ตอนที่แล้วตอนที่ 34 วิกฤตครั้งใหญ่ [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 36 หลบหนีอย่างบ้าคลั่ง [อ่านฟรี]

ตอนที่ 35 ผนึกด้วย1 ธนูน้ำแข็ง [อ่านฟรี]


ตอนที่ 35 ผนึกด้วย1 ธนูน้ำแข็ง

ตุบตุบตุบ!

สสารถ่องแท้แห่งพลังมังกรในร่างกายของหลินหานหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้วิชากายาหงส์สง่าเพิ่มพลังอยู่ในสภาวะสูงสุด ทำให้ความเร็วของหลินหานถึงจุดสูงสุด

"ถ้าข้าไม่ได้ใช้ยาตันเพื่อทลายสู่ขอบเขตยุทธปัญจสวรรค์ และทำความเข้าใจเคล็ดวิชาดาบปลิดชีพดาบที่สอง ‘รูปแบบเฉือนตัดนภา’ กลัวว่าข้าในตอนนี้คงถูกเฒ่าชราสองคนนั่นสังหารไปแล้ว!"

หลินหานหนีไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด ในใจขบคิดเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการหลบหนี

หากคู่ต่อสู้มีเพียงคนเดียว บางทีเขาอาจจะสู้ได้

แต่ศัตรูมีถึงสองคน เขาจึงไม่สามารถต่อสู้ซึ่งๆหน้าได้

อาวุธวิญญาณธนูน้ำแข็งคริสตัลนี้ สามารถระเบิดพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งยุทธฉะสวรรค์

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาใช้วิชา เขาแทบจะหมดพลังตอบโต้และจะถูกอีกคนสังหารทันที

เมื่อคิดได้ดังนี้ แม้นดวงตาของหลินหานสงบ แต่หว่างคิ้วของเขามีรอยย่นเล็กน้อย

"สารเลวหลินหาน เจ้าหนีไม่พ้นหรอก ไม่ว่าจะตอบโต้ยังไงก็ไร้ประโยชน์"

"ป่าหม่างแห่งเมืองต้วนเทียนนี้คือสถานที่ที่เจ้าจะถูกฝัง"

ด้านหลัง มีเสียงเย็นของหลินป้าเตาและหลินอู๋หยดังขึ้น เต็มไปด้วยจิตแห่งการฆ่า

พวกเขาคือบุคคลใหญ่โตซึ่งเป็นระดับสูงที่แท้จริงของสำนักตระกูลหลิน การออกมาฆ่าอัจฉริยะของสำนัก เป็นความผิดถึงตาย

หากหลินหานสามารถหนีออกไปได้แล้วกับไปรายงานสำนัก พวกเขาจะตายโดยไม่มีแผ่นดิบกลบฝัง

ดังนั้น ทั้งสองคนจึงโอบความตั้งใจที่ฆ่าจะหลินหานให้จงได้

อย่างไรก็ตาม เพียงแค่หนึ่งดาบของหลินหานเมื่อครู่ก็ทำให้หนึ่งนิ้วมือของหลินป้าเตาขาด สกัดพลังของเขาไว้ได้ ดังนั้นทั้งคู่จึงหวั่นวิตก

ในสถานการณ์ที่หลินหานต้องตายแน่ๆ แต่เขาสามารถคลี่คลายได้!

ไม่น่าเชื่อจริงๆ

สิ่งนี้ ทำให้จิตใจที่จะสังหารของทั้งสองรุนแรงยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต่อจากนั้น สิ่งที่ทำให้หลินป้าเตาและหลินอู๋หยาตกตะลึงจนพูดไม่ออกคือ เวลาเพียงครึ่งชั่วยามพวกเขาก็ไม่สามารถไล่ตามหลินหานที่กำลังหลบหนีไป

ต้องรู้ว่า สสารถ่องแท้ของยุทธฉะสวรรค์นั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าสสารถ่องแท้ของยุทธปัญจสวรรค์อย่างน้อยสองเท่า

ยิ่งไปกว่านั้น หลินหานเพิ่งจะทลายสู่ยุทธปัญจสวรรค์เมื่อครู่นี้

การค้นพบนี้ ทำให้ทั้งคู่รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

"บูม"  "บูม"

ครู่หนึ่ง พวกเขาทั้งสองกรีดร้องเสียงดัง ปลดปล่อยสสารถ่องแท้จากในร่างกายทั้งหมดโดยไม่หลงเหลือ แล้วไล่ตามหลินหานเพื่อไปสังหารให้จงได้

"แย่แล้ว พวกเขาทุ่มสุดชีวิตแล้ว!"

หลินหานที่อยู่ข้างหน้า ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงออร่าพลังที่กำลังพุ่งมาทางด้านหลัง สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

"มีเพียงวิธีเดียว ต้องพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของป่าหม่าง ข้าไม่เชื่อหรอกว่าสัตว์อสูรทรงพลังเหล่านั้นจะรู้สึกถึงกลิ่นไอพลังแห่งยุทธปัญจสวรรค์ของข้าก่อน"

พริบตานั้น หลินหานตัดได้สินใจ

เขาหมุนตัวทันที แล้วพุ่งเข้าไปในส่วนลึกของป่าหม่าง

รอบ ๆ มีต้นป่าโบราณที่สูงตระหง่านหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องของสัตว์อสูรก็ดังถี่ขึ้นเรื่อย ๆ

“แย่แล้ว เจ้าหนูนั่นจะล่อพวกเราให้เข้าไปยังส่วนลึกของป่าหม่าง” หลินป้าเตาสีหน้าอึมครึม ดูเหมือนไม่แน่ใจ

"จะต้องฆ่าทิ้งซะ มิฉะนั้น เมื่อกลับไปที่สำนัก แล้วผู้นำสำนักรู้ความจริงว่าพวกเราสองคนจะฆ่าหลินหานผู้เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายนอก พวกเราจะต้องถูกตัดสินประหารชีวิต!"

หลินอู๋หยาเผยความเหี้ยมโหดบนใบหน้า พูดว่า: "สหายป้าเตา อย่าลังเล ข้าไม่เชื่อว่าผู้มีฝีมือในยุทธฉะสวรรค์เฉกเช่นพวกเรา จะไม่สามารถสังหารเจาหนูที่พึ่งก้าวสู่ยุทธปัญจสวรรค์ได้"

เมื่อพูดจบ หลินป้าเตาก็รู้ว่าสถานการณ์นั้นร้ายแรงอย่างยิ่ง จึงพยักหน้าทันที กล่าวว่า: "ไปกันเถอะ!"

ตุบ! ตุบ!

ร่างสองร่างทะยานลอยเข้าไปในป่าทึบ ราวกับนกอินทรีกางปีกถลาบิน ปลุกจิตแห่งการฆ่าที่น่ากลัว

"รรรรร!"

พยัคฆ์เพลิงเดือดในยุทธฉะสวรรค์ตัวหนึ่งถลาตัวออกมาจากป่าทึบ หลินหานก็หลีกเลี่ยงอย่างชาญฉลาดด้วยพลังตรวจจับที่ทรงพลัง

แต่ข้างหลังเขา หลินป้าเตาและหลินอู๋หยาไม่มีความสามารถในการตรวจจับที่แข็งแกร่งเหมือนหลินหาน ทันใดนั้น พวกเขาต้องประจันหน้ากับพยัคฆ์เพลิงเดือดทันที

"เด็กสารเลวนั่นเหลี่ยมจัด!"

เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความบูดบึ้งของพยัคฆ์เพลิงเดือด ทันใดนั้นสีหน้าของทั้งสองก็ดูแข็งทื่อ ในหัวใจสาบแช่งความไร้ยางอายของหลินหาน

“สหายป้าเตา เจ้าไล่ล่าเจ้าหนูนั่นต่อ ข้าจะจัดการพยัคฆ์เพลิงเดือดเอง” หลินป้าเตาตะโกน มีดยาวในมือของเขาตวัดผ่านท้องฟ้า พุ่งทะยานไปทางพยัคฆ์เพลิงเดือดทันที

"ดี."

หลินอู๋หยาพยักหน้า แล้วกระโดดไล่ล่าหลินหานต่อไป

เขาเพิ่งจากไปไม่นาน ก็มีเสียงตูมตามอย่างสยองขวัญจากการปะทะของไอมีดและเสียงคำรามของพยัคฆ์เพลิงเดือด

"หลินหาน ข้าจะหักกระดูกเจ้าเป็นหมื่นๆชิ้น!"

ในที่สุด หลินอู๋หยาก็ไม่อาจเยือกเย็นได้อีกต่อไป ใบหน้าของเขาเปิดเผยความโหดเหี้ยมออกมาอย่างสมบูรณ์ อยากจะปลิดชีพหลินหานอย่างอดใจรอไม่ไหว

อย่างไรก็ตาม หลินหานผู้มีพลังตรวจจับแข็งแกร่งจากการเปลี่ยนแปลงของเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทอง ทั้งยังมีความสามารถของของนักพรตวิญญาณอย่างเนตรนภา ทำให้หลินหานหลบหนีท่ามกลางป่าหม่างอย่างรื่นไหล

ราวกับเขาสามารถ "หยั่งรู้ล่วงหน้า" ทำให้หลินอู๋หยาที่ตามมาทางด้านหลังต้องตกตะลึง

สามชั่วยามเต็มๆ

หลินอู๋หยาไล่ล่าตามหลัมาอย่างบ้าคลั่ง สถานการณ์อับจน เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรที่ดุร้ายทุกชนิด

แต่หลินหาน สามารถหลีกเลี่ยงสัตว์อสูรทุกชนิดได้เสมอ

"เจ้าหนูโสโครก ใช้วิธีชั่วร้ายอะไรกัน!" หลินอู๋หยาร้องตะโกน สีหน้าเหี้ยมโหด หดหู่จนอยากอาเจียนออกมา

ด้านหน้า หลินหานรู้สึกแอบสบายใจอย่างเงียบๆ

แต่เขาก็ยังจ้องมอง เพราะจอมยุทธิ์ฉะสวรรค์นากลัวมาก

ในเวลาสามชั่วยาม สัตว์อสูรดุร้ายทั้งด้านหน้าด้านหลังสิบตัวเล็กตัวใหญ่หลายสิบตัว มีตัวหนึ่งทรงพลังที่สุดด้วยความแข็งแกร่งแห่งยุทธปัญจสวรรค์ แต่ถึงกระนั้น ก็ถูกหลินอู๋หยาฆ่าตายด้วยหนึ่งฝ่ามือ

วิชาฝ่ามือเพลิงผลาญที่อยู่บนมือของหลินอู๋หยานั้นทรงพลังมากอย่าหาใดเทียบ ทุกครั้งที่เขาโจมตีด้วยฝ่ามือ เปลวไฟขนาดใหญ่เท่าหินโม่จะปรากฏขึ้น แล้วโจมตีแผดเผาสัตว์อสูรให้เป็นกองเนื้อและกองเลือดทันที น่าตะลึงถึงขีดสุด

ในที่สุด ก็ผ่านไปครู่หนึ่ง

หลินหานเบิกเนตรนภาแห่งนักพรตวิญญาณ เขามองทะลุจิตวิญญาณก็พบว่าสสารถ่องแท้ในร่างกายของหลินอู๋หยาถูกใช้ไปเป็นจำนวนมหันต์ อยู่ในสภาพอ่อนเพลีย

ปัง!

ทันใดนั้น หลินหานก็หยุดเคลื่อนที่ทันที แล้วยืนในจุดที่ไม่ไกลจากหลอนอู๋หยานัก

"เป็นอะไรเจ้าหนู? ในที่สุดก็ไม่มีกำลังที่จะวิ่งหนีแล้วเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า! "พอหลินอู๋ยาเห็นหลินหานหยุดกะทันหัน พลัน ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายดุร้าย

อย่างไรก็ตาม หลินหานกลับหัวเราะเยาะในใจ

สสารถ่องแท้แห่งพลังมังกรของเขาเองนั้นมากมายอย่างไม่มีวันหมดสิ้น ยิ่งไปกว่านั้น เคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่ของเขาสามารถดูดซับและกลืนกินพลังงานในอากาศโดยรอบได้ตลอดเวลา

แม้ว่าจะกระตุ้นกายาจักรพรรดิมังกรในขณะนี้ก็เพิ่มความเร็วเป็นเท่าตัวเท่านั้น แต่มันก็เพียงพอที่จะเติมเต็มสสารถ่องแท้จากการใช้วิชากายา

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้หลินหานอยากจะเล่นละครตบตา เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสสังหาร

ใบหน้าของหลินหาน“ซีดเซียว” ร่างกายของเขาสั่นระริก สั่นไหวจนโซเซ แต่ใบหน้าแสดงความไม่เต็มใจ และในดวงตาสื่ออารมณ์หมดหวัง

ก่อนที่เขาจะหันกลับไป เขาจงใจหักยาตันบางส่วนไปป้ายมุมปากของเขา ...

“เจ้าหนู ที่แท้เจ้าก็ใช้ยาตันคอยเติมเต็มสสารถ่องแท้นี่เอง!”

ไม่ไกลนัก พอหลินอู๋หยามองเห็น“อารมณ์สิ้นหวัง” ของหลินหาน และผงยาตันสีขาวเล็กน้อยที่เปื้อนที่มุมปาก ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะอย่างลั่น

หลินอู๋หยาเชื่อสิ่งนี้อย่างไม่มีความเคลือบแคลงใจ

เพราะต้องทะยานหนีอย่างรวดเร็วเป็นเวลาสามชั่วยามเต็มๆ ต่อให้เป็นเขา ยังสิ้นเปลืองสสารถ่องแท้จนเกือบเหือดแห้ง

และเสี้ยววินาทีที่เสียงหัวเราะของหลินอู๋หยาดังลั่นขึ้น

"ตอนนี้!"

ทันใดนั้น ดวงตาของหลินหานก็เปล่งประกายความสดใสอย่างน่าประหลาดใจ

แสงไฟวิบวาบในมือของเขา ธนูน้ำแข็งคริสตัลก็ปรากฏขึ้นทันที

"เวิง"

แทบจะเป็นเวลาเสี้ยววินาที หลินหานก้มตัว กระดูกสันหลังราวกับมังกรตัวใหญ่ขดตัว แล้วแขนดึงสายคันศร

บูม!

สสารถ่องแท้แห่งพลังมังกรในร่างกายปะทุออกมาอย่างกระหน่ำ บนคันธนูส่องแสงสีน้ำเงินเป็นประกายวิบวับ ควบแน่นลูกศรน้ำแข็งเย็นยะเยือกทันที ยิงออกไปจนทะลวงกับอากาศ จู่โจมไปที่หน้าอกของหลินอู๋หยา

สสารถ่องแท้หมดไปเป็นจำนวนมหันต์ หลินหานผ่อนปลนความระวัง

ภายใต้สองกรณี หลินอู๋หยาร่ายวิยุทธไม่ทัน ไม่แม้แต่จะมีเวลาส่งเสียงร้อง เขาถูกลูกศรน้ำแข็งหนึ่งดอกผนึกทันที

คนทั้งคนกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งในรูปมนุษย์ทันที ดับสลายพลังชีวิต

แคร่ก! แคร่ก ......

สายลมพัดผ่าน รูปปั้นน้ำแข็ง "หลินอู๋หยา" ระเบิดแตก กลายเป็นเศษเนื้อแช่แข็ง เสียชีวิตในทันที

"ฮู!"

เมื่อเห็นอย่างนี้ หลินหานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขารู้สึกได้ว่าสสารถ่องแท้ในร่างกายถูกใช้หมดไปแล้วเจ็ดหรือแปดส่วน

แต่ในเวลานี้เอง.

"เจ้าหนู ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ถึงกับครอบครองอาวุธสังหารที่ทรงพพังระดับนี้! แต่ตอนนี้ สมบัติของเจ้า ต้องเป็นของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า!"

เสียงตะโกนดังขึ้นทันที

สีหน้าของหลินหานเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

เขาหันกลับไปมองด้านหลัง

ที่นั่น หลินป้าเตาในชุดขาดวิ่นกำลังยืนอยู่ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ดวงตาดุร้าย สื่อความเหี้ยมโหดและร้อนระอุ

หลินป้าเตาไล่ตามมาทันโดยที่เขาไม่รู้ตัว?

ช่วงเวลานี้

เมื่อรู้สึกถึงสสารถ่องแท้ที่อ่อนแอในร่างกาย สายตาของหลินหานจึงเคร่งเครียดทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด