ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 37
ตอนที่ 37
เจ็ดโมงเช้าของวันเสาร์ หลี่กวงเย่ากับไมค์มาที่สนามบาสเกตบอลในสวนสาธารณะพร้อมกัน คิดว่าจะวอร์มร่างกายและจะฝึกซ้อมด้วยตัวเองก่อนที่จะเริ่มต้นเกมฝึกตอนแปดโมง
เดิมทีหลี่กวงเย่าคิดว่ามาจองสนามตอนเจ็ดโมงเช้าก็ถือว่าเช้าพอแล้ว คิดไม่ถึงว่าเวลานี้ในสนามบาสเกตบอลจะมีคนเล่นบอลอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่หลี่กวงเย่าผิดหวัง เตรียมที่จะเดินไปสนามบาสเกตบอลอีกสนามหนึ่งที่ห่วงบาสเกตบอลทั้งสองข้างเอียงไปหมดแล้วนั้น ก็เห็นว่าคนเล่นบอลในสนามบาสหยุดเล่น และโบกมือให้เขา
หลี่กวงเย่าตื่นเต้นดีใจ ยกมือทั้งสองข้างขึ้น โบกสะบัดไปมา “โอ้โฮ พวกพี่มาที่นี่แต่เช้าเลยนะ ผมคิดว่าถูกยึดสนามบอลไปซะแล้ว ใจหายหมดเลย!”
“พวกเรายังไม่ถือว่าเช้านะ เซี่ยหย่าซูบอกว่าเธอมาถึงตั้งแต่ยังไม่ถึงหกโมงครึ่งเลย”เว่ยอี้ฝานชูนิ้วโป้งขึ้น หันไปทางสนามบอลที่อยู่ด้านหลัง เซี่ยหย่าซูกับจันเจี๋ยเฉิงกำลังฝึกซ้อมบอลสามคะแนนอยู่
“พวกพี่กำลังฝึกอะไรกัน?” หลี่กวงเย่ากับไมค์รีบเดินเข้ามาในสนาม วางกระเป๋าเป้กับถุงบอลไว้ด้านล่างเสาบาสเกตบอล
“พวกเรากำลังฝึกเล่นประกบป้องกัน คนหนึ่งเลี้ยงบอล สองคนประกบ คนที่เลี้ยงบอลต้องดริบเบอลิ้งคนประกบป้องกันทั้งสองคนเพื่อทำคะแนน หากโดนแย่งบอลไป ก็จะให้คนที่แย่งบอลไป ได้สิทธิ์การครองบอลเพื่อรุก บอลที่เข้าไม่ว่าจะเป็นบอลสามคะแนนหรือสองคะแนนถือเป็นหนึ่งคะแนน” เว่ยอี้ฝานใช้คำที่เข้าใจง่ายอธิบายให้หลี่กวงเย่าฟัง
“อืม น่าสนใจดี ตอนนี้คะแนนเท่าไหร่แล้ว?” สีหน้าของหลี่กวงเย่าดูตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่าวิธีการฝึกประเภทนี้ตรงกับความสนใจของเขา
“ฉันสี่คะแนน เจินอี้สามคะแนน ต้าเหว่ยยังไม่ได้คะแนน” เว่ยอี้ฝานตอบ
“โอเค เดี๋ยวผมขอเล่นด้วย ใครได้สิบคะแนนก่อนคนนั้นชนะ ชนะแล้วออกจากสนามมาเปลี่ยนกับผม” หลี่กวงเย่า เพิ่มข้อกำหนดไปอีกข้อ โดยไม่ได้ถามความคิดเห็นของสามคนที่อยู่ในสนาม
เว่ยอี้ฝานขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย ปกติคนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดจะต้องถูกเปลี่ยนออกจากสนามถึงจะถูก แต่ไม่นานเขาก็คิดได้ว่าหลี่กวงเย่าต้องการให้เปาต้าเหว่ยมีโอกาสได้ฝึกมากขึ้น ดังนั้นจึงพยักหน้า “โอเค”
สามคนในสนามเล่นบอล หลี่กวงเย่ากับไมค์ยืดเส้นยืดสายวอร์มร่างกายอยู่ข้างสนาม
“ฉันชอบความรู้สึกแบบนี้” หลี่กวงเย่านอนบนพื้น สองมือรองศีรษะไว้ ไมค์ยกเท้าขวาของหลี่กวงเย่าช่วยเขายืดเส้น
“ความรู้สึกยังไง?” ไมค์ถามอย่างสงสัย
“ความรู้สึกที่ทุกคนมีความสุขเวลาที่อยู่ในสนามไง ไมค์ นายรู้ไหม เมื่อตอนเล่นบาสที่โรงเรียนมัธยมต้นตงไถ วันแข่งขันทุกคนจะนัดกันมาก่อนการแข่งขันหนึ่งชั่วโมง แต่ที่กวงเป่ย ไม่ต้องให้ฉันนัด ทุกคนกลับมาฝึกซ้อมที่สนามเช้ากว่าฉันซะอีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ความรู้สึกแบบนี้โคตรดีเลย ถึงแม้ว่าถ้าเทียบกับตงไถ ฉันจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับทีมกวงเป่ยเท่าไหร่ แต่พรสวรรค์ของผู้เล่นทีมกวงเป่ยโดยรวมและศักยภาพกลับมากกว่าเยอะเลย อีกอย่างนอกจากความต้องการของแต่ละคนจะสูงแล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างอีกด้วย” หลี่กวงเย่าเผยให้เห็นสีหน้าตื่นเต้น “นายรู้ไหมว่าคุณสมบัติพิเศษนั้นคืออะไร?”
“ไม่รู้” ไมค์วางเท้าขวาของหลี่กวงเย่าลง เปลี่ยนไปยืดเท้าซ้ายแทน
“นั้นก็คือใจที่จะเอาชนะ เพื่อนร่วมทีมทุกคน นอกจากนายแล้วล้วนแต่มีใจที่จะเอาชนะ แต่ละคนต่อให้ตายก็ไม่คิดจะยอมแพ้ และก็อยากจะเอาชนะฉันด้วย ดังนั้นฉันวิ่งไปกลับโรงเรียน คนอื่นๆ ก็วิ่งไปกลับโรงเรียนเหมือนฉัน ฉัน
ฝึกซ้อมก่อน ทุกคนก็ฝึกซ้อมก่อนเหมือนกัน“หลี่กวงเย่าพูดอย่างมั่นใจในตัวเองมาก”พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมทีมที่น่าสนใจมาก แต่น่าเสียดาย ฉันจะทำให้พวกเขารู้ว่าถึงแม้จะเป็นแบบนี้ พวกเขาก็ยังตามฉันไม่ทัน”
หลังจากที่ยืดเส้นยืดสายเสร็จแล้ว หลี่กวงเย่ากับไมค์วิ่งรอบสนามบาสเกตบอลทั้งสองสนาม เมื่อวิ่งได้สิบห้ารอบแล้ว การฝึกประกบป้องกันแบบสามคนของเว่ยอี้ฝานก็สิ้นสุดลง
เว่ยอี้ฝานได้สิบคะแนนก่อน เพราะเคยมีประสบการณ์แข่งขันลีกเอมาก่อน วิธีการจัดการบอลในขณะที่ถูกประกบจึงดูโดดเด่นกว่าหยางเจินอี้และเปาต้าเหว่ย หยางเจินอี้ได้แปดคะแนน ถึงแม้สภาพร่างกายของเขาจะสู้เว่ยอี้ฝานไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยฝึกซ้อมในทีมระดับลีกเอมาก่อน แต่หยางเจินอี้ก็ไม่เคยฝืนเล่น เขาใช้สมองในการเล่นกับเปาต้าเหว่ย ไม่ได้ปะทะกับเว่ยอี้ฝานแบบแข็งสู้กับแข็ง ดังนั้นประสิทธิภาพการได้คะแนนจึงสูง สำหรับเปาต้าเหว่ย ไม่ว่าจะเป็นการรุกหรือการป้องกัน เขาคือคนที่อ่อนที่สุดในทีม เผชิญหน้ากับเว่ยอี้ฝานและหยางเจินอี้ นอกจากคะแนนเดียวก็ยังไม่ได้แล้ว การป้องกันก็เหมือนเป็นเปเปอร์มาเช่ที่เปราะบางอีกด้วย
หลี่กวงเย่าเดินเข้ามาในสนาม ยืนอยู่ตรงเส้นจุดโทษ หลังจากที่เปิดเกมไปแล้วครั้งหนึ่ง หยางเจินอี้กับเปาต้าเหว่ยเข้ามาประกบอย่างรวดเร็ว หลี่กวงเย่าเลี้ยงบอลไปด้านหลังลากระยะห่างออกไปอีกนิด แล้วตัดเข้าไปทางด้านซ้ายของเปาต้าเหว่ย เปาต้าเหว่ยถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว แต่หยางเจินอี้กลัวเปาต้าเหว่ยจะถูกหลี่กวงเย่าดริบเบอลิ้งการป้องกันได้อย่างสบาย จึงอ้อมด้านหลังเปาต้าเหว่ยไปถึงเส้นด้านหลัง คิดจะบล็อกหลี่กวงเย่าที่เขตจุดโทษ
หลี่กวงเย่าเห็นความตั้งใจของหยางเจินอี้ จึงรับบอลแล้วลงมือเฟด อเวย์ช๊อต[1] แต่แรงเยอะเกินไป องศาของแป้นสูงเกิน บอลเด้งออกจากห่วง
“ให้ตายสิ!”หลี่กวงเย่าตบมือ หยางเจินอี้กับเปาต้าเหว่ยไม่คิดว่าเขาจะชู้ต ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ได้กระโดดขึ้นบล็อก และพลาดโอกาสได้คะแนนอย่างสบาย
เปาต้าเหว่ยแย่งรีบาวด์ได้ จึงรีบอ้อมไปนอกเส้นสามคะแนนทันที แต่หยางเจินอี้กับหลี่กวงเย่าเข้ามาประกบอย่างรวดเร็ว เปาต้าเหว่ยรับบอลอย่างตื่นตระหนก แต่กลับพลาดโอกาสหลบหนีจากการป้องกัน สุดท้ายจึงทำได้เพียงฝืนเฟด อเวย์ช๊อต แต่บอลกลับร่วงลงบนแป้นบาสเกตบอล แม้แต่ห่วงบาสเกตบอลยังไม่โดน
หยางเจินอี้แย่งรีบาวด์ด้วยสายตาและมือที่ว่องไว แต่บอลอยู่ในมือเขาได้ไม่นาน ด้วยความไม่ระวังจึงถูกหลี่กวงเย่าแย่งไป หลี่กวงเย่าใช้การหมุนตัวเปลี่ยนมือเลี้ยงบอล หลบหนีการป้องกันของหยางเจินอี้กับเปาต้าเหว่ย มือซ้ายขึ้นชู้ตสำเร็จ
“แย่งได้คะแนนก่อน หนึ่งต่อศูนย์ต่อศูนย์” หลี่กวงเย่าหยิบบอล มองหยางเจินอี้กับเปาต้าเหว่ย “ตอนนี้สิทธิ์ครองบอลควรให้ใคร?”
หยางเจินอี้บอก “คนได้คะแนนมีสิทธิ์ในการรุก”
หลี่กวงเย่าถือบอลเดินมาที่เส้นจุดโทษ “งั้นต้องเตรียมใจให้พร้อมนะ”
หยางเจินอี้เช็ดเหงื่อบนหน้า “เตรียมใจอะไร?”
หลี่กวงเย่าเผยรอยยิ้มแห่งความมั่นใจในตัวเอง “เตรียมใจสิบต่อศูนย์ต่อศูนย์”
หยางเจินอี้ถึงจะไม่พูดอะไร แต่เห็นได้ชัดว่าการป้องกันหลี่กวงเย่าเข้มงวดและโหดร้ายมากขึ้น การแย่งบอลหลายครั้งล้วนแต่เกือบทำฟาล์ว อย่างไรก็ตามสีหน้าของหลี่กวงเย่ายิ่งตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด และภายใต้การประกบของหยางเจินอี้และเปาต้าเหว่ย เขาก็ชู้ตลูกที่สองเข้า
“สองต่อศูนย์ต่อศูนย์”
การรุกครั้งต่อมา หลี่กวงเย่าก็ชู้ตสำเร็จภายใต้การประกบของทั้งสองคน แต่การแข่งขันนี้เล่นไปได้ไม่นานนัก เพราะขณะที่หลี่กวงเย่ากำลังจะได้บอลลูกที่สี่ หลี่หมิงเจิ้ง อู๋ติ้งหวา และยังมีชายวัยกลางคนอีกหลายคนเดินเข้ามาในสนาม
อู๋ติ้งหวาเดินเข้ามากลางสนามบาสเกตบอลตะโกนร้อง “รวมตัว!”
ดังนั้นผู้เล่นของกวงเป่ยจึงหยุดการกระทำที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว แล้วรีบมายืนอยู่ตรงหน้าอู๋ติ้งหวา อู๋ติ้งหวาพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “คุณลุงคุณอากลุ่มนี้รับปากจะมาเล่นฝึกซ้อมกับพวกเรา ทุกคนสวัสดีพวกท่านกันหน่อย!”
เพราะไม่ได้นัดกันก่อนล่วงหน้า ดังนั้นผู้เล่นทั้งเจ็ดคนของกวงเป่ยจึงตะโกนตามความเข้าใจของตัวเอง “สวัสดีครับคุณอา!” “สวัสดีครับคุณลุง!” “สวัสดีครับทุกคน!”
จากนั้นหลี่หมิงเจิ้งแนะนำความเป็นมาของชายวัยกลางคนเหล่านั้น ที่อายุอานามก็พอจะเป็นพ่อของผู้เล่นทีมกวงเป่ยได้ “ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอตอนนี้เป็นผู้เล่นทีมบาสเกตบอลของชุมชนที่มีชื่อเสียงในละแวกนี้ เดี๋ยวตอนเล่นต้องเรียนรู้กับผู้มีประสบการณ์ในกีฬาบาสเกตบอลกลุ่มนี้ให้มากๆ นะ!”
ผู้เล่นของกวงเป่ยตอบพร้อมกัน “ครับ!”
ในเวลานั้นหยางซิ่นเจ๋อวิ่งเข้ามาในสนามบาสเกตบอลอย่างรีบร้อน วางถุงใบใหญ่ที่แบกอยู่บนหลังลงกับพื้นด้วยท่าทางเหนื่อย “ขอโทษด้วยครับผมมาช้าไปหน่อย นี่เป็นเสื้อที่ผมได้มาเมื่อคืนนี้”
หยางซิ่นเจ๋อหยิบเสื้อขึ้นมาทีละผืน แยกตัวที่เป็นของผู้เล่นแต่ละคนใส่มือพวกเขา
เสื้อตัวหนังสือสีขาวพื้นสีฟ้าเหมือนกับตราประจำโรงเรียน ผู้เล่นแต่ละคนจุดประกายความกระตือรือร้นในตัวเอง
“กฎเกณฑ์ในการแข่งขันครั้งนี้เหมือนกับการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ผมและหัวหน้าโค้ชจะทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน การนับคะแนนจะเป็นผู้ช่วยโค้ชหยางรับผิดชอบ อีกยี่สิบนาทีจะเริ่มการแข่งขัน มีปัญหาอะไรไหม?” หลี่หมิงเจิ้งไม่อ้อมค้อม พูดชัดเจนรวดเดียวจบ
ผู้เล่นทั้งสองทีมต่างส่ายหน้า
ทีมกวงเป่ยและทีมชุมชนต่างเริ่มวอร์มร่างกายของแต่ละคน เนื่องจากผู้เล่นของกวงเป่ยมาถึงสนามบอลก่อน จึงทำการวอร์มร่างกายกันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อใหม่แล้วจึงเริ่มฝึกซ้อมยิงเพริมเมเตอร์ ช็อตกับวิ่งเลย์อัพ แต่ผู้เล่นทีมชุมชนเพิ่งมาถึงสนาม อีกทั้งรู้อายุที่เพิ่มขึ้นของตัวเอง แต่ละคนจึงช่วยกันวอร์มร่างกาย
ทีมชุมชนใช้เวลาวอร์มร่างกายสิบนาที และใช้เวลาอีกสิบนาทีทำการฝึกชู้ตบอลอย่างง่ายๆ หลังจากที่หลี่หมิงเจิ้งเป่านกหวีด และปรึกษาเรื่องตัวจริงกับตัวสำรองเป็นเอกฉันท์แล้วจึงเดินเข้าไปเตรียมพร้อมจั๊มบอลกลางสนาม
กวงเป่ยจัดทีมตัวจริงตามที่ได้กำหนดไว้เมื่อตอนเช้า หลี่กวงเย่าเบอร์ยี่สิบสี่ เว่ยอี้ฝานเบอร์สามสิบสอง หยางเจินอี้เบอร์สามสิบสาม จันเจี๋ยเฉิงเบอร์ห้าสิบห้า ไมค์เบอร์เก้าสิบเอ็ด
ขณะที่ทั้งสองทีมกำลังจะเริ่มจั๊มบอลนั้น ไกลออกไปมีร่างของชายสามคนกำลังเดินเข้ามา มีหลี่อวินเสียงพ่อของไมค์ ผู้อำนวยการเย่อวี้เฉิง หยางเสียงอิงพ่อของหยางเจินอี้
……………………………………………………………………………….
[1] Fade away (เฟด อเวย์ช๊อต) เป็นการทำแต้มโดยการกระโดดถอยไปข้างหลังแล้วชู้ต