ตอนที่แล้วตอนที่ 18 พิธีเลือกราชินี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 ศึกของสองกษัตริย์

ตอนที่ 19 กริชแห่งความเกลียดชัง


ตอนที่ 19 กริชแห่งความเกลียดชัง

 

เซน่าและนักบุญเจฟวิ่งมาบริเวณห้องโถงที่จัดงานพิธีเลือกราชินี เห็นเหล่าทหารเกราะทองนับร้อยกำลังต่อสู้กับผู้คุ้มกันของชนชั้นสูงที่พากันยืนรอนอกห้องโถง

พวกผู้คุ้มกันชนชั้นสูงมีทั้งพวกที่ก่อกบฏ แต่ก็มีหลายคนไม่รู้เรื่องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ยามกะทันหันทหารเกราะทองไม่สามารถแยกแยะมิตรหรือศัตรูได้ จึงได้สั่งจับกุมตัวทั้งหมด ทำให้เหล่าผู้คุ้มกันที่ไม่ได้มีเจตนาร้ายจำต้องสู้กับทหารเกราะทองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ได้ยินเสียงโห่ร้องวุ่นวาย ทหารเกราะทองและผู้คุ้มกันชนชั้นสูงปะทะกัน เสียงอาวุธดังสนั่นกระทบกันไม่หยุด

นักบุญเจฟกล่าวอย่างตื่นตระหนกว่า

“พระเจ้าคุ้มครอง นี่เกิดอะไรขึ้น?”

เซน่ากล่าวว่า

“พระเจ้าไม่คุ้มครองผู้ใด มีแต่เราคุ้มครองตนเอง”

เห็นทหารเกราะทองคนหนึ่งวิ่งมาตวาดถามว่า

“พวกเจ้าเป็นใคร?”

เจฟกล่าวว่า “ข้าคือนักบุญเจฟแห่งวิหารพระเมธีอาร์ ไม่ใช่คนร้าย”

เซน่ากล่าวว่า “ข้าเป็นผู้คุ้มกันของท่านหญิงลินเดียร์ บุตรีแห่งวิกเชอร์”

ทหารเกราะทองตวาดว่า “วางอาวุธและคุกเข่าลง”

เซน่าทำท่าจะคุกเข่า จากนั้นขยับมืออย่างรวดเร็ว พริบตาดาบมูนสตรองที่ยังอยู่ในฝักก็กระแทกใส่หัวทหารเกราะทองจนเขาสลบไป

เจฟกล่าวถามว่า “เจ้าทำร้ายเขาทำไม?”

เซน่ากล่าวว่า “นี่ถือเป็นความเมตตาอย่างที่สุดจากข้า”

เซน่าหวนนึกถึงจอมเวทจันทรากำชับนางไว้ว่าอย่าได้สังหารผู้บริสุทธิ์ อีกอย่างเซน่าก็ไม่ต้องการฆ่าทหารในวังหลวง ไม่เช่นนั้นนางคงจะเข้าออกวังหลวงได้ลำบากขึ้น

นักบุญเจฟเห็นว่าสตรีนางนี้ผิดแปลกกว่าสตรีทั่วไป เจฟกล่าวอย่างสงสัยว่า “ไม่ทราบกษัตริย์ฟินเดลอยู่ในนั้นหรือไม่?”

ได้ยินเสียงกรีดร้องในห้องโถงดังขึ้น เจฟกล่าวว่า “ไม่ได้ ต้องรีบไปช่วยพวกเขา”

 

เจฟและเซน่าวิ่งไปในบริเวณประตูหน้าของห้องโถง บริเวณนั้นทหารและพวกกบฏต่อสู้กันอย่างดุเดือด ฝ่ายกบฏใช้ดาบและเวทแห่งลมสังหาร “วินด์ กัส” (Wind Gusts-ลมกรรโชก) เห็นแสงสีเขียวเปล่งออกจากดาบพวกมัน กระแทกใส่เหล่าทหารเกราะทอง

ยังดีที่เหล่าทหารเกราะทองล้วนถือโล่ไว้ พวกเขาพยายามใช้โล่ของตนกันเวทแห่งลมจึงทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นแทงดาบสวนใส่กลุ่มกบฏสังหารพวกมันไปได้หลายคน ฝ่ายกบฏก็ตอบโต้กลับ การต่อสู้เต็มไปด้วยความดุเดือด เสียงโห่ร้องฆ่าฟันดังขึ้นไม่หยุด

ฝ่ายกบฏคนหนึ่งเห็นนักบุญเจฟและเซน่าวิ่งมา มันแทงดาบใส่เซน่าอย่างรวดเร็ว เซน่าเบี่ยงกายหลบและแทงดาบย้อนเป็นรูปเสี้ยวจันทร์ในทิศทางที่มันคาดไม่ถึง ดาบของเซน่าแทงใส่ด้านหลังมันสิ้นใจตายทันที !

พวกกบฏอีกสามคนเห็นเซน่าทำร้ายพรรคพวกมัน จึงฟันดาบออกพร้อมด้วยเวทสังหารแห่งสายลมวินด์กัส ดาบของพวกมันปล่อยแสงสีเขียวเป็นแนวขวางสามแสง พุ่งตรงใส่เซน่าอย่างรวดเร็ว

“กราวด์ วอล” (Ground wall -กำแพงพสุธา) นักบุญเจฟร้องพร้อมยกสองมือขึ้น ทันใดนั้นกำแพงดินรูปสี่เหลี่ยมสูงประมาณสองเมตรกว่าผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กำแพงดินขวางอยู่เบื้องหน้าของเจฟและเซน่า เวทสังหารแห่งลมไม่อาจทำอะไรกำแพงแห่งดินได้

สายลมไม่ว่ารุนแรงเพียงใดก็ไม่อาจแทรกผ่านผิวดินได้ !

นักฆ่าสามคนตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่านักบุญคนนี้จะมีเวทมนตร์แห่งดิน

เจฟกล่าวว่า “เพียงเท่านี้พวกมันก็ทำอะไรเราไม่ได้”

เซน่ากล่าวว่า “กำแพงเจ้าขวางข้าเช่นนี้ ข้าก็ออกไปสังหารพวกมันไม่ได้”

เจฟตกใจเล็กน้อยกล่าวว่า “สังหาร? เจ้าอย่าได้ฆ่าคนวุ่นวายเพียงแค่ทำให้พวกเขาสลบก็พอ”

เซน่ากล่าวอย่างรำคาญว่า “หากเจ้าไม่ฆ่าพวกมัน พวกมันก็ฆ่าเรา”

เวทกำแพงดินค่อย ๆ สลายไป ฝ่ายกบฏสามคนยกดาบขึ้นหมายใช้เวทลมสังหารอีก

แต่ที่พวกมันเห็นเบื้องหน้ามีเพียงนักบุญคนเดียว ไม่ทราบสตรีอีกนางหายไปตั้งแต่เมื่อใด

ที่แท้เซน่าอ้อมออกจากเวทกำแพงดินไปได้พักหนึ่งแล้วแต่พวกกบฏไม่ทันสังเกต

เซน่าแทงดาบใส่พวกมันสามคนจากด้านข้างอย่างรวดเร็ว

“อ๊าก” ฝ่ายกบฏผู้หนึ่งถูกเซน่าแทงดาบทะลุอกสิ้นชีพในทันที เซน่าถอนดาบออกฟันใส่ฝ่ายกบฏอีกผู้หนึ่ง แค่พริบตาเดียวเซน่าก็สังหารไปถึงสองคน

ฝ่ายกบฏอีกผู้หนึ่งใช้เวทแห่งลมวินด์กัสพุ่งใส่เซน่า แต่นางเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้วจึงหลบอย่างง่ายดาย

ทันใดนั้นเซน่าเห็นแสงสีขาวสว่างวูบหนึ่ง จากนั้นฝ่ายกบฏผู้นั้นก็ล้มลงไป

“อาย ไลท์” (Aye Light - แสงนิรันดร์) พลังแสงออกมาจากปลายฝ่ามือนักบุญเจฟ นี่เป็นเวทแสงพื้นฐานที่ปล่อยพลังแห่งแสงกระแทกทำร้ายศัตรูในระยะใกล้ไม่เกินหกเมตร

เซน่าจะขยับดาบหมายจะสังหารกบฏผู้ที่สลบไป แต่เจฟรีบห้ามไว้

“เจ้าหัดมีความเมตตาบ้าง”

ขณะที่เซน่าจะตอบโต้กลับ นางเห็นคนผู้หนึ่งวิ่งมา

“ท่านนักบุญ” ทหารเกราะทองนายหนึ่งวิ่งมากล่าวด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

เจฟถามว่า “ท่านทหาร มีอะไรหรือ?”

ทหารเกราะทองบอกว่า “ราชาฟินเดลยังอยู่ด้านใน ข้าเห็นท่านนักบุญมีพลังเวทมนตร์ รีบช่วยพระองค์ด้วย”

เจฟบอกว่า “เราฝ่าเข้าไปถึงหน้าประตูห้องโถงไม่ได้”

ทหารเกราะทองบอกว่า “ประตูด้านหน้าห้องโถงถูกลั่นกลอนไว้ ต่อให้ไปถึงก็ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ด้านข้างยังพอมีทาง”

“รีบพาพวกเราไป” เจฟกล่าวอย่างเร่งรีบ

ทหารเกราะทองรีบพาเซน่าและเจฟไปยังด้านข้างห้องโถง ระหว่างทางแม้จะพบกับพวกนักฆ่าบ้าง แต่ก็ไม่มีผู้ใดรอดพ้นจากดาบมูนสตรองของเซน่า

 

ชายชุดดำเดินเข้าหาฟินเดลเรื่อย ๆ ยิ่งเข้าใกล้ฟินเดลเท่าใด ฟินเดลก็รู้สึกมีกระแสลมรุนแรงปะทะกายเขาเท่านั้น ฟินเดลถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”

ชายชุดดำไม่ตอบ มันเป็นมือสังหารไม่ใช่นักเจรจา

ทันใดนั้น ชายชุดดำรู้สึกผิดปกติจากด้านหลัง ขุนนางใส่ชุดสีน้ำเงินเข้มผู้หนึ่งจู่โจมใส่เขาพร้อมหมัดที่มีพลังแห่งไฟลุกท่วม ชายชุดดำหลบหมัดนี้อย่างง่ายดาย

เห็นชายชุดน้ำเงินเข้มรีบไปยืนขวางหน้าฟินเดลไว้ ชายผู้นี้อายุประมาณสี่สิบกว่าปีไว้หนวดเคราสีน้ำตาล หมัดทั้งสองของเขาเต็มไปด้วยเปลวไฟ

“หม่อมฉันขออภัยที่ทำให้ตกพระทัยและถวายอารักขาล่าช้า”

ฟินเดลกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ให้มันเห็นความยิ่งใหญ่ของเจ้าไลบัลโก

คนผู้นี้คือไลบัลโกแม่ทัพใหญ่แห่งโกลด์เด้นกราวด์ เขาเห็นเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงจึงยืนสังเกตการณ์อยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นเจ้าเหนือหัวของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายจึงรีบเข้ามาช่วย

ไลบัลโกตวาดลั่น เขาปล่อยหมัดเพลิงออกจากสองมือ พลังเพลิงของเขาพุ่งเป็นเส้นสายโจมตีใส่นักฆ่าชุดดำนัก นักฆ่าชุดดำยกกรีซขึ้นกล่าวว่า “โพรเทค สตอร์ม” (Protect Strom – พายุคุ้มกันกาย)

พริบตาเดียวลมพายุก็ก่อเกิดล้อมรอบตัวชายชุดดำ พลังเพลิงของไลบัลโกเมื่อกระทบถูกลมพายุก็ถูกพลังพายุม้วนวนไปตามกระแสลมพายุ

“ระวัง” ฟินเดลร้องพร้อมทั้งโอบกอดลินเดียร์ซึ่งอยู่ด้านหลังเขากระโดดหลบ

ที่แท้พลังพายุพอม้วนพลังไฟของไลบัลโกไว้ จากนั้นมันก็สะท้อนพลังแห่งไฟของไลบัลโกกลับมาจู่โจมใส่ฟินเดลและไลบัลโก

เวทพายุคุ้มกายไม่ใช่แค่เวทแห่งลมที่ใช้ป้องกันแต่ยังเป็นเวทสะท้อนกลับ!

ไลบัลโกรีบกระโดดหลบเวทแห่งไฟที่สะท้อนมา เขาทราบว่าคู่ต่อสู้ชุดดำผู้นี้ร้ายกาจที่สุดในชีวิตเขา

พริบตาที่ชักช้า ชายชุดดำพุ่งมาอย่างรวดเร็วดุจพายุร้าย จากนั้นแทงกริชแห่งลมเข้าใส่ไลบัลโก กริชยังไม่ทันถึงตัวไลบัลโกก็รู้สึกมีกระแสลมกรีดใส่ร่างกายเขาไม่หยุด

ไลบัลโกขยับกายก็หลบกริชที่แทงมาได้ แต่ชายชุดดำทั้งแทงทั้งฟันกริชออกไม่หยุดประหนึ่งดังพายุคลั่ง

“แสงแห่งสรวงสวรรค์” ลำแสงสีขาวพุ่งออกจากฝ่ามือฟินเดลพุ่งใส่ชายชุดดำ แต่ชายชุดดำพลันใช้เวทแห่งลมหนุนกายเขาทะยานขึ้นไปถึงห้าเมตร จากนั้นลอยอยู่กลางอากาศและฟันกริชแห่งความเกลียดชังออกไปทางยังทิศทางที่ฟินเดลยืนอยู่

พริบตานั้น แสงสีเขียวเป็นแนวขวางเกือบสิบแสงพุ่งออกมาจากกริชแห่งความเกลียดชัง ที่แท้เป็นเวทแห่งลมสังหาร “วินด์กัส”

นักฆ่าคนอื่นสามารถใช้เวทวินด์กัสได้เพียงทีละครั้งในการฟันอาวุธครั้งเดียว แต่ชายชุดดำใบหน้ามีรอยแผลเป็นผู้นี้ฟันกริชครั้งเดียวก็ใช้เวทวินด์กัสได้เกือบสิบครั้ง !!

พลังกระแสลมที่รุนแรงดุจคมดาบนับสิบเล่มพุ่งตรงมายังฟินเดลอย่างรวดเร็ว ต่อให้ฟินเดลหลบรอดได้ ลินเดียร์ก็ไม่เร็วพอที่จะหลบพ้น ราชาหนุ่มจึงผลักสองมือออกพร้อมร้องขึ้น “แองเจิล แอสเซมเบิล” (Angel Assemble-ทูตสวรรค์รวมตัว)

ทันใดนั้นเกิดแสงวงกลมสีขาวสว่างเจิดจ้านับสิบวงซ้อนกันไปมาเบื้องหน้าฟินเดล เวทลมวินด์กัสกระแทกใส่แสงวงกลมสีขาว พลังลมที่คมกริบดุจใบดาบก็สลายไปกลายเป็นสายลมอ่อน ๆ ที่เย็นสบาย

เวทธาตุแสง “ทูตสวรรค์รวมตัว” เป็นเวทป้องกันชั้นสูงซึ่งสามารถสลายพลังเวทที่จู่โจมมาได้ทุกชนิด แต่ผู้ใช้ต้องสิ้นเปลืองพลังเวทมหาศาล ใบหน้าของฟินเดลปรากฏหยาดเหงื่อไหลซึม แสดงว่าเวทแห่งแสงเมื่อครู่สิ้นเปลืองพลังเวทเขาไม่น้อย

ไลบัลโกเห็นเจ้าเหนือหัวตนตกอยู่ในอันตราย เขารีบชูหมัดขึ้นปล่อยพลังเพลิงเป็นเส้นยาวจู่โจมใส่ชายชุดดำซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ ชายชุดดำยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมพร้อมชูกริชขึ้น

“พายุคุ้มกาย” ชายชุดดำใช้เวทแห่งลมป้องกันตนอีก ทันใดนั้นเกิดพายุหมุนอย่างรุนแรงขึ้นรอบ ๆ ตัวชายชุดดำ

ไลบัลโกทราบว่าผิดปกติเขารีบพุ่งกายถอยทันที

แต่ยังช้าไปก้าวหนึ่ง

ตอนแรกไลบัลโกต่อสู้กับชายชุดดำในระยะประชิด ทั้งสองจึงยืนอยู่ใกล้กัน เมื่อชายชุดดำลอยตัวขึ้นไป ระยะห่างไลบัลโกกับชายชุดดำก็แทบไม่ได้แตกต่างจากเดิม เมื่อเวทพายุคุ้มกายทำงาน พลังพายุจึงม้วนพัดร่างไลบัลโกไปด้วย

“อ๊าก” ร่างกายไลบัลโกหมุนวนไปตามกระแสพายุอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกร่างกายเบาหวิวสิ่งของรอบกายหมุมวนไม่หยุดจนเขาแทบอยากอาเจียน

“ไลบัลโก้!” ฟินเดลตะโกนพร้อมยิงเวทแสงออกจากมือใส่ชายชุดดำ แต่เวทแห่งแสงก็ถูกกำแพงพายุป้องกันไว้ได้

ตุบ ! กำแพงพายุเริ่มสงบลง ร่างกายไลบัลโกลอยตกลงจากที่สูงไม่ทราบความเป็นตาย

ชายชุดดำลอยอยูกลางอากาศ ยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมกล่าวว่า “แม่ทัพใหญ่แห่งโกลด์เด้นกราวด์มีฝีมือเพียงแค่นี้เอง”

“ฆ่าเพิ่ม” ชายชุดดำกล่าว

ทันใดได้ยินเสียงกรีดร้องของทั้งบุรุษและสตรีดังขึ้นอีก ขุนนางท่านหญิงทั้งหลายที่ก่อกบฏใช้มีดสังหารขุนนางและสตรีชั้นสูงอีกหลายสิบคนที่ไม่มีทางสู้ เลือดนองเต็มพื้นสีทองแห่งพระราชวังทองคำ เสียงร่ำไห้ร้องระงมของเหล่าสตรีสูงศักดิ์ดังขึ้นไม่หยุด

ชายชุดดำกล่าวว่า “หากใครสอดแทรกเข้ามาอย่างเจ้าไลบัลโก จะต้องมีคนตายเพิ่มมากกว่านี้”

รอยยิ้มของชายชุดดำเต็มไปด้วยความสมใจที่เห็นสายตาที่หวาดกลัวและเสียงร่ำไห้ของผู้คน ชีวิตของเขามีแต่ความเกลียดชัง ยิ่งเห็นคนหวาดกลัวในความตาย เขายิ่งมีความสุข

กริช “เอ็กเซอเคท บรีท” (Execrate Breath-ลมหายใจแห่งความเกลียดชัง) เป็นอาวุธในตำนานที่เหมาะสมกับเขาที่สุด ราวกับอสูรร้ายทราบว่าจะมีคนผู้นี้กำเนิดขึ้นบนโลกจึงสร้างกริชนี้มาให้

ชายชุดดำกำกริชแห่งลมไว้แน่น เขาเตรียมพุ่งกายไปฆ่าฟินเดลแล้ว

เพล้ง !!

เสียงกระจกแตกดังขึ้น ทันใดเห็นแสงสีเงินวูบหนึ่งจู่โจมมายังศีรษะชายชุดดำ

ชายชุดดำลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขารีบเบี่ยงกายหลบอย่างรวดเร็วจึงสามารถรอดจากแสงสีเงินนั้นได้

ชายชุดดำมองไปที่เบื้องล่าง เห็นสตรีนางหนึ่งคุกเข่าข้างหนึ่งกับพื้น นางใช้ดาบสีเงินโกร่งดาบเป็นรูปจันทร์เสี้ยวอันงดงามพยุงกายของนางขึ้นมา

เป็นเซน่า !

ชายชุดดำแปลกใจเล็กน้อยจึงถามว่า “เจ้าเป็น..”

ชายชุดดำรู้สึกผิดปกติ เขารู้สึกมีของเหลวไหลออกจากแก้มเขา จึงเอามือซ้ายขึ้นสัมผัส ที่แท้เป็นเลือด !

สตรีนางนี้ใช้เพียงดาบเดียวก็สร้างรอยแผลที่ใบหน้าหน้าเขาได้ ทั้งที่กษัตริย์และแม่ทัพใหญ่แห่งโกลด์เด้นกราวด์ไม่อาจสัมผัสถูกเขาได้แม้แต่ปลายเส้นผม

ชายชุดดำจ้องมองเซน่าด้วยแววตาอำมหิต ขณะที่แววตาเซน่าก็ฉายแววอำมหิตตอบกลับเช่นกัน นางจ้องตาชายชุดดำอย่างไม่เกรงกลัว ชายชุดดำรู้สึกแววตาสตรีนางนี้คล้ายกับคนผู้หนึ่งที่เขารู้จัก…

 

ที่แท้ก่อนหน้านั้นทหารเกราะทองนำเซน่าและนักบุญเจฟมายังบริเวณผนังกำแพงด้านข้างของห้องโถงที่ใช้จัดพิธีเลือกคู่ ทหารเกราะทองกล่าวว่า

“ประตูทุกประตูถูกพวกมันลั่นกลอนไว้ แต่หน้าต่างด้านบนยังพอจะเข้าไปได้”

เซน่าสำรวจบริเวณผนังกำแพงห้องโถงด้านนอก พบว่ามีหน้าต่างประดับกระจกสีรุ้ง หากแต่หน้าต่างอยู่สูงถึงหกเมตร ไม่สามารถกระโดดไปถึง

ในช่วงที่พวกเซน่ามาถึง ตอนนั้นเป็นช่วงที่แม่ทัพไลบัลโกกำลังต่อสู้กับชายชุดดำ

เซน่าครุ่นคิดอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า

“มีวิธีแล้ว”

เจฟถามว่า “มีวิธีใด?”

เซน่ากล่าวว่า “เจ้ารวมพลังทั้งหมดใช้เวทกำแพงดิน สร้างกำแพงให้สูงขึ้นกว่าปกติ ส่วนข้าจะยืนอยู่บนกำแพงแล้วทลายหน้าต่างไปช่วยกษัตริย์ของพวกเจ้า”

เจฟกล่าวอย่างยินดีว่า “ใช้เวทป้องกันพลิกแพลงเป็นใช้ในการปีนขึ้นที่สูง เจ้าฉลาดมาก”

นักบุญเจฟชูสองมือพร้อมร้อง “กำแพงพสุธา”

ทันใดพื้นที่เซน่ายืนอยู่ก็เกิดเป็นกำแพงดินขึ้นพุ่งขึ้นถึงหกเมตร กำแพงมีความหนาพอจะให้เซน่ายืนอยู่บนกำแพงได้

ตอนนี้เซน่ายืนอยู่บนกำแพงดินแล้ว ตัวนางติดกับกระจกด้านบนของห้องโถง

หน้าต่างแม้เป็นกระจกสีรุ้งแต่เมื่อทาบหน้าติดกับกระจกก็พอจะเห็นเหตุการณ์ด้านในห้องโถงได้ เซน่าสังเกตการณ์อยู่ครู่หนึ่งก็พบว่าแม่ทัพไลบัลโกถูกพายุของชายชุดดำม้วนร่างเข้าไปและปล่อยลงสู่พื้นจนพ่ายแพ้ เซน่าเห็นชายชุดดำจ้องมองไปที่ฟินเดล

เซน่าไม่เคยเห็นฟินเดลมาก่อน แต่ดูจากใบหน้าและการแต่งกายอันสูงสง่า เซน่าก็คาดเดาออกได้ไม่ยาก

“หากฟินเดลตายก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้า แต่หากฟินเดลรอด ข้าก็มีโอกาสอยู่ในพระราชวังนี้”

เซน่าใช้โอกาสที่ชายชุดดำไม่ทันระวัง ตัดสินใจทลายหน้าต่างกระจกเข้าไปหมายสังหารมันในดาบเดียว

นี่คือแผนการของเซน่า !

 

น่าเสียดายที่ดาบของเซน่าที่แทงใส่ชายชุดดำโดยมันไม่ทันระวังนั้นพลาดผิดไป ทำให้นางตกอยู่ในความลำบากทันที

ฟินเดลถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”

“เซน่า” ลินเดียร์ร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงยินดี

ฟินเดลถามว่า “เจ้ารู้จักกันหรือ?”

ลินเดียร์พยักหน้า จากนั้นกล่าวว่า “นางเป็นผู้คุ้มกันของหม่อมฉัน ฝีมือดาบของนางเหนือกว่าทหารทั้งปวงในบ้านหม่อมฉัน”

ฟินเดลจ้องมองเซน่า เห็นสตรีผมยาวดำนางนี้งดงามอย่างยิ่ง แต่แววตากลับอำมหิตไม่ต่างจากชายชุดดำ ชั่วชีวิตเขาไม่เคยพบสตรีเช่นนี้มาก่อน

เซน่าถามฟินเดลว่า

“อาวุธของเจ้าเล่า?”

เซน่าต้องการทราบว่าดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอสอยู่ที่ใด

ฟินเดลตอบว่า “ข้าไม่ได้พกอาวุธ”

เซน่ากล่าวว่า “เจ้าเป็นกษัตริย์ทำไมประมาทเช่นนี้”

ฟินเดลงงไปพักหนึ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ใดกล้าตำหนิราชาอย่างเขา จึงกล่าวว่า “นี่เป็นพิธีเลือกคู่ ผู้ใดจะพกอาวุธกัน”

ชายชุดดำซึ่งลอยอยู่กลางอากาศพิโรธยิ่ง สตรีนามเซน่านางนี้กล่าวคุยกับฟินเดลราวกับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา มันตวัดกริชแห่งความเกลียดชังออก ทันใดนั้นเกิดกระแสลมพายุขึ้นทั่วห้องโถง ได้ยินเสียงดังเพล้ง กระจกรอบห้องโถงก็แตกออก เศษกระจกนับร้อยนับพันชิ้นพลันพุ่งตรงใส่เซน่า !!

 

------------------------

เซน่าจะรอดจากเวทของชายชุดดำได้อย่างไร ? นางจะเอายังไงต่อ? โปรดติดตามตอนต่อไปสนุก อลังการยิ่งกว่านี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด