58. เพิ่มจังหวะในการเติบโต (2)
58. เพิ่มจังหวะในการเติบโต (2)
ยูเนียนลิซาร์ดแมนไม่ได้เป็นบอสลับ 100% แน่ๆในเวลานี้
บอสจะปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เอาชนะมอนเตอร์ทั้งหมดแล้ว.
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าโอกาสดรอปนั้นสูงขึ้น.
สิ่งที่ผมต้องการคือ ถุงมือฟันดาบ(Gauntlet-อ่านว่ากันเล็ท).
มันเหมือนกับเกล็ดของลิซาร์ดแมน มันเป็นอุปกรณ์ป้องกันที่น่าทึ่งอย่างมาก.
โดยเพิ่มความต้านทานเวทย์ถึง 20%.
อย่างไรก็ตามแม้ว่ามันจะมีโอกาสดรอปสูงกับบอสลับ แต่มันก็ไม่ได้ปรากฏทุกครั้งที่เข้าดันเจี้ยน.
เฉพาะผู้ที่อยู่แรงค์สูงๆเท่านั้นที่จะสามารถเครียร์ดันเจี้ยนได้หรือไม่ก็ต้องแบ่งกับปาร์ตี้.
เซ็ทลิซคิง เพิ่มความต้านทานเวทย์ 20% และ ต้านทานกายภาพ 20%.
เมื่อเปรียบเทียบกับ ถุงมิอฝันดาบ มันเพิ่มแค่ความต้านทานเวทย์ 20% เพียงเท่านั้น.
แม้ว่ามันจะดรอปจากดันเจี้ยนเลเวล 28 แต่มันก็ต่ำกว่าอุปกรณ์ที่ดรอปจากชั้นที่ 23.
อย่างไรก็ตามลิซคิงเป็นบอสลับ มันไม่อาจเทียบได้กับความสามารถของยูเนียนลิซาร์ดแมนในการป้องกันกายภาพและเวทย์มนตร์.
ในแรงค์ต่ำๆคือลิซคิงที่มีความแข็งแกร่งไม่เท่ากับยูเนียนลิซาร์ดแมน.
ยิ่งดันเจี้ยนเลเวลสูงขึ้น ค่าExpและความสามารถของมอนเตอร์ก็สูงตาม รวมทั้งอุปกรณ์ก็ยังดีกว่าบอสดันเจี้ยนปกติที่ไม่ใช่บอสลับ.
ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงบอส ราวกับว่ามันเป็นเสียงของกระดูกที่กระทบกัน.
“….”
พอมันทำอย่างนั้นมันทำราวกับว่าผมเป็นคนโง่.
มันฟังเหมือนกับหม้อที่เต็มไปด้วยแมลงสาบที่กำลังสู้กันเพื่อแย่งอาหาร.
แมลงดูเหมือนจะอ่อนแอต่อไฟและไฟฟ้า.
อย่างไรก็ตามด้วยการโจมคีของกราวิตี้ฟิลที่มีคุณสมบัติของน้ำแข็งซึ่งทำให้พวกมันช้าลงโดยไม่ก่อดาเมตใดๆกับพวกมัน.(หากจำไม่ได้บอสตัวนี้เกิดจากแมลงหลายๆตัวมารวมเป็นยูเนียนลิซาร์ดแมนครับ)
พวกมันเป็นเหมือยแมลงสาบที่สามารถอยู่ได้ทุกสภาวะของโลก.
ผมยกมือขึ้นและปล่อยเมเทโอลงมา.
ตั้งแต่ที่แก่นแท้ของผมคือเติบโต(อัพเวลไวๆ) ผมต้องจัดการมันอย่างรวดเร็ว.
เมเทโอกระแทกไปที่ร่างของมัน
อาวุธและเกราะที่อยู่ท่ามกลางฝูงแมลงก็ปลิวออกมา
ถ้าผมมีเวลามากกว่านี้ ผมอาจจะทำให้มันเป็นรูปร่างต่างๆได้
ผมต้องทำลายทีละเซล์ออกจากกันด้วยเวทย์มนต์ก่อนที่มันจะเริ่มงอกใหม่
ผมวิ่งยังพื้นที่ๆเมเทโอตกลง.
ผมไปถึงศูนย์กลางและปล่อยไฟซ็อค
แมลงที่อยู่แทบเท้าของผมก็ถูกไฟและมีเสียงดังตามมาอย่างต่อเนื่องขณะที่ผมวิ่งไปตามทาง.
แมลงช่างอ่อนแอ
พวกมันถูกบี้ราวกับเป็นไข่ มันราวกับว่าไม่ใช่มอนเตอร์
แต่เมื่อพวกมันรวมกลุ่มกัน ด้วยความสามารถในการทำงานร่วมกันของพวกมันทำให้มีพลังและมีความสามารถในการป้องกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกมันถึงต้องถูกทำลายด้วยเวทย์ที่ทรงพลัง นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวที่จะโจมตีพวกมันอย่างรุนแรง
ภายในรัศมี 15 เมตรรอบๆถูกย้อมด้วยเปลวไฟสีแดง.
ไฟช็อคที่ผมร่าย มันมีเลเวลถึง 200.
เปลวเพลิงไม่เพียงแผดเผาแมลงเหล่านั้น แม้กระทั่งเกราะและอาวุธก็ถูกหลอมด้วยเหมือนกัน
ทั้งหมดที่อยู่ในบริเวณนั้นได้มอดมลายหายไปราวกับว่าพวกมันไม่เคยมีอยู่
ตอนนั้นเอง.
“คุรุรุรุร.”
“ให้เดานะ แกอยากจะโดนอีกสักรอบ?”
แมลงที่กระแทกปลิวไปได้กลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง แต่มีขนาดเพียงครึ่งเดียวของขนาดเดิม.
ผมอยากจะใช้ไอซ์เบิร์กจริงๆ
แต่ความต้านทานของพวกมันต่อเวทย์มนต์สูง ดังนั้นผมจึงไม่อาจทำความเสียหายได้มากนัก
เพื่อให้เกิดความเสียหายได้อย่างเต็มที่ ผมต้องทำให้มันกระจายออกจากกัน แต่ว่าไอซ์เบิร์กไม่อาจทำอย่างนั้นได้
ต้องขอบคุณ ที่เวทย์เมเทโอ ที่มีเวลาคูลดาวน์และร่ายเพียง 1 นาที.
ดังนั้นมันจึงต้องใช้เวลา 2 นาทีในการใช้เมเทโอได้อีกรอบ
แม้ว่าเมเทโอจะทำลายแมลงได้อย่างมากแต่มันก็ทำให้ผมได้รับค่าทักษะเพียงแค่อย่างเดียว
ถ้าผมร่ายเมเทโอผิดสักครั้งด้วยค่าทักษะขนาดนี้ เท่ากับว่าผมต้องร่ายเวทย์อื่นๆกว่า 200 ครั้งเลยทีเดียว.
ต้องขอบคุณเมเทโอที่ทำให้มันถูกทำลายได้อย่างสมบรูณ์
หินแรงค์ A ที่ใหญ่โตปรากฏขึ้น
เนื่องจากมันไม่ใช่บอสลับ มันเลยไม่ได้มีหนังสือทักษะ
อย่างไรก็ตาม…
“มันดรอปไอ้นี้ด้วยเรอะ?”
ผมมองไปที่ถุงมือฟันดาบที่ส่องแสงราวกับบลัดสโตน
มันส่องแสงราวกับหยก
แต่มันก็เหมือนกับมีสีรุ้งที่ส่องออกมาน้อยๆ
แม้ว่าจะไม่มีความสามารถในการป้องกันเหมือนกับถุงมือฟันดาบ แต่มันก็เหมือนกับงานศิลปะ
ผมหยุดตัวเองไม่ให้ชื่นชมนานเกินไป และสวมใส่ถุงมือฟันดาบ
มันไม่เหมือนกับที่เห็นจากรูปลักษณ์ภายนอก มันขยายขนาดตามร่างกายได้อย่างไม่มีปัญหา
ผมดูมันจากหน้าต่างสถานะ
*ต้านทานกายภาพทั้งหมดเพิ่มขึ้น 40%.
*ต้านทานเวทย์ทั้งหมดเพิ่มขึ้น 55%.
“หืม?”
มันควรจะเพิ่มขึ้นจนถึง 60%.
หายไปไหน 5%.
“อ่า พวกมันมีการแยกเกรดงั้นหรอ?”
หมวกและเกราะของลิซคิงได้มาจากการเอาชนะลิซคิงที่มีแสงสีแดง ดังนั้นไอเทมนั้นจึงมีสถานะสูงสุดสำหรับเกรียร์.
ด้วยการถอนหายใจ ผมนั่งลงเพื่อที่จะดึงถุงมือให้กระชับขึ้นและเตรียมที่ใช้มัน
หากเป็นอเวคคนอื่นๆอาจจะใช้เวลาในการเครียร์ดันเจี้ยนประมาณ 3-4 ครั้งต่อวัน แม้ว่าจะเปิดดันเจี้ยนจะเปิดเพียงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่เข้าไป.
ถ้าเหล่าอเวคร้อยกว่าคนล่าตลอด 10 ชั่วโมง มันก็ทำได้แค่เพียงล่าได้แค่ 10 ครั้งเท่านั้น
อย่างไรก็ตามที่มันนานกว่านั้น หมายความว่าใช้เวลานานมากในการฟื้นฟูมานา.
ไม่เหมือนพวกเขา ผมสามารถเครียร์ได้ภายใน 40 นาทีและยังคงเครียร์ได้เรื่อยๆโดยไม่ต้องพัก
ต้องขอบคุณที่ทำให้ทักษะของผมเพิ่มขึ้น ตอนนี้ผมต้องการแก่นแเวคเท่านั้น
ขณะที่ถุงมือดรอปอีกครั้ง ผมจะเอามันไปขายและเปลี่ยนมันเป็นแก่นอเวคที่มันไม่อาจหาซื้อได้.
หากระดับของมันมากกว่าขั้นนึง แน่นอนว่าผมจะเอาไปใส่เอง
ล่า,เติบโต,และหาเกียร์ ก็สามารถทำด้วยกันได้
มันไม่ได้ใช้เวลานานหลังจากที่ผมมาถึงประตูดันเจี้ยนพร้อมกับเป้ของผมที่เต็มไปด้วยของจากการวิ่งรอกได้.
มันเป็นเรื่องน่ารำคาญ แต่ผมได้ร่ายไซเรนและเสตลก่อนที่จะออกไปข้างนอก
แมลงที่น่ารำคาญอาจจะรออยู่ด้านนอกด้วย
* * * *
เนื่องจากผมวิ่งรอกอยู่ด้านใน อเวคคนอื่นๆที่อยู่ด้านนอกอาจจะรออยู่ก็ได้ ผมจึงทำตัวให้เล็กที่สุดโดยที่ไม่ต้องการเป็นที่สังเกตของพวกเขา
ผิดปกติ มันยังคงเงียบแม้กระทั่งอยู่ด้านนอก
เกือบจะเหมือนว่าทางออกของดันเจี้ยนได้พาผมออกมาที่อื่นโดยสิ้นเชิง
“… อะไรวะ? ทุกคนไปไหนหมด?”
มีอเวคประมาณ 100 คนที่นี่ก่อนหน้านี้
แต่เพียง 40 นาทีสำหรับการเครียร์ดันเจี้ยน มันจึงเหลือไม่ถึงครึ่งเท่านั้น
และอเวคที่เหลือก็มีการพูดคุยเล็กน้อย เช่นกำลังหาโทรศัพท์ของเขา ด้วยท่าทีจริงจัง.
ตอนนั้นเอง.
โทรศัพท์ที่ไม่ได้ถูกโทรมานานหลังจากที่มีการรบกวนจากในดันเจี้ยนก็สั่นอีกครั้ง
มีสายที่ไม่ได้รับและข้อความด้วยเหมือนกัน
มันสั่นประมาณ 20 ครั้งก่อนที่จะหยุดลง
“หะ? มันไม่ควรที่จะมีคนโทรมาหาฉันมากขนาดนี้นี่…”
มือของผมไปจับที่โทรศัพท์
เมื่อตรวจพบข้อความ ผมก็รู้สึกว่ามีอะไรที่ใหญ่ๆกดทับมาที่ผม
ข้อความมันบอกอย่างนี้
-สถานการณ์ฉุกเฉิน-
เวลาตอนนี้ 21:32.
บริเวณหาดของเกาะบุงบุส ที่ฮวาซ็อง มีพอร์ทัลเลเวล 29 ระเบิดขึ้น.
ผู้พักที่อาศัยอยู่ใกล้ๆให้เข้าไปที่อาคารสมาคมที่ใกล้ที่สุด
นักเวทย์ทุกคนมารวมตัวกันในพื้นที่ที่กำหนด
ที่อยู่: ฮวาช็องชี่, จังจีแด….
“….”
พอร์ทัลเลเวล 29 และสูงกว่านี้ไม่เคยระเบิดขึ้นจนถึงทุกวันนี้.
พอร์ทัลทั้งหมดที่เคยระเบิดมีเพียง แค่เลเวล 28 เท่านั้น แต่ในข้อความนี้ เลเวล 29 ได้ระเบิดขึ้น.
‘มันเกิดแผ่นดินไหวไหมนะ หลังจากที่พอร์ทัลเลเวล 29 ระเบิดขึ้น?’
พอร์ทัลเลเวล 29 ต้องมีอเวคเลเวล 300-400 กว่า 100 คนเพื่อที่จะเครียร์มันได้
และเนื่องจากการโจมตีกายภาพไม่อาจทำอะไรมันได้ จึงมีแต่นักเวทย์เท่านั้นที่มารวมพล
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมนุษย์ยังคงสามารถจัดการกับพอร์ทัลขนาดนี้ได้ มันไม่ควรเกิดความเสียหายที่รุนแรงมากนักก่อนที่มันจะถูกเครียร์.
ถ้าเป็นอดีตก่อนหน้านี้ ผมคงจะวิ่งหนีไปแล้ว
พอร์ทัลเลเวล 29 ที่ระเบิดออกมามันต้องมีผลตอบแทนมหาศาลแน่ๆ
อย่างไรก็ตามเงินไม่ได้สำคัญกับผมในตอนนี้
และพื้นที่แถวนั้นอยู่ห่างไกลจากที่ผมอาศัยอยู่
โอกาสที่จะมีความเสีบหายเกิดขึ้นนั้นมีน้อยมาก
“หวังว่าพวกเขาจะสามารถดูแลสิ่งเหล่านี้ได้ งั้นก็ไปออกล่ากันเถอะ!”
-คลิก.
-ปิ๊บ.
* * * *
ด้านหน้าหาดของเกาะบุงบุส จังหวัด ฮวาซ็อง
มีวาปเกตนับไม่ถ้วนกระพริบออกมา
จากการตอบรับของสมาคม คนที่มาเหล่านี้เป็นนักเวทย์
เนื่องจากการใช้วาปเกตทำให้คุณต้องระบุจุดหมายปลายทางและต้องเคยมาก่อนหน้านี้ มันจึงมีรถจำนวนมากที่เข้ามาเนื่องจากมีหลายคนไม่เคยมาแถวนี้มาก่อน.
เนื่องจากการระเบิดของพอร์ทัลได้รับการตรวจพบแล้วในช่วงต้น มอนเตอร์ยังไม่ได้ข้ามน้ำมา
อเวคที่มีเลเวลสูง 100 กว่าคนได้แสดงตัวออกมาแล้ว
เนื่องจากว่ามีรางวัลใหญ่ให้หรอ?
ไม่เลย ถ้าเป็นอเวคที่มีพลังมากพอที่จะเครียร์ดันเจี้ยนในพื้นที่แถวนี้ มันมีประโยชน์มากที่จะเครียร์ดันเจี้ยนแทนที่จะแสดงตัวเพื่อเงินเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างนี้.
เหตุผลที่พวกเขาแสดงตัวเนื่องจากกิลด์ของพวกเขาด้วย
หากต้องการเครียร์ดันเจี้ยนเลเวลสูง หรือ เข้าร่วมปาร์ตี้กับกลุ่มระดับสูง ทุกคนต้องมี กิลด์
กิลด์ไม่ได้มีส่วนร่วมในสิ่งต่างๆเสียส่วนใหญ่ แต่ยังคงอยู่ภายใต้รัฐบาลและสมาคม
มันเป็นกลุ่มที่สร้างจากอเวคที่แข็งแกร่ง
เห็นได้ชัดว่ามันจำเป็นต้องมีการจำกัดการดูแลผู้คน
กิลด์ที่มีสมาชิกกว่า 500 คนขึ้นไปต้องมีการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินระดับประเทศตามที่ได้รับคำร้องจากเจ้าหน้าที่.
มีเพียงระดับสูง แค่ 5% บนๆเท่านั้นที่พวกเขาจะต้องไปเชิญด้วยตัวเอง.
นี่คือเหตุผลที่กิลด์ระดับสูงๆถึงได้ให้คนออกมาเพียงแค่ 1% เท่านั้นที่ถูกส่งออกมา
สมาชิก 500 คน หมายความว่าต้องเป็นกิลด์ที่อยู่ระดับ 4 กลางๆ.
สมาชิกจำนวนมากไม่ได้ให้ผลดีเสมอไป
แต่ละคนก็ยังคงบ่น
“วู้ ฉันคิดว่าในที่สุดฉันก็สงบลง.”
“ช่าย ตอนนี้พอร์ทัลเลเวล 29 ดันระเบิดออกมาโดยที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน.”
“…. ฉันไม่อยากจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว”
มันกินเวลาเพียงชั่วครู่
เส้นขอบฟ้าดูราวกับเต็มไปด้วยแสงสีดำ
มีฝูงสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ปรากฏออกมาตามเส้นขอบฟ้า.
ท้องฟ้ามืดไปนานแล้ว
ที่พวกเขาเห็นโดยอาศัยจากแสงจันทร์เท่านั้น
ทหารยิงพลุไฟขึ้นบนท้องฟ้า
พื้นที่ที่ยิงออกไปมองเห็นได้เป็นจุดและเต็มไปด้วยอเวคที่ยืนอยู่รอบๆ แสงไฟตามบ้านและมวลพลังงานก็กลายเป็นระลอกคลื่นมากยิ่งขึ้น.
ไกลออกไปยังฝั่งตรงข้าม มีมอนเตอร์ที่สามารถเห็นได้ง่ายกว่า 5 เมตร
จากลำตัวของมันมีปีกทั้งสองข้างที่กำลังกระพือขึ้นลง.
มันมีกว่า 500 ตัว มันเป็นภาพที่น่ากลัวอย่างมาก
ชายคนหนึ่งในกลุ่มตะโกนขึ้น
มองไปหัวที่ล้านเลียนของชายคนนั้น มันดูราวกับว่าหัวของเขากำลังเปล่งแสงออกมา
“แกไม่ควรจะกลัวสิ่งเหล่านี้!”