ตอนที่แล้วChapter 17 : ทักษะเสริมของลีโอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 19 : งานเทศกาลดนตรี

Chapter 18 : เดินทางต่อ


Chapter 18 : เดินทางต่อ

แมลงวันนับร้อยนับพันที่บินออกมาจากปากของมัสกาพุ่งตรงเข้าหาทั้งไอรีนและมินจุนอย่างรวดเร็ว

ทั้งคู่ต่างใช้พลังเวทตัวเองปัดป้องแมลงวันเหล่านั้น ซึ่งนอกจากมันจะทำให้มองไม่เห็นวิสัยทัศน์รอบตัวแล้ว ยังทำให้มัสกาโจมตีพวกเขาได้ง่ายขึ้น โซ่ตรวนของมัสกาตวัดเหวี่ยงตรงไปยังมินจุนที่หลบไม่ทันเพราะมัวแต่ใช้พลังเวทมนตร์ของตัวเองไล่แมลงวันนับร้อยตัวที่บินวนไปวนมารอบตัวเขา โซ่นั้นพันร่างของเขาไว้ ก่อนสะบัดจนลอยแล้วเหวี่ยงเจ้าตัวกระแทกกับพื้นรถไฟอย่างรุนแรงจนเขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ตามมาด้วยลูกตุ้มเหล็กที่ฟาดตามมาเฉียดหัวเขาไปเพียงหน่อยเดียว โชคดีที่ยังมีสติเอียงคอหลบทัน พื้นตรงนั้นยุบลงไปเป็นวงกว้าง

“มินจุน ! นายโอเคไหม !” ไอรีนร้องออกมาเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองอยู่ในสภาพย่ำแย่พอสมควร แต่ก็ใช่ว่าตอนนี้เธอจะสามารถทำอะไรได้มาก การต่อสู้กับผู้ใช้เวทยังง่ายกว่าต่อสู้กับภูติแห่งดวงดาวซะอีก เธอเข้าถึงตัวมัสกาไม่ได้เลย แมลงวันที่บินรอบตัวมันทำให้การเคลื่อนไหว และพลังเวทของเธอลดลงจนแทบหมดแรงล้มไปกองกับพื้น ราวกับว่าแมลงวันพวกนั้นมันกำลังดูดพลังไปจากเธอ

“เริ่มไม่ไหวแล้ว แมลงวันพวกนั้นเหมือนดูดพลังเวทจากพวกเรา” มินจุนพูดขึ้นมา ขณะเดียวกันมัสกาก็ใช้โซ่ตัวเองพันร่างของไอรีนเหวี่ยงไปกองรวมกับมินจุนข้าง ๆ ในสภาพเดียวกัน

“หมดเวลาเล่นสนุกของพวกแกแล้ว ตายซะเถอะ !” มัสกาตะโกนออกมา

โซ่ตรวนมีออร่าสีดำมืดขยายออกมา ลามไปจนถึงบริเวณปลายของโซ่ที่มีลูกตุ้มเหล็กติดอยู่ โซ่ตรวนขยับไปมัดมินจุนกับไอรีนเข้าด้วยกันเหมือนงู มันพันรอบร่างของทั้งคู่จนแน่นขยับไปไหนไม่ได้ ร่างของมัสกาเคลื่อนที่มาตรงหน้าของพวกเขา ดวงตาปูดโปนสีแดงจ้องมาที่ทั้งคู่อย่างกระหาย ริมฝีปากอ้ากว้างเผยให้เห็นฟันที่แหลมคมจนน่ากลัว

มันกว้างจนเหมือนพอที่จะเอาหัวของทั้งคู่ใส่เข้าไปในนั้นได้ ...

“เฮ้ย !” มินจุนร้องออกมาอย่างตกใจ พยายามดิ้นตัวเองให้หลุดจากโซ่ตรวนที่พันเขาไว้ ไอรีนเองก็พยายามใช้พลังทำลายโซ่ที่พันร่างของเธอไว้อยู่แต่ไม่ได้ผล พลังเวทของเธอทำอะไรโซ่ของมัสกาไม่ได้เลย

ปากกว้างของมัสกาขยับเข้ามาใกล้หัวของทั้งคู่เรื่อย ๆ

เวลาของทั้งคู่กำลังจะหมด

แต่ก่อนที่อะไรจะได้เกิดขึ้น แสงสว่างวาบสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นออกมาจากปากที่อ้ากว้างของมัสกา ก่อนจะปรากฏให้เห็นเป็นดาบเล่มสีทองที่ทะลุออกมา ดูเหมือนจะถูกแทงเข้ามาจากทางด้านหลัง

ของเหลวสีเขียวหนืดไหลทะลักออกมาคล้ายกับเลือด ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องโหยหวนของมัสกาอย่างเจ็บปวด แมลงวันแถวนั้นบินออกมาจากปากมัสการาวกับผึ้งแตกรัง ทั้งมินจุนและไอรีนต่างมองไปยังร่างของมัสกาที่ตอนนี้ขยับถอยห่างไปจากพวกเขา โซ่ตรวนสีดำที่มัดพันร่างทั้งคู่ไว้อยู่เริ่มคลายออก ร่างทั้งสองที่ถูกพันธนาการจึงรีบลุกขึ้นจากบริเวณนั้นทันที

เมื่อมองไปยังด้านหลังของมัสกา ร่างของลีโอปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น ร่างทั้งร่างมีออร่าสีฟ้าปกคลุมอยู่ ในมือขวาของตัวเองถือดาบสีทองที่กำไว้แน่น แววตาของลีโอไม่มีแววเล่นเหมือนอย่างเคย แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงจัง ลีโอหันมามองมินจุนและไอรีนพร้อมกับพูดออกมาเบา ๆ

“ขอโทษที่ประมาทไปหน่อย ฝากกวินท์ด้วยเขาอยู่ด้านบนรถไฟ”

พูดจบก็พุ่งตัวเข้าใส่มัสกาอย่างรุนแรง โดยไม่สนใจแมลงวันฝูงใหญ่ที่บินเข้ามาหาเขาพร้อมจะรุมทึ้ง ออร่าสีฟ้ารอบตัวของลีโอแผ่ขยายมากขึ้นกว่าเดิมจนเกิดเป็นแสงสีฟ้าสว่างจ้าคล้ายกับเกราะ

ตู้ม !

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับเกิดรูขนาดใหญ่บริเวณด้านข้างของรถไฟ เงาสีฟ้าของลีโอพุ่งชนร่างของมัสกาออกไปด้านนอก มัสกาลอยอยู่กลางอากาศซึ่งด้านล่างเป็นเหวลึก ตอนนี้เมื่อคนที่อยู่ภายในรถไฟมองทะลุผ่านรูขนาดใหญ่ออกมา จะเห็นลีโอกลายเป็นก้อนพลังงานสีฟ้าที่พุ่งตัวเข้าใส่มัสกาอย่างไม่ยั้ง จนร่างนั้นไม่ต่างอะไรจากก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ถูกโจมตีไปมา ทุกครั้งที่ร่างจะร่วงลงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ก้อนพลังงานสีฟ้าก็พุ่งเข้าไปชน ไม่ให้ร่วงลงไปได้

ร่างของมัสกาถูกโจมตีจนสะบักสะบอมด้วยก้อนพลังงานสีฟ้า ก่อนร่างขนาดใหญ่จะถูกโจมตีด้วยพลังเวทของลีโอที่อัดเข้าใส่ มัสกาถูกอัดกระเด็นด้วยความเร็วสูงเหมือนก้อนอุกกาบาตที่ตกลงมาจากฟากฟ้าไปยังพื้นหน้าผากว้างที่อยู่อีกฝั่งจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ร่างของภูตดวงดาวกลุ่มดาวแมลงวันนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นที่เป็นหลุมขนาดใหญ่ พื้นดินแถวนั้นแตกระแหงจากการที่เจ้าของร่างตกกระทบมาอย่างรุนแรง รอยแตกค่อย ๆ ลามมาถึงบริเวณสะพานที่เป็นทางเชื่อมให้รถไฟวิ่งผ่าน

ทั้งสะพานและรถไฟเริ่มเสียสมดุลทันที พื้นดินบริเวณฝั่งที่มัสการ่วงลงไปเริ่มพังทลายลงสู่ก้นเหวด้านล่างเนื่องจากไม่สามารถรับน้ำหนักของสะพานและรถไฟได้อีกต่อไป เสียงร้องแตกตื่นดังขึ้นทันทีจากตู้รถไฟตู้อื่น ๆ ที่ยังมีคนหลงเหลือติดอยู่ภายในเพราะออกไปด้านนอกรถไฟไม่ได้

“ไอ้สิงโตหน้าหม้อนั่นเล่นใหญ่อีกแล้ว”

“มินจุน ! นายเป็นยังไงบ้าง” สองฝาแฝดไพส์ซีสพูดขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อเห็นการต่อสู้ด้านนอกของตู้รถไฟ ส่วนประโยคหลังทั้งคู่พูดเมื่อหันไปเห็นมินจุนนอนหมดแรงอยู่ที่อีกมุม ทั้งสองก็รีบพุ่งตัวเข้าไปดึงหัวของมินจุนเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว

“ฉันของกอดมินจุนด้วย ซังซู” ซังมีพูดออกไป พยายามดึงตัวของฝาแฝดตัวเองให้ออกห่างพร้อมกับจะเข้าไปกอดด้วย

“ซังซู ... ปล่อยฉัน ฉัน ... หายใจไม่ออก” มินจุนพูดออกมาอย่างยากลำบาก ใบหน้าเป็นสีแดงก่ำ พยายามดันหน้าตัวเองให้ออกห่างจากหน้าอกของภูติดวงดาวของตนเองที่ดึงหัวเขาเข้าไปกอดซุกไว้แน่นอย่างเป็นห่วง

เขาเป็นผู้ชายนะ ...

ในขณะที่ซาจิททาเรียสมองฝาแฝดภูติดวงดาวร่วมผู้ถือกุญแจก่อนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เจ้านายของเขาช่างเป็นผู้ถือครองกุญแจที่โชคดีที่สุดในสามโลก

อีกด้าน อควาเรียสก็เข้าไปช่วยพยุงตัวของไอรีนให้ไปนั่งยังที่นั่งบนรถไฟ

“ไอรีนเธอโอเคนะ” อควาเรียสถามออกไป

“ฉันโอเคอควาเรียส เรารีบลำเลียงพาคนที่อยู่ตู้รถไฟอื่น ๆ ที่ยังเหลือ ออกจากตัวรถไฟก่อนเถอะ” ไอรีนพูด ก่อนจะรีบเข้าไปเรียกมินจุนกับภูติดวงดาวของเขาให้ออกไปจากรถไฟขบวนนี้ ก่อนที่ทั้งรถไฟและสะพานจะร่วงลงสู่เหวลึกด้านล่าง

“ซาจิททาเรียส นายขึ้นไปช่วยกวินท์ด้านบนรถไฟนะ” มินจุนพูดบอกซาจิททาเรียส ก่อนวิ่งไปสมทบกับไอรีนเพื่อช่วยเหลือคนอื่นให้ออกจากขบวนรถไฟนี้ ตอนนี้รถไฟเริ่มสั่นแบบเสียสมดุลแล้ว สะพานเชื่อมสองหน้าผากำลังจะร่วงลงสู่เหวลึกด้านล่างในไม่ช้า

ทั้งผู้ใช้เวทและภูติแห่งดวงดาวต่างใช้พลังเวทและทักษะที่ตัวเองมี ใช้เวทมนตร์ลมทำให้ผู้โดยสารคนอื่นลอยออกจากตัวรถไฟออกไปยังหน้าผาอีกฝั่งอย่างปลอดภัย โชคดีที่รถไฟขบวนนี้มีผู้ใช้บริการไม่เยอะมากเนื่องจากไม่ค่อยเป็นที่นิยมในการเดินทางแบบนี้ พวกเขาเลยสามารถช่วยทุกคนได้อย่างทันเวลา

สะพานเอียงลงอย่างน่าหวาดเสียวพร้อมกับตัวรถไฟ ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่นาที ทั้งสะพานและรถไฟก็ร่วงลงสู่ก้นเหวสีดำมืดด้านล่าง เหลือไว้เพียงผู้โดยสารที่ถอนหายใจกันอย่างโล่งอก พร้อมกับเข้าไปขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือพวกเขาไว้ไม่ให้ตกลงไปพร้อมกับสะพานและรถไฟ ไม่นานก็มีพาหนะสี่ห้าลำที่บินมาจากบนท้องฟ้า เป็นของผู้รักษากฎหมายของเมืองนี้ ที่เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

หลังจากที่ผู้รักษากฎหมายมาถึง ก็ได้เข้าไปจับตัวมิเกลพร้อมกับลูกน้องของเขาออกไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกับแจ้งว่าจะมีรถมารับทุกคนออกจากบริเวณนี้ มินจุนและไอรีนถูกเรียกตัวให้เข้าไปพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงให้การไปว่าเมื่อเดินทางมาถึงสะพานที่เกิดเหตุ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้อง ก่อนจะพบว่ามิเกลและลูกน้องวางแผนเพื่อจะลักพาตัวเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นลูกสาวของเศรษฐีที่รวยติดอันดับโลกไปเรียกค่าไถ่

ภายหลังจากที่พวกเขาได้คุยกับเด็กหญิงคนนั้น ก็พบว่าการเดินทางครั้งนี้เธออยากเปลี่ยนบรรยากาศ อารมณ์ประมาณว่าอยากผจญภัยตามประสาลูกคุณหนูตั้งแต่เล็ก เลยเลือกที่จะนั่งรถไฟมาพร้อมกับเพื่อนของตัวเองสองสามคนเพื่อไปงานเทศกาลดนตรีที่ถูกจัดขึ้นที่เมืองทางเหนือ มาทราบภายหลังจากการสอบสวนว่า หนึ่งในเพื่อนของเธอเป็นหลานสาวของมิเกล ที่เคยหลุดปากว่าเพื่อนตัวเองเป็นลูกสาวเศรษฐี พอมิเกลทราบเรื่องการเดินทางจึงวางแผนที่จะลักพาตัวเธอกันมาอย่างดี

เกือบครึ่งชั่วโมงรถบัส AI ขนาดใหญ่สามสี่คันก็ตามมาที่บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อนลำเลียงผู้โดยสารที่ไม่สามารถเดินทางต่อจากรถไฟขบวนนี้ได้แล้วไปยังจุดหมายปลายทาง

ภาพโฮโลแกรมสามมิติจากพ่อของเด็กหญิงถ่ายทอดมาอย่างเร่งด่วนเมื่อทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากมือถือของผู้รักษากฎหมายหลังจากได้รับการติดต่อว่ารถไฟที่ลูกสาวได้เดินทางไปถูกดักปล้นกลางทาง และลูกสาวของตัวเองเกือบจะถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ เขาเป็นห่วงมากจึงขอคุยกับลูกสาวตัวเอง พร้อมกับขอบคุณผู้ใช้เวทอย่างไอรีนและมินจุน รวมถึงกวินท์ที่ยังนอนไม่ได้สติ ที่ได้ช่วยเหลือลูกสาวเขาไว้ โดยพ่อของเด็กหญิงส่งเครื่องบิน AI แบบส่วนตัวให้มารับพวกเขาไปต่อที่เมืองทางเหนือ เพื่อเป็นการขอบคุณ

“ขอบคุณพวกคุณมากเลยนะครับ ที่ช่วยเหลือลูกสาวผมไว้” ชายที่อยู่ในภาพโฮโลแกรมสามมิติซึ่งเป็นพ่อของเด็กหญิงพูดบอกไอรีนกับมินจุน

“ไม่เป็นไรครับ จริง ๆ พวกเราก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก คนที่ช่วยจริง ๆ นอนสลบยังไม่ฟื้นเลยครับ” มินจุนพูดออกไป หันไปมองกวินท์ที่นอนสลบอยู่ที่พื้นถัดจากเขา

“ถ้าเขาฟื้นแล้วฝากขอบคุณเขาด้วยนะครับ ส่วนเรื่องการเดินทางต่ออีกครึ่งทาง พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมสั่งเครื่องบินส่วนตัวในประเทศพวกคุณให้พาพวกคุณไปส่งเอง เป็นการขอบคุณพวกคุณที่ช่วยเหลือลูกสาวผมไว้”

“ขอบคุณมากค่ะ” ไอรีนพูดต่อ

“จริง ๆ พ่ออยากให้ลูกกลับมาเลยนะเนี่ย บอกแล้วว่าให้เดินทางด้วยเครื่องบิน แต่เห็นมีพวกพี่เขาไปด้วย ลูกจะไปต่อก็ตามใจ ยังไงผมฝากเด็กคนนี้กับเพื่อน ๆ ไปกับพวกคุณด้วยนะครับ” พ่อของเด็กผู้หญิงคนนั้นพูด ประโยคหลังหันมาคุยกับมินจุนและไอรีน

“ยินดีครับ” มินจุนตอบกลับไป หันไปลูบผมเด็กหญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ที่ตอนนี้ยังไม่ยอมพูดอะไรมาสักคำ

“แล้วเป็นอะไรของลูก ไม่เห็นจะพูดอะไรสักคำ นี่ใช่มินจุน คนที่เราอยากไปดูคอนเสิร์ตพี่เขาไม่ใช่หรอ เห็นติดรูปสามมิติของเขาไว้เต็มห้อง พ่อจำได้” พ่อของเด็กหญิงพูด

“พ่อ !” เด็กหญิงร้องออกมาอย่างเขินอายก่อนเดินหนีไปอีกทาง ทำเอามินจุนและไอรีนหัวเราะขำตามไป

 

ผมรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องเล็ก ๆ สีขาวห้องหนึ่ง ข้างตัวเป็นกระจกใส ด้านนอกเมื่อมองออกไปจะเห็นเป็นกลุ่มเมฆที่ล่องลอยไปมา

นี่ผมอยู่บนเครื่องบินหรอเนี่ย ...

รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ค่อย ๆ ยันตัวเองขึ้นมาจากเตียงเล็ก ๆ ที่นอนอยู่ สายตาก็เลื่อนไปเห็นมินจุนที่กำลังถือผ้าเช็ดตัวชุ่มน้ำเดินเข้ามาหา

“ตื่นแล้วหรอ เป็นไงบ้าง ฉันใช้พลังเวทรักษาแผลของนายเพิ่มไปแล้ว ไหวเปล่า” มินจุนพูด พลางเอาผ้าเช็ดตัวชุ่มน้ำทำท่าจะเช็ดให้ผม ที่ตอนนี้ไม่มีเสื้อติดอยู่กับตัว ก้มมองลงไปก็ยังคงเห็นรอยแผลจาง ๆ สีขาวเป็นเส้น ๆ อยู่

“เฮ้ย ๆ เดี๋ยวฉันเช็ดเอง !” ผมร้องออกไปก่อนที่มินจุนจะเช็ดตัวให้ ให้ผู้ชายมาเช็ดตัวให้มันก็รู้สึกแปลก ๆ อยู่ มินจุนหัวเราะขำออกมา ก่อนโยนผ้าเช็ดตัวชุ่มน้ำมาครอบหัวผมไว้

หมอนี่มันกวนจริง ๆ ...

“ตอบแทนที่นายเคยช่วยฉันไว้ตอนนั้นไง ฉันก็อยากให้ไอรีนมาเช็ดให้นะ แต่ยัยนั่นบอกว่าไงรู้ไหม ไอ้โรคจิตแบบนายไม่ตายง่าย ๆ หรอก ถ้าตายให้เอากุญแจจักรราศีไปให้ด้วย” มินจุนพูดต่อขำ ๆ

โธ่ ... ไอรีน เกรี้ยวกราดกับผมไม่เคยเปลี่ยน

“แล้วมันเกิดไรขึ้นบ้างเนี่ย แล้วลีโอหายไปไหน” ผมถามออกไป พลางนึกถึงภูติดวงดาวของตัวเอง

“เรื่องมันยาวเดี๋ยวเล่าให้ฟังทีหลัง คุยกับลีโอไปก่อนละกัน ลีโอกลับไปอยู่ในกุญแจ พลังเวทที่นายใช้ไปจากลีโอแถมตอนสู้กับมัสกา ทำให้ลีโอออกมาจากกุญแจไม่ได้สองสามชั่วโมง อะนี่กุญแจนาย” มินจุนพูด พร้อมยื่นกุญแจดอกสีทองของผมส่งให้ ก่อนเจ้าตัวจะเดินออกจากห้องไป

“ฟื้นแล้วหรอ เป็นไงบ้าง !” เสียงของลีโอดังมาจากกุญแจจักรราศีด้วยความเป็นห่วง ทันทีที่ผมหยิบกุญแจมาจากมือของมินจุน

“ฉันอาการดีขึ้นแล้ว ถ้าไม่ได้พลังจากนายตอนนั้นคงตาย” ผมบอกลีโอไป นึกถึงตอนที่ตัวเองต่อสู้กับมิเกล นึกว่าตัวเองจะไม่รอดซะแล้ว มองบนเนื้อตัวช่วงบนของตัวเองก็ถือว่าอาการดีขึ้นมาก ถ้าไม่ได้พลังจากลีโอและมินจุนช่วยรักษาแผลเอาไว้ ผมคงเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น

“ฉันขอโทษที่ประมาทไปหน่อย” ลีโอพูดออกมา

“ไม่เป็นไร ๆ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว” ผมพูดตอบลีโอกลับไป พลางเอาผ้าชุ่มน้ำเช็ดไปตามเนื้อตัวของตัวเอง ให้รู้สึกสดชื่นขึ้น ระหว่างที่ผมกำลังคุยกับลีโออยู่เพลิน ๆ ประตูของห้องก็เปิดเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับร่างของไอรีน ผมหันไปมองเจ้าตัวที่ส่งเสียงออกมาก่อนตัว

“วินเป็นไงบ้าง เห็นมินจุนบอกว่าเช็ดตัวให้นายเสร็จแล้ว”

ผมชะงักค้างอยู่ในท่าเอาผ้าเช็ดตัวถูที่หลังของตัวเอง ... ไอ้มิน !

“ไอ้โรคจิต ! ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย !”

พูดจบไอรีนก็หน้าแดงก่ำ ก่อนปิดประตูดังปั้งแบบไม่แคร์ความแพงของเครื่องบินลำนี้เลยสักนิด

แล้วเจ้าตัวก็เดินออกไป โดยที่ผมยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ...

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด