ตอนที่แล้วบทที่ 24 เมนูไข่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26 อาณาเขตมังกรแดง 1

บทที่ 25 ยัยคนหลอกลวง


บทที่ 25 ยัยคนหลอกลวง

ห้องสมุด

“ป้า! ผมเอาเงินมาจ่ายหนี้แล้ว” มาถึงห้องสมุดผมก็ไม่พิรี้พิไร นำเงินมาวางตรงเค้าเตอร์ทันที

ป้าบรรณารักษ์ขยับแว่นบนดั้งโด่ง ๆ ของเธอก่อนจะรับเงินไปนับ “2400 coin ครบ วันนี้เจ้าจะอ่านอะไรอีกรึเปล่าล่ะ”

“ไม่ล่ะ แค่เมื่อวานวันเดียวก็พอแล้ว วันนี้ผมนัดเพื่อนไว้ที่ห้องสะ...” ยังพูดไม่ทันจบคำผมก็โดนโจมตีเข้าอย่างจัง ด้วยหน้าอกคัพ D กับอ้อมกอดอบอุ่นจนตัวผมแทบจะถูกฝั่งลงเป็นซากฟอสซิลบนเค้าเตอร์ต้องสมุด อั๊ก! เจ็บบบบ ความนุ่มนิ่มของหน้าอกไม่ได้ทำให้ซี่โครงของผมที่ถูกอัดเข้าขอบเค้าเตอร์แบบกะทันหันรู้สึกดีขึ้นได้สักนิด

“ภาาา เจ้ามาแล้ว!” เสียงหญิงสาวปริศนาหน้าอกคัพ D ดังขึ้นอย่างดีอกดีใจ ไม่ได้ดูสภาพคนที่โดนกอดอย่างผมเลย กระดูกตูลั่นดังกร็อบแล้วโว้ย!!

“คะ ใครฟะเนี่ย ปล่อยเลยนะ กระดูกจะหักแล้ววว” ผมเค้นเสียงข่มความเจ็บจี๊ด พูดออกมาอย่างอยากลำบาก นี่แรงคนหรือแรงค...ตี๊ดดด

“นี่ห้องสมุด เงียบหน่อย” ป้าบรรณารักษ์พูดขึ้นเสียงเรียบ เดี๋ยวป้าไว้ก่อนตอนนี้ผมกำลังจะตาย

“โอ๊ะ โทษที ข้าดีใจไปหน่อย คิก คิก” เหมือนสาวเจ้าจะรู้ตัวแล้วว่ากำลังฆ่าผม ผมจึงโดนปล่อยออกมาจากอ้อมกอดนรกนั่น

“ไงภา” หลังจากโดนปล่อยตัว ผมก็ได้ยินเสียงทักทายจากเอลฟ์สาวผมสั้นภายใต้ฮู้ดดำที่เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าหน่ายใจ

“ไงทีน่า แล้ว....เออ” ผมยกมือทักทายเธอก่อนจะมองยัยคนบ้าที่พุ่งเข้ามากอดผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เธอเตี้ยกว่าทีน่านิดหน่อย หน้าตาสวยงามตามาตรฐานเอลฟ์ แต่ให้ความรู้สึกต่างจากทีน่าที่ใบหน้าปกติจะนิ่งเรียบ เอลฟ์ตรงหน้ามีดวงตากลมโตกระจ่างใส จมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่ม ผมยาวลอนสีม่วงแดง ระหว่างที่ผมมองเธออยู่หูเธอก็กระดิกขึ้นลงรัว ๆ หายใจฟึดฟัดเหมือนอย่างกระโจนเข้ามากอดผมอีกรอบ

ผมไม่ให้เธอกอดหรอก! ผมกอดตัวเองแล้วถอยห่างออกไปจากยัยเอลฟ์แปลกหน้าทันทีอย่างหวาดระแวง

“ข้าเองนาตาเลีย มามะพ่อมด มาให้ข้ากอดขอบคุณหน่อยเร็วววว คิก คิก” นาตาเลียทำท่าเซ็กซี่กล่าวแนะนำตัวเอง ก่อนจะสืบเท้าก้าวมาหาผมด้วยท่าทางคุกคาม แถมยังหัวเราะ คิก ๆ ได้แอบจิตสุด ๆ

ผมโคตรช็อก ยัยเอลฟ์อกคัพ D นี่คือยัยเด็กประถมนาตาเลียคนเมื่อวานเหรอ คนบ้าอะไรจะโตได้ภายในวันเดียวฟะ ถึงตอนแรกจะไม่เชื่อแต่พอตั้งใจมองใบหน้านั่นดี ๆ แล้วก็มีส่วนคล้ายนาตาเลียอยู่เกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์เลย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะ ต่างโลกจะสุดเกินไปล่ะ

“มะ ไม่แค่พูดขอบคุณก็พอ” ผมพูดออกมาด้วยเสียงสั่นระริก ให้กอดอีกได้แหลกคามือยัยนั่นแน่ ๆ ตรรกะการขอบคุณชาวบ้านของเอลฟ์เป็นแบบนี้เหรอวะ ถ้าให้เลือกระหว่างทีน่ากับนาตาเลียกอดขอบคุณผมเลือกทีน่าอ่ะบอกเลย ยัยนาตาเลียร่างโตแม่งแรงค...ตี๊ดดด

ระหว่างที่หลบหนีการกอดขอบคุณของนาตาเลียอยู่นั่น ช่องแชทบนหัวทีมงานซังก็มีข้อความกระหน่ำเด้งขึ้นมารัว ๆ ซึ่งคอมเมนต์ส่วนใหญ่ก็จะออกแนวคร่ำครวญ เจ็บปวดรวดร้าวของเหล่าหมีที่หลงมาติดตามช่องนายภาวิน ตัวอย่างเช่น [ม่ายยย เอลฟ์โลลิของตูกลายเป็นแม่สาวแซ่บไปแล้ว]

ปึง! “พวกเธอ นี่มันห้องสมุดถ้าจะเล่นไล่จับก็ออกไปข้างนอกย่ะ เห็นไหมว่ามีป้ายงดใช้เสียงเกิน 20 เดซิเบลแปะอยู่น่ะ ห๊าาา” เสียงฟาดหนังสือเล่มหนาและคำพูดไล่แขกแฝงสำเนียงรังเกียจอย่างเห็นได้ชัดของป้าบรรณารักษ์ที่เหลืออดเต็มทีเพราะพูดดี ๆ แล้วไม่ได้ยิน ส่งผลให้พวกผมสามคนพากันเดินออกจากพื้นที่ห้องสมุด ไปหาที่คุยกันที่อื่น

ก็เจ้าของเขาไม่ต้อนรับจะอยู่ทำไมละ ถึงทีน่าเกือบจะเอามีดจ่อหน้าป้าแกโทษฐานพูดไม่เข้าหู แต่ผมก็รวบตัวเธอออกมาก่อนจะเกิดเรื่อง ป้าแกหน้าเลือดน้อยซะเมื่อไร่ละเกิดเรียกค่าทำขวัญขึ้นมาละก็ได้เป็นหนี้หัวโตกว่าเดิมแน่

.......................

“นี่จะบอกว่า พอพลังเวทกลับมาก็กลับร่างเดิมว่างั้น?” ผมพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง จนคิ้วขมวดเข้าหากัน นี่หล่อนจะบอกว่า ไอ้ก้อนไขมันสองลูกนั่นกับขนาดตัวที่เพิ่มขึ้นพรวดพราดมาจากพลังเวทงั้นเรอะ! ฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้นโว้ย

นาตาเลียยกเบียร์ขึ้นซดจนหมดแก้วในทีเดียวแล้วเรอออกมา ก่อนจะพูดยืนยันว่ามันคือเรื่องจริง

“อย่ามาตลกนะเฮ้ย ดูยังไงหล่อนก็ใช้เวทอะไรสักอย่างเพื่อให้ตัวเองดูเป็นสาวแซ่บชัด ๆ” ดูเหมือนคำพูดของผมจะแทงใจดำ ยัยนาตาเลียทำสายตาล่อกแล่กขึ้นมาทันที หล่อนน่ะโป๊ะแตกตั้งแต่โดนผมเจอในร่างเด็กประถมแล้วเฟ้ย ไม่ต้องมาแถซะให้ยาก

“โธ่ พ่อมดอย่างเจ้าจะรู้อะไรเกี่ยวกับเวทมนตร์ของเราชาวเอลฟ์กัน โฮะ ๆ ๆ” หัวเราะได้โคตรเฟกเลย และเหมือนความลนของยัยนาตาเลียจะไม่หยุดแค่นั้นหล่อนปีนขึ้นไปยืนบนโต๊ะ ก่อนจะยกเบียร์ชูขึ้นเหนือหัวแล้วตะโกนลั่นร้านเหล้าลูกเป็ดน้อยว่า “ข้า นาตาเลียจอมเวทแห่งอัล์ฟเฮมขอเลี้ยงขอบคุณให้กับภาวินพ่อมดแห่งแพนทาแกรมที่ได้ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ เอ๊า ดื่มมมมม”

“เฮ้!”

“ยัยเพื่อนเลว หล่อนมีเงินที่ไหนกัน” ตอนที่คนเกือบทั้งร้านชูแก้วขึ้นเหนือหัวและชนแก้วกันตามคำประกาศของนาตาเลีย เสียงพูดลอดไรฟันก็ดังขึ้นมาข้าง ๆ หูผม ดูเหมือนทีน่าจะมีออร่าดำมืดลอยอยู่เหนือหัวแล้วตอนนี้

อันที่จริงผมก็แค่แปลกใจกับสภาพนาตาเลียตอนมีพลังเวทกับไม่มี เรื่องรูปร่างแทบไม่สำคัญเลยล่ะ ก็ในโลกเราคนศัลยกรรมก็มีเยอะแยะไป ไหนจะเทคนิคคลิปแต่งหน้าผีให้เป็นหน้าคนที่มีอยู่เกลือนในเน็ต จะบอกให้ว่ามันเคยทำเอาผมเก็บไปฝันร้ายหลายวัน และทำเอาเวลาผมมองไปที่ผู้หญิงสวย ๆ ทีไรก็ระแวงหน้าสดของเธอทุกทีร่ำไป

ที่ผมทำหน้าจริงจังตอนแรกเป็นเพราะเรื่องยาถ่ายพยาธิมันใช้ได้ผลต่างหาก ถึงตอนซื้อมาจะคิดว่าได้ผลแต่ใจจริงก็ 50-50 อ่านะ พอมันได้ผลจริง ๆ ก็รู้สึกรับไม่ได้ยังไงไม่รู้ ไม่ได้เกี่ยวกับสารรูปยัยนั่นเลย แค่หาเรื่องพูดแกล้งไปงั้น

“เจ้าจะออกเดินทางเมื่อไรละ” ทีน่าที่สงบสติอารมณ์จากเพื่อนซี้จอมล้างผลาญของตัวเองได้แล้วหันมาคุยเข้าประเด็น

“ผมว่าจะไปพรุ่งนี้ วันนี้กะว่าจะซื้อของจำเป็นสำหรับการเดินทาง พวกโพชั่น แล้วก็ชุดใหม่ด้วย” ผมพูด อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปดมชุดเดิมที่ตัวเองใส่มาแล้ว 3-4 วัน อย่ามองผมอย่างนั้นสิหลังจากลงดันเจี้ยนเสร็จผมก็เอามันไปซักมาแล้วน่า แถมมีแค่ชุดเดียวมันก็ทะแม่ง ๆ เดี๋ยวผู้ชมจะหาว่าไอ้นี่ไม่เคยซักเสื้อผ้า ใส่อยู่ชุดเดียวทั้งเรื่องเหมือนการ์ตูนสมัยก่อน

“ดีเลย ข้าก็ต้องเติมเสบียง” ทีน่าพูด

“ตกลงนี่เธอจะไปด้วย?”

“ใช่สิ ข้าไปด้วยอยู่แล้ว ดูเหมือนอยู่กับเจ้าข้าจะเจอแต่เรื่องสนุก ๆ” ทีน่าพูดด้วยสีหน้าชอบอกชอบใจ “ที่ข้ากับนาตาเลียออกเดินทางจากอัล์ฟเฮมก็เพื่อการนี้แหละ การพบเจอเรื่องสนุก ๆ และการผจญภัยที่หาไม่ได้ในอัล์ฟเฮมไงล่ะ”

ผมที่ได้ฟังน้ำตาเกือบตกใน จะปฏิเสธก็ไม่กล้า เดี๋ยวโดนตราหน้าว่าทำร้ายจิตใจสาวสวย อยากจะบอกเหลือเกินว่าอยู่กับเธอผมก็มีแต่เรื่องเหมือนกัน เรื่องเคราะห์ร้ายน่ะนะ “อ่า ขอบคุณ ชะ ช่วยได้มากเลย”

“เออจริงสิ เมื่อวานข้าเจอแฟรงกลินกำลังโดนทหารตามล่าตัวอยู่”

“หา...”

“เจ้ารู้ไหมเพราะอะไร”

“เอิ่ม...ชาล็อตอาจจะอยากเจอตัวหมอนั่นมั้ง” ผมเดาสุ่มตอบออกไป แต่ก็ไม่น่าจะผิดจากที่เดานัก ตอนชาล็อตอยากเจอผมก็ให้ทหารตามลากตัวเหมือนกัน ในโลกนี้พวกขุนนางเขาเชิญคนกันแบบนี้สินะ ผมจะได้จำไว้ “แล้วเป็นไงล่ะ โดนจับไปรึเปล่า”

“บ้าน่า ไม่มีทางโดนจับหรอก หมอนั่นหลบและซ่อนตัวเก่งจะตาย ข้าว่าเราอยู่ห่างจากหมอนั่นไว้ก็ดี หมอนั่นไม่ใช่คนดีหรอกไม่งั้นจะโดนทหารวิ่งไล่จับทำไม” ทีน่าแกะถั่วเข้าปากพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก

ไม่หรอก ๆ เหมือนเธอจะเข้าใจผิด ชาล็อตน่ะชอบเชิญคนแบบนี้แหละผมเจอมากับตัว ผมไม่รู้ว่าทำไมทีน่าถึงตั้งแง่กับพี่ชายแฟรงกลินนัก “เธอก็อคติเกินไป พี่ชายแฟรงกลินก็ดูเป็นคนดีนะ ให้แผนที่เราง่าย ๆ ด้วย”

“นั่นข้าขู่เขาต่างหากเราเลยได้มา แต่ก็ดีเห็นหมอนั่นวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนแล้วข้าสะใจ ฮะ ๆ ๆ ๆ” ทีน่าหัวเราะออกมาอย่างสะใจจนถั่วเกือบติดคอ ได้ซัดเบียร์เข้าไปเกือบครึ่งแก้ว

“แค่ก ๆ เลิกพูด ๆ ก่อนจะเมาข้าว่าเราไปซื้อของกันเถอะ” ทีน่าทุบอกแก้สำลัก แล้วพูดออกมาเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “รีบออกก่อนที่ยัยนาตาเลียจะพาข้าหมดตัว...”

หล่อนเป็นคนเปิดประเด็นเองไม่ใช่เร๊อะ! แล้วนี่พวกเธอสองคนจนถึงขั้นไหนกัน

“ลุง! คิดเงิน” ทีน่ายกมือเรียกลุงเจ้าของร้าน

..............................

หลังจากออกจากร้านลูกเป็ดน้อยพวกเราก็ตรงไปร้านเสื้อผ้าร้านเดิมที่ผมเคยมาในวันแรก ผมซื้อชุดนักผจญภัยธรรมดา ๆ มา 2-3 ชุด เอาไว้เปลี่ยน นาตาเลียเกือบจะได้ชุดใหม่เป็นโหลแต่โดนทีน่าขัดขาซะก่อนเลยทำหน้าหงอยเศร้าเดินไปรอนอกร้านเพราะกลัวจะอดใจไม่ไหว ตอนแรกผมก็ว่าจะซื้อเสื้อคืนทีน่าแต่เธอไม่เอาเราเลยไปต่อกันที่ร้านขายโพชั่น

ร้านขายโพชั่นเป็นร้านที่ดูหรูหราที่สุดในย่านนี้อย่างเห็นได้ชัด ป้ายก็โดดเด่นแวววับเปิดประตูเข้ามาผมเกือบจะหยิบแว่นกันแดดในกระเป๋าออกมาสวม ขวดแก้วหลากหลายสีระยิบระยับเต็มไปหมด คนขายก็แต่งตัวได้ฟู่ฝ้าเหลือเกิน กว่าตาจะชินได้ก็สตั้นไปเกือบ 10 วิ ร้านนี้ผมได้โพชั่นเพิ่มเลือดมาห้าสิบขวด โพชั่นแก้อาการผิดปกติขนาดกลางกับขนาดใหญ่มาอีกอย่างละ 10 ขวด นอกจากพวกมันจะช่วยกันตายในต่างโลกแล้วยังช่วยให้ผมฝึกวิชามวยจากครูทศได้ไวขึ้น ถึงจะแพงบรรลัยแต่ก็จำใจต้องกัดฟันจ่ายออกไป

ทีน่าก็ซื้อโพชั่นไปหลายขวดเหมือนกันแต่ของเธอที่เพิ่มมาคือโพชั่นมานาของนาตาเลีย นี่ตกลงว่าเงินทั้งหมดทีน่าเป็นคนถือสินะ...ไม่แปลกใจเลยถ้าให้นาตาเลียถือมีร้อยหมดร้อยมีล้านหมดล้านชัวร์ ๆ

ร้านที่สามที่เรามาคือร้านตีเหล็ก สภาพร้านดูดีกว่าที่คิดไว้มาก นึกว่าเข้ามาจะเจอคนตีเหล็กดังโช้งเช้งแต่งตัวมอซอ หน้าเต็มไปด้วยเขม่าดำเหมือนในซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคซะอีก ที่ไหนได้ก็เหมือนร้านทั่วไปที่มีอาวุธแหละชุดเกาะขาย แต่ได้ยินทีน่ากระซิบว่า ส่วนของโรงตีเหล็กอยู่ด้านหลัง

ตอนแรกร้านนี้ไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่ผมต้องซื้อ แต่ทีน่าบอกว่าสนับมืออันเก่าของผมมันกาก ไม่มีออฟชั่นอะไรเลย ผมเลยลองมาดู ถ้าเจออันแจ่ม ๆ ก็จะเปลี่ยน เพราะผมลองคิดดูแล้วอันที่จริงคู่ต่อสู้ส่วนมากคือสัตว์ประหลาดกับพวกวิหารแห่งความมืด อาวุธจากโลกเราคงไม่เหมาะใช้งานในต่างโลก

พนักงานพาผมมาเลือกสนับมือ ใจจริงยังไม่ค่อยถูกใจผมสักชิ้นเลยหยิบสุ่ม ๆ อันที่เหมาะมือมาคู่หนึ่ง ระหว่างที่จะเดินไปจ่ายเงินก็เห็นทีน่าจด ๆ จ้อง ๆ ที่มีดสั้นเล่มสีดำสนิทไร้ลวดลายและอัญมณีประดับที่ถูกแขวนเด่นไว้บนผนังร้าน

“เธออยากได้มันเหรอ?” ผมพูดขึ้นเมื่อเดินมาหยุดอยู่ข้างทีน่า

“อะ เปล่า เล่มนี้ข้าขายมันให้ทางร้านเอง” ทีน่าพูดขึ้น สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง “จริง ๆ แล้วข้าแค่มาลามัน”

คำตอบของทีน่าทำเอาผมเลิกคิ้วแปลกใจ แต่พอรู้ว่ามีดนั่นเป็นของเธอก็พอจะเดาได้แล้วว่าทำไมตัวเธอที่เก่งขนาดนั้นถึงมีพลังโจมตีน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เล่มที่ใช้อยู่คงซื้อมาแก้ขัดสินะ

“ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงขาย แต่ให้ช่วยซื้อคืนไหมเหมือนเธอจะชอบมัน ค่อยผ่อนผมเอาก็ได้”

“ไม่ล่ะ ที่จริงข้าควรทิ้งมันไปนานแล้ว แค่คิดถึงคนที่ให้มีดเล่มนี้กับข้ามาเท่านั้นไปจ่ายเงินเถอะ” พูดเสร็จทีน่าก็เดินออกไปรอนอกร้าน ในตอนที่ผมกำลังเดินไปจ่ายเงินก็โดนนาตาเลียดึงเสื้อเอาไว้และกระซิบเสียงเบา

“นี่ เจ้าช่วยซื้อมีดเล่มนี้ให้ทีน่าได้ไหม เดี๋ยวข้าผ่อนทีหลัง” นาตาเลียยัดมีดเล่มหนึ่งใส่มือผม

“หา ไม่ใช่เล่มบนผนัง? นี่มีดไรเนี่ยหน้าตาพิลึก”

“สวยออก! นี่มีดแรงค์ A เลยนะ เอาไปเถอะน่าข้าอยากให้ของขวัญทีน่าที่อุตส่าห์เสี่ยงตายช่วยข้าวันนั้น”

“เอาก็เอา” ผมรับมาแล้วเดินไปจ่ายเงินแต่พอพนักงานบอกราคาเท่านั้นแหละผมถึงกับช็อก สนับมือผมราคาพอรับได้แต่ไอ้มีดพิลึกสุดวิบวับอัญมณีละลานตาอันนั้นราคาเหยียบแสน พนักงานยังบอกอีกว่ามันทำจากทองคำขาว แต่สติผมไม่รับรู้แล้วรู้แค่ว่าผมไม่มีเงินจ่าย

“เอามันไปเปลี่ยน!” ผมส่งมีดคืนยัยนาตาเลียร่างโตที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หล่อนทำสีหน้าเศร้าสุดใจที่มีดสุดสวยของเธอไม่ได้รับการยอมรับจากคนจ่ายเงิน แต่สักพักเธอก็เดินกลับมาด้วยมีดแรงค์ A ที่สีสันเรียบ ๆ และราคาสมเหตุสมผลกว่าเดิม

“ลูกค้าไม่รับชุดเกราะเพิ่มหรือครับ” พนักงานถามเมื่อผมกำลังนับเงินจ่ายเขา

“ไม่ละครับแค่นี้ก็จะหมดตัวแล้ว” ผมจ่ายเงินค่าอาวุธออกไปด้วยมือที่สั่นระริก สองชิ้นนี้ทำเอาผมแทบหมดตัว พระเจ้า...ได้จับเงินเป็นเศรษฐีไม่ถึงวันกลายเป็นยาจกอีกแล้ว โธ่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด