TQF:บทที่ 35 ความทะเยอทะยาน
TQF:บทที่ 35 ความทะเยอทะยาน
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ! ทุกอย่างในครอบครัวเฉิงมีพลังวิญญาณอีกทั้งยังมีบ่อน้ำแห่งจิตวิญญาณอีกด้วย?”ผู้เฒ่าหนิง ลุกขึ้นยืนทันทีและมองหน้า เกาหยาง อย่างไม่เชื่อ เกาหยาง ยังคงแสดงท่าทางเงียบครึมและพยักหน้าและพูดอย่างจริงจัง
“นายท่าน ทุกสิ่งที่ข้าพูดนั้นเป็นความจริง ข้าเห็นบ่อน้ำแห่งจิตวิญญาณ จากนั้นข้าได้ดื่มมันอีกด้วยมันเป็นน้ำแห่งจิตวิญญาณอย่างแท้จริง!”
“ไม่น่าแปลกใจเลยในเมื่อพวกเขามีบ่อน้ำแห่งจิตวิญญาณ พวกเขาจึงสามารถเลี้ยงสัตว์วิญญาณได้ สัตว์วิญญาณเหล่านั้นถูกหล่อเลี้ยงจากน้ำแห่งจิตวิญญาณอย่างสมบูรณ์!”
เกาหยาง พยักหน้าและพูดว่า
“ใช่แล้วนายท่าน ข้าได้ตรวจสอบข้อมูลจากหมู่บ้านต้นไม้แล้ว นอกจากที่ครอบครัวเฉิงที่อื่นไม่ปรากฏบ่อน้ำแห่งจิตวิญญาณ”
“อ่า...ถ้าอย่างนั้นเราควรซื้อที่ดินของครอบครัวเฉิง!”ผู้เฒ่าหนิงไม่สามารถเก็บซ่อนความโลภของตัวเองไว้ บ่อน้ำแห่งจิตวิญญาณเปรียบเสมือนทองคำ เมื่อได้ยินผู้เฒ่าหนิงพูดสิ่งนี้ออกมา เกาหยาง ขมวดคิ้วและพูดว่า
“นายท่านข้าคิดว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น ข้าได้สอบถามกับชาวบ้านและทราบว่าเมื่อหลายวันก่อนครอบครัวเฉิงได้กำหนดว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของครอบครัวเฉิง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะซื้อเพราะว่าครอบครัวเฉิงไม่น่าจะจัดการได้ง่ายๆ!”
“ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอ!”ผู้เฒ่าหนิง รู้สึกประหลาดใจ
“ใช่แล้ว มันไม่ง่ายเลย!” เกาหยางกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ข้ารู้สึกได้ว่าหัวหน้าครอบครัวเฉิงเป็นถึงระดับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ แม้ว่าผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้จะไม่ได้โดดเด่นในอาณาจักรของเราแต่เขายังคงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่น่าเกรงขามเช่นกัน”
“มันเป็นเช่นนั้น!”เมื่อได้ยินข่าวนี้ทำให้ใบหน้าของผู้เฒ่าหนิงมืดลง สิ่งต่างๆไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด ตระกูลหนิงของเขา ไม่มีผู้บ่มเพาะระดับสูงนัก หากพวกเขาสร้างความขุ่นเคืองให้กับผู้บ่มเพาะระดับผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ คงต้องเกิดการสูญเสียเป็นอย่างมากมันไม่คุ้มค่าที่เขาจะต้องเสี่ยง ยิ่งไปกว่านั้นใครจะรู้ว่ามีกองกำลังอยู่เบื้องหลังของครอบครัวเฉิงหรือไม่ บางทีเบื้องหลังของพวกเขาอาจเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งผู้เฒ่าหนิงเกิดความหวาดกลัว อย่างไรก็ตามการที่ได้ครอบครองสัตว์วิญญาณและน้ำพุแห่งจิตวิญญาณนั้นเป็นเรื่องที่เขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป
“ เกาหยาง เจ้าบอกพวกเขาว่าเราต้องการสัตว์วิญญาณของพวกเขาหรือไม่?หลังจากนั่งขบคิดสักครู่ผู้เฒ่าหนิงก็อ้าปากอีกครั้ง
เกาหยาง แสดงรอยยิ้มที่ขมขื่นในความทรงจำของเขาปรากฏรอยยิ้มที่ชาญฉลาดของแม่นางเฉิง และพูดขึ้นว่า
“นายท่านข้าอยากที่จะซื้อสัตว์วิญญาณของพวกเขาแต่อย่างไรก็ตาม แม่นางเฉิงดูเหมือนไม่เต็มใจนัก ดังนั้นข้าจึงต้องกลับมารายงานต่อนายท่าน!”
“โอ้-” ผู้เฒ่าหนิงรู้สึกประหลาดใจ ทันใดนั้นตาของเขาก็เกิดประกายอย่างประหลาดและพูดขึ้นว่า
“เด็กผู้หญิงของครอบครัวเฉิงนั้นมีอายุเท่าไหร่?”
“เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ควรมีอายุประมาณ 15-16 ปี แม้ว่าเธอไม่ได้งดงามมากนัก แต่เธอยังคงแสดงออกถึงความสง่างามและสูงสุด สิ่งที่หาได้ยากก็คือเธอค่อนข้างมีความคิดไม่เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไป”
ดวงตาของ เกาหยาง แสดงออกถึงความชื่นชมจากหัวใจ เขารู้สึกดีกับเด็กผู้หญิงที่เฉลียวฉลาดคนนี้
“นายท่านครอบครัวเฉิงไม่ใช่เพียงพ่อและแม่ของเธอจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจเธอเองก็มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเช่นกัน เธอเป็นคนขัดขวางไม่ให้ข้าทำสัญญาซื้อขายสัตว์วิญญาณ”
“ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะไม่ใช่คนที่จัดการง่าย!”ใบหน้าของผู้เฒ่าหนิงยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย
“เกาหยาง เจ้าคิดยังไงกับลูกชายของข้า”
“นายน้อย” เกาหยาง ตกตะลึงและไม่เข้าใจความหมายของเจ้านายของเขา
อย่างไรก็ตามเมื่อ เกาหยาง เห็นผู้เฒ่าหนิงลูบเคราของตัวเองแล้วเกิดรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าดูเหมือนว่าเขาจะคิดบางอย่างออก
“นายท่าน ข้าเกรงว่านายน้อยจะไม่ยินยอม!”
“เจ้าไม่ได้พูดก่อนหน้านี้หรอว่า เฉิงเสี่ยวเสี่ยว นั้นดูดีนอกจากนี้ตราบใดที่ ซงเอ๋อ กับ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เกี่ยวข้องกัน ข้าไม่เชื่อว่าครอบครัวของเขาจะยังปฏิบัติต่อเราอย่างเลวร้าย จากนั้นเราจะสามารถใช้น้ำพุจิตวิญญาณของพวกเขาและพวกเขาจะยอมขายสัตว์วิญญาณให้กับพวกเราอีกด้วย!”
“สิ่งที่นายท่านต้องการจะพูดคือ!” เกาหยาง เข้าใจในทันทีว่าเจ้านายของเขาต้องการอะไร ถ้าตระกูลหนิงสามารถมีของเหล่านั้นได้ ในเวลานั้นคงไม่ใช่เรื่องยากที่ตระกูลหนิงจะกลายเป็นตระกูลชั้น 1 ในเขตชิงอัน
“นายท่าน นายน้อยนั้นไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเป็นเวลา 3 ปีแล้ว เราควรที่จะเรียกตัวเขากลับมา”
“เนื่องจากตัดสินใจแล้วเขาก็ควรที่จะถูกเรียกกลับมา เด็กคนนั้นถ้าไม่รู้ว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ใน สำนักรูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ เจ้าจงส่งคนไปแจ้งให้เขากลับมาภายใน 2-3 วันนี้นี้”
“ครับ! นายท่าน”
ผู้เฒ่าหนิงและคนรับใช้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
ในขณะที่ครอบครัวเฉิงมีเพียง 3 คนที่นั่งกันอยู่ในลานบ้านส่วนเด็กคนอื่นถูกไล่ไปยังป่าไผ่เพื่อบ่มเพาะ
เฉิงไป๋หยวน มองไปที่ลูกสาวของเขาและถอนหายใจยาว
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้ามีแผนการอะไรบ้าง?”เขาเริ่มกังวลมากขึ้นจึงถามความคิดของลูกสาวคนโต
“ท่านพ่อไม่ต้องกังวลไป ข้ามั่นใจว่าคนของตระกูลหนิงจะไม่เข้ามาวุ่นวายกับเราในตอนนี้!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พูดด้วยใบหน้าเฉยชาและพูดต่อ
“ท่านพ่อถ้ข้าอยากรู้ว่าครอบครัวของเราจะขายอาหารและสัตว์เหล่านี้ในนามร้านของตัวเองหรือจะส่งขายให้กับคนอื่นหรือไม่ หรือว่าไม่ได้วางแผนที่จะขายพวกมัน?”
“ไม่ขายอย่างนั้นหรอ?” เฉิงไป๋หยวน ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ตระกูลหนิงรู้สถานการณ์ในครอบครัวของเราแล้วหากเจ้าไม่ต้องการที่จะขายมันย่อมเป็นไปไม่ได้ และถ้าหากเราขายเองออกเป็นจำนวนมากมันยิ่งกระตุ้นความสนใจของผู้อื่นมากยิ่งขึ้น ในความคิดของพ่อเราควรค่อยๆก้าวไปทีละขั้น”
“ท่านพ่อท่านกำลังห่วงเรื่องอะไร” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว มองเห็นบางอย่างในสายตาของพ่อเธอ
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้ายังไม่เข้าใจในความโลภ!” เฉิงไป๋หยวน ส่ายหัวและกระซิบเบาๆว่า
“ถ้าครอบครัวของเราไม่แข็งแกร่งพอ ข้าเชื่อว่า สิ่งของที่เคยเป็นของเราจะกลายเป็นของผู้อื่นในไม่ช้า”
“พ่อ ท่านกำลังหมายถึงพวกเขาจะยึดบ้านของเราด้วยวิธีการบางอย่างใช่หรือไม่?”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว นึกถึงประโยคหนึ่งในใจของเธอ ความแข็งแกร่งนั้นย่อมเป็นที่เคารพ หากพวกเขาไม่มีพลังและอำนาจมันเป็นไปไม่ได้ที่จะครอบครองทรัพยากรเหล่านี้
ทันใดนั้น เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ก็นึกถึงบางอย่างจากนั้นปรากฏรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเธอและพูดว่า
“ท่านพ่อลืมไปหรือเปล่า พวกเราไม่ใช่ก้อนเค้กที่พวกเขาจะกัดกินได้ง่ายๆ พวกเขากล้าที่จะทำอย่างนั้นสุนัข 2 ตัวของเรา ไม่ใช่สัตว์ธรรมดา!”
สุนัขที่ซื้อออกมาจากมิตินั้นเป็นสัตว์วิญญาณเช่นกัน คนทั่วไปไม่สามารถรับมือกับสุนัขพวกนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีสัตว์วิญญาณ 7 - 8 ตัวในพื้นที่มิติ เรียกได้ว่าครอบครัวเฉิงในวันนี้มีความสามารถพอที่จะป้องกันตัวเอง
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว เฉิงไป๋หยวน ก็นึกถึงประเด็นนี้ ความกังวลของเขาค่อยๆหายไปเขากลับมาแสดงความมั่นใจอีกครั้งอย่างกล้าหาญ
“เสี่ยวเสี่ยว เนื่องจากคนอื่นรู้ว่าพวกเรามีสัตว์เหล่านี้ในบ้านมันเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนพวกมันอีกต่อไป ดังนั้นเราควรที่จะขยายทุ่งนาและขายพวกมันเป็นปริมาณมาก และดูว่าใครกล้าที่จะดูถูกครอบครัวของเราในอนาคต!”
เมื่อมองเห็นพ่อที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ไม่คาดคิดว่าพ่อของเธอจะเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน เธอจึงพยักหน้าและพูดว่า
“ตกลง ดูซิว่าสัตว์วิญญาณของเราจะทำให้เกิดปรากฏการณ์มากแค่ไหน!”
“ดูพวกเจ้าพ่อลูกสิ!”ใบหน้าของนางเฉิงไม่มีความสุขนักเธอมีความกังวลมากยิ่งขึ้น