ตอนที่ 21 เจ้าวิหารศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 21 เจ้าวิหารศักดิ์สิทธิ์
“ข้าจะเลือกเจ้าเป็นราชินี!” คำพูดของกษัตริย์หนุ่มฟินเดลดังขึ้น ทำให้ทั้งห้องโถงเงียบกริบ แม้แต่เซน่าที่ปกติมีแววตาเย็นชา ยังอดเบิกตากว้างเล็กน้อยไม่ได้
“เจ้ากล่าวเหลวไหลอะไร!” เซน่ากล่าวเสียงเช้ม
ฟินเดลกล่าวว่า “การเป็นราชินีแห่งโกลด์เด้นกราวด์ถือเป็นเกียรติ มีสิ่งใดเหลวไหล?”
“เจ้าเสียสติไปแล้ว” เซน่าส่ายหน้าเบา ๆ
ตลอดชีวิตของเรดิกัลนอกจากฝึกเวทมนตร์และเพลงดาบแล้ว หากไม่ใช่ต้องออกว่าราชการ เขาก็มักจะเก็บตัวอยู่ในห้องเสมอ สำหรับสตรีแล้วเรดิกัลเห็นว่าอ่อนแอและน่ารำคาญ ดังนั้นการแต่งงานเพื่อสืบสันติวงศ์แม้จะมีความจำเป็น แต่เขาก็ไม่เคยคิดถึงมาก่อน
การแต่งงานกับสตรีเขายังไม่เคยคิดถึง หากให้เขาแต่งงานกับบุรุษนับว่าเป็นเรื่องเหลวไหลที่สุดนับตั้งแต่พระเจ้าเมธีอาร์สร้างโลกใบนี้ขึ้นมา
ฟินเดลงุนงนว่าการขอสตรีแต่งงานเป็นเรื่องเสียสติไปได้อย่างไร ท่านหญิงสูงศักดิ์จำนวนนับไม่ถ้วนต่างหมายปองเขา ทว่าเขาเลือกหยิบยื่นโอกาสนี้ให้เซน่า แต่เซน่ากลับกล่าวหาว่าเขาเสียสติ
ฟินโอร่าพระพี่นางของฟินเดลเกิดความสงสัยเต็มอก ฟินเดลไม่ใช่ชอบกับท่านหญิงลินเดียร์หรอกหรือ? ก่อนหน้ายังเห็นทั้งสองเต้นรำกันอย่างมีความสุข
ฟินโอร่าเดินไปหาเฟอดินานด์ราชเลขาธิการแห่งโกลด์เด้นกราวด์กล่าวถามว่า
“สตรีนางนี้เป็นใคร?”
เฟอดินานด์กล่าวว่า
“สตรีนางนี้หม่อมฉันได้ยินท่านหญิงลินเดียร์เรียกนางว่าเซน่า ดูเหมือนนางจะเป็นผู้คุ้มกันของท่านหญิงลินเดียร์”
“เหตุใดฝ่าบาทจึงขอสตรีนางนี้แต่งงาน?” ฟินโอร่าถามอย่างสงสัย
เฟอดินานด์จึงเล่าเหตุการณ์ที่เซน่าเข้ามาจากทางหน้าต่างและร่วมมือกับฟินเดลต่อสู้กับชายชุดดำให้ฟินโอร่าเข้าใจคร่าว ๆ
“เข้าใจว่าฝ่าบาทคงประทับใจในฝีมือและความฉลาดของสตรีนางนี้” เฟอดินานด์กล่าวคาดเดาจิตใจของฟินเดล
ฟินโอร่าพยักหน้าเล็กน้อย นางจ้องไปยังเซน่าอย่างสนใจ
วิกเชอร์เสนาบดีคลังเห็นฟินเดลเพิ่งเต้นรำกับลูกสาวตน แต่กลับขอเซน่าแต่งงานก็รู้สึกตกใจและเสียดายไม่น้อย แต่พอได้ยินเซน่าตำหนิฟินเดลว่าเสียสติ เขาเกรงฟินเดลจะพิโรธจึงกล่าว
“ฝ่าบาท เซน่าเป็นเพียงผู้คุ้มกันบุตรีหม่อมฉัน นางฝึกฝนวิชาดาบไม่ได้เรียนรู้วิถีของกุลสตรีเป็นเหตุให้นางกล่าววาจาไม่เหมาะสมไปบ้าง ขอฝ่าบาททรงอภัยโทษ”
วาจานี้กล่าวได้ฉลาดยิ่ง เปลือกนอกคล้ายต้องการปกป้องเซน่าว่าไม่รู้ธรรมเนียมมารยาท แต่ความหมายที่แท้จริงคือต้องการชี้ให้ฟินเดลเห็นว่าเซน่าไม่มีคุณสมบัติของกุลสตรีและเซน่าเป็นเพียงแค่ผู้ติดตามของลินเดียร์ ไม่คู่ควรกับการเป็นราชินี
ฟินเดลไม่สนใจคำพูดวิกเชอร์ เขากล่าวกับเซน่าว่า “เสียสติ? เจ้าไม่รับตำแหน่งราชินีที่อยู่ใต้เพียงหนึ่งคน แต่อยู่เหนือคนนับแสนแบบนี้จึงเรียกว่าเสียสติ”
คำพูดนี้กระทบใจเซน่าไม่น้อย ตั้งแต่นางถูกสาปเป็นสตรี ชีวิตต้องระเหเร่ร่อน จากราชาเจ้าชีวิตกลายเป็นผู้พเนจรที่ไม่ทราบว่าชีวิตแต่ละวันจะต้องพักที่ใด แต่หากนางได้เป็นราชินีก็จะมีอำนาจสั่งการเพียงเป็นรองแค่กษัตริย์ ไม่แน่ยังจะคุมอำนาจทั้งหมดในอาณาจักรโกลด์เด้นกราวด์ได้ ถ้าทำได้เช่นนี้หนทางชำระแค้นซาอูก็ไม่ไกลแล้ว
หากแต่การแต่งงานกับบุรุษจะอย่างไรก็นับเป็นเรื่องที่อัปยศอย่างใหญ่หลวงและเป็นเรื่องเสียสติสำหรับเซน่าอย่างแท้จริง
ขณะที่เซน่าจะตอบปฏิเสธพลันได้ยินทหารนอกห้องโถงร้องเสียงดัง
“ท่านมิโนอาห์”
เสียงเรียกชื่อมิโนอาห์ดังขึ้นไม่หยุด จนเซน่าต้องหันกายไปมอง เห็นประกายแสงสีทองสว่างวาบหน้าห้องโถงหลายครั้ง เสียงทหารโห่ร้องด้วยความยินดี
ฟินเดลและฟินโอร่ารู้ว่าท่านมิโนอาห์มา ทั้งสองถึงกับเดินไปรอรับที่ประตูหน้าห้องโถง
เซน่าเห็นสตรีนางหนึ่งแต่งชุดยาวสีขาวบริสุทธิ์ ศีรษะคลุมด้วยผ้าขาวจากชุดยาว ผิวนางขาวผ่องราวหิมะ ดวงตาเป็นวงรี แววตาสงบนิ่ง ปากอมชมพูเล็กน้อย วงหน้างามพิลาสล้ำ ความงามของนางทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าจ้องมองตรง ๆ
หากความงามของเซน่าเป็นความงามที่เหล่าบุปผาต้องกรีดร้องด้วยความอิจฉา ความงามของมิโนอาห์กลับทำให้เหล่าบุปผายังต้องอายหลบเพราะไม่อาจทัดเทียมได้
มิโนอาห์ยังเดินเข้ามาพร้อมกับนักบุญเจฟ
ฟินโอร่ากล่าวด้วยความยินดีจับสองมือของมิโนอาห์กล่าวว่า “มิโนอาห์ ท่านมาแล้ว”
มิโนอาห์ยิ้มรับ
ฟินเดลกล่าวสั่งว่า “ให้นำคนเจ็บหนักทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่”
เหล่าทหารเกราะทองและขุนนางที่ไม่ได้รับบาดเจ็บต่างทยอยแบกคนเจ็บที่โดนพวกมือสังหารทำร้ายมารวมกัน หลายคนเจ็บหนักเป็นแผลฉกรรจ์ หากไม่นับรวมผู้เสียชีวิต คนเจ็บหนักทั้งหมดรวมกันประมาณห้าสิบคน
มิโนอาห์ ยกมือซ้ายขึ้นจากนั้นท่องคาถาว่า “เมอซี เบสซิ่ง” (Mercy Blessing—พรแห่งความเมตตา)
ทันใดนั้นเกิดแสงวงกลมสีทองล้อมรอบขุนนางและท่านหญิงซึ่งบาดเจ็บหนัก ในวงกลมสีทองเกิดแสงสีทองเจิดจ้าพวยพุ่งขึ้นฟ้า แสงทองเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ความอบอุ่นของแสงสีทองค่อย ๆ รักษาบาดแผลผู้ที่บาดเจ็บหนักให้ค่อย ๆ หาย เลือดที่ไหลไม่หยุดก็ค่อย ๆ หยุดไหล อาการเจ็บปวดของคนเหล่านี้ค่อย ๆ ดีขึ้น
“เวทมนตร์รักษา?” เซน่าครุ่นคิดขึ้น ตั้งแต่นางอยู่เพธอสมาไม่เคยพบเวทมนตร์รักษามาก่อนจึงรู้สึกแปลกตายิ่ง
เหล่าขุนนางท่านหญิงต่างค่อย ๆ ลุกขึ้นได้ราวปาฏิหาริย์ ทั้งหมดขอบคุณมิโนอาห์ไม่หยุดปาก บ้างถึงกับคุกเข่ากราบกรานนางโดยไม่คำถึงศักดิ์ศรีและยศศักดิ์อันสูงส่ง
ยศศักดิ์ไหนเลยจะสำคัญเท่าชีวิต?
มิโนอาห์กล่าวว่า “บาดแผลพวกท่านอาจหายดีแล้ว แต่พวกท่านต้องพักฟื้นร่างกายสักระยะ”
พวกเหล่าขุนนางรับคำ
มิโนอาห์ถอนใจกล่าวว่า “น่าเสียดายพลังเวทของข้ามีจำกัด ไม่อาจรักษาคนเจ็บอีกหลายร้อยคนได้”
ฟินโอร่ากล่าวว่า “อย่าได้พูดเช่นนี้ วันนี้ท่านได้ช่วยเหลือชีวิตผู้บริสุทธิ์อีกนับร้อยคน”
มิโนอาห์กล่าวว่า “เบื้องนอกยังมีผู้บาดเจ็บอีกมาก ความเมตตาจากพระเจ้าจะช่วยให้พวกเขาปลอดภัย”
มิโนอาห์หันไปกล่าวกับฟินเดลว่า “ฝ่าบาท ข้าได้ข่าวว่าพระองค์ถูกทำร้าย พระองค์เป็นอะไรหรือไม่?”
ฟินเดลตอบว่า “บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย วันนี้ข้าโชคดีมีคนช่วยข้าปราบศัตรูร้าย”
ฟินเดลกล่าวจบก็หันไปมองและยิ้มให้เซน่า มิโนอาห์มองตามสายตาฟินเดลก็พบว่าฟินเดลหมายถึงสตรีงามนางนี้เอง
มิโนอาห์เดินเข้าไปหาเซน่า นางจ้องมองเซน่าราวกับรับรู้สิ่งใด แม้แต่เซน่ายังรู้สึกอึดอัดแทบอยากออกไปจากสถานที่แห่งนี้
ไม่ว่าพญามัจจุราชเพลิงคอร์แซค จอมเวทจันทราเธด้า นักฆ่าชุดดำที่ถือกริชแห่งความเกลียดชัง คนเหล่านี้ไม่ว่าร้ายกาจเพียงใดก็ไม่เคยทำให้เซน่าคิดหลบสายตา
มิโนอาห์พลันยกมือขึ้นแสงสีทองอ่อน ๆ ปรากฏที่มือนาง จากนั้นเซน่ารู้สึกร่างกายอบอุ่นสบาย ความเจ็บปวดจากการต่อสู้หายไปหมดสิ้น
มิโนอาห์ยิ้มพลางกล่าวว่า “อาการบาดเจ็บท่านเพียงเล็กน้อย พักผ่อนฟื้นฟูเรี่ยวแรงสักคืนหนึ่งท่านก็ไม่เป็นไรแล้ว”
รอยยิ้มของมิโนอาห์ช่างมีเมตตาอย่างที่เซน่าไม่เคยพบมาก่อน
มิโนอาห์เดินไปหาฟินเดลและฟินโอร่า ส่วนนักบุญเจฟเดินเข้าไปหาเซน่ากล่าวว่า
“พระเจ้าคุ้มครอง เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว การได้รับการรักษาจากท่านมิโนอาห์ถือเป็นความเมตตาจากพระเจ้า”
เซน่ากล่าวถามว่า “นางเป็นใคร?”
นักบุญเจฟกล่าวว่า “ท่านมิโนอาห์คือผู้ดูแลวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งเมธีอาร์ ข้าเองก็เพิ่งมาพักที่นี่ได้ไม่กี่เดือน ท่านมิโนอาห์ดูแลข้าอย่างดี นางคือผู้สืบทอดความเมตตาจากพระเจ้าอย่างแท้จริง”
เซน่าได้ยินนักบุญเจฟสรรเสริญพระเจ้าหลายครั้งก็รู้สึกรำคาญอย่างยิ่ง นางเห็นว่าผู้ใดฝึกเวทมนตร์แห่งแสงได้ก็สามารถรักษาคนได้ ไม่เกี่ยวกับพระเจ้าอะไร
ลินเดียร์ได้ยินฟินเดลเลือกเซน่าเป็นราชินีก็รู้สึกเสียใจยิ่ง แต่นางไม่ใช่คนที่มีนิสัยโวยวายก้าวร้าว นางได้แต่กล่าวกับวิกเชอร์ผู้เป็นพ่อว่า “ท่านพ่อเราไปกันเถอะ”
วิกเชอร์ประคองลูกสาวที่มีอาการเจ็บหลังของเขาจากไป
“ช้าก่อน” ฟินเดลร้องเรียก ลินเดียร์รู้สึกมีความหวังเล็กน้อย
ได้ยินฟินเดลกล่าวว่า “เซน่า เจ้าจะรีบไปไหน? ข้ากำลังรอคำตอบของเจ้า”
ลินเดียร์ได้ยินเช่นนี้ก็ปวดใจยิ่งกว่าเดิม นางไม่สนใจแล้วว่าเซน่าจะตอบว่าอย่างไร นางต้องการไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด
เซน่าชะงักเท้าไว้หันมามองฟินเดล
ฟินเดลเดินไปหาเซน่า จากนั้นฟินเดลกล่าวอย่างจริงจังว่า “เซน่า ข้าขอเลือกเจ้าเป็นราชินี เจ้าจะตกลงหรือไม่?”
เซน่าจ้องมองตาราชาหนุ่มผู้หล่อเหล่าผู้นี้ จากนั้นยิ้มและกล่าวว่า
“ตกลง!”
ฟินเดลได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกดีใจยิ่งกว่าคนยากจนได้พบสมบัติ เขารีบกล่าวว่า
“วันนี้เกิดความสูญเสียมาก ระยะนี้คงไม่เหมาะจะจัดงานมงคล เจ้าอยู่ที่ใด? อ้อ เจ้าอยู่บ้านลินเดียร์ พรุ่งนี้ข้าจะให้คนไปรับเจ้าเข้าวังมาอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้การปรับตัวในวังก่อน”
มิโนอาห์ได้ยินเช่นนี้ก็แสดงความยินดีกับฟินเดล เหล่าขุนนางก็พากันทยอยแสดงความยินดีกับเซน่าและฟินเดล
ในห้องโถงนี้มีเพียงผู้เดียวที่ไม่คิดจะแสดงความยินดีกับฟินเดล
นางคือฟินโอร่า
ฟินโอร่าเห็นร้อยยิ้มของเซน่าก็รู้สึกไม่ถูกต้อง นางทราบว่ารอยยิ้มของเซน่าไม่ใช่รอยยิ้มแห่งความยินดีของสตรีที่จะได้แต่งงาน แต่เป็นรอยยิ้มของผู้มากอุบาย
เพราะนางก็เป็นคนประเภทเดียวกัน!
คนแคระโชก้าขณะค้าขายอยู่ข้างพระราชวังโกลด์เรนเดียร์ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นไม่หยุด จากนั้นเกิดเพลิงไหม้หลายจุดทั่วเมืองหลวง เขารีบเก็บสินค้าและขึ้นรถม้า รีบปิดประตูรถม้าป้องกันตนไว้
ก๊อก ๆ โชก้าได้ยินเสียงเคาะประตูรถม้า เขากำค้อนทองเหลืองคู่ใจเขาไว้แน่น โชก้าถามว่า “ผู้ใด?”
“ข้าเอง” เสียงสตรีดังขึ้น
โชก้าจำได้ว่าเป็นเสียงเซน่า แต่เขายังไม่ไว้ใจเขาจึงเปิดช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ประตูรถม้าดูก่อนว่าใช่เซน่าจริงหรือไม่ เมื่อพบว่าเป็นเซน่าจริงเขาก็เปิดประตู
โชก้ากล่าวว่า “เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่ แล้วท่านหญิงลินเดียร์เล่า เจ้าไม่ได้คุ้มกันนางหรือ?”
เซน่ากล่าวว่า “ข้าไม่จำเป็นต้องคุ้มกันนางแล้ว”
โชก้ากล่าวว่า “เพราะอะไร?”
เซน่ากล่าวว่า “ข้าจะแต่งงาน”
โชก้ากล่าวถามอย่างร้อนรนว่า “แต่งงาน ! เจ้าจะแต่งกับผู้ใด? เจ้ามีคู่หมั้นแล้วหรือ? ข้าไม่เคยได้ยินเจ้าบอกว่ามีคู่หมั้น”
เซน่าตอบเสียงราบเรียบ “กษัตริย์ฟินเดล”
โชก้าได้แต่อ้าปากค้าง แม้เขาจะเป็นคนพูดมาก แต่ยามนี้ก็กลับไม่มีคำพูดจะกล่าวแม้แต่เพียงครึ่งคำ
เซน่านั่งรถม้าขอโชก้ากลับไปยังบ้านของลินเดียร์เพราะลินเดียร์ได้กลับไปบ้านนางก่อนแล้ว โชก้าบังคับรถม้าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย เขาไม่พูดจากับเซน่าแม้แต่คำเดียว
เช้าวันต่อมา ขบวนรถม้าของราชาฟินเดลถูกส่งมาเพื่อรับตัวเซน่า วิกเชอร์เสนาบดีคลังทราบว่าเซน่าอีกหน่อยจะเป็นถึงราชินีของโกลด์เด้นกราวด์ เขาจึงออกมาส่งและเอาใจเป็นพิเศษ ส่วนลินเดียร์เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องเพราะความเสียใจ นางเองก็ทราบดีว่าเซน่าได้ช่วยชีวิตนางเอาไว้จากชายชุดดำ อย่างน้อยนางสมควรดีต่อเซน่าให้มากกว่านี้ แต่อีกด้านเซน่าก็ทำให้นางต้องพลาดสิ่งที่นางหวังไป
โชก้าเองก็เดินออกมาส่งเซน่าด้วยและกล่าวว่า “เหล่ากษัตริย์มักมีนางสนมมากมาย ข้าเกรงว่าเจ้าจะเสียใจในภายหน้า”
เซน่ากล่าวว่า “เขาจะมีนางสนมหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับช้า”
โชก้างุนงงยิ่ง เซน่าจะเป็นภรรยาของกษัตริย์ หากกษัตริย์มีสตรีอื่นไหนเลยจะไม่เกี่ยวกับนางได้?
เซน่าถามว่า “แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อ?”
โชก้ากล่าวว่า “ข้าจะค้าขายในเมืองอีกสักพัก จากนั้นจะเดินทางไปหาสินค้าเพื่อนำมาขายต่อไป แต่ข้าอยากจะให้เจ้าคิดให้ดี คนอย่างเจ้าหากเข้าไปอยู่ในวังก็ไม่ต่างจากนกที่ถูกขังอยู่ในกรงทอง..”
เซน่ากล่าวตัดบทโชก้าว่า “เจ้าวางใจเถอะ ข้าทำเพื่ออิสรภาพของข้า”
โชก้ายิ่งงุนงงเขารู้สึกว่าคำพูดของสตรีนางนี้ประหลาดพิกลจนไม่อาจจับความได้
โชก้าเห็นขบวนรถม้าค่อย ๆ จากไปจนลับตา เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เขานึกว่าจะได้พบภรรยาแต่กลับต้องเริ่มใหม่อีก เขาได้แต่เฝ้าฝันหาคู่ของเขาต่อไป
เซน่ามาถึงในวังหลวงเห็นมีสตรีอย่างน้อยสิบนางยืนรอคอยต้อนรับ โดยมีสตรีอยู่ตรงกลางเป็นแม่บ้านอายุราวห้าสิบกว่าปี นางมีผมสีดำตัดสั้น ยืนยิ้มแย้มรอคอยอยู่
“ข้าชื่อรอนด้า ขอต้อนรับแม่นางเซน่าสู่วังโกลด์เรนเดียร์” สตรีนี้เป็นหัวหน้าแม่บ้านในวังหลวงชื่อรอนด้า นางทำงานในวังมาตลอดชีวิตล่วงรู้ราชประเพณีอย่างดี
เซน่าพยักหน้ารับ แม่บ้านรอนด้าจึงพาเซน่าไปชมดูห้องของนางและแนะนำส่วนต่าง ๆ ของวังโกลด์เรนเดียร์ ทั้งห้องอาหาร ห้องบรรทมของกษัตริย์ รอนด้ากล่าวว่า
“ท่านพักผ่อนให้สบายเถอะ หลังฝ่าบาทเสร็จจากการประชุมขุนนางจะเสด็จมาหาท่าน ส่วนพรุ่งนี้ท่านมีเรียนเรื่องการปฏิบัติตัวในวัง ทั้งการการถวายคำนับ
มารยาทต่าง ๆ การเต้นรำ แม้ในวังจะมีธรรมเนียมปฏิบัติจำนวนมาก แต่ท่านไม่ต้องห่วงข้าจะดูแลท่านเอง”
เซน่าอดขมวดคิ้วไม่ได้ นางเพียงแค่วางแผนจะเข้ามาอยู่ในวังเพื่อจะได้ตามหาหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียนได้ง่ายขึ้น หาได้คาดถึงเรื่องปลีกย่อยเหล่านี้ ตอนที่นางเป็นเรดิกัลกษัตริย์แห่งเพธอสก็แทบไม่เคยสนใจเรื่องมารยาทธรรมเนียมอันใด หากให้นางเรียนเรื่องการถวายคำนับและการเต้นรำ ต่อให้ตายนางก็ไม่ยอมกระทำเด็ดขาด !
----------------------
จะให้เซน่าเรียนเต้นรำ ถวายคำนับตามแบบสตรีเนี่ยนะ เซน่าที่ใช้ชีวิตอยู่ในวังจะทำตัวยังไง โปรดติดตาม