ตอนที่แล้วตอนที่ 19: พลาดไปในการต่อสู้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21: บอกใบ้

ตอนที่ 20: ฉันไม่ได้อยากฆ่านาย!


ตอนที่ 20: ฉันไม่ได้อยากฆ่านาย!

 

เฮเซคียาห์ได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นแรงอยู่ในช่องอก เขาเงียบอยู่และตั้งใจฟังเสียงหัวใจของตนเอง กระทั่งเสียงของมันแผ่วลง เขาสูดหายใจเข้าลึก ผ่อนลมหายใจออก และยืดตัวขึ้น จัดท่าทางให้ผ่อนคลายลง ขณะที่มูนนี่ยังอยู่ในท่าทางราวกับสิงโตพร้อมกระโจนเข้าใส่เขาได้ทุกเมื่อ

 

“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร” เฮเซคียาห์ขยายคำพูดของเขา

 

มูนนี่หรี่ตาลงมองเฮเซคียาห์ แต่ไม่กะพริบตา

 

“นายมีคำถามอื่นไหม” เฮเซคียาห์ถอยหลังไป และเบือนหน้ามองเมเดียนซึ่งกำลังมองมาทางมูนนี่และเฮเซคียาห์จากด้านหน้าของสุสาน ดวงตาสีดำลึกลับของเมเดียนไม่สามารถอ่านออกได้เพราะมันแลดูว่างเปล่า แต่เมเดียนต้องมีแผนบางอย่างในใจอย่างแน่นอน

 

“นายมาจากไหน” มูนนี่เกร็งแขนสองข้างทื่ถือมีดไว้ “ฉันจำครั้งแรกที่เจอนายได้ ถ้านายไม่ได้มาจากหมู่บ้านไหนเลย บางทีนายอาจจะ...”

 

“ฉันมาจากเขตการปกครองที่ 1”

 

“แม่นาย?”

 

“แม่ฉันอยู่ในเขตการปกครองที่ 1” เฮเซคียาห์ตอบตามความจริง เขาตั้งใจจะคุยกับอีกฝ่ายด้วยความจริง แต่จะเป็นความจริงเพียงบางส่วน “แม่ของฉันไม่ได้เป็นทาสแต่เป็นชาวมัสตินแท้ๆ ส่วนพ่อของฉันก็เป็นชาวมัสติน แต่พ่อของฉันเสียไปนานมากแล้ว”

 

“พวกมัสติน!!!” มูนนี่ตะคอกเสียงใส่เฮเซคียาห์

 

“ใจเย็นไว้ก่อน นายดูฉันเถอะ ฉันดูต่างออกไปบ้างใช่ไหม” เฮเซคียาห์ยกแขนของเขาขึ้น และแบมือออก “ฉันไม่มีร่างกายที่เรืองแสง แล้วก็อย่างที่ฉันบอกตอนครั้งแรกที่เราเจอกัน ฉันควบคุมพลังธาตุไม่ได้ นายตอบฉันทีเถอะว่า ฉันเป็นมัสตินหรือเปล่าถ้าขาดคุณสมบัติพวกนี้ไป”

 

“ต้องการอะไรกันแน่ หลังจากตลอดเวลาที่ผ่านมานี้นายหลอกฉันมาตลอด” มูนนี่ยืดแขนข้างหนึ่งออก ชี้ปลายมีดในมือเล่มหนึ่งมาทางเขา คำพูดประกาศคำตัดสินว่าเฮเซคียาห์เป็นมัสตินอย่างไม่รีรอ

 

มูนนี่หันขวับไปมองเมเดียนในจังหวะต่อมา

 

“คุณพูดให้ผมเห็นสิ่งผิดปกติทั้งหมด คุณล่ะต้องการอะไร”

 

“ผมก็อยากถามเหมือนกัน คุณต้องการอะไรกันแน่” เฮเซคียาหันไปถามเมเดียน หลังจากตอนแรกเขาละคำถามไป เพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะไม่ยอมตอบ “คุณรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นยังไง และผมเคยบอกแล้วว่าไม่อยากให้มูนนี่รู้ว่าผมเกี่ยวข้องกับพวกมัสติน แต่คุณไม่ได้ช่วยผมในการปกปิดความจริงข้อนี้”

 

“นี่คุณรู้...” มูนนี่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัง

 

เมเดียนเพ่งสายตามาที่เฮเซคียาห์เพียงคนเดียว

 

“เธอเป็นคนตัดสินใจเองที่จะสู้กับมูนนี่ตอนที่ฉันแนะให้สู้กับเขา แล้วเธอก็ตัดสินใจลงไปโดยไม่ถามถึงเหตุผลที่ฉันให้เธอสู้กับมูนนี่” เมเดียนเปิดปากพูด เสียงของเขาได้ยินชัดแม้ว่านั่งห่างออกไปหลายร้อยเมตร นี่เป็นความสามารถอย่างหนึ่งของเมเดียน ระดับเสียงพูดของเขาสามารถดังได้ถึง 140 เดซิเบล

 

“ผมประมาทเอง นึกว่านี่มันแค่การให้ผมได้ทดลองฝีมือแบบง่ายๆ” เฮเซคียาห์ทบทวนความผิดพลาดของตัวเอง

 

“ฉันเตือนเธอแล้วว่ามูนนี่ไม่ได้กระจอกอย่างที่เธอคิด”

 

“อ๋อ คิดว่าฉันกระจอกใช่ไหม” มูนนี่ส่งเสียงเฮอะ “ดูถูกฉัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันเป็นคนช่วยนายหลายเรื่อง ถ้าไม่มีฉันสักคนนายอาจมาถึงนี่ไม่ได้

 

เฟี้ยววว

 

บางสิ่งผ่านหน้าเฮเซคียาห์ไปไวมาก ใบหน้าด้านข้างร้อนผ่าว

 

“นาย...” เฮเซคียาห์ยกมือแตะแก้ม เลือดเหนียวๆ เลอะนิ้วของเขา แต่แผลหายสนิทดี

 

เขามองมีดของมูนนี่ที่หมุนเป็นวงและกลับไปหาเจ้าของ รูปทรงของใบมีดเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากที่เห็นตอนแรก

เฮเซคียาห์จับจิตสังหารจากมูนนี่ไม่ได้ เขาจึงไม่ทันระวัง แต่ตอนนี้เขาเริ่มระวังตัวมากขึ้น เพราะเขาดูท่าทางของมูนนี่แล้ว รู้ได้ว่าความตั้งใจของมูนนี่ที่จะลงมือฆ่าเขาแข็งแกร่งขึ้น

 

“เธอควรคิดให้รอบคอบก่อนสู้กับมูนนี่ แค่เหวี่ยงเพนดูลัมออกไปโดนเขาได้แล้วจะชนะอย่างนั้นเหรอ ฉันรู้ว่าเธอมั่นใจในตัวเองเกินไปคีห์ ก็เลยอยากให้เธอได้รับบทเรียนชนิดที่เธอต้องจำไปตลอด และรู้ไว้ด้วยว่าถ้าเธอสู้กับมูนนี่ไม่ไหว ต่อให้ฉันจะฝึกเธอต่อยังไง เธอก็ไม่มีทางชนะฉัน” เมเดียนลุกขึ้นให้เฮเซคียาห์เห็นทางหางตา

 

เฮเซคียาห์หันไปมองเมเดียน

 

“นายมองไปที่ไหน” มูนนี่ส่งเสียงมา

 

เฮเซคียาห์หันหน้ากลับไปมองมูนนี่ และพบว่าอีกฝ่ายถลันเข้ามาใกล้เขามากแล้ว เขาจับมือด้านหนึ่งรูดกับสายเพนดูลั่ม มือด้านหนึ่งกุมเพนดูลัมไว้ สิ่งที่มีดของมูนนี่กระทบเข้าไปจึงเป็นตัวสายเพนดูลัม แทนที่จะเป็นตัวเขา แต่เพราะมูนนี่มีมีดถึงสองด้าม มีดอีกด้ามหนึ่งซึ่งเปลี่ยนรูปร่างให้คล้ายกับดาบโค้งกำลังพุ่งเข้ามาที่นัยน์ตาของเฮเซคียาห์

 

แกร๊ง!!!

 

บรอธถลันเข้าขวางไว้ และมันส่งกระแสไฟฟ้าออกมา

 

เปรี้ยง!

 

กระแสไฟฟ้าช็อต แต่ช็อตลงพื้นแทนที่จะเป็นที่ตัวมูนนี่

 

เฮเซคียาห์มองมูนนี่ที่กระโดดถอยออกไปอย่างไม่อยากเชื่อสายตา อีกฝ่ายปัดไฟฟ้าที่ช็อตลงไปที่ตัวทิ้งไปได้

 

“ฉันเป็นผู้ใช้เศวตศาสตรา ถ้าฉันไม่รู้จักวิธีป้องกันพลังธาตุต่างๆ ฉันคงไม่มีชีวิตรอดจากพวกมัสตินมานานขนาดนี้” มูนนี่สะบัดปลายมีดเล่มยาวโค้งของเขาซึ่งขยายขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจนเรียกได้ว่ากลายเป็นดาบไปแล้ว ประกายไฟฟ้าแลบแปลบปลาบออกมาจากดาบเล่มนั้น

 

เฮเซคียาห์สังเกตให้ดีแล้วพบว่าใบมีดบางลงขณะที่ยาวขึ้น ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะทีแรกใบมีดทั้งหมดซ้อนเข้าด้วยกันและซ่อนอยู่ให้เห็นเป็นรูปมีดสั้น

 

“บรอธ ทำไมแกถึงช่วยไอ้มัสตินนั่น” มูนนี่ตะโกนใส่บรอธ “แกเป็นเศวตศาสตราจริงๆ น่ะเหรอ”

 

“ในฐานะเศวตศาสตรา ฉันมีหน้าที่รับใช้เจ้านายของฉัน และแน่นอนว่าฉันรับใช้มนุษย์เท่านั้น”

 

“ว่าไงนะ? แกพูดย้อนแย้งนะ เพราะไอ้หมอนั่นมันเป็น...”

 

มนุษย์” บรอธส่งเสียงออกมาชัดถ้อยชัดคำ

 

เฮเซคียาห์มองไปที่บรอธ เขารู้สึกแปลกพิกลในครั้งนี้เมื่อบรอธใช้คำว่ามนุษย์กับเขา เขาไม่ได้รู้สึกต่อต้านคำว่ามนุษย์มากอย่างที่เคย แต่ถ้าให้เขาเลือกอีกครั้ง เขาก็ขอเป็นชาวมัสตินไม่ใช่มนุษย์

 

“มูนนี่ ฉันไม่อยากสู้กับนาย ฉันไม่มีวันเป็นศัตรูกับนาย

 

“ถ้านายเป็นมัสติน นายคือศัตรูของฉัน” มูนนี่ถลันเข้ามา และตวัดมือซ้ายของเขาส่งดาบเข้ามาทางสีข้างของเฮเซคียาห์

 

เฮเซคียาห์ตั้งรับพร้อมไว้อยู่แล้ว เขาหลบหลีกได้ทัน ก่อนเคลื่อนกายหลบการโจมตีต่อเนื่องของมูนนี่ แต่ร่างกายของมนุษย์ซึ่งผ่านการฝึกฝนมาเพียงไม่กี่วัน ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ทันใจตลอด เขาโดนใบมีดของมูนนี่กรีดเข้าบ้าง สะกิดเข้าบ้าง เล็กๆ น้อยๆ ซึ่งบาดแผลทั้งหมดหายไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงเสื้อผ้าของเขาที่มีรอยขาดเล็กๆ ให้เห็นร่องรอยของการถูกโจมตี

 

“พอนะ มูนนี่” เฮเซคียาห์ใช้สายสร้อยเพนดูลัมของเขา รับดาบคู่ของมูนนี่เอาไว้

 

การใช้เพนดูลัมในการต่อสู้ระยะไกลถูกตัดออกไปจากความคิดของเฮเซคียาห์ในตอนนี้ การต่อสู้กับมูนนี่ในยกแรกที่บีบเขาให้ต้องเปิดเผยตัวตนมากขึ้นได้ทำให้เขาเห็นแล้วว่ามูนนี่จะทำให้เขากลายเป็นวัวพันหลักด้วยการพันสายเพนดูลัมของเขาเอาไว้กับมีดทั้งสองได้อย่างง่ายดาย

 

“ฉันจะไม่หยุด เพราะว่าฉันเป็นผู้ใช้เศวตศาสตรา” มูนนี่กระแทกดาบคู่เข้ามาหาเฮเซคียาห์อีกครั้ง สายตาไม่เคลื่อนหลบสายตาของเฮเซคียาห์ “ฉันมีหน้าที่สู้กับพวกมัสตินอย่างแก

 

เฮเซคียาห์มองดาบของมูนนี่ แล้วเขาขยับมือทั้งสองข้างเพื่อให้สายสร้อยเพนดูลัมรวบมีดของมูนนี่ขณะเดียวกันก็เบี่ยงหลบคมมีดที่จะพุ่งเข้ามาหาเขาในจังหวะที่สายสร้อยเพนดูลัมไม่ได้ถูกดึงขึงให้ตึง ผลของการกระทำของเขาทำให้เฮเซคียาห์รวบเอามีดของมูนนี่มาได้

 

เขารีบกวาดมือด้านหนึ่งออกไปจับที่ตรงสุดปลายสาย ม้วนมือกับสายสร้อยเพื่อจะได้จับให้ถนัดและเหวี่ยงมันออกไป ทำให้ดาบทั้งสองที่กวาดพันไว้ได้ทีแรก กระเด็นออกไปในอากาศด้วย

 

แต่สิ่งที่เฮเซคียาห์คาดไม่ถึงเกิดขึ้น

 

เฮกค็อปขนาดเล็กพร้อมกับคีมจับโผล่มาจากในอากาศ และคว้าจับดาบทั้งสองไว้ ก่อนจะโยนพวกมันกลับมาให้กับมูนนี่ และขณะเดียวกัน ปืนขนาดเล็กติดตั้งบนเฮกค็อปจิ๋วกราดยิงกระสุนรัวๆ ใส่เฮเซคียาห์เข้าที่ขา ทำเอาเฮเซคียาห์ร้องโอยและทรุดลงไปกับพื้น แต่เพราะว่าเขามีสติกับการต่อสู้ เขารีบกลิ้งตัวไปอย่างรวดเร็วให้พ้นจากรัศมีของกระสุนปืนและลุกขึ้นยืนไวๆ

 

มูนนี่ขยับเดินเข้ามาหาเขา

 

“เก่ง นายเก่ง” เฮเซคียาห์ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

 

ในสมองของเขา บรอธส่งภาพมากมายมาให้ในเสี้ยววินาที เป็นภาพเส้นทางการโจมตีและท่าทางของมูนนี่เท่าที่จะเป็นไปได้ทั้งหมด พร้อมกันนั้นยังมีแผนการสำหรับการโต้กลับหลายสิบวิธี

 

มูนนี่เหวี่ยงดาบออกจากมือมาทางเขาเล่มหนึ่ง กลไกมอเตอร์ที่ปลายด้ามจับทำให้ดาบหมุนควงสว่างด้วยความเร็วสูงเข้ามาหาเขา พร้อมกันนั้น เฮเซคียาห์ก็เห็นวีวี่ที่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นเหยี่ยวเหล็กที่ทั้งกรงเล็บและปีกดูแหลมคม เหยี่ยวตัวนั้นบินตรงเข้ามาหาเฮเซคียาห์และสะบัดปลายปีกที่ทำด้วยเหล็กใส่เขา

 

เฮเซคียาห์อุทานออกมาเพราะเขาหลบการโจมตีจากขนนกเหล็กไม่ทัน เขาบาดเจ็บ เซไปทางด้านขวา

 

แต่ดาบที่บินมาเข้าไม่ถึงตัวเขา เพราะบรอธขยายขนาดของมันออกและเก็บดาบนั้นเข้าไปซ่อนในตัวเสียก่อน หลังจากนั้นมันก็พ่นดาบที่มีเปลวควันลอยพุ่ง

 

บรอธไม่สามารถละลายดาบของมูนนี่ได้ มันไม่สามารถสร้างความร้อนที่สูงพอจะหลอมเหลวดาบ

 

ในขณะเดียวกัน มูนนี่กำลังพุ่งเข้ามาหาเฮเซคียาห์ที่รวบดึงเอาขนนกเหล็กออกจากขาทิ้งไป สีหน้าของมูนนี่แฝงความอาฆาตมาดร้าย ดาบอีกเล่มหนึ่งยังอยู่ในมือ ด้านหลังของมูนนี่ เหยี่ยวเหล็กกำลังพุ่งเข้ามาพร้อมกันพร้อมกับอุ้งเล็บของมัน

 

ปลายดาบในมือของมูนนี่หมุนและบิดเบี้ยวดูไม่ต่างจากสว่าน

 

เฮเซคียาห์ทราบดีว่ามูนนี่ตั้งใจจะทลวงสมองของเขา!!!

 

เขายกสายสร้อยเพนดูลัมขึ้นสกัดมีดของอีกฝ่าย ประกายไฟเกิดขึ้นและหายไป ขณะเดียวกัน บรอธพุ่งเข้าชนกับเหยี่ยวโลหะจนมันเบนออกไปนอกวิถี กระแสไฟฟ้ารุนแรงถูกส่งจากบรอธไปยังเหยี่ยวเหล็ก เครื่องกลภายในเหยี่ยวเหล็กลัดวงจรและระเบิด แต่นั่นแค่ช่วยจัดการกับวีวี่ได้ชั่วคราว เพราะมันกลายสภาพกลับมาเป็นกล่องสีขาวตามปกติ และพร้อมใช้งานได้อีกครั้ง

 

“ฉันขอใช้เทคนิคของนาย กับตัวนายเอง” เฮเซคียาห์พันดาบในมือของมูนนี่ด้วยสายสร้อยเพนดูลัมของเขา และขณะเดียวกัน เขาพันสายสร้อยเพนดูลัมข้างหนึ่งกับมือข้างหนึ่งของตัวเองด้วย และมือข้างนั้นถูกส่งออกไปเข้าหน้าของมูนนี่บริเวณจมูกอย่างจัง

 

มูนนี่ผงะถอย เลือดกำเดาไหล และเฮเซคียาห์หวดลูกเตะ เตะฝ่ายตรงข้ามจนกระเด็น

 

เขาสะบัดดาบของมูนนี่ที่ติดอยู่กับเพนดูลัมออกมา และฉวยเอาไว้จากในอากาศ

 

มูนนี่กระโจนไปคว้าดาบอีกอันที่ตกอยู่บนพื้น และตั้งหลักประจันหน้ากับเฮเซคียาห์ ทั้งคู่มองหน้ากัน เดินวนดูเชิงกันไปมา

 

“นายมีประสบการณ์ต่อสู้เยอะ ฆ่ามนุษย์ไปสักเท่าไรแล้วล่ะ”

 

“ฉันไม่ได้อยากฆ่านาย นายเป็นเพื่อนของฉัน”

 

กูไม่ใช่เพื่อนมึง!!!” มูนนี่ตะโกนออกมา และคราวนี้เขากระโดดขึ้นพร้อมกับวีวี่ที่เปลี่ยนรูปร่างเป็นสเก็ตบอร์ด

 

มูนนี่พุ่งเข้ามาหาเฮเซคียาห์พร้อมกับฟาดดาบมาหาเขา เฮเซคียาห์ใช้ดาบรับดาบของฝ่ายตรงข้าม มือของเขารับรู้ได้ถึงปุ่มหลายปุ่มบนด้ามดาบ เขากดปุ่มๆ หนึ่งไปมั่วๆ แล้วพยายามตั้งสติเมื่อน้ำมันดิบพุ่งออกมาพร้อมกับไฟร้อนๆ ทางด้านมูนนี่ร้องลั่น กระโจนถอยไป ไฟลามไปติดเสื้อผ้าของเขา

 

สเก็ตบอร์ดกลายเป็นรองเท้าโรลเลอร์เบรดไฟฟ้าที่พาเขาถอยไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่มูนนี่จัดการกับไฟด้วยการกรีดคมมีดไปบนเสื้อแล้วกระชากเสื้อทิ้งอย่างเร็ว

 

บนร่างกายของมูนนี่ ด้านบนของหน้าอกด้านซ้ายมีรอยสักด้วยเส้นหมึกสีดำเป็นวงรี มุมด้านข้างของวงรีไม่มนแต่เป็นวง ด้านหนึ่งเส้นหมึกต่อแยกออกไป ดูรวมๆ รอยสักนั้นคล้ายกับรูปปลา ด้านในส่วนที่เป็นหัวปลามีหมึกดำวาดเป็นรูปคล้ายนกพิราบสีดำ

 

เฮเซคียาห์จ้องรอยสักของมูนนี่ด้วยความตกใจ

 

ฟู่…

 

เพราะว่ามัวแต่ตกใจ เลยไม่สังเกตว่าวีวี่ไวแค่ไหนในการเปลี่ยนรูปร่างตัวเองเป็นมังกรเหล็กขนาดใหญ่ พ่นไฟออกมาพร้อมกับกำลังพุ่งมาตรงหน้า

 

อ้ากกก” เฮเซคียาห์กรีดร้อง ไฟคลอกเขาให้เต็มๆ

 

แต่เขาก็ควบคุมตัวเอง พยายามสู้กับมูนนี่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยยานลำเล็กที่หน้าตาคล้ายยานสำรวจกันไฟที่ยื่นสิ่งที่คล้ายกับคีบตรงเข้ามาจับเขาไว้

 

เมื่อไฟดับลง เฮเซคียาห์กระโดดถอยหลัง และฟาดสายสร้อยเพนดูลัมออกมาใส่ยานสำรวจของมูนนี่ เขาฟาดใส่หลายต่อหลายหน และด้วยโลหะที่ทำสร้อยเพนดูลัมของเขาจะสะสมแรงที่ผู้ใช้ใช้ในการจับมันฟาด แรงฟาดจากเพนดูลัมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดยานสำรวจของมูนนี่แตกออก

 

มูนนี่มองเฮเซคียาห์อย่างตกใจ ขณะตกลงมายืนบนพื้น เขาซวนเซเล็กน้อย

 

วีวี่กลับสู่สภาพเดิม

 

แต่มันยังไม่ทันฟื้นฟูดี บรอธพุ่งเข้ามา และมันก็ทำในสิ่งที่เฮเซคียาห์คิดไม่ถึง

 

เฮ้ย!” เฮเซคียาห์อ้าปากค้าง เพราะบรอธเปิดฝาของมันออก ขยายตัวของมันขึ้นและอมเอาวีวี่เข้าไปในตัวมัน

 

“แกทำอะไร” มูนนี่ตวัดสายตาไปที่บรอธ และเคลื่อนสายตากลับไปมองที่เฮเซคียาห์

 

เฮเซคียาห์ยังมีดาบอยู่ในมือ มันร้อนฉ่าและเคยแนบประสานไปกับเนื้อของเขาที่ละลาย แต่ตอนนี้เนื้อเยื่อมือของเขากำลังผลักมันออก เพราะต้องการสมานแผลไฟไหม้ให้เรียบร้อย เขายกดาบขึ้นรับการโจมตีของมูนนี่

 

วิเคราะห์: โอกาสชนะ 99%

 

เฮเซคียาห์ยกเท้าของเขาขึ้นถีบมูนนี่

 

เขาตะโกนสุดเสียง โยนสายสร้อยเพนดูลัมของเขาออกไปเต็มแรงอย่างเอาจริงพลางสะบัดข้อมือ สายสร้อยเพนดูลัมฟาดเข้าที่สีข้างด้านซ้ายของมูนนี่แยกเนื้อของมูนนี่ออกและบาดลึกฝังตัวมันเข้าไปในเนื้อ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของมูนนี่ดังเข้าหูของเฮเซคียาห์ และขณะเดียวกัน ร่างที่ถูกตีเข้าอย่างแรงของมูนนี่หมุนไป และสายสร้อยเพนดูลัมรัดร่างกายของเขาด้วยแรงเหวี่ยงไปสองทบ

 

สายสร้อยเพนดูลัมที่ในสีข้างของมูนนี่ยิ่งถูกกดลึกเข้าไปในร่างของเขา ซึ่งตามปกติถ้าสายสร้อยไม่ได้ถูกทำให้ทื่อลง มูนนี่คงขาดเป็นสองท่อน

 

“แก!” มูนนี่ทรุดกายลงไปนั่งคุกเข่า มองหน้าเฮเซคียาห์

 

เฮเซคียาห์หน้าซีด

 

บรอธบินมาอยู่ข้างเขา ตัวของมันเขย่าไปมาอย่างรุนแรง วีวี่อาจกำลังพยายามเปลี่ยนสภาพอยู่ด้านใน

 

“นั่นไม่ใช่เศวตศาสตราแล้ว ไม่มีเศวตศาสตราอันไหนจะทำอะไรแบบนี้” มูนนี่ตะโกน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เขากระอักเลือด

 

“ฉันก็เคยสงสัยว่ามันไม่ใช่เศวตศาสตรา...” เฮเซคียาห์ตอบด้วยเสียงเหนื่อยๆ

 

บรอธยืนยันว่ามันคือเศวตศาสตรา

 

มูนนี่ดิ้นรน เขาพยายามจะให้ตัวเองหลุดจากสายสร้อยเพนดูลัมที่มัดตัวอยู่ เหงื่อเม็ดโป้งๆ ผุดออกมาบนหน้าผากและขมับ

 

เฮเซคียาห์สูดหายใจลึก มือของเขาที่จับเพนดูลัมสั่นน้อยๆ ด้วยความประสาทเสียกับอาการบาดเจ็บของมูนนี่

 

“แกไม่ฆ่าฉันเหรอ” มูนนี่เอ่ยอย่างเยาะๆ มองหน้าเฮเซคียาห์

 

เฮเซคียาห์สะบัดสายสร้อยเพนดูลัม ในทิศทางที่คลายมัดอีกฝ่าย

 

ร่างของมูนนี่ลอยไป ก่อนร่วงลงไปนอนหงายกับพื้น มือยกขึ้นกุมสีข้างที่เลือดไหลออกมาไม่หยุด

 

“นายไม่ควรต้องตายง่ายๆ”

 

“แกจะฆ่าก็ฆ่าซะ” มูนนี่มองเฮเซคียาห์แล้วปิดเปลือกตาลง

 

เฮเซคียาห์คุกเข่าลงกับพื้น แล้วยื่นมือออกไป

 

ตาสว่างเสียบ้างสิ! ดูฉัน! จ้องตาฉัน!” เขาเขย่าไหล่ของอีกฝ่ายทั้งสองข้างอย่างไม่ออมแรง “ฉันไม่อยากฆ่านาย! เข้าใจไหมว่าฉันไม่อยากฆ่านาย!

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด