HK ตอนที่ : 89
ห้องภายในบ้านสุดหรูที่เขตเทียน เฉินหมิงกำลังนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นชายวัยกลางคนที่หน้าตาค่อนข้างคล้ายกันกับเขา และที่อยู่ข้างๆไม่ไกลนั้นมีผู้หญิงแต่งตัวหรูหราอยู่อีกคน
ชายวัยกลางคนคนนี้ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเฉินหมิงก็คือพ่อของเฉินหมิง ประธานบริษัทซอฟต์แวร์จินยูเฉินเจี้ยนจื่อ! ส่วนผู้หญิงที่แต่งตัวหรูหราคือเหม่ยเหม่ยหลี่เป็นแม่ของเฉินหมิง
"ตาแก่เฉิน พูดอะไรมั่งสิ! ลูกชายกำลังทรมานกับความเจ็บปวดมาจากมหาลัย ลืมไปแล้วงั้นหรอ?” เหม่ยเหม่ยหลี่โกรธ
ด้วยความรักและการโอ๋มากเกินไปจากแม่ ทำให้เฉินหมิงมีนิสัยแย่ๆ ทั้งหมดล้วนมากจากเหม่ยเหม่ยหลี่!
เฉินเจี้ยนจื่อเหลือบมองไปที่เหม่ยเหม่ยหลี่ และพูดอย่างเยือกเย็น "เหอะ ความคิดของผู้หญิง! ชิเล่ยเป็นคนอ่อนแออย่างที่แสดงให้เห็นจริงๆหรือเปล่า? แม้ว่าเขาจะอ่อนแอ แต่ตอนนี้เขากลับสร้างความสัมพันธ์ที่ดีร่วมมือกับไลก้าและไอโกแล้ว ดังนั้นเราจึงทำอะไรกับเขาไม่ได้ง่ายๆ!"
สินทรัพย์รวมทั้งหมดของบริษัทซอฟต์แวร์จินยูเพิ่งทะลุมาได้ 10 ล้านหยวน แค่บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างไลก้าเขาก็ไม่สามารถต้านทานได้แล้ว นี่ยังจะมีบริษัทไอโกเขามาด้วยอีก!
เหม่ยเหม่ยหลี่พูดอย่างเย็นชา "ตาแก่เฉิน คุณยังมีศิลธรรมอยู่ไหม! ลูกชายของเราพึ่งจะโดนไอ้คนที่ชื่อชิเล่ยทำร้ายมา คุณจะไม่ทำอะไรเลยยังงั้นหรอ?"
"หุบปาก!" เฉินเจี้ยนจื่อตะโกน "เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด คุณควรคิดให้มากไม่ใช่หลับหูหลับตาเชื่อ! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่ามันนั่นแหละที่เป็นที่สร้างปัญหา!"
ภายในดวงตาของเฉินหมิงเต็มไปด้วยความโกรธ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นพ่อของเขา เฉินหมิงก็ยังโกรธอยู่ดี!
'ตาแก่ เนื่องจากพ่อไม่ช่วยผม งั้นผมจะใช้วิธีของตัวเอง! อย่างไรก็ตามยังมีแม่และลุงอยู่ ฉันไม่เชื่อว่าไอ้สารเลวชิเล่ยจะสู้อำนาจรัฐได้หรอก!'
เฉินเจี้ยนจื่อมองเฉินหมิงที่กำลังก้มหน้าอยู่ ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง "เสี่ยวหมิง วันสองวันนี้แกอยู่บ้านไปก่อนและแกก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหน ฉันจะจัดการเรื่องย้ายมหาลัยให้!" หลังจากนั้นเฉินเจี้ยนจื่อถอนหายใจและเดินออกจากประตูไป
เหม่ยเหม่ยหลี่เข้ามาแล้วดูงเฉินหมิงเขาไปไว้ในอ้อมแขนของเธอ "เสี่ยวหมิงไม่ต้องกังวล แม่ของลูกจะช่วยลูกแก้แค้นเอง!"
เฉินหมิงเงยหน้าขึ้นมองเหม่ยเหม่ยหลี่ "แม่ เราไปหาคุณลุงแล้วให้ลุงจับชิเล่ยได้ไหม? ยัดข้อหามันแล้วส่งมันเข้าไปในคุก!"
เหม่ยเหม่ยหลี่ตกตะลึง "เสี่ยวหมิงทำอย่างนี้ไม่ได้! เมื่อเร็วๆนี้ทางสำนักงานเมืองกำลังจับตามาที่เขตชวนฮูอยู่ ดังนั้นตอนนี้เราจึงยังทำอะไรไม่ได้!"
เฉินหมิงกรอกตาและหันมาพูดกับเหม่ยเหม่ยหลี่ "แม่! งั้นถ้าเราหาใครซักคนมาทำให้ไอ้ชิเล่ยมันเป็นคนพิการตลอดชีวิตล่ะ เราแค่มองดูอยู่ด้านข้าง คงไม่มีปัญหาใช่ไหม?"
"นี่..." เหม่ยเหม่ยหลี่ดูสีหน้ามีความลังเลอยู่ ขณะมองไปที่ความหวังที่อยู่ในสายตาของเฉินหมิง เหม่ยเหม่ยหลี่ก็ไม่สามารถทนที่จะปฏิเสธได้อีกต่อไปและพยักหน้า พูดว่า "โอเค! แต่เสี่ยวหมิงต้องจำไว้นะลูก ว่าลูกห้ามเผยตัวออกมา!"
เฉินหมิงแสดงท่างทางพึ่งพอใจและพูดอย่างรวดเร็วว่า "ได้ครับ ขอบคุณครับแม่!"
ในอีกด้านหนึ่ง ชิเล่ยกำลังเดินไปที่ถนนด้านหลังและพบกับซูเอ้อดิงและคนอื่นๆ และบอกให้พวกเขาส่งหนังรักของเฉินหมิงให้กับเขา
ในตรอกมืด ชิเล่ยหยิบแฟลชไดร์ฟมาจากซูเอ้อดิงและเขาดันแว่นตาขึ้นไปบนจมูกและมีแสงเย็นวาบที่ถูกบดบังด้วยเลนส์
ซูเอ้อดิงมองไปที่ชิเล่ยอย่างเคารพนับถือ ก้มลงและกระซิบเล็กน้อย "พี่หิน เพื่อนเฉินหมิงนี้เป็นพวกเสือปืนไว แค่สามนาทีก็เสร็จแล้ว ทำพวกผมหัวเราะแทบตายแหนะครับ!"
ชิเล่ยสบถ "ซูเอ้อดิง ฉันไม่ต้องให้มีอุบัติเหตุอะไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายจำไว้ว่าหลังจากเรื่องนี้เสร็จแล้ว นายจะได้รับผลตอบแทนอย่างงามแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามถ้ามันล้มเหลว ผลที่ตามมาคงไม่ต้องให้ฉันพูดหรอกนะ! เข้าใจไหม?"
ซูเอ้อดิงพยักหน้าตอบครั้งแล้วครั้งเล่า "พี่หินมั่นใจได้เลยครับ ยกเว้นผมและเอ้อเหมา ส่วนคนอื่นๆไม่มีใครรู้ว่าแผนนี้เป็นแผนของพี่และเซียวหลันเป็นคนรู้จักของเรา มันจะไม่มีอุบัติเหตุแน่นครับ!"
"ดี! ดี! ดี!" ชิเล่ยตบไหล่ซูเอ้อดิง "ทำได้ดี! ทำตามแผนขั้นต่อไป!"
ชิเล่ยออกมาจากตรอกมืด มานั่งลงที่แผงลอยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแล้วพูดว่า "เถ้าแก่ ขอก๋วยเตี๋ยวรสเผ็ดให้ฉันด้วยชามหนึ่ง!"
"ได้!" เถ้าแก่วัยกลางคนตอบ แล้วใส่เส้นลวกเข้าไปในหม้อต้มน้ำ
ในอีกด้านหนึ่งของถนนด้านหลัง เฉินหมิงกำลังยืนอยู่ที่มุมถนน หยิบมือถือออกมาแล้วกดเบอร์ของซูเอ้อดิง เตรียมที่จะบอกให้ซูเอ้อดิงและพวก ไปจัดการกับชิเล่ย!
อย่างไรก็ตามความคิดนั้นมักสวยงาม แต่ความจริงก็มักโหดร้ายด้วยเช่นกัน!
ในโทรศัพท์มือถือหลังจากโทรออกไป ผู้ให้บริการการสื่อสารเคลื่อนที่ก็ตอบเสียงกลับ 'ขออภัยหมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดใช้บริการ!'
เฉินหมิงงงงันสถานการณ์แบบนี้มันคืออะไร? ปิดเครื่อง? หรือซูเอ้อดิงมีอุบัติเหตุ? ในหัวใจของเฉินหมิงตอนนี้มีความรู้สึกที่ไม่ดีก็ตัวขึ้นมา และเขารู้สึกว่าเหมือนจะมีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น!
หลังจากซูเอ้อดิงออกจากตรอกมืด เขาก็ไปที่ลานด้านหลังของถนน เดินเข้าไปในสนามหญ้าเล็กๆ ซูเอ้อดิงก็ตะโกน "เอ้อเหมา เซียวหลันออกมาเร็วเข้า!"
หลังจากนั้นชั่วครู่ เซียวหลันก็ออกมาเป็นคนแรก ผู้หญิงคนนี้เป็นนักแสดงหญิงในหนังรักร่วมกับเฉินหมิง!
"บอสซูเอ้อดิง เราจะไปแจ้งตำรวจแล้วใช่ไหม?” เซียวหลันถามด้วยความตื่นเต้น เธอไม่รู้เรื่องอะไรมาก เพียงรู้แต่ว่าซูเอ้อดิงให้เธอเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิด
เอ้อเหมาเดินลงมาถามว่า "พี่ใหญ่ มีอะไรงั้นหรอ?"
"ไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งความ!" ซูเอ้อดิงตอบกลับเอ้อเหมาและเอ้อเหมาก็เข้าใจทันทีและพูดว่า "ใช่แล้ว เราต้องไปแจ้งตำรวจ เฉินหมิงไอ้นรกนั่น มันใช้ความรุนแรงข่มขืนแฟนสาวของฉัน! แม่งเอ้ย ฉันขอสาปแช่งครอบครัวมัน!"
เซียวหลันทำท่าทางเศร้าโศกขึ้นมาทันทีและร้องไห้อย่างโกรธเคือง "พี่เอ้อเหมา พี่ต้องทำให้มันต้องชดใช้กับสิ่งที่มันทำกับฉัน!"
ซูเอ้อดิงมองไปที่การแสดงของทั้งคนสอง พยักหน้าด้วยความพึงพอใจแล้วพูดว่า "ไปกันเถอะ มุ่งหน้าสู่สถานทีชวนฮู!"
ถนนด้านหลังนั้นอยู่ใกล้กับสถานีตำรวจเขตชวนฮูมากและใช้เวลาเดินประมาณสิบนาที ซูเอ้อดิงเดินเข้าไปในสถานีตำรวจและเดินตรงไปยังบนชั้นสามทันที!
หลังจากเฉินกวงเหลียงเห็นซูเอ้อดิงใบหน้าของเขาก็มีความสุขในใจอย่างลับๆทันที เป็นไปได้ไหมว่าซูเอ้อดิงและคนอื่นๆมาที่นี่เพื่อมอบตัว? พวกเขาถูกชิเล่ยเตะส่งแล้ว?
"ซูเอ้อดิง นายมาทำอะไรที่สถานีตำรวจกัน?" เฉินกวงเหลียงถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง
โอวหยางชางก็ยังคงจำซูเอ้อดิงได้ 'พวกอันธพาลเหล่านี้มาทำอะไรที่สถานีตำรวจ? หรือพวกเขามาซัดทอดชิเล่ย?' คิดถึงอย่างนี้ ไม่รู้ว่าทำไมในใจของโอวหยางชางมีความกังวลใจขึ้นมา
เต๋าชุนมีความประทับใจที่ดีกับชิเล่ย เขามองการแสดงออกของโอวหยางชาง แล้วเดินไปหาเฉินกวงเหลียง "หัวหน้าเฉิน ผมมีเบาะแสใหม่เกี่ยวกับเย่เฟิงครับ!"
เฉินเฉินกวงเหลียงพยักหน้า แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ จากวิดีของกล้องวงจรปิดที่สนามบิน พวกเขาก็รู้แล้วว่าเย่เฟิงบินนีออกจากประเทศไปวูซางแล้ว
ใบหน้าของซูเอ้อดิงมืดมนมาก เขามองเฉินกวงเหลียงแล้วพูดว่า "กัปตันเฉิน วันนี้เราจะมาแจ้งความ!"
เฉินกวงเหลียงพูดจาเยาะเย้ย "อะไร? คนอย่างนายเนี่ยนะต้องการแจ้งความจริงๆ? เสี่ยวเต๋า นายไปที่หน้าต่างเร็วเข้า พระอาทิตย์กำลังขึ้นจากทิศตะวันตกหรือเปล่า?"
การแสดงออกของเอ้อเหมาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง "กัปตันเฉิน พวกเราแจ้งความไม่ได้? แฟนสาวของผมเพิ่งโดนข่มขืนมา แล้วผมจะแจ้งความกับตำรวจไม่ได้? หรือตำรวจอย่างพวกคุณ เห็นด้วยกับวิธีการแก้ปัญหาของเราเองใช่ไหม?"
"อะไรนะ?" ใบหน้าของเฉินกวงเหลียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย "แฟนของนายโดนข่มขืน? ที่ไหนเมื่อไหร?" เขามองเซียวหลัน
ที่อยู่ด้านข้างจากเอ้อเหมา แล้วดวงตาของเขาก็เผยให้เห็นถึงความสับสน
เซียวหลันดูค่อนข้างสวย แม้ว่าจะสวยน้อยกว่าโอวหยางชาง แต่ก็ดีกว่าคนทั่วไปมาก!
"คุณตำรวจคะ ฉันต้องแจ้งความค่ะ เมื่อบ่ายวานนี้ ฉันถูกข่มขืน!" ดวงตาของเซียวหลันเริ่มมีน้ำตาเอ่อล้นออกมาเล็กน้อย
เฉินกวงเหลียงหันไปบอกกับเต๋าชุนอย่างรวดเร็ว "เสี่ยวเต๋า ไปๆ ไปยกเก้าอี้มาเร็วเข้า!"
"ได้ครับ!" เต๋าชุนรีบไปยกเก้าอี้มาสามตัวมา แสดงว่าต้องการให้พวกซูเอ้อดิงนั่งลงด้วยกันหมดและเล่าเรื่องทุกอย่างออกมาให้ฟังทั้งหมด
เฉินกวงเหลียงหยิบสมุดจดปากคำออกมา แล้วถามว่า "เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวานใช่ไหม แล้วทำไมเมื่อวานไม่มาแจ้งตำรวจ ทำไมเพิ่งมาวันนี้??
ซูเอ้อดิงไม่ไม่พูดพร่ำทำเพลง ขณะที่เขากำลังนั่งและเต็มไปด้วยความโกรธ "ผมไม่กลัวที่จะบอกคุณว่าตอนแรกพวกเราวางแผนที่จะไปหาไอ้สารเลวนั่นเพื่อแก้แค้น จากนั้นก็ทำให้มันกลายเป็นขันทีไปซะ"
เฉินดวงเหลียงพูดอย่างเย็นชาว่า "ทำไมนายไม่ไปล่ะ? เนื้อร้ายในสังคมอย่างพวกนาย อย่าบอกฉันนะว่าเกิดมีมโนธรรมขึ้นมาและพร้อมที่จะแก้ไขมันผ่านช่องทางกฎหมาย!"
เอ้อเหมาหัวเราะและยิ้ม "กัปตันเฉิน คุณรู้จักพวกเราดี! ถ้าผมทำได้ แม้แต่ต้องให้ติดคุกตลอดชีวิตของผม ผมก็ยอมที่จะเปลี่ยนมันให้เป็นขันที! แต่เราไม่มีพลังมากพอ!"
"โอ้ว?" เฉินกวงเหลียงมองเอ้อเหมาอย่างแปลกประหลาดและถามว่า "เป็นไปได้ไหมว่าคนนั้นคือ ชิเล่ย?"
"พรูด" โอวหยางชางพ่นกาแฟในปากของเธอออกมาทั้งหมด! เธอแอบหัวเราะในใจของเธอ ชิเล่ยนอนอยู่ในห้องเดียวกันเธอ ถ้าชิเล่ยเป็นคนแบบนั้น แล้วทำไมเธอถึงไม่รู้?
เอ้อเหมาไอออกมา "กัปตันเฉิน คุณกล้าคิดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ยังไง?"
เฉินกวงเหลียงตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปแล้วและหัวเราะกลบเกลือนอย่างรวดฮ่าฮ่า "งั้นนายรู้ไหมล่ะว่ามันคือใคร?"
ซูเอ้อดิงแทรกชึ้นมา "ถูกต้อง! เรารู้ว่ามันเป็นใคร! มันเป็นเพราะว่าเรารู้ว่ามันเป็นใคร เราเลยไม่กล้าจัดการกับมัน! แต่เราไม่รู้ว่ากัปตันเฉินคุณกล้าพอที่จะจัดการกับมันไหม!"
ลักษณะนิสัยของเฉินกวงเหลียงในสถานีตำรวจชวนฮูมีชื่อเสียงเรื่องความเที่ยงตรงมาก ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำให้ผู้คนจำนวนมากขุ่นเคือง ถ้าไม่ใช่รองผู้กำกับเซียงหยางชุนสนับสนุนเขา กลัวว่าเขาคงจะเสียตำแหน่งผู้นำทีมไปนานแล้ว!
"นายกลัวอะไร? แม้จักรพรรดิมีความผิดก็ต้องรับผิดตามกฎหมายเหมือนกับประชาชน!" เฉินกวงเหลียงพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา "แม้ว่าผู้นำเมืองชวนกิ่งก่ออาชญากรรม ฉันก็มีสิทธิ์ที่จะสืบสวนเขา!"
เอ้อเหมาตบมือ "ยอดเยี่ยม! ข้างนอกต่างลือกันว่ากัปตันเฉินเป็นคนซื่อตรงควรค่าแก่การเชื่อถือ! กัปตันเฉิน คนที่ข่มขืนแฟนของฉัน ชื่อของเขาคือ เฉินหมิง!"
เฉินกวงเหลียงพูดพึมพำอยู่ในปาก "เฉินหมิง เฉินหมิง ทำไมชื่อนี้มันคุ้นๆจังเลย! หรือว่าเป็นหลานชายของเหล่ยหยาคุน คนนั้น!"
เหล่ยหยาคุนอดีตรองผู้บัญชาการแผนกอาชญากรรม ปัจจุบันเป็นกัปตันของแผนกคดีอาญา ไม่น้อยหน้าไปกว่าเฉินกวงเหลียง
ใบหน้าของเอ้อเหมาเย้ยหยัน "ใช่แล้วเป็นเขา! กัปตันเฉินคุณกล้าจับกุมคนๆนั้นหรือเปล่า?"