ตอนที่ 38 หน่วยลับ
หอคอยมังกรดาราคือสถานที่ลับสุดยอดที่สำนักงานใหญ่ของแผนก13ตั้งอยู่ ภายในหอคอยราวกับเขาวงกต หานเซี่ยวเดินตามเฟิง จุนเดินผ่านอุโมงค์อยู่ครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงสำนักงานใหญ่ ครั้งนี้ เขาไม่ได้ถูกปิดตา
“มันซับซ้อนจริงๆ”หานเซี่ยวบ่น
“นั่นทำให้มันปลอดภัย”เฟิง จุนตอบขณะรูดบัตรผ่านเพื่อปลดล็อกประตูอัตโนมัติ
หานเซี่ยวก้าวผ่านประตูไปในห้องโถงกว้างและเต็มไปด้วยผู้คน สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือแม้มันจะอยู่ใต้ดิน สำนักงานใหญ่แผนก13ก็ยังเต็มไปด้วยแสงสว่างและอากาศที่ถ่ายเทได้ดี
เฟิง จุนส่งบัตรผ่านให้เขาและหน้ากากปิดปาก
“การไม่เปิดเผยใบหน้าย่อมดีกว่า สวมนี่ไว้”
หานเซี่ยวกำลังจะสวมมันแต่ก็สังเกตเห็นภาพของนักเพาะกายพิมพ์อยู่ เขาขมวดคิ้วและหันไปเห็นเฟิง จุนกำลังกลั้นเสียงหัวเราะ
“มองผมทำไม?รีบสวมมันเร็วเข้า!”
“ฮึม”
หานเซี่ยวกระชากแขนของเฟิงจุนเพื่อฉีกแขนเสื้อเขา
“สิ่งนี้เหมาะกับคุณมากกว่า”เขากล่าวขณะนำเศษผ้ามาผูกบนใบหน้าและโยนหน้ากากกลับให้เฟิงจุน
เฟิง จุนเกือบร้องไห้
“นี่เป็นชุดเครื่องแบบใหม่ของฉัน...”
ทันใดนั้น หานเซี่ยวก็รับรู้ถึงสายตาที่จ้องมองเขา เขากวาดตาเพื่อมองหาชายหนุ่มหน้าแปลกในชุดคลุมขาวที่จ้องเขาอย่างชิงชัง
“เขาโกรธอะไร?”หานเซี่ยวถามอย่างสับสน
เฟิงจุนหัวเราะอย่างขมขื่น
“เขา...ช่างเถอะ”
ลั่วซวนไม่เคยเห็นหน้าของหานเซี่ยวมาก่อน แต่เขารู้ว่าคนที่ยืนข้างเฟิงจุนต้องเป็นเขา
...
แผนกปฏิบัติการลับมีทั้งชั้นเป็นของพวกเขา มันเห็นได้ชัดว่ามีจำนวนคนน้อยกว่าแผนกอื่น
เฟิงจุนพาหานเซี่ยวไปห้องประชุมก่อนเดินออกไป
หานเซี่ยวก้าวผ่านประตูและเห็นว่ามีคนสามคนกำลังนั่งอยู่ด้านใน พวกเขาไม่ใช่ใครนอกจากหลี่ ย่าหลิน แลมเบิร์ต และหลิน เหยา
“นายคือคนที่ผู้อำนวยการแผนกโลจิสติกส์มอบหมายให้เข้าร่วมทีมเราเป็นกรณีพิเศษ?”
หลี่ ย่าหลินลุกขึ้นยืน เดินวนรอบหานเซี่ยวขณะตรวจสอบเขา
หานเซี่ยวเลิกคิ้วขึ้น กรณีพิเศษ?แผนกโลจิสติกส์?ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นว่าหญิงสาวที่คุยกับเขาไม่ได้หุ่นเพรียวบาง แต่กลับสวยอย่างมาก ในหนังสือของหานเซี่ยว เธอสามารถเทียบเคียงกับฮีล่าได้ เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตกีฬาสีเหลืองบนชุดหนังดำ
“ผมชื่อหานเซี่ยว เป็นช่างกล”
หลิน เหยาผุดลุกขึ้นยืน กระแทกเก้าอี้ล้มลง
“ยะ-ยะ-ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อหลิน เหยา เป็นแฮ็คเกอร์ของทีม”เขาแนะนำตัวและยื่นมือออกมา
“ฉันเป็นมือปืน แลมเบิร์ต”แลมเบิร์ตแนะนำโดยไม่ลุกขึ้นยืน
หานเซี่ยวจับมือหลิน เหยาและพยักหน้าให้แลมเบิร์ต เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนจำพวกเงียบๆ
“เห้ ทำไมนายถึงสวมหน้ากากละ?”หลี่ ย่าหลินถามด้วยดวงตากลมโตขณะคิดดึงหน้ากากของหานเซี่ยวออก
หานเซี่ยวหลบทันที
“ทำไมต้องปิดบังใบหน้าด้วย!นายไม่เชื่อใจเรา?”หลี่ ย่าหลินถามอย่างไม่มีความสุข
“ตัวตนผมถือเป็นความลับสูงสุด”หานเซี่ยวตอบกลับ
แม้การได้รับมอบหมายจะหมายความว่าคนเหล่านี้เชื่อถือได้ แต่หานเซี่ยวก็ยังรู้สึกว่าการไม่เปิดเผยใบหน้าย่อมทำให้เขาหลีกเลี่ยงปัญหาได้ เขาสามารถจินตนาการถึงคำถามที่พวกเขามีหลังเห็นใบหน้าเขา...
“ไม่ใช่ว่านายอยากลี้ภัย?”
“ทำไมแผนก13ถึงต้องการนาย?”
“นายทำอะไรกับองค์กรต้นกำเนิด?”
คำถามทั้งหมดเป็นเรื่องน่าปวดหัว
นอกจากนี้ หานเซี่ยวยังไม่คิดอยู่ในแผนก13นานเกินไป
“ตัวตนของนายเป็นความลับ?รอเดี๋ยวนะ..”หลี่ ย่าหลินนึกได้ถึงบางสิ่งและกระโดดไปตรงหน้าหานเซี่ยว“งั้นนายก็คือคนที่ทำแขนกลน้ำหนักเบานั่น?”
หานเซี่ยวมองเธอ
“คุณรู้ได้ยังไง?!”
“ฮ่า ฮ่า!มันเป็นนายนี่เอง!”หลี่ ย่าหลินกระโดดอย่างตื่นเต้นก่อนโอบไหล่หานเซี่ยว“ทำให้ฉันสักอันสิ!”
ปากของหานเซี่ยวเม้มแน่น
“มันไม่ฟรีหรอกนะ”
หลี่ ย่าหลินหัวเราเสียงดังก่อนถามอย่างนุ่มนวล“ฉันมีส่วนลดไหม?”
“ไม่”
“คนขี้เหนียว”
“ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย”สาวงามคนนี้เป็นมิตรอย่างมาก นั่นทำให้เขาปวดหัว
“หลี่ ย่าหลิน ถนัดต่อสู้ระยะประชิด”เธอตอบอย่างไม่เต็มใจ
“งั้น กลุ่มเราก็มี4คน?”
“ไม่ ยังมีหัวหน้าเรา”
“เขาอยู่ไหนกัน?”
“เขาไม่อยู่ที่นี่ เขากำลังพักฟื้น”
“แม้กระทั่งหัวหน้ายังได้รับบาดเจ็บ งานของแผนกปฏิบัติการลับต้องอันตรายมากแน่ๆ”หานเซี่ยวกล่าว
ทั้งสามคนสบสายตากันอย่างอึดอัด
“หัวหน้าป่วยจากอาหารเป็นพิษนะ”หลิน เหยาอธิบาย
“…”
หาน เซี่ยวพูดไม่ออก
“แผนกปฏิบัติลับจะรับภารกิจความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ ทุกทีมจะมีสมาชิก4-7คน และนอกจากการทำภารกิจที่มอบหมายให้ลุล่วงแต่ละเดือน เราก็มีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ตามต้องการ”หลิน เหยาเริ่มอธิบายต่อ
“เจ้าหน้าที่หน่วยลับเป็นเหมือนพืชผล เราบางคนเช่นลุงแลมเบิร์ตได้รับการคัดเลือกมาจากองค์กรอื่น เขาถูกคัดเลือดมาจากหน่วยรบพิเศษ หน้าที่ของคุณคือฝ่ายสนับสนุน คุณจะรับผิดชอบด้านอุปกรณ์ กำหนดการ และการรวบรวมข้อมูลในระหว่างปฏิบัติการ คุณจะเป็นหูและตาให้เรา”
นั่นเยี่ยมมาก...หานเซี่ยวคิด แต่ฉันอยากล่าสัตว์ประหลาด!
อย่างไรก็ตาม เขาสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมแผนก13ถึงจัดงานเช่นนี้...พวกเขาไม่ต้องการนำทรัพย์สินมีค่าอย่างเขาให้ไปเผชิญอันตราย
ท้ายที่สุด หานเซี่ยวไม่เพียงแต่จะได้รับการคุ้มครอง แต่ยังมีช่องทางทำเงินอีกด้วย นั่นทำให้เขาพึงพอใจอย่างมาก
เหล่าช่างกลมักอ่อนแอเมื่อเทียบกับนักสู้หรือผู้ใช้พลังจิต ดังนั้นการสร้างจึงเป็นตัวได้รับค่าประสบการณ์ที่ง่ายกว่า
“ทีมของเรามีชื่อไหม?”หานเซี่ยวถาม
“ชื่อทีม?มันมีประโยชน์ยังไง?”หลี่ ย่าหลินยังคงไม่พอใจ
“นั่นก็จริง…”หานเซี่ยวพึมพำ
ทันใดนั้น หลินเหยาก็กล่าวแทรก”เราเพิ่งได้รับภารกิจให้ไปนำตัวแมงมุมดำ เห็นได้ชัดว่าเขายังคงซ่อนตัวในเมืองหลวงตะวันตก
หานเซี่ยวเลิกคิ้วขึ้น เวลาของภารกิจกะทันหันเกินไป มันอาจถูกมอบหมายโดยเจตนาจากเบื้องบน
“แมงมุมดำ?”หลี่ ย่าหลินสงสัย“ฉันรู้จักเขา เขามีชื่อเสียงในฐานะนักล่าค่าหัวเดี่ยว ครั้งสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่พยายามจับกุมเขา เขาได้ระเบิดถนนไปสองสาย ทำไมเขาถึงยังซ่อนอยู่ในเมืองหลวง?”
“เราจะเริ่มงานตอนไหน?”แลมเบิร์ตถาม
“ไม่ต้องรีบ ในเมื่อพวกเขายืนยันตำแหน่งมาแล้ว เราก็ค่อยลงมือตอนกลางคืน”
“นี่เป็นภารกิจแรกของนาย แค่ทำความคุ้นเคยกับมันก็พอ”
แม้มันจะเป็นการพบปะครั้งแรก ทั้งสามก็ไม่ได้ซักถามหานเซี่ยวเกินไป การได้รับมอบหมใยให้เข้าร่วมหน่วยลับก็หมายความว่าเบื้องบนเชื่อใจเขา
[ท่านได้กระตุ้นภารกิจคลาสE [แมงมุมดำ] ยอมรับ/ปฏิเสธ]
ยอมรับ
คำใบ้ภารกิจ : แมงมุมดำคือฆาตกรและนักล่าค่าหัวสุดฉาวโฉ่ นี่คือภารกิจแรกของท่านกับแผนกปฏิบัติการลับ ความรับผิดชอบท่านคือช่วยเหลือทีมให้ประสบความสำเร็จ
เงื่อนไขภารกิจ : จัดการแมงมุมดำ
รางวัล : ค่าประสบการณ์5000หน่วย
โบนัสรางวัล : ค่าประสบการณ์40000หน่วยหรือจิตสงบนิ่ง