ตอนที่แล้วบทที่ 35 ศิษย์นิกายชั้นนอกขั้นที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 37 แสดงอิทธิฤทธิ์

บทที่ 36 เคล็ดวิชาเปลวเพลิงสีแดง


บทที่ 36

เคล็ดวิชาเปลวเพลิงสีแดง

หลี่ฟู่เฉินไม่อยากวุ่นวายกับคนเหล่านี้ หากพวกเขาไม่พอใจและจะกล่าวว่ามันเป็นความอยุติธรรม ก็เป็นเรื่องของพวกเขา มีเพียงคนที่ไร้ประโยชน์เท่านั้นที่ประท้วงผู้ที่มีความทะเยอทะยาน ใช้การกระทำเพื่อพิสูจน์คุณค่าของตัวเองดีกว่า

สำหรับกวนเผิ้ง หลี่ฟูเฉินไม่ต้องการแม้แต่จะเห็นหน้าเขา เขาเป็นเหมือนหลี่หยุ่นไห่ประเภทของคนที่มองตนเองสูงกว่ายอดเขา แต่เมื่อพวกเขาประสบความล้มเหลวพวกเขาก็หันไปใช้วิธีที่น่ารังเกียจ

คนอย่างพวกเขานั้นเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป เว้นแต่พวกเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมครั้งยิ่งใหญ่

ว่ากันว่าความคิดกว้างไกลของบุคคล จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในอนาคตของพวกเขา

“ข้าขอแสดงความยินดีด้วย” จือฮงซิ่วเข้ามาหาหลี่ฟู่เฉิน

หลี่ฟู่เฉินหัวเราะเบาๆ “ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไม่ได้ตัดสินอะไรมากมาย ความสำเร็จของชีวิตคือสิ่งสำคัญ”

“ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าฝึกทัศนคติในตัวเจ้าได้อย่างไรนี่ไม่ใช่สิ่งที่เด็ก ๆพูดกัน” จือฮงซิ่วมองดูหลี่ฟู่เฉินแม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกันแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ และแลกเปลี่ยนเพียงไม่กี่ประโยค แต่หลี่ฟู่เฉินก็ประทับใจในตัวนางอย่างมาก หลี่ฟู่เฉินมีบุคลิกค่อนข้างขัดแย้งมีความสุดโต่งและเต็มไปด้วยความมั่นใจในเวลาเดียวกัน

หลี่ฟู่เฉินยังคงนิ่งเฉย บางทีการอยู่ในภาวะกดดันเป็นเวลาหนึ่งปีก็เปลี่ยนบุคลิกเขาไปอย่างมาก แต่นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย ตราบใดที่เขายังรักษาความเป็นตัวของตัวเอง

***

ศิษย์งานย่อยและศิษย์นิกายชั้นนอก ถูกนำไปยังเขตของตน

เขตนิกายชั้นนอกไม่ได้อยู่บนภูเขา แต่อยู่บนที่ดินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ระหว่างยอดเขาหลายแห่ง ดินแดนแห่งนี้มีเส้นรอบวงประมาณ 7-8 ไมล์ โครงสร้างของพื้นผิวดินคล้ายกับเกล็ดปลาเป็นชั้น ๆ และขยายไปไกลที่ซึ่งตาไม่อาจมองเห็น

โถงประชุมศิษย์ชั้นนอก

“นี่คือเหรียญศิษย์นิกายชั้นนอกของพวกเจ้า ทุกคนจะมีคนละหนึ่งเหรียญและชื่อของเจ้าจะสลักอยู่ด้านหลังเหรียญ และนี้คือชุดคลุมของพวกเจ้าคนละสามชุดและดาบคนละหนึ่งเล่ม

ภายใต้คำแนะนำของผู้อาวุโส นักบวชและนักบวชฝึกหัดจำนวนหนึ่งเริ่มแจกจ่ายสิ่งของแก่ศิษย์ใหม่

เหรียญทำจากโลหะสีดำโดยมีชื่อของหลี่ฟู่เฉินสลักอยู่ด้านหลัง ศิษย์นิกายชั้นนอกสวมชุดคลุมสีน้ำเงินอ่อนที่เรียบร้อยและเรียบง่าย ส่วนดาบของศิษย์ทำจากไม้พิเศษและสามารถทนต่อแรงสักสองสามพันกิโลกรัม วัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้ซ้อมภายในนิกายดังนั้นมันจึงไม่มีพลังสังหาร

ผู้อาวุโสเสี่ยวจางเฟิงกระแอมและเริ่มพูดว่า “ตอนนี้พวกเราได้จัดแจงที่พักอาศัยให้พวกเจ้า ทุกคนจะต้องมารวมตัวกันที่นี่ในเช้าวันรุ่งขึ้นและพวกเราจะแจกจ่ายเคล็ดวิชาเริ่มต้นของนิกาย”

“เคล็ดวิชาเริ่มต้น?”

หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นไม่ตรงจังหวะ เคล็ดวิชาเริ่มต้นของนิกายนั้นเป็นวิชาระดับเหลืองขั้นสูงทั้งหมด และมีอิสระในการฝึกบ่มเพาะ หากต้องการรูปแบบที่มีขั้นสูงขึ้น จำเป็นต้องมีการแลกแต้มคะแนน แต่สำหรับหลี่ฟู่เฉินวิชาระดับสีเหลืองชั้นสูงสุดนั้นเพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้

ศิษย์นิกายชั้นนอกถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มในเขต แต่ละกลุ่มจากชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 3

ศิษย์นิกายชั้นที่1 ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ลึกที่สุดของเขต ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามโดยเฉพาะอย่างยิ่งความสงบสุข แต่ละลานนั้นเป็นแนวรูปดาวจระเข้บนรูปกระดานหมากรุก และแต่ละลานกระจายออกกว้าง

หลี่ฟู่เฉินได้รับการจัดให้อยู่ในลานที่ตั้งอยู่ในมุมที่ห่างไกล เห็นได้ชัดว่าลานแห่งนี้ไม่ถูกจัดระเบียบเป็นเวลานานเนื่องจากมันเต็มไปด้วยฝุ่น

“พวกเจ้าอาจขอให้ศิษย์งานย่อย มาทำความสะอาดสถานที่แห่งนี้ให้ มันเป็นหนึ่งในสิทธิพิเศษของลูกศิษย์ชั้นปีที่ 1” นักบวชฝึกหัด,พี่เลี้ยงของหลี่ฟู่เฉินกล่าว

หลี่ฟู่เฉินตอบว่า “ข้าเข้าใจแล้วขอรับ”

ลานได้รับการบูรณะให้กลับสู่สภาพที่สะอาดอย่างรวดเร็วโดยศิษย์งานย่อยสองสามคนที่กำลังกวาดและปัดฝุ่น หลี่ฟู่เฉินคร่ำครวญถึงความยากลำบากในการบรรลุสำเร็จในนิกายสำหรับศิษย์งานย่อย ด้วยจำนวนงานที่ต้องทำอย่างไม่มีที่สิ้นสุดจึงไม่มีเวลาเหลือพอสำหรับฝึกบ่มเพาะ

แม้ว่าศิษย์งานย่อยมีงานที่น่าเบื่อให้ทำ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อยู่ในนิกาย ศิษย์งานย่อยได้รับแต้มสะสมทุกเดือนด้วยเช่นกันและหลังจากสะสมคะแนนมากพอพวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนสินค้าหรือตำราที่ไม่สามารถใช้ได้กับบุคคลที่ไม่ได้เข้าร่วมนิกาย

เมื่อตอนเย็นมาถึงหลี่ฟู่เฉินสวมชุดศิษย์นิกายและมุ่งหน้าไปยังหนึ่งในหออาหารภายในเขตของนิกายชั้นนอก

หออาหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตของศิษย์นิกายชั้น 2 มีทั้งหมด 3 ชั้นและเต็มไปด้วยผู้คน ชั้นแรกให้บริการอาหารธรรมดาฟรี ชั้นสองให้บริการอาหารที่ต้องใช้เหรียญเงิน 1 เหรียญและชั้นที่สามให้บริการอาหารชั้นสูงสำหรับเหรียญทอง 1 เหรียญ

อาหารธรรมดาหมายถึงมื้ออาหารที่ดีกว่าครัวเรือนโดยทั่วไปเล็กน้อย เนื้อหนึ่งและผักหนึ่ง มีคุณค่าทางอาหารอยู่บ้างและอยู่ในมาตรฐานเดียวกันกับอาหารที่บ้านหลี่ฟูเฉิน สำหรับอาหารชั้นสูง หลี่ฟู่เฉินมีโอกาสได้ทานในช่วงโอกาสพิเศษเท่านั้น

หลังจากไตร่ตรองชั่วครู่ เขาตัดสินใจไปที่ชั้น 2 แม้ว่ามื้ออาหารธรรมดานั้นฟรี แต่มันมีคุณค่าทางอาหารน้อยเกินไปและเหมาะสำหรับคนทั่วไปเท่านั้น

หลังจากสั่งอาหาร หลี่ฟู่เฉินหาที่นั่ง ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงซุบซิบจากโต๊ะอื่น

“เจ้าเคยได้ยินไหม กวนเซี่ยซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 คนของผู้เปี่ยมยุทธ์นิกายชั้นนอกได้ฝึกฝนวิชาคลื่นขาวขั้นที่ห้า”

“เจ้าล้อเล่นใช่มั้ย นางไม่ได้เข้านิกายคังเหลียนเมื่อ 4 เดือนที่แล้วเหรอ?”

“ทำไมแค่ 4 เดือนเท่านั้น กวนเซี่ยมีโครงกระดูกน้ำระดับ 4 ดาวและการบ่มเพาะด้วยวิชารูปแบบน้ำปกติจะต้องใช้เวลาครึ่งนึงทีเดียว

“วิชาคลื่นขาว, ขั้นที่ห้า?” หลี่ฟู่เฉินประหลาดใจ เขาจำได้แม่นว่า กวนเซี่ยใช้เวลาเกือบ 1 ปีในการฝึกฝนวิชาธาราจันทราขั้นที่ห้า เป็นที่เข้าใจว่าวิชาธาราจันทราป็นวิชาระดับเหลืองขั้นสูง แต่มันจะเทียบเคียงได้กับวิชาธาราจันทราซึ่งเป็นวิชาเหลืองขั้นสูงสุดได้อย่างไร

“บางทีอาจเป็นเพราะวิชาธาราจันทราและวิชาคลื่นขาวเป็นวิชารูปแบบน้ำขั้นพื้นฐานและมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง”

หลี่ฟู่เฉินไม่สามารถรู้ได้ว่าการรับรู้โดยธรรมชาติของกวนเซี่ยนั้นดีเพียงใด ทุกคนย่อมมีความลับ หากไม่ใช่เพื่อการแข่งขันอัจฉริยะจะไม่มีใครรู้ตำแหน่งการฝึกฝนและระดับทักษะดาบของบุคคลนั้น

หลังอาหารเย็น หลี่ฟูเฉินกลับไปที่ลานส่วนตัวของเขา ก่อนที่จะสายไปกว่านี้ หลี่ฟูเฉินเริ่มฝึกฝนวิชาดาบหยกแดงของเขาตามด้วยการฝึกฝนตามปกติของวิชาหยกแดง

***

เช้าวันรุ่งขึ้น หลี่ฟู่เฉินมาถึงห้องโถงใหญ่ของศิษย์นิกายชั้นนอก

เสี่ยวจางเฟิงผู้อาวุโสนิกายชั้นนอกยืนอยู่ด้านหน้าของทุกคนและชี้ไปที่โต๊ะยาว “นิกายคังเหลียนของข้า มีสิบเคล็ดวิชาเริ่มต้น เจ้าสามารถเลือกหนึ่งที่เจ้าชอบหรือมีลักษณะคล้ายกับวิชาบ่มเพาะก่อนหน้าของเจ้า จงคิดอย่างถี่ถ้วน ก่อนพิจารณาเลือกเคล็ดวิชาเริ่มต้น; มิฉะนั้นอาจทำให้เวลาของเจ้าล่าช้าในการบ่มเพาะ”

“เอาล่ะ จงรวมกันสิบคนต่อกลุ่มแล้วดำเนินการต่อในแต่ะกลุ่มของพวกเจ้า เมื่อพวกเจ้าเลือกเคล็ดวิชาเริ่มต้นแล้ว จงไปที่ห้องโถงด้านข้าง” เสี่ยวจางเฟิงกล่าวขณะยืนอยู่ด้านข้าง

หลังจากเข้าแถวเกือบชั่วโมงก็ถึงเวลาที่กลุ่มของหลี่ฟู่เฉินเลือกเคล็ดวิชาเริ่มต้น

“วิชาลมปราณสีม่วง บริสุทธิ์แต่ทรงพลัง”

“วิชาเขียวชอุ่ม สมดุลและสงบ”

“วิชาเปลือกหอยเหล็ก ทารุณดุร้าย”

“วิชาคลื่นขาว อ่อนโยนและปรับได้ดั่งน้ำ”

“วิชาเปลวเพลิงสีแดง รุนแรงและพุ่งพล่าน”

สิบวิชาที่แตกต่างกัน แต่ละแบบมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง หากมีการนำวิชาเหล่านี้ออกสู่สาธารณะมันจะกระตุ้นสงครามเลือดระหว่างตระกูลอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในนิกายคังเหลียน เคล็ดวิชาเหล่านี้ถูกจัดอันดับเป็นเพียงรายการฟรีสำหรับทุกคนที่ต้องการฝึกฝน

หลังจากสำรวจทุกวิชาแล้ว หลี่ฟู่เฉินก็เลือกวิชาเปลวเพลิงสีแดง

มีเหตุผลสองประการที่ทำให้เขาเลือกวิชาเปลวเพลิงสีแดง

ประการแรกวิชาบ่มเพาะในปัจจุบันของเขา ใช้รูปแบบไฟเหมือนกัน, วิชาหยกแดง ดังนั้นมันจะช่วยลดความยุ่งยากของวิชาเปลวเพลิงสีแดง เนื่องจากมันคล้ายคลึงกัน

ประการที่สองนิกายคังเหลียนมีสองสุดยอดวิชา คือ เคล็ดสุดยอดวิชาคังเหลียน และเคล็ดสุดยอดวิชาไฟนรก หากเขาเลือกวิชาอื่น ๆ เส้นทางสู่การเรียนรู้เคล็ดสุดยอดวิชาไฟนรกจะถูกตัดออก แม้ว่าเขาจะยังห่างไกลจากความสามารถในการฝึกฝนก็ตาม…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด