TQF:บทที่ 36 ช่วงเวลาแห่งการกระทำ
TQF:บทที่ 36 ช่วงเวลาแห่งการกระทำ
เมื่อได้ยินคำพูดของนางเฉิง เฉิงไป๋หยวน รู้ว่าเธอต้องการจะพูดอะไรเพียงแต่เขาตัดสินใจแล้ว
“หยูฉิน อย่าคิดมากเกินไป มันไม่มีประโยชน์หากเราจะหดหู่อยู่อย่างนี้ หากเราสามารถทำได้ทำไมเราจะต้องซ่อนตัวอีกต่อไป?”
“ข้าเข้าใจ แต่ข้าไม่ต้องการเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา!”ใบหน้าของ นางเฉิง แสดงสีหน้าเปลี่ยนไปแม้แต่เสียงพูดเองก็เบาลงเรื่อยๆ ในคำพูดของเธอ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร เฉิงไป๋หยวน เองก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรงและพูดว่า
“มันจะไม่เกิดอุบัติเหตุแบบนั้นอีก มันเป็นเพราะความอ่อนแอของเรา ทำไมเราจะต้องเก็บซ่อนมันเอาไว้ตอนนี้เรามีความสามารถ ข้าอยากบอกทุกคนว่า เฉิงไป๋หยวน คนนี้ จะไม่ยอมอ่อนแอหากพวกเขากลับมาอีก!”
เมื่อได้ยินคำพูดที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจ นางเฉิงพยักหน้าเบาๆและหยุดให้คำแนะนำอีกต่อไป
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ไม่ได้ใช้โอกาสนี้ถามพ่อแม่ของเธอว่าคำพูดเหล่านี้หมายถึงอะไร ตามที่พ่อของเธอบอกไว้ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะค้นหาสาเหตุ รอจนกว่าพวกเขาจะมีความแข็งแกร่งมากกว่านี้
ในอาคารเล็กๆด้านในของโรงเตี้ยม
เพลี๊ย!
เสียงตบดังมาจากห้องนั่งเล่น ปรากฏรอยฝ่ามือที่ชัดเจนบนแก้มของเถ้าแก่จู ใบหน้าของท่านหลินเย็นชาดวงตาของเขาดุร้ายกำลังจับจ้องคนที่ก้มหน้าไม่กล้าพูด เขาพูดน้ำเสียงเย็นชาว่า
“เราให้เวลาเจ้าสามวันแล้วแต่เจ้ากลับไม่มีความคืบหน้าอย่างนั้นหรอ?”
“ข้า-”เถ้าแก่จูผู้ทุกข์ทรมานเพราะใบหน้าของเขาถูกตบตี รู้สึกละอายใจและกังวลเขาพยายามส่งสายตาขอความช่วยเหลือ “ท่านไป๋ข้าไม่สามารถหาเบาะแสได้จริงๆ”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควรโดนมากกว่านี้!”ท่านหลินโกรธแค้น
ท่านไป๋ไม่ได้พูดอะไร สุดท้ายแล้วเขารออยู่ที่นี่หลายวันแต่เขากลับไม่ได้รับข่าวสารใดๆ หากบอกว่าเขาไม่โกรธคงเป็นเรื่องโกหก เพราะเขาจำเป็นต้องนำรายงานนี้ไปรายงานให้กับเจ้านายและนายน้อยของเขา
แต่เขารู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาลงโทษเถ้าแก่โรงเตี๊ยมดังนั้นเขาจึงพูดว่า
“ท่านหลิน อย่าโกรธไปเลย เรายังต้องการเถ้าแก่จู หากไม่มีเขาเราคงไม่สามารถหาแม่และลูกสาว 2 คนนั้นได้”
“ฮึ่ม-”
ท่านหลินหงุดหงิดเขาเข้าใจว่านี่เป็นความจริงดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้อีก
ท่านไป๋มองไปที่เถ้าแก่จูและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า
“เถ้าแก่จู เจ้าไม่สามารถหาเบาะแสใดๆหลังจากอยู่ที่นี่มามากกว่า 10 ปีแล้วอย่างนั้นหรอ? ข้าหวังว่าเจ้าจะพบกับคนที่กำลังตามหาอยู่ ไม่อย่างนั้นไม่ใช่เพียงแค่พวกเราที่เดือดร้อนแม้แต่ครอบครัวของพวกเราเองก็จะเดือดร้อนไปด้วย หวังว่าเจ้าจะคิดหาวิธีบางอย่าง”
“ท่านไป๋และท่านหลิน ข้าไม่สามารถทำอะไรได้เท่าที่ข้ารู้หมอซูเคยไปเยี่ยมบ้านของครอบครัวเฉิง ถ้าหมอซูเต็มใจที่จะบอกเราเราสามารถรู้ตำแหน่งบ้านของครอบครัวเฉิงได้”
“บัดซบ!”ทันทีที่เถ้าแก่จูพูดเสร็จ ท่านหลินตะโกนอย่างโกรธเคือง
“ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แล้วทำไมไม่ถามให้ชัดเจน จะผัดวันประกันพรุ่งทำไม เจ้าอยากตายอย่างนั้นหรอ ถ้าเจ้าอยากตายก็อย่าลากพวกเราไปด้วย!”
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยไปสอบถามเขา”ใบหน้าของเถ้าแก่จูขมขื่นและเขาก็เล่าให้ฟังว่าหมอซูขับไล่เขาออกมาอย่างไร
“ฮึ่ม หากเถ้าแก่จูไม่สามารถทำได้ดังนั้นคืนนี้ข้าจะไปเยี่ยมเขา ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถตกลงกันได้!”
ดวงตาของท่านหลินส่องประกายดุร้าย เขาไม่ได้เป็นคนใจดีเพื่อบรรลุเป้าหมายเขาสามารถใช้วิธีที่โหดเหี้ยม ท่านไป๋รู้ว่าเหตุการณ์มันจะเป็นอย่างไร เขาไม่ได้ปฏิเสธ ไม่มีใครพบครอบครัวเฉิงมาก่อนนอกจากหมอซู ดังนั้นเพื่อที่จะหาครอบครัวเฉิงเขาจำเป็นต้องใช้วิธีบางอย่าง
การแสดงออกของเถ้าแก่จูนั้นไม่สบายใจเขาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดคำว่า
“หมอซู มีชื่อเสียงมากในเมือง หากมีอะไรเกิดขึ้นข้าเกรงว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดี หมอซูนั้นเป็นที่รักของทุกคน”
“อืม สถานที่แห่งนี้มีคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น น้อยยิ่งกว่าคนของเราหลายเท่า หมอซูเป็นเพียงตัวละครเล็กๆหากเขาไม่รู้ตัวว่าจะต้องทำอะไรเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เขาทำ!”
“เรื่องนี้เกี่ยวกับครอบครัวเฉิง เราไม่ควรทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่เกินไป!”ท่านไป๋ มองคนที่อยู่ในมุมมืดและพูดเบาๆ เถ้าแก่โรงเตี๊ยมเห็นด้วยกับความคิดนี้อย่างมาก สุดท้ายแล้วเขาก็อาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่า 10 ปี เขาย่อมมีความรู้สึกถึงความผูกพันเล็กน้อย นอกจากนี้การกระทำในครั้งนี้ทำให้ผู้อื่นรู้ว่าเรื่องต่างๆเกี่ยวข้องกับเขา เขาคงไม่สามารถเผชิญหน้ากับผู้คนในเมืองนี้ได้
แม้ว่าท่านหลินจะเป็นคนเลือดเย็นแต่เขาก็ไม่ใช่นักฆ่า
“นอกจากหมอซู แล้วมีใครอีกหรือไม่?”ท่านไป๋ถามอีกครั้ง
“นี่-”
เถ้าแก่จูระลึกถึงข่าวลือในวันนั้น เขาลังเลสักครู่แล้วพูดว่า
“ข้าได้ยินมาว่านอกจากท่านหมอแล้วยังมีผู้ช่วยตัวน้อยของหมอซูที่ถูกไล่ออกจากสำนักแพทย์ ข้าไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่”
“ถูกขับไล่ออกจากสำนักแพทย์ อย่างนั้นหรอ เจ้ารู้ไหมว่าทำไม?”
“ดูเหมือนว่าผู้ช่วยของเขาจะเปิดเผยที่อยู่ของบ้านผู้ป่วย เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
“อะไรนะ?”
ใบหน้าของท่านไป๋เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินข่าวนี้ ท่านหลินกับเถ้าแก่จู มองหน้ากันไปมาพวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมท่านไป๋ถึงมีปฏิกิริยาอย่างนี้
“ท่านไป๋มีอะไรผิดปกติอย่างนั้นหรอ?”เถ้าแก่จูถามด้วยเสียงต่ำ
“หากข่าวนี้เป็นความจริง ข้าเกรงว่ามีใครบางคนได้ค้นพบที่อยู่ของครอบครัวเฉิงแล้ว พวกเราคงช้าไปก้าวหนึ่ง!”ใบหน้าของท่านไป๋มืดลง
“ท่านหมายความว่าอย่างไร?”ท่านหลินอย่ามองไม่เห็นปัญหา
“ข้าหมายความว่ามีคนพบครอบครัวเฉิงเพราะคำบอกของผู้ช่วยที่สำนักแพทย์แล้ว!”
การแสดงออกของท่านไป๋ค่อนข้างซับซ้อนดวงตาของเขาหันไปมองเถ้าแก่จูและพูดว่า
“เนื่องจากเถ้าแก่จูได้ยินว่าหมอซูไปเยี่ยมเยียนครอบครัวเฉิง คนอื่นๆเองก็ควรที่จะได้เบาะแสตามข่าวลือนี้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงซื้อข้อมูลจากผู้ช่วยที่สำนักแพทย์ หลังจากที่หมอซูรู้ว่าผู้ช่วยของเขาได้ขายข้อมูลดังนั้นเขาจึงไล่ผู้ช่วยของเขาออกจากสำนักแพทย์”
ท่านไปได้วิเคราะห์สถานการณ์ ไม่เพียงแต่ใบหน้าของท่านหลินเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดเท่านั้นแต่ใบหน้าของเถ้าแก่จูก็ไม่ได้ดีนัก หลังจากนั้นเป็นเวลานานเถ้าแก่จูก็อ้าปากพูดว่า
“ท่านไป๋พวกเราควรทำยังไงดีในเวลานี้?”
“หมอซูไม่ยอมปริปากพูดง่ายๆแทนที่จะไปรบกวนเขาเราควรที่จะค้นหาผู้ช่วยคนนั้นที่ถูกขับไล่ออกมา ตราบใดที่เราให้เงินเขาเราจะสามารถหาที่อยู่ของครอบครัวเฉิงได้”ท่านไป๋พูดขึ้น
“วันนี้คงต้องใช้แต่วิธีนี้เท่านั้น”เถ้าแก่จูเห็นด้วย
ใบหน้าของท่านหลินเย็นชาและเสียงของเขากดต่ำ
“หากครั้งนี้ข้าไม่สามารถหาที่อยู่ครอบครัวเฉิงได้ข้าจะบีบคอของเจ้า-”