ตอนที่ 41 ปฏิบัติการแรก 3
“แค่ลองดู”
แลมเบิร์ตกล่าวตัดหลี่ ย่าหลินขณะก้มลงเพื่อถอดหน้ากาก และนั่นก็ทำให้พวกเขาตื่นตัว ชายคนนั้นไม่มีใบหน้าหรือกล่าวให้ถูก เขาไม่มีอะไรเลย
“อะไรกัน---นี่มันอะไร?!”
หลิน เหยาขนลุก พวกเขาพากันถอดหน้ากากของชายอีก9คน และพวกเขาทุกคนก็ไร้ใบหน้า!
ทันใดนั้น การเปลี่ยนแปลงก็เกิดกับชายคนแรกที่หานเซี่ยวบอกให้พวกเขาถอดหน้ากาก เมื่อรอยสักแมงมุมดำค่อยๆปรากฏบนหน้าเขา รูปลักษณ์ใบหน้าเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้น และในไม่ช้ามันก็เกิดเป็นใบหน้าของแมงมุมดำ ต่อมา บาดแผลบนตัวก็เริ่มรักษา และหลังจากนั้นไม่นาน เปลือกตาของ’ศพ’ก็เริ่มขยับ!
“ระเบิดสมองเขาซะ!”หานเซี่ยวสั่งอย่างใจเย็ฯ
แลมเบิร์ตยิงโดยไม่ลังเล
พวกเขาเชื่อฟังหานเซี่ยวและทำเช่นเดียวกับชายไร้ใบหน้าคนอื่นๆ หลี่ ย่าหลินและหลิน เหยาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาก็ระงับความสงสัยและทำตามคำแนะนำของหานเซี่ยว
แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าหานเซี่ยวล่วงรู้ความลับของแมงมุมดำได้ยังไง แต่พวกเขาก็ยังทำตามโดยไม่กังขา
เมื่อเหลือชายไร้ใบหน้าคนสุดท้าน หานเซี่ยวก็หยุดพวกเขา
“อย่าฆ่าเขา แค่ทำให้เขาหมดสภาพ”
เมื่อรอยสักแมงมุมดำและใบหน้าของแมงมุมดำก่อตัวขึ้นบนชายไร้ใบหน้า เขาก็ลืมตาขึ้นอย่างหวาดกลัวและตะโกน“พวกแกรู้พลังของฉันได้ยังไง?!”
ชื่อของความสามารถเขาคือ[กาฝากลอกเลียน]
มันช่วยให้เขาสร้างบุคคลไร้ใบหน้าออกจากตัวเองระยะเวลาหนึ่ง กาฝากจะไม่มีสติปัญญาและสามารถทำได้แค่ปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆภายในขอบเขต
แต่ละกาฝากที่แมงมุมดำมีก็เหมือนชีวิตพิเศษและเขาสามารถเกิดใหม่ได้เรื่อยๆตราบเท่าที่กาฝากยังดำรงอยู่ นี่ทำให้เขาเป็นอมตะ
ด้วยความที่ความสามารถนี้ไม่ได้มีผลโดยตรง สิ่งที่มันทำคือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบชีวิตของแมงมุมดำและปลดปล่อยเขาจากพันธนาการของเลือดเนื้อ เปลี่ยนเขาเป็นกลุ่มก้อนจิตสำนึกที่สามารถสถิตอยู่ในกาฝากของเขาได้
ตราบเท่าที่กาฝากยังอยู่ เขาก็เป็นอมตะ!
มันคือความลับสุดยอดของเขา และเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเปิดเผยกับใคร
มีคนรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน?!
หานเซี่ยวหัวเราะเมื่อเห็นใบหน้าโง่งมของแมงมุมดำและความหวาดกลัว หากมันเป็นมินิบอสตัวอื่น เขาอาจไม่สามารถนึกถึงความสามารถของพวกเขาได้ แต่แมงมุมดำได้สร้างความปวดหัวให้ผู้เล่นมามาก ดังนั้นเขาจึงมีความประทับใจต่อมัน
ในปัจจุบัน แมงมุมดำยังไม่อาจควบคุมพลังเขาได้เต็มที่ ทำให้มันถือเป็นช่วงเวลาอันดีในการฆ่าเขา อย่างไรก็ตาม มันคือพลังพิเศษที่มีศักยภาพสูงมาก ใครจะรู้ว่าหากมีคนควบคุมพลังมันได้เต็มที่ผลลัพธ์จะเป็นยังไง ไม่แม้แต่หานเซี่ยว ด้วยความที่แมงมุมดำตายไปตั้งแต่เริ่มเกมได้ไม่นาน-มันจึงไม่มีใครรับรู้
เขาตายได้ยังไง?
พลังของแมงมุมดำอาจจัดการได้ยาก แต่ก็ยังมีวิธีในการจัดการอยู่ เนื่องจากเขาได้แปลงสภาพร่างเนื้อให้เป็น’วิญญาณ’ ใครก็ตามที่สามารถสร้างความเสียหายให้วิญญาณเขาได้ก็จะเท่ากับการฉีกปีกเขาโดยตรง ถึงกระนั้น พลังพิเศษเช่นความสามารถการทำลายดวงวิญญาณก็ยังมีน้อยมากในกาแล็กซี่ ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่จึงยังไม่อาจฆ่าเขาได้ง่ายๆ นี่ทำให้เขาถูกพิจารณาเป็น’หนึ่งในมินิบอสที่ฆ่ายากสุด’ในเวอร์ชั่น1.0
และแน่นอน แมงมุมดำคิดว่าเขาไร้เทียมทานมาตลอด...จนกระทั่งเขาได้พบกับฮีล่า
จากทุกสาย ผู้ใช้พลังจิตคือคนที่ครอบครองความสามารถพิเศษทุกประเภท ไม่เหมือนกับยอดมนุษย์อีก4สายอาชีพ ผู้ใช้พลังจิตแค่ต้องกินยากระตุ้นยีนเพื่อเรียนรู้การปลดล็อคความสามารถ ตัวละครแต่ละตัวในกาแล็กซี่จะได้รับโอกาสครั้งเดียวเพื่อได้รับยากระตุ้นยีน และหากมันล้มเหลว ตัวละครนั้นก็จะไม่สามารถเปลี่ยนสายอาชีพให้เป็นผู้ใช้พลังจิตได้อีก
อัตราความสำเร็จขึ้นอยู่กับประเภทของยากระตุ้นยีน และอย่างที่คุณอาจเดาได้ นี่ต้องมีค่าตอบแทน
แม้กระทั่งยากระตุ้นยีนเกรดต่ำสุดยังมีราคาถึง398เหรียญ และ[อีลิกเซอร์กระตุ้นยีนรุ่นสุดยอดสมบูรณ์] ยากระตุ้นที่มีอัตราความสำเร็จสูงสุดก็จะมีราคากว่า5000เหรียญ แม้จะมีอัตราความสำเร็จเพียง18%เท่านั้น
มันคือเครื่องปั่นเงินสำหรับบริษัทเกมดีๆนี่เอง
ก่อนหน้านี้ หานเซี่ยวเคยลองเปลี่ยนเป็นผู้ใช้พลังจิต โชคไม่ดี ผลลัพธ์เดียวที่เขาได้คือผู้เล่นพลังจิตล้วนเต็มไปด้วยความโสมม
แมงมุมดำรีบตั้งสติและข่มขู่“ฉันมีกาฝากไร้จำกัด แม้แกจะทำลายร่างนี้ แกก็ไม่อาจฆ่าฉันได้!จำคำฉันไว้!ฉันจะตามล่าพวกแก!”
แลมเบิร์ตกำลังจะยกปืนขึ้นแต่หานเซี่ยวกลับหยุดเขาไว้
“ทำตามคำแนะนำผม...”
ขณะที่หลี่ ย่าหลินฟังหานเซี่ยว เธอก็เริ่มทำตัวสูงส่งและเป็นผู้รู้ทุกอย่างพลางตอบแมงมุมดำ“กาฝากไร้ขีดจำกัด?อย่าพยายามขู่กันหน่อยเลย แกสามารถมีได้มากสุดแค่50ร่าง!นอกจาก10ร่างตรงนี้ ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ทั่วโลก!”
ดวงตาของแมงมุมดำเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตา การตระหนักถึงธรรมชาติของพลังเขาเป็นอีกเรื่อง แต่การรู้ข้อมูลลับเช่นนั้น?มันเป็นไปได้ยังไง?!หัวสมองของแมงมุมดำหมุนเคว้ง
มีบางคนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพลังฉัน!
ใคร?ใครกัน?
หรือมันจะเป็น...ผู้ใช้พลังจิตที่สามารถอ่านใจได้?
หลี่ย่าหลินพูดต่อ“ตราบเท่าที่เราไม่ฆ่าร่างนี้ของแก เราก็สามารถจับกุมตัวแกไว้ได้ตลอด!”
สีหน้าของแมงมุมดำเปลี่ยนไป และเขาก็พยายามกัดลิ้นตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรม น่าเสียดาย แลมเบิร์ตเร็วกว่าและเขาก็สามารถยับยั้งได้
ไม่แม้แต่จะจบชีวิตตัวเอง แมงมุมดำทำได้เพียงมองหลี่ ย่าหลินอย่างเกลียดชัง
เมื่อมาถึงจุดๆนี้ ทั้งสามคนล้วนมีความคิดเดียวกัน
หานเซี่ยวเป็นใครกันแน่?
ทำไมแผนก13ถึงปฏิบัติต่อตัวตนเขาด้วยความลับเช่นนี้?
เขามีข้อมูลลับเช่นนั้นได้ยังไง?
...
ในไม่ช้าหน่วยเก็บกวาดก็มาถึงเพื่อนำตัวแมงมุมดำกลับไป
ในเวลาเดียวกัน หานเซี่ยวที่กำลังนั่งอย่างผ่อนคลายในฐานก็ได้รับการแจ้งเตือน
ท่านทำภารกิจคลาสE’แมงมุมดำ’เสร็จสิ้น ได้รับค่าประสบการณ์5000หน่วย
ท่านได้ทำตามเงื่อนไขลับ ‘จับแมงมุมดำแบบเป็นๆ’ได้รับค่าประสบการณ์50000หน่วยหรือจิตมั่นคง(แก้จากจิตสงบนิ่ง)
จิตมั่นคงมีผลในการเพิ่มความต้านทานทางจิตวิญญาณ ทำให้ผู้ใช้มีความต้านทานต่อการโจมตีทางจิตและวิญญาณ มันถือเป็นของทีท่มีประโยชน์โดยเฉพาะกับผู้ใช้เวทย์
เนื่องจากไม่มี ผู้ใช้เวทย์หรือผู้บงการจิต(psychics)บนดาวอความารีน จิตมั่นคงจึงไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อหานเซี่ยวในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกรางวัลค่าประสบการณ์40000หน่วย (แมงมุมดำคือesper)
แล้วฮีล่าละ?นั่นคงเป็นการคิดไกลเกินไป
ไม่เลวเลย หานเซี่ยวยิ้มให้ตัวเอง
...
ในที่สุดทั้งสามก็กลับมายังกองบัญชาการลับ หลี่ย่าหลินรีบวิ่งไปที่ห้องและถามหานเซี่ยวด้วยดวงตาเบิกกว้าง“นายรู้ได้ไงว่าแมงมุมดำคือยอดมนุษย์?”
หานเซี่ยวหัวเราะอย่างลึกลับ
“ผมจะบอกคุณหากคุณจ่ายมา1ล้านเหรียญ”เขาเสนอ
“ช่างมันเถอะ แล้วเราจะทำยังไงกับเขา?”
หลิน เหยาส่ายหัว
“ฉันได้ยินว่าเบื้องบนต้องการส่งเขาไปยังเกาะประตูแห่งความตายและขังเขาไว้ตลอดกาล”
เกาะประตูแห่งความตายคือคุกที่มีความปลอดภัยสูงสุดที่6ประเทศก่อตั้งร่วมกัน มันตั้งอยู่ใจกลางมหาสมุทร ทำให้ไม่อาจหนีออกมาได้ มีเพียงเหล่าคนที่6ประเทศเล็งเห็นว่าเป็นอันตรายจึงจะถูกส่งไปที่นั่น-บุคคลชั่วร้าย แม่ทัพของกองทัพเร่ร่อน และบุคคลสำคัญอื่นๆ
เกาะประตูแห่งความตายถูกขนานนามให้มีชื่อนั้นเพราะไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไป มันก็เปรียบเสมือนตายไปแล้ว
ท้ายที่สุด ปฏิบัติการแรกของกลุ่มก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และหลังจัดการธุระ ทุกคนก็กลับไปบ้านของตัวเอง
หานเซี่ยวเองก็คิดกลับเช่นกันแต่เฟิง จุนกลับเดินมาหาเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“แผนกกิจการภายใน(กระทรวงภายใน)ต้องการถามคำถามคุณสักเล็กน้อย”
“การพิสูจน์ของผมไม่น่าเชื่อถือพอ?”หานเซี่ยวถาม
“กิจการภายในได้ยื่นเรื่องสอบสวนครั้งที่สอง เพราะมันมีเหตุผลอยู่ เบื้องบนจึงไม่ได้คัดค้าน อย่างที่คุณรู้ ตัวตนของคุณค่อนข้างละเอียดอ่อน”
“เบื้องบนได้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายในเรื่องของคุณ”เขากล่าวเสียงเบา“ขณะที่แผนกข่าวกรองและโลจิสติกส์คิดว่าความสัมพันธ์เป็นมิตรมีประโยชน์กว่า พวกหัวแข็งที่นำโดยแผนกกิจการภายในกลับคิดต่าง”
หานเซี่ยวถอนหายใจ ไม่ว่าที่ไหนก็ย่อมมีความขัดแย้ง
...
ที่แผนกกิจการภายใน(กระทรวงภายใน) หานเซี่ยวถูกวัดน้ำหนักและส่วนสูงอีกครั้งก่อนนำไปยังห้องสอบสวน ซึ่งมีผู้สืบสวนเพียงคนเดียวกำลังนั่งรอ
“ชื่อ”
“หานเซี่ยว”
“เพศ”
“หญิง”
เส้นเลือดของผู้สืบสวนปูดขึ้น
“อายุ”
“30..ไม่สิ..31มั้ง”
ปัง!
ผู้สืบสวนทุบโต๊ะ
“หยุดเล่นได้แล้ว!”
“ทำไมคุณถึงถามเรื่องไร้ประโยชน์เหล่านี้?เราสามารถเข้าเรื่องเลยได้ไหม?”
“ต่อไป ความสัมพันธ์ครอบครัว”ผู้สืบสวนยังคงพูดผ่านไรฟัน
“ผมเป็นเด็กกำพร้า ไร้ญาติ”
“เกิดที่ไหน?”
“ภูเขาปูโจว”
“ไร้สาระ!เราไม่พบบันทึกการเกิดอะไรทั้งนั้น!”
“ไปถามหัวหน้าของคุณเอา”หานเซี่ยวตอบอย่างอดทน
เห็นได้ชัดว่าเบื้องบนไม่คิดเปิดเผยข้อมูลของหานเซี่ยวต่อเจ้าหน้าที่ธรรมดา การซักถามครั้งนี้เป็นเพียงความคิดของแผนกกิจการภายในเพื่อเตือนเขา
ผู้สืบสวนได้รับคำสั่งผ่านหูฟังเขา และระงับความโกรธตัวเองเพื่อประเมินจิตใจ
ผู้สืบสวนได้ให้สถานการณ์สมมติสำหรับหานเซี่ยว แต่ทว่า หานเซี่ยวก็ตอบแบบมั่วๆและไม่ให้ความร่วมมือ
...
ในที่สุด การซักถามก็จบลง
ผู้สืบสวนปิดผนึกข้อมูลที่รวบรวมไว้ในซองและบอกหานเซี่ยวด้วยน้ำเสียงเย็น“แผนกกิจการภายในจะเฝ้าจับตาดูคุณเสมอ เฝ้าอธิษฐานไว้ให้เราไม่พบอะไร”
“งั้นหมายความว่าตอนนี้คุณไม่มีอะไร และไม่อาจดำเนินการอะไรกับผมได้?”หานเซี่ยวยั่วยุก่อนเดินออกจากห้องไป
สีหน้าของผู้สอบสวนมืดลง มือของเขาสั่นด้วยความโกรธขณะบีบซองในมือแน่น