ตอนที่แล้วDC บทที่ 20: ดอกหยางพิสุทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDC บทที่ 22: ตัดสินเป็นตาย

DC บทที่ 21: เจ้ายังเป็นชายอยู่รึ


หลังจากผู้อาวุโสหลานจากไป ซูหยางก็กลับเข้าไปในห้องเพื่อฝึกปราณ อย่างไรก็ตามไม่ทันไรก็มีกลุ่มคนมายังบ้านเขาด้วยท่าทางโกรธแค้น เหมือนจะมาหาเรื่อง

“ซูหยาง ย้ายก้นออกมาที่นี่เดี๋ยวนี้ หลายวันนี้เจ้าเอาแต่หดหัวอยู่แต่ในบ้านเหมือนเต่าในกระดองให้บรรดาผู้หญิงปกป้อง ตอนนี้เจ้าสะดุดขาตนเอง จักมีใครคอยห้ามพวกเราได้อีก”

“ซูหยาง ข้าต้องฆ่าเจ้าเพราะเจ้าแตะเด็กข้า”

ตั้งแต่ซูหยางเปิดร้านนวด เขาพบเจอหญิงสาวกว่าห้าร้อยคน หญิงสาวแทบทั้งหมดล้วนมีคู่ฝึกอยู่ในนิกาย แม้ว่าซูหยางไม่ได้แตะต้องพวกเธออย่างหยาบโลน แต่กิริยาท่าทางของพวกเธอหลังจากนั้นทำให้เกิดข้อสงสัยในใจคู่ฝึกของพวกเธอ

แม้ว่าบรรดาหญิงสาวจะยืนยันหลายครั้งว่าพวกเธอเพียงรับการนวดธรรมดา แต่ใครจะเชื่อว่าแค่การนวดธรรมดาจะทำให้พวกเธอมีท่าทางเหมือนสุนัขติดสัด

หลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออก และซูหยางก็เดินออกมาอย่างเยือกเย็นไร้อารมณ์

เขากราดมองชายนับสิบข้างหน้าเขาราวกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่โกรธจัด เขาพูดว่า “ข้าขออภัยที่ต้องบอกว่าข้ามินวดผู้ชาย”

คำพูดที่ออกมายิ่งเพิ่มความโกรธแค้นแก่ฝูงชน “เชี่ย ใครบอกว่าพวกเรามาที่นี่เพื่อรับบริการวะ ทำไมเจ้ากล้าแตะเด็กข้า เพราะว่าเจ้า เธอถึงกับปฏิเสธมิยอมฝึกคู่ร่วมกับข้าจนป่านนี้”

“ซูหยาง เจ้าทำอะไรกับเซี่ยเอ๋อร์ของข้า หลังจากเจอเจ้า เธอกล้าพูดว่าข้าทำได้ มิถึงใจ”

ได้ยินเสียงก่นด่าของฝูงชน ซูหยางถึงกับหัวเราะหึ

“ที่พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อกล่าวโทษชายอื่นที่ทำให้เจ้าไร้สามารถจักทำให้หญิงของเจ้าพอใจ เจ้ายังเป็นชายอยู่รึ น่าหัวร่อ”

“เจ้าพูดว่าอะไร”

“เจ้ารนหาที่ตาย ซูหยาง”

ซูหยางยักไหล่ไร้แยแสผู้โกรธแค้น แล้วพูด “เป็นเรื่องปกติสำหรับศิษย์นิกายชายที่จักฝึกร่วมกับหญิงมากมายหลายคน ในทางกลับกันทำไมพวกเจ้าต้องอารมณ์เสียเมื่อพวกเธอมีชายอื่นนอกจากเจ้า ความจริงที่ว่าเจ้ามิอาจทำให้คู่ฝึกของเจ้าพอใจนั่นหมายความว่าเจ้ามิเหมาะสมกับพวกเธออีกต่อไป มิว่าเจ้าจักมีพรสวรรค์มากเพียงไหนหรือมีปราณหยางแก่กล้าแค่ไหน ถ้าคู่ฝึกของเจ้ามิพอใจฝึกคู่กับเจ้า นั่นก็หมายความว่าเจ้ามันไร้ค่า”

คำพูดรุนแรงของซูหยางทำให้พวกเขาเจ็บใจ รู้สึกเหมือนถูกกระบี่แทงเข้าไปที่หัวใจ

แม้เป็นเรื่องปกติของบรรดาศิษย์ที่จะมีคู่ฝึกมากกว่าหนึ่งคนเพราะสะดวกและมีประสิทธิภาพมากกว่ามีเพียงคนเดียว แต่ไม่มีใครต้องการยอมรับว่าซูหยางที่ไร้สมรรถภาพและไม่เคยเป็นภัยคุกคามกับใคร จะบริการความสุขให้กับคู่ฝึกพวกเขาได้ดีกว่าตนเอง

ในนิกายที่การฝึกคู่เป็นเรื่องปกติ สูญเสียหญิงของตนให้กับชายคนอื่นเลวร้ายยิ่งกว่าตาย ยิ่งหากเป็นเพราะหญิงสาวจากไปเพราะว่าชายอื่นสามารถสร้างความพึงใจให้กับเธอได้ดีกว่า นอกจากนี้การยอมแพ้ยิ่งหมายถึงว่าตนเองทำได้ด้อยกว่าชายอื่น นั่นเป็นฝันร้ายที่สุดของชายคนหนึ่ง

“ซูหยาง ข้าต้องการตัดสินเป็นตายกับเจ้า”

“ข้าเช่นกัน”

ผู้คนยิ่งพากันโกรธแค้นด้วยจำนนต่อคำพูด ดังนั้นพวกเขาเริ่มพูดถึงการต่อสู้เป็นตาย เป็นสิ่งเดียวที่พวกเขาคิดว่าจะช่วยลดความอัปยศอดสูที่ต้องเผชิญในวันนี้

“หืม นอกจากแรงดิบเถื่อนแล้ว อะไรที่ทำให้พวกเจ้ามั่นใจว่าพวกเจ้าเหนือกว่าเมื่อเผชิญหน้ากับข้า” ซูหยางแค่นเสียงเย็นชาและกล่าวต่อว่า “พวกเด็กที่มิอาจกระทั่งทำให้หญิงของตนพึงใจได้กล้ามาเหยียบหน้าบ้านข้าแล้วเห่าหอนเช่นสุนัข ช่างโง่เง่านัก”

เมื่อเผชิญหน้ากับบรรดาหญิงสาว ซูหยางทำตัวเหมือนเจ้าชายแสนดีโดยไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร อย่างไรก็ตามเมื่อเขาต้องต่อกรกับบรรดาชายหนุ่ม โดยเฉพาะพวกที่สร้างความรำคาญ ซูหยางจะกลายเป็นปีศาจและทำลายความมั่นใจในความเป็นชายของพวกเขาและกดดันจนอีกฝ่ายยอมคุกเข่า

แม้ในชีวิตก่อน ซูหยางก็เป็นหายนะของชายทุกคน ตัวตนที่กดดันให้เหล่าชายต้องเผชิญกับความกระวนกระวายด้วยกลัวว่าซูหยางจะฉวยหญิงของตนเองไปเพียงแค่ชำเลืองตา

“เจ้ากล้าสู้ข้าหรือไม่ เจ้ายังเป็นชายอยู่รึไม่”

“ถ้าฝีมือเจ้าใช้การมิได้ในสนามรบ เจ้าก็เป็นเพียงคนไร้ค่า”

ซูหยางยิ้มให้กับคำพูดของพวกเขาและกล่าวว่า “100 แต้มรางวัล แล้วข้าจักยอมขึ้นเวทีตัดสินเป็นตาย”

“อะไร เจ้าต้องการให้พวกเราจ่ายเงินเพื่อต่อสู้”

“ช่างหน้าด้านนัก”

ซูหยางยักไหล่ “ข้าเป็นนักธุรกิจ ถ้าพวกเจ้าต้องการทำให้ข้าเสียเวลา เจ้าจำเป็นต้องจ่ายเช่นเดียวกับที่คู่ฝึกของเจ้าทำเมื่อพวกเธอเข้าหาข้าเพื่อหาความสุขแทนที่จักเป็นพวกเจ้า...” เขาฉีกยิ้มพูด ทำให้บรรดาผู้คนต่างระเบิดด้วยความโกรธ

“ซูหยาง เชี่ย ข้าต้องฆ่าเจ้าวันนี้ 100 แต้มรางวัลใช่หรือไม่ ตัดสินเป็นตายกับข้าเดี๋ยวนี้เลย”

“เชี่ย ข้าจ่าย 150 แต้มรางวัลให้เจ้าสู้กับข้าก่อน”

“200”

ซูหยางรับข้อเสนอสูงสุดที่ 250 แต้มรางวัลด้วยรอยยิ้มและผงกศีรษะ “เยี่ยมมาก งั้นพวกเราไปแสดงความจำนงต่อนิกายและจัดตารางนัดหมาย..”

“ตอนนี้ ข้าต้องการสู้ตอนนี้”

ซูหยางส่ายศีรษะและพูดว่า “ข้าได้รับคำตักเตือนจากผู้อาวุโสนิกายมาครั้งหนึ่งแล้ว ก่อนที่พวกเราจักขึ้นไปบนเวที พวกเราต้องได้รับอนุญาตจากนิกาย ด้วยเหตุนั้นการตัดสินเป็นตายของพวกเราจึงจำเป็นต้องรอ”

“อะไร แต่เจ้ารับเงินข้าไปแล้ว”

“สิ่งนี้กับสิ่งนั้นเป็นคนละเรื่องกัน”

“ซูหยาง”

ซูหยางเพียงแค่ยิ้มอย่างสงบต่อบรรยากาศที่โกรธเกรี้ยว เพราะว่านิกายห้ามการต่อสู้ระหว่างบรรดาศิษย์ นอกจากกำหนดอย่างเป็นทางการจากนิกาย เขาไม่กังวลที่พวกเขาจะโจมตีจากที่ใดก็ตาม และถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้นเขาก็ยังมั่นใจความสามารถของตนเอง

ด้วยประสบการณ์ที่ล้นหลามในชีวิตก่อน ซูหยางไม่โง่ที่จะล่วงเกินผู้อื่นโดยไม่มีความมั่นใจสูงสุดในชัยชนะ ด้วยความสามารถและทรัพยากรในปัจจุบันเขามั่นใจว่าสามารถอยู่ได้ปลอดภัยแม้กระทั่งศิษย์นอกทุกคนในนิกายเคาะประตูบ้านเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด