Money Monster Episode XXII Episode XXII
Money Monster
Episode XXII
[ผู้มาเยือนที่ไม่คาดฝัน]
นับตั้งแต่วันนั้นพวกเซลิเป้ก็ไม๋โผล่หน้ามาหาเรื่องไลท์อีกเลย เขาได้แต่จินตนาการไปเรื่อยเปื่อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น อีกฝ่ายจะจับผองเพื่อนมาเซ็นสัญญาแห่งความมืดหรือมิตรภาพแตกร้าวจนสมานไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สอง แต่ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรเขาก็ไม่ได้สนใจผลได้เสียอะไร แม้ว่าเขาจะเป็นคนทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดก็ตาม
บางทีการที่เซลิเป้มาหาเรื่องไลท์เป็นคนแรกอาจเป็นเรื่องที่พลาดมหันต์ก็ได้ หมอนั่นอาจจะชนะใครสักคนและสร้างความเชื่อมั่นในเพื่อนๆ มากกว่านี้ หรืออาจแพ้จบด้วยการลงเอยเหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็ได้ ทว่า..คิดไปก็เปล่าประโยชน์เพราะตอนนี้ไลท์มีสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเร่งด่วนยิ่งกว่า!
“คำถาม ในกรณีที่เงินในบัญชีของเราหมดและต้องยืมเงินจากโบรกเกอร์คนอื่น บัญชีของโบรกเกอร์มีวงเงินสำหรับโอนได้สูงสุดจำนวนกี่เหรียญ” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นผ่านหูฟังที่เสียบต่อกับโทรศัพท์มือถือ ชายหนุ่มข่มตาหลับเคาะนิ้วใช้ความคิดก่อนจะตอบกลับไปว่า
“แล้วแต่ระดับของบัญชี ยิ่งบัญชีของโบรกเกอร์ระดับสูงเท่าไหร่วงเงินที่ใช้ได้ก็ยิ่งสูงตามเท่านั้น มีระดับบลอนด์ ซิลเวอร์ โกลด์ ไดมอนด์ วงเงินต่ำสุด1ล้านถึง100ล้านเหรียญ”
“ผ่าน คำถามต่อไป จากข้อข้างต้นหากวงเงินถึงขีดจำกัดแต่เงินในบัญชีของเราหมดเกลี้ยง มีวิธีใดบ้างที่จะให้โบรกเกอร์คนอื่นโอนเงินมาให้เราได้”
“เข้าใช้ระบบ[แลกเปลี่ยน] แบ่งหุ้นของมอนสเตอร์หรือการ์ดใบใดใบหนึ่งเสนอขายให้โบรกเกอร์คนอื่น แต่นั่นจะทำให้โบรกเกอร์ที่ถือหุ้นนอกจากเรามีสิทธิสั่งการการ์ดใบนั้นร่วมด้วยกับเราเช่นกัน”
“ผ่าน คำถามสุดท้าย ในกรณีที่มีเราคนเดียวที่อยู่ในสภาพพร้อมรบแต่คนอื่นกำลังบาดเจ็บ หากเราอยากจะแข็งแกร่งขึ้นและทำให้คนที่เหลือมีรายได้ ควรทำอย่างไร”
“เปิดใช้งานระบบ[ตลาดหลักทรัพย์ระยะสั้น] ให้คนอื่นมาลงทุนระยะสั้นกับเราแลกกับการที่เราได้รับเงินสนับสนุนและพรพิเศษเพิ่มมากขึ้น แต่หากกำจัดกรีดได้ส่วนแบ่งของเงินปันผลจะแปรพันตามจำนวนหุ้นที่แบ่งสันกัน..”
“ผ่านทุกข้อ เต็ม30คะแนน”
“เยี่ยม!!!” เมื่อได้ยินคะแนนจากปากของหญิงสาวไลท์ไม่สามารถอดกลั้นความยินดีได้ กระโดดขึ้นสูงพร้อมชูแขนขึ้นราวกับกำลังประกาศชัยชนะ
“ในที่สุด! ความพยายามของฉันก็ไม่สูญเปล่า” ไลท์เอ่ยพลางน้ำตาไหลแต่ก็มีเสียงหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“เก็บคำพูดนั้นไว้หลังสอบเสร็จก่อนเถอะ” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าชายหนุ่มหุบลง
“อย่าประมาทสิ อย่าลืมที่ฉันบอก อะไรมันก็เกิดขึ้นได้”
“ครับๆ ขอบพระคุณที่เตือนอย่างสูงครับนายหญิง”
“อย่าใช้น้ำเสียงประชดประชันกับฉัน”
“ไม่ได้ประชดนะ! นั่นคำพูดจากใจเลยล่ะ”
“.....”
“จริงจัง!”
“....”
“ไม่เอาน่า! อย่างอนสิครับโถ่ ถ้าท่านเมซูลผู้ฉลาดปราดเปรื่องและสง่างามงอนผมก็แย่สิ มันง้อลำบากนะ! เครื่องเซ่นแพงซะด้วย”
“ฉันไม่ได้งอน ก็แค่กำลังเหนื่อยนิดหน่อย”
“ขออภัยครับ” ไลท์ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะกล่าวกับหญิงสาวแล้วจึงโน้มตัวนอนลงบนเตียง จากนั้นทั้งคู่ก็เปลี่ยนมาสนทนาเรื่องสัพเพเหระซะแทน
นับจากวันที่ไลท์กลายเป็นโบรกเกอร์คนที่อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนของเขามาตลอดก็คือเมซูล โบรกเกอร์รุ่นพี่ที่ตามอารักขาตั้งแต่สมัยเขายังเป็นเพียงชิพเตอร์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการสอน เรียบเรียงข้อมูลให้ฟัง วางแผนรับมือ แนะนำความรู้ที่จำเป็นต่างๆ ให้ฟัง เรียกว่าหากไม่มีเมซูลไลท์คงทำอะไรลำบากมากยิ่งขึ้นเป็นสิบเท่า
ความสัมพันธ์ที่ตอนแรกค่อนข้างห่างเหินก็เข้าใกล้กันมากขึ้น ตอนนึ้จึงเรียกว่า[เพื่อน]กันได้อย่างเต็มปากแล้ว ตอนอยู่มหาลัยก็คุยกันปกติจนพวกผู้ชายคนอื่นพากันอิจฉาตาร้อนกับเป็นแถบๆ แต่ทั้งคู่ก็หาได้สนใจไม่
และเวลานี้เหลือเวลาเพียงหนึ่งวันก่อนการสอบทฤษฏีจะเริ่มต้นขึ้นเมซูลเลยใช้เวลาหลังจากล่ากรีดสำเร็จมาติวไลท์ จึงเป็นภาพอย่างที่เห็นเมื่อสักครู่นี้
“เมซูล พวกองค์กรมหาอำนาจน่าอยู่มากไหม” ไลท์เอ่ยคำถามนี้ออกไป เมซูลรับรู้เจตนาของเขาผ่านคำพูดนี้ได้ไม่ยากจึงตอบไปตามความเป็นจริง
“อภิสิทธิ์เป็นลำดับต้นๆ ของMoney Monster แต่การแข่งขันภายในสูง มีแววว่าจะกลายเป็นแรงงานทาสมากกว่า”
“ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียสินะ..”
“อืม นายเองก็นอนได้แล้ว วันพรุ่งนี้ต้องเจอศึกหนักอีก ฉันเองก็ต้องออกล่าเหมือนกัน” เมซูลเอ่ยก่อนที่สายจะถูกตัดออกไป ไลท์หาวออกมาหนึ่งวอดแล้วเดินไปกระดกน้ำดื่มสักแก้วจึงกลับมานอนบนเตียงอีกครั้ง ปล่อยให้เวลาไหลผ่านจนกระทั่งสติเลืองลางและหลบลงไปในที่สุด
ในวันรุ่งขึ้นไลท์อาบน้ำแต่งตัวและออกจากบ้านในทันทีตั้งแต่ยังสาย ปกติเขาจะไปที่วอลสตรีทช่วงสี่โมงเย็นแต่วันนี้เขาต้องไปก่อนเวลาหลายชั่วโมง พอถึงจุดนัดหมายก็พบว่าเพื่อนๆ ทุกคนมายืนรอเขาอยู่ก่อนหน้าแล้ว
แจ๊สเปอร์หน้าซีดแถมขอบตาคล้ำเป็นสีดำคล้ายคนไม่หลับไม่นอนมาหลายวัน ลูน่าดูซึมๆ แต่อาการไม่หนักเท่าแจ๊สเปอร์ ส่วนครอสซ์ยืนเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์สบายใจเฉิบดูไม่ทุกไม่ร้อนอะไรเหมือนชาวบ้านเขาเลย จนอยากตะโกนไปตรงๆ ว่า ‘แกเคยซีเรียสกับอะไรเขาบ้างไหม’
“เป็นยังไงบ้าง” ไลท์เดินเข้าไปแล้วกล่าวทักทายกับทั้งสามคน
“กังวล..จนรู้สึกโลกมันหมุนไปหมด” แจ๊สเปอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไมได้ยินพร้อมทำทีท่าพร้อมจะล้มเฝ้าใบไม้บนถนนอยู่รอมร่อแล้ว ถ้าว่ากันในนี้แล้วคนที่เครียดที่สุดก็น่าจะเป็นหนุ่มผมเทาคนนี้ เพราะเขาน่าจะเป็นไม่กี่คนที่ยังไม่มีคะแนนเลยแม้แต่แต้มเดียว
“แจ๊สเปอร์ไปนอนพักสักสามสิบนาทีเถอะ ลูน่าล่ะเป็นยังไง”
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแล้วค่ะ!” เด็กสาวชูนิ้วโป้งให้ด้วยรอยยิ้มที่สดใสร่าเริง แต่กลับไร้ซึ่งรัศมีเปล่งประกายอย่างเคย บ่งบอกว่าภายในนั้นมืดมนไม่เหมือนกับที่แสดงออกมาเลยสักนิด ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มเจื่อนให้ก่อนจะหันไปมองครอสซ์
“หืม? ทุกคนกำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอ ฉันขอร่วมด้วยได้ไหม” ครอสซ์ผู้ไม่รู้สี่รู้แปดอะไรหันมาสนใจการสนทนาของพวกเขา
“ไม่ล่ะ ไม่มีอะไร”
“งั้นเหรอ!?” ครอสซ์พยักหน้าหนึ่งทีก่อนจะกลับไปสนใจแฮมเบอร์เกอร์และโคล่าต่อ ไลท์พาแจ๊สเปอร์ไปนอนที่ไม้หินอ่อนที่ประจำเพื่อจะให้อีกฝ่ายได้พักผ่อนก่อนเข้าห้องสอบ มิเช่นนั้นคงไม่มีสมาธิอ่านโจทย์กันพอดี
“ลูน่านอนมาพอไหม”
“ค่ะ..ถึงจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะกังวลก็เถอะ”
“งั้นมาทบทวนหลักสูตรกันก่อน ทบทวนหลักสูตรก่อนเข้าสอบจะช่วยให้ทำข้อสอบง่ายขึ้น” พูดจบแล้วไลท์ก็หยิบเอาแผ่นเอกสารมากมายมาวางบนโต๊ะ
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ไลท์จึงปลุกแจ๊สเปอร์ก่อนจะพากันไปรอยังสถานที่สอบ การสอบเป็นข้อเขียนหกสิบข้อ ข้อละ0.5คะแนน รวมเป็น30คะแนนเต็ม เวลาสอบทั้งสิ้นสองชั่วโมงถ้วนพร้อมกันในสถานที่ที่พวกมาสเตอร์อินเวสเตอร์จัดไว้ให้
ไลท์และคนอื่นๆ เข้าสอบพร้อมกันเมื่อได้รับสัญญาณประกาศพร้อมกับพลิกแผ่นกระดาษสีขาวที่ซึ่งเป็นข้อสอบอัตนัยล้วน เหล่าโบรกเกอร์ใช้สมาธิทุ่มเทให้กับการเขียนคำตอบอย่างเต็มที่ และได้พักทุกๆ สามสิบนาทีจนกระทั่งเวลาหมดลง
ทุกคนเดินออกจากห้องสอบด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกัน บางคนมีความมั่นใจสูงมากว่าจะทำคะแนนได้ดี แต่บางคนก็ใจฝ่อจนหมดสภาพถึงขั้นปลงตกไปแล้วก็มีเช่นกัน ส่วนไลท์นั้นพกความมั่นใจอยู่เต็มกระเป๋าเลยฉีกยิ้มเดินมาสมทบกับพวกแจ๊สเปอร์ที่จุดนัดหมาย
“แหง่! ไม่ไหวค่า” ลูน่าทำท่าจะร้องไห้เอาหน้าซุกกระเป๋าด้วยความสิ้นหวัง
“ก็มั่นใจอยู่หรอก แต่จะได้กี่คะแนนกันนะ..” แจ๊สเปอร์ที่สภาพโทรมไม่ต่างจากศพเดินได้เอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้เรี่ยวแรงคล้ายกับใกล้ตายก็มิปาง ดูเหมือนการนอนแค่ครึ่งชั่วโมงจะไม่ได้ช่วยให้อาการของเขาดีขึ้นมากมาย
“หาว- หลับสบายดีจริงๆ” ครอสซ์เหยียดแขนขึ้นด้านบนก่อนจะพลันทำท่าบิดขี้เกียจราวคนเพิ่งตื่นนอน
“ครอสซ์..นี่นายหลับคาห้องสอบจริงๆ งั้นเหรอ” ไลท์ขมวดคิ้วถามเพื่อยืนยัน
“ใช่!”
“....”
“มีอะไรเหรอ?”
“เปล่า..แค่กำลังคิดว่ามีมนุษย์ที่ไม่แยแสกับการสอบอยู่จริงๆ ด้วยสินะ” ไลท์ยิ้มฝืนๆ ให้ครอสซ์ก่อนที่จะหันมามองอีกสองคนที่เหลือ
“อีกหนึ่งชั่วโมงผลสอบจะส่งมาในอีเมล ระหว่างนี้พักให้สบายเถอะ” ไลท์เอ่ยกับแจ๊สเปอร์กับลูน่า
“มันสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลยค่ะ”
“ฉันด้วย..จริงๆ ก็พยายามสุดชีวิตแล้วและคิดว่าถูกไม่น้อยด้วย แต่เพราะกำลังง่วงอยู่ตอนนี้เลยจำไม่ได้แล้วว่าเขียนอะไรลงไปบ้าง ถ้าฉันเบลอจนเขียนผิดขึ้นมาล่ะ...คะแนนฉันจะหายไปเลยนะ! ยิ่งน้อยอยู่แล้วก็จะยิ่งน้อยเข้าไปอีก แบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก!”
“คุณไลท์ล่ะทำได้ไหมคะ?” ลูน่าเอ่ยถาม แต่แทนที่อีกฝ่ายจะยักไหล่ตอบอย่างสบายๆ ว่าทำได้ ไลท์กลับทำสีหน้าหม่นหมองลงทันตา
“ข้อสอบบางข้อมันไม่ตรงกับที่อ่าน”
“นั่นสินะคะ” ลูน่ายิ้มแหย
ทั้งสี่คนนั่งลอยชายอยู่บนม้านั่งหินอ่อนไปหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ทันทีที่ข้อความเข้าทุกคนก็ตื่นตัวอย่างสุดขีด กดเปิดข้อความดูในมือถือก่อนที่ผลคะแนนจะออกมา
แจ๊สเปอร์121 30คะแนน
ไลท์005 26.5คะแนน
ลูน่า003 11.5คะแนน
ครอสซ์141 0คะแนน
“เยี่ยม!” ฉับพลันที่เห็นประกาสผลคะแนนคนที่โพล่งเสียงดังใจก่อนใครอื่นคือแจ๊สเปอร์ ชายหนุ่มผมเทาที่สภาพไม่ต่างจากซอมบี้บัดนี้ราวกับถูกคืนชีพด้วยแสงแห่งชีวิต กระโดดขึ้นม้านั่งด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น
“ในที่สุด! ในที่สุดฉันก็ได้คะแนนแล้ว แถมเต็มด้วย”
“อืม..นึกว่าจะแย่กว่านี้ซะอีก” ไลท์พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยคะแนนก็อยู่ในเกณฑ์ดีมาก
“ฮือ..คะแนนต่ำมากเลยค่ะ” ลูน่าถึงกับร่ำไห้ แม้ว่าความเป็นจริงคะแนนของเธอจะสูงกว่าครอสซ์ที่มีเพียง0คะแนน แต่ก็ปฏิเสธไมได้ว่าต่ำกว่าครึ่งหนึ่งก็นับว่าใช้ไมได้แล้ว บวกกับคะแนนจากห้องจำลองการต่อสู้ แจ๊สเปอร์ที่อยู่รั้งท้ายมาตลอดยังแซงเธอไปหลักสิบคะแนนเป็นอย่างต่ำ
“คุณแจ๊สเปอร์ขี้โกงค่ะ!”
“อา..ความพยายามที่โต้งรุ่งมาหลายวันไม่สูญเปล่า ที่เหลือแค่สอบอบรมให้ได้อีกสักสิบคะแนน! อย่างน้อยก็ได้การ์ดแรร์ติดไม้ติดมืออกไปผจญโลกบ้างล่ะ”
“คุณแจ๊สเปอร์ได้ฟังฉันอยู่รึเปล่าคะ” ลูน่าทำแก้มป่องไม่พอใจก่อนจะเข้าไปเขย่าแขนของชายหนุ่มผมสีเทา
“ฟังอยู่ๆ ฮะๆๆ โทษที ฉันขอดื่มด่ำกับความอิ่มเอมครั้งนี้ก่อนนะ”
“โถ่!”
“นี่” ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังสนใจกับผลลัพธ์ของคะแนนทฤษฏีอย่างใจจดใจจ่อ ครอสซ์ผู้ที่ไม่ได้สนใจอะไรมาโดยตลอดเอ่ยปากขึ้นทำให้ทุกคนสนใจเขาในทันที
“มันมีเมลอีกฉบับด้วยล่ะ ดูสิ ที่เขียนว่า[รายละเอียดการสอบอบรม]น่ะ”
“ว่าไงนะ!” เมื่อได้ยินสิ่งที่ครอสซ์เอ่ยทั้งไลท์และแจ๊สเปอร์ก็ตื่นตัวจนถึงขีดสุด พวกเขารีบเปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อตรวจเช็ดอีเมลในกล่องฝากข้อความจนกระทั่งพบมันเข้าจริงๆ พร้อมกับไล่สายตาอ่านรายละเอียดทั้งหมดในเวลาอันสั้น
“แบบนี้เอง...เข้าใจแล้ว” แจ๊สเปอร์เอ่ยไลท์จึงพยักหน้าตามด้วย
“เป็นยังไงบ้างคะ” ลูน่าถามทั้งคู่อย่างร้อนรน
“ไลท์จะอธิบายไหม?”
“นายอธิบายเองดีกว่า”
“อืม” แจ๊สเปอร์พยักหน้ารับก่อนจะรับหน้าทีเป็นคนอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับการสอบอบรมแทน
“ในการสอบอบรมโบรกเกอร์ทุกคนจะถูกโยนไปในมิติจำลองขนาดใหญ่มหึมาพอๆ กับเกาะ โดยจะสุ่มตำแหน่งที่อยู่ พวกเราต้องกำจัดกรีดเพื่อเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุด โดยยิ่งกรีดมีเลเวลสูงมากเท่าไหร่คะแนนก็ยิ่งมากขึ้น”
“กรีดเก่งมากไหมคะ” ลูน่าเอ่ยถามด้วยความกังวล เพราะปกติแค่ตัวเดียวเธอก็ใช้เวลาเกือบทั้งวันแล้ว แต่คราวนี้เป็นการสู่เพื่อเก็บคะแนน หมายความว่าจะต้องสู้กับกรีดหลายตัวอย่างแน่นอน
“ในนี้ระบุว่าเป็นชนิดเดียวกันกับที่อยู่ในห้องจำลอง ไม่ใช่กรีดของแท้หรอก เป็นของเทียมที่ถูกสร้างขึ้น”
“เจ้าตัวสีขาวสินะ ดีล่ะ! ฉันจะเป่าหน้ามันให้กระจุนด้วยหมัดเหล็กคุณธรรมของฉันเลย!” ครอสซ์ชูกำปั้นขึ้นฟ้าด้วยรอยยิ้มตื่นเต้น
“อืม แต่ครั้งนี้จะแตกต่างจากครั้งก่อนตรงที่ว่า มาสเตอร์อินเวสเตอร์จะให้เงินเรามาห้าแสนเหรียญ”
“ห้าแสนเหรียญ!!” ทั้งสองคนส่งเสียงดังออกมาพร้อมกันอย่างตกตะลึง ตัวเลขนี้แม้พวกตนจะได้มาแล้วจากการพนันไลท์ตอนสู้กับเซลิเป้ แต่ก็นับว่าเยอะอยู่ดี
“อย่าเพิ่งตกใจไป ห้าแสนเหรียญนี้เอาไว้ใช้เฉพาะตอนสอบเท่านั้น”
“อ้อ”
“อีกอย่างคือเขาจะนับคะแนนจากการใช้เงินของเราด้วย เกณฑ์การให้คะแนนคือ 30คะแนนจากการล่ากรีด 10คะแนนจากการใช้เงินของเรา ว่าเราจะทำยังไงให้ฆ่ากรีดให้ได้มากที่สุดแต่ใช้เงินได้ประหยัดที่สุด”
“แบบนี้เอง..เข้าใจแล้วค่ะ” ลูน่าพยักหน้าระรัว
“ที่ต้องทำก็คือซัดมันให้มากที่สุด ก็พอแล้วสินะ!” ครอสซ์กอดอกกล่าวด้วยท่าทีมั่นอกมั่นใจ
“การสอบอบรมจะเริ่มขึ้นสัปดาห์หน้า มีเวลาเตรียมตัวอยู่พอสมควร ก็น่าจะประมาณนี้ล่ะมั้ง” เมื่ออธิบายข้อมูลจนหมดแจ๊สเปอร์ก็เก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอกลับก่อนนะ” ไลท์เอ่ยพร้อมลุกขึ้น
“จะรีบกลับแล้วเหรอ”
“ใช่ วันนี้สมองล้าแล้วแถมรู้สึกไม่ค่อยดียังไงก็ไม่รู้” ไลท์พยักหน้า
‘เพราะยังวางใจเซลิเป้ไม่ได้ล่ะนะ’
เพราะจู่ๆ ข่าวคราวก็หายไปทำให้ยังรู้สึกไม่สบายใจ เพราะอีกฝ่ายลั่นคำพูดไว้แล้วว่าจะขัดขวางเขาจนถึงที่สุด ยิ่งพอได้อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบอบรมแล้วก็ยิ่งทำให้กังวลเข้าไปใหญ่ ว่าหากอีกฝ่ายแค้นใจจนไม่สนใจการสอบแล้วยกพวกมาเล่นงานตนล่ะ
นั่นคืองานเข้าของจริง
“อา ถ้าไม่สบายก็กลับบ้านเถอะ”
“อืม เจอกัน” ไลท์โบกมือลาก่อนจะแยกออกไปขึ้นแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้ากลับไปที่บ้านในทันที ทว่า..
ไลท์กลับมาที่บ้านและเปิดประตูเข้าไปในห้องของเขา แต่ท่ามกลางความมืดมิดนั้นมีร่างของใครบางคนกำลังยืนอยู่ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความกดดันและพิศวงเข้าจู่โจมเขาอย่างไม่คาดคิด ทันทีที่สายตาของร่างเงาปริศนานั้นเหลียวมาสบตาเข้า ก็มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาในหัวพร้อมกับรอยยิ้มของใครคนหนึ่ง
ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ไลท์ ลินสตอร์ม
เปรี้ยง!
เสียงสายฟ้าดังโครมมาจากข้างนอก แสงสว่างลอดเข้ามาผ่านกระจกหน้าต่างส่งผลให้ในห้องอันมืดมิดปรากฏร่างที่แท้จริงของคนปริศนา นั่นทำให้เหงื่อบนใบหน้าของชายหนุ่มไหลลงมามากกว่าเดิม เพราะคนที่มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขาก็คือ..
มาม่อน พระเจ้าแห่งความโลกนั่นเอง