ตอนที่แล้วทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 37
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 39

ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 38


ตอนที่ 38

การปรากฏตัวของทั้งสามคนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการแข่งขัน หลี่หมิงเจิ้งยืนอยู่ตรงกลางสนาม มือขวายกบอล ขณะที่เป่านกหวีดก็โยนบอลขึ้นสูง เนื่องจากสภาพร่างกายและอายุ เซ็นเตอร์เบอร์สามของทีมชุมชนไม่คิดแม้แต่จะกระโดดขึ้นแย่งบอล ปล่อยให้ไมค์คว้าบอลไปข้างหลัง

จันเจี๋ยเฉิงรับบอลได้ที่แดนหลัง รีบส่งบอลขึ้นไปยังแดนหน้า เดิมทีแล้วผู้เล่นทีมชุมชนค่อยๆ เดินกลับเตรียมพร้อมหลบหนีจากการป้องกัน พอเห็นการส่งบอลของจันเจี๋ยเฉิง รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง จึงรีบก้าวเท้าเร็วขึ้น แต่มันช้าเกินไป เว่ยอี้ฝานรีบตามบอลดั่งสายฟ้า ก้าวเท้าเลย์อัพทำคะแนน

 

“วัยรุ่นนี้มันดีจริงๆ วิ่งก็เร็วแถมยังกล้ารุกอีก” การแข่งขันเริ่มไม่ถึงห้าวินาทีทีมชุมชนถูกนำคะแนนไปก่อน แต่พวกเขากลับไม่ได้ใส่ใจอะไร พอยต์การ์ดเบอร์ยี่สิบห้าค่อยๆ เลี้ยงบอลมาถึงแดนหน้า เห็นพื้นที่สองสามของกวงเป่ยป้องกันไว้อยู่ มือซ้ายเลี้ยงบอล มือขวาทำสัญญาณมือว่าสาม

หลังจากได้รับสัญญาณจากพอยต์การ์ดแล้ว ผู้เล่นสี่คนรีบขยับตัวทันที เซ็นเตอร์ขึ้นหน้ามายังตำแหน่งเส้นโยนโทษ พอยต์การ์ดส่งบอลสูงข้ามไป ให้ทางเซ็นเตอร์เป็นศูนย์ประสานงาน

หลังจากที่พอยต์การ์ดส่งบอลแล้วรีบอ้อมไปซุ่มที่มุมด้านล่างขวา ซู้ตติ้งการ์ดเบอร์สี่สิบห้าก็วิ่งไปยังมุมด้านล่างซ้ายภายใต้การสกรีนของพาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดเบอร์สามสิบหก หลังจากที่การ์ดทั้งสองคนวิ่งไปยังมุมด้านล่างแล้ว เซ็นเตอร์ส่งบอลให้พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ด หมุนตัวเดินไปใต้ห่วง บล็อกให้ไมค์อยู่ด้านหลัง ยื่นมือขอบอล หยางเจินอี้กลัวว่าไมค์จะถูกเซ็ตซ็อต จึงฉวยโอกาสช่วงที่บอลยังไม่ส่งถึงมือของเซ็นเตอร์เข้าไปช่วยป้องกันไว้ แต่ในขณะนั้นไม่ได้สังเกตเห็นว่าชู้ตติ้งการ์ดที่อยู่ตรงด้านมุมล่างซ้ายวิ่งตัดเข้าไปยังเส้นหลัง

พาวเวอร์ฟอร์เวิร์ดส่งบอลระดับพื้นง่ายๆ ให้กับชู้ตติ้งการ์ด เมื่อหยางเจินอี้สังเกตเห็นก็ไม่ทันแล้ว กลยุทธ์เปิดด้านหลัง ชู้ตติ้งการ์ดเล่นได้คะแนนอย่างสบาย

คะแนนสองต่อสอง

หยางเจินอี้ตบหน้าอก บอกให้เพื่อนร่วมทีมรู้ว่าเป็นความผิดของตนเอง “ขอโทษ” หยางเจินอี้ถือบอลเดินไปยังนอกเส้นหลัง ส่งบอลให้กับจันเจี๋ยเฉิง

จันเจี๋ยเฉิงได้บอล ค่อยๆ เลี้ยงบอลไปแดนหน้า มองดูผู้เล่นทีมชุมชนที่ป้องกันตัวเขาไว้ ก้มตัวลง โน้มตัวลงต่ำตัดไปทางขวา แค่ย้ำเท้าเดียวก็ดริบเบอลิ้งจากตัวป้องกันได้แล้ว จึงเหวี่ยงมือขวาที่เลี้ยงบอล ส่งบอลต่อให้หลี่กวงเย่า คนอื่นไม่ได้รุกเข้ามา จากนั้นส่งบอลสูงไปให้ไมค์

เมื่อไมค์ได้บอล ก็ท่องออกมา “ได้บอลตรงจุดโทษ ไม่ควรวางบอลให้ต่ำกว่าตำแหน่งเอวลงไป ไม่เช่นนั้นจะถูกการ์ดมือไวแย่งบอลไปได้ รักษาบอลไว้ให้ดี ใช้ประโยชน์ของเซ็นเตอร์ที่อยู่ตำแหน่งตรงกลางของสนาม มองดูเพื่อนร่วมทีมซ้ายขวาทั้งสองข้างว่าวิ่งออกมามีที่ว่างหรือเปล่าหรือมีโอกาสได้ทำคะแนนง่ายๆ จากด้านหลังหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็ต้องพิจารณาว่าข้อได้เปรียบของการรุกเราอยู่ตรงไหน ถ้าเร็ว ก็ตัดเข้าได้เลย หรือว่าส่วนสูงสูงกว่าผู้เล่นที่ป้องกัน ก็ต้องเล่นสูง หรือดึงบอลกลับมาแล้วจัมพ์ซ็อต”

เมื่อไมค์ตัดสินใจใช้ข้อได้เปรียบของความสูงที่สูงกว่าเกือบสิบเซนติเมตรเล่นเข้าในเขตจุดโทษนั้น บอลที่อยู่ในมือกลับถูกสมอลฟอร์เวิร์ดแย่งไป แต่เป็นเพราะหลี่กวงเย่ากับจันเจี๋ยเฉิงกลับมาป้องกันได้ทัน ทำให้ทีมชุมชนรุกเร็วได้ลำบาก

เย่อวี้เฉิงที่ดูบอลอยู่ข้างสนามส่ายหน้า หุบยิ้ม “จริงๆ เลยไมค์ ทำไมถึงได้พูดความคิดที่อยู่ในใจออกมาซะหมดเลย”

คณบดีที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบอธิบาย “ตั้งแต่เล็กๆ ไมค์ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เวลาที่รู้สึกตื่นเต้นจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว”

ในน้ำเสียงของเย่อวี้เฉิงไม่ได้ตำหนิเลยสักนิด “ผมเข้าใจครับ ไมค์ก็อยากจะทำออกมาให้ดี อีกอย่างเขาเพิ่งเริ่มเล่นบาสเกตบอลได้ไม่นาน ดังนั้นอยู่ในสนามถึงได้ตื่นเต้น”

หยางเสียงอิงหัวเราะ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร สายตาจดจ้องอยู่กับการเล่นของหยางเจินอี้ตลอดเวลา

ผู้เล่นของกวงเป่ยทั้งสี่คนที่อยู่ในสนามก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายกับความผิดพลาดของไมค์ แต่ไมค์กลับหน้าเครียด เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกรังแกมาเป็นเวลานาน แค่ทำอะไรผิดพลาดไมค์ก็มักจะรู้สึกอ่อนไหวเป็นพิเศษ เพราะใน

ใจของเขามีเสียงหนึ่งที่พูดกับเขาตลอดเวลาว่า “อย่าผิดพลาดโดยเด็ดขาด ถ้าผิดพลาดคนที่อยู่ข้างนายจะต้องด่าว่านาย หัวเราะเยาะนาย ประชดนาย รังแกนาย บีบบังคับนาย”

ถึงแม้ว่าหลังจากที่เจอหลี่กวงเย่าแล้วเสียงนี้ค่อยๆ หายไป ขณะที่ฝึกซ้อมกับทีม เนื่องจากค่อยๆ คุ้นเคยกับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้นจึงไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่ตอนนี้เขากำลังเล่นบอลกับกลุ่มคนที่ไม่รู้จัก ทำให้เสียงนี้หาโอกาสเริ่มรุกจิตใจที่เปราะบางของไมค์อีกครั้ง

ข้างสนาม กลับมีเสียงหนึ่งที่กลบเสียงเยาะเย้ยในใจของไมค์ลง “ไมค์ อย่าไปใส่ใจ สู้ๆ รักษาบอลลูกนี่ไว้!” ไมค์มองไปนอกสนาม เซี่ยหย่าซูกำลังยกนิ้วโป้งชูมาที่เขา

แต่ในการป้องกันครั้งนี้ไมค์กลับไม่มีโอกาสได้ชดเชย ทีมชุมชนอาศัยความเร็วในการส่งบอลกับการสกรีนหาโอกาส ทำอีกสองคะแนนจากจัมพ์ช็อต คะแนนขยับมาเป็นสี่ต่อสอง

จันเจี๋ยเฉิงคว้าบอลที่ยังเด้งอยู่ที่พื้นขึ้นมา เท้าหนึ่งเหยียบด้านนอกเส้นหลัง ใช้แรงเหวี่ยงบอลไปยังแดนหน้า ทีมชุมชนกลับมาป้องกันไม่ทัน หยางเจินอี้รับบอลได้ในเส้นสามคะแนนของแดนหน้า ไม่ต้องเลี้ยงบอล ก้าวสองก้าวเลย์อัพทำคะแนน

คะแนนสี่ต่อสี่ การรุกทั้งสองครั้งของกวงเป่ยได้คะแนนจากการรุกเร็ว

หยางเสียงอิงพยักหน้าชื่นชม “การ์ดส่งบอลด้านหลังคนนั้นเก่งมาก สองครั้งที่เลี้ยงบอลทำได้ดี ให้คนที่วิ่งรุกรับบอลได้แล้วสามารถชู้ตลงห่วงได้เลย”

“เขาคือจันเจี๋ยเฉิง แม้แต่หลี่หมิงเจิ้งยังบอกว่าเขาเป็นพอยต์การ์ดที่หาได้ยาก ข้อด้อยก็คือความแข็งแรงของร่างกายแย่มาก ลูกชู้ตของเจินอี้เมื่อกี้ก็สวยมาก รวดเร็ว” เย่อวี่เฉิงฉวยโอกาสนี้ชื่นชมหยางเจินอี้ เพราะเงินทุนของทีมบาสเกตบอลจำนวนหนึ่งต้องการความช่วยเหลือจากประธานสมาคมผู้ปกครองที่สถานะทางสังคมสูงท่านนี้ ดังนั้นจึงใช้โอกาสที่หยางเจินอี้เล่นได้ดี ทำให้หยางเสียงอิงภาคภูมิใจในฐานะพ่อนั้นจึงถือว่าเป็นสิ่งสมควร ก่อนหน้านี้ที่รับตำแหน่งผู้อำนวยการหลายๆ โรงเรียน เย่อวี้เฉิงใช้เคล็ดลับนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับผู้ปกครองของนักเรียนหรือเมื่อเปิดการประชุมกับผู้ปกครองก็ล้วนแต่ได้ผล

เหนือสิ่งที่เย่อวี้เฉิงคาดคิดคือ เคล็ดลับที่สำเร็จมาร้อยต่อร้อยครั้งนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหยางเสียงอิง หยางเสียงอิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ไม่ได้ระดับนี้ การเล่นบาสเกตบอลก็เป็นเรื่องเสียเวลาเท่านั้น” หลังจากคำพูดคมคายนั้นออกไป “หลี่กวงเย่าเบอร์ยี่สิบสี่คนนั้น เป็นลูกหมิงเจิ้งใช่ไหม?”

“ใช่ครับ หน้าคล้ายๆ กันใช่ไหม เหมือนกับหลี่หมิงเจิ้งสมัยวัยรุ่น ถอดแบบกันมาเป๊ะเลย” เย่อวี้เฉิงพูด แต่หยางเสียงอิงกลับส่ายหน้า “ที่ผมดูออกว่าเขาเป็นลูกชายหมิงเจิ้ง ไม่ใช่เพราะหน้าตา แต่เป็นเพราะความรู้สึกที่เขาส่งให้คนในสนาม”

หลี่อวินเสียงพูดแทรกทันที “คุณหยาง จากที่คุณสังเกต ผู้เล่นกวงเป่ยที่อยู่ในสนามมีคนที่คล้ายกับผู้อำนวยการเย่ในสมัยที่เล่นบอลบ้างไหม?”

หยางเสียงอิงไม่ต้องคิด “ผู้อำนวยการเย่ในสมัยนั้นถ้าอยู่ในกวงเป่ยตอนนี้ เป็นได้เพียงตัวสำรอง”

เย่อวี้เฉิงถึงกับเหงื่อตก จู่ๆ ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตอนนั้นเขาพยายามพูดให้ตายยังไงหยางเสียงอิงก็ไม่ยอมให้หยางเจินอี้เข้าร่วมทีมบาสเกตบอล แต่หลี่หมิงเจิ้งกลับทำงานนี้ได้อย่างง่ายดาย ที่จริงแล้วไม่ใช่เพราะคำพูดของหลี่หมิงเจิ้งดีกว่า แต่เป็นเพราะความสนใจของหยางเสียงอิงกับหลี่หมิงเจิ้งเหมือนกัน

--------------------------------------------------------------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด