้า ใช้เท้าเปล่ารีบวิ่งเข้าไปข้างในตามเฉินเสี่ยวเลี่ยน

 

ในเคบินโดยสารยังมีน้ำและอาหารอยู่จำนวนหนึ่ง ต่างถูกทั้งสองคนช่วยกันยกออกมา

 

แล้วจากนั้นก็เป็นกระเป๋าเดินทางจำนวนหนึ่ง

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนค้นเอาเสื้อสเวตเตอร์ตัวนอกที่หนาเล็กน้อยจากในกระเป๋าของตนไปใส่ให้สาวน้อยโลลิเกาหลีและรูดซิบให้เธอด้วยตัวเอง

 

สาวน้อยที่กำลังสะอึกสะอื้นก็หยุดร้องไห้ เงยหน้ามองเฉินเสี่ยวเลี่ยนทีหนึ่ง

 

“ไม่ต้องกลัว” เฉินเสี่ยวเลี่ยนพูดเสียงต่ำ และไม่สนใจด้วยว่าอีกฝ่ายจะฟังรู้เรื่องไหม ก่อนจะรีบหมุนตัววิ่งกลับเข้าไปในตัวเครื่องบิน

 

มือถือของเขาพังแล้ว เฉินเสี่ยวเลี่ยนค้นหาในเคบินโดยสารอยู่นานก็พบมือถือเครื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าผู้โดยสารคนไหนทำตกไว้ แต่ไม่ว่ายังไงก็เปิดไม่ติด จะว่าไปก็คงจะพังเหมือนกัน...

 

เขาเขวี้ยงทิ้งด้วยความโมโห

 

ถ้ารู้ว่าจะไม่ทนขนาดนี้ คงซื้อโนเกียใช้ไปนานแล้ว!

 

ทางด้านหลัง แอร์โฮสเตสสาวคนนั้นกลับแตะตัวเขา เฉินเสี่ยวเลี่ยนหันไปมองก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยื่น...

 

มือถือเครื่องหนึ่งให้เขา

 

“ของเธอเหรอ?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนชี้ไปที่เธอ

 

ก็ไม่รู้ว่าแอร์โฮสเตสสาวฟังเข้าใจหรือเปล่า เธอพยักหน้า เฉินเสี่ยวเลี่ยนดีใจไปชั่วขณะถึงกับหัวเราะดังๆ ออกมา เพราะว่าตื่นเต้นดีใจก็เลยเกิดลืมตัวอดเข้าไปกอดแอร์โฮสเตสสาวแรงๆ ไม่ได้ แล้วยกนิ้วโป้งให้เธอทีหนึ่ง

 

แต่ว่าไม่กี่นาทีถัดมา...

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนหน้าซีดขาวส่งมือถือคืนให้แอร์โฮสเตสสาว

 

“ไม่มี... สัญญาณ”

 

ทุกหมายเลขล้วนสายไม่ว่างโทรไม่ติด รวมถึงเบอร์ 400-888-4099 ที่เป็นหมายเลขฉุกเฉินสากลก็โทรไม่ติด

 

แอร์โฮสเตสสาวเองก็รู้สึกตื่นตกใจขึ้นมา คว้ามือถือลองโทรออกหลายเบอร์ จากนั้นก็หน้าซีดทรุดลงไปกับพื้นกะทันหัน ใช้สองแขนโอบหัวเข่าร้องไห้อย่างปวดร้าว

 

ส่วนเฉินเสี่ยวเลี่ยนกลับสูดหายใจเข้ายาวๆ พลางหรี่ตามองไปรอบๆ...ป่า... ผืนนี้

 

......

 

ฟ้ามืดแล้ว

 

ชายหนึ่งหญิงสอง ทั้งสามคนนั่งล้อมรอบกองไฟ

 

ไฟนั้นใช้ไฟแช็กไฟฟ้าจุดขึ้นมา มีเพียงไฟแช็กแบบไม่ใช้ของเหลวเท่านั้นพี่พกขึ้นเครื่องบินได้ เขาพบมันจากกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารคนหนึ่ง

 

ตัดกิ่งไม้มาก่อฟืน ทั้งสามคนต่างสวมเสื้อไหมพรมไว้บนตัว

 

อาหารก็คืออาหารบนเครื่องบิน ใช้ฟอยล์ห่ออาหารเอาไปอุ่นบนไฟครู่หนึ่ง ถึงแม้รสชาติจะแย่ไปหน่อยแต่ก็พอกินประทังไปได้ เวลาแบบนี้จะเอาอะไรหนักหนาล่ะ

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนลองพยายามสื่อสารกับผู้หญิงทั้งสองคนแล้ว

 

น่าเสียดายที่แอร์โฮสเตสสาวคนนั้นพูดได้แค่ภาษาอังกฤษง่ายๆ และยังติดสำเนียงภาษาอังกฤษแบบญี่ปุ่นอย่างหนักอีกต่างหาก ส่วนภาษาจีน... พูดได้แค่จำพวก ‘สวัสดี’ กับ ‘ขอบคุณ’ เท่านั้น

 

ภาษาอังกฤษของเฉินเสี่ยวเลี่ยนอยู่ระดับทั่วไป นอกจากเรียนในโรงเรียนแล้วก็เป็นผลพลอยได้จากการดูซีรีส์ฝรั่งมาอย่างยาวนาน พอจะพูดคุยสนทนาง่ายๆ ได้ แต่ถ้าซับซ้อนขึ้นมาก็สื่อสารกันลำบาก

 

ส่วนสาวน้อยโลลิเกาหลีนั้น...

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนประหลาดใจมากที่เธอรู้ภาษาจีน!

 

แต่ว่าแค่ฟังรู้เรื่องเท่านั้น สิ่งที่เขาพูดเธอเหมือนจะเข้าใจทั้งหมด แต่ทว่ากลับ...พูดไม่ได้

 

กลางดึก บรรยากาศยิ่งอึดอัดกดดัน

 

ตอนกลางคืนมีจังหวะหนึ่งที่ทำให้เฉินเสี่ยวเลี่ยนหัวใจกระตุก

 

เขามองเห็นเครื่องบินลำหนึ่งบินผ่านไปบนฟ้า... กะพริบไฟ บินไม่ช้าไม่เร็วข้ามท้องฟ้าไป

 

แน่นอนว่าเขาไม่ได้โง่พอที่จะโบกมือตะโกนขอความช่วยเหลือจากตรงนั้น... อย่างน้อยนั่นก็เป็นระยะทางหลายหมื่นเมตร ถ้ามองเห็นก็ผีหลอกแล้ว!

 

แต่ทว่า...

 

ในใจของเฉินเสี่ยวเลี่ยนกลับรู้สึกถึงความสงบอันเบาบางที่เพิ่มขึ้นมา

 

บางทีนี่คงเป็นอารมณ์ขันเฉพาะตัวของนักเขียนออนไลน์ละมั้ง

 

(ดวงจันทร์และกลุ่มดาวบนฟ้าไม่มีอะไรผิดปกติ ซ้ำยังมีเครื่องบินบินผ่าน... อย่างน้อยก็แน่ใจได้ว่าตัวเขาไม่ได้ทะลุมิติไปในโลกโบราณต่างมิติที่ไหน)

 

ด้านหลัง สาวน้อยโลลิเกาหลีก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง

 

ลำตัวเล็กๆ ของเธอขดกลมอยู่ในเสื้อไหมพรม น้ำตาร่วงเผาะๆ บ่นพึมพำเบาๆ บางอย่าง

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนเดินเข้าไป พอจะฟังออกบ้างเล็กน้อย ดูเหมือนจะพูดว่า “ออมมา” อะไรสักอย่าง

 

จะว่าไป เด็กอายุแค่นี้จะคิดถึงแม่ในเวลาเช่นนี้ก็ไม่แปลก

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนสูดลมหายใจลึก คุกเข่าลง ใช้มือลูบหัวสาวน้อยไปมา สาวน้อยโลลิหยุดร้องไห้เบิกตามองเฉินเสี่ยวเลี่ยนอย่างสับสน

 

“วางใจเถอะ พวกเราไม่เป็นอะไรหรอก” เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้ม แม้จะดูอ่อนโยนแต่ก็ดูเข้มแข็งมากเช่นกัน... คำพูดที่พูดออกมา ถ้าบอกว่าเป็นการพูดให้อีกฝ่ายฟัง ไม่สู้บอกว่าเป็นการทำให้ตัวเองคงความมั่นใจไว้ดีกว่า

 

“เธอจะไม่ตาย เขาก็จะไม่ตาย ตัวฉันก็จะไม่ตาย! พวกเราจะต้องมีชีวิตรอดกลับบ้าน! ฉันรับรองได้เลย! ที่นี่มีฉันคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ฉันจะดูแลพวกเธอเอง... ฉันเพิ่งจะอายุสิบแปด ยังมีอนาคตรออยู่! แม้กระทั่งแฟนสักคนฉันยังไม่เคยมี! แถมยังมีผู้อ่านตั้งเยอะตั้งแยะบูชาฉันอีก! ฉันจะมาตายในที่บ้าๆ นี้ได้ยังไง! วางใจเถอะ! โอปป้า[1]จะพาเธอเอาชีวิตรอดกลับบ้านเอง!”

 

พูดจบ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็จงใจทำหน้าบู้บี้ใส่เด็กสาวทีหนึ่ง และตะโกนภาษาเกาหลีที่เรียนมาไม่กี่คำจากการดูรายการบันเทิงเกาหลีว่า: “fighting!!”

 

แอร์โอสเตสสาวที่อยู่ข้างๆ คล้ายนึกขำในคำสุดท้าย ก็ชูกำปั้นขึ้นและพูดกับเฉินเสี่ยวเลี่ยนว่า “กัมบัตเตะ![2]

 

เอาเหอะ อย่างน้อยก็ฟังคำนี้รู้เรื่อง

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้มให้เธอแล้วหันตัวกลับไปมองในป่าอันมืดมิด รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ หายไป สายตาครุ่นคิดสงสัย

 

...คืนนี้สาวน้อยโลลิกับแอร์โฮสเตสฝืนไม่ไหวหลับไปพักหนึ่ง กลายเป็นเฉินเสี่ยวเลี่ยนที่นอนไม่หลับทั้งคืน ไม่รู้เพราะความรู้สึกรับผิดชอบหรือเพราะว่านอนไม่หลับจริงๆ กันแน่

 

ตอนที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ปลุกผู้หญิงทั้งสองคน ก่อนดึงสาวน้อยโลลิเกาหลีมา

 

“รอที่นี่ห้ามไปไหน ฉันจะไปหาทางขอความช่วยเหลือ! รอฉันนะ ห้ามไปจากที่นี่โดยเด็ดขาด!”

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนหยุดคิด แล้วใช้ภาษาอังกฤษง่ายๆ พูดกับแอร์โฮสเตสชาวญี่ปุ่นอีกรอบหนึ่ง:

 

Stay here. Do not move! I’m looking for help! I will be back!! Trust me!!

 

ไวยากรณ์ต้องผิดแน่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้ไม่สนมันแล้ว ฟังออกเป็นอันใช้ได้

 

ไม่ใช่การสอบแม่มอะไรสักหน่อย!

 

เฉินเสี่ยวเลี่ยนหากิ่งไม้มาท่อนหนึ่งใช้เป็นอาวุธ ผูกเชือกรองเท้าจนแน่น หยิบน้ำเปล่าสองขวดใส่กระเป๋าแล้วก้าวยาวๆ จากไป

 

…………………………

 

[1] โอปป้า เป็นคำที่น้องสาวใช้เรียกพี่ชาย หรือผู้ชายที่อายุมากกว่าตนในภาษาเกาหลี

[2] กัมบัตเตะ เป็นภาษาญี่ปุ่น มีความหมายในทางให้กำลังใจ หมายถึง สู้ๆ นะ พยายามเข้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด