ตอนที่ 37 ความคิดแปลกๆ
รถหยุดนิ่งและหานเซี่ยวก็ถูกผลักออกมาพร้อมถุงดำที่ยังคงครอบหัว เมื่อรถเริ่มออกตัว หานเซี่ยวก็นำถุงดำออกเพื่อค้นหาตัวเองว่าอยู่ไหน
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาสามารถเห็นดวงจันทร์เปล่งประกายหลายดวงในท้องฟ้า
“จิ๊ ทำไมอะไรๆก็ต้องเป็นความลับ?”เขาพึมพำ
อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวรู้สึกพึงพอใจมากที่บรรลุเป้าหมายเขา เขาฮัมเพลงอย่างเพลิดเพลินขณะเดินกลับไปยังโรงงาน และเพียงเมื่อเขามาถึงทางเข้า เขาก็ฉุกคิดได้ว่าเขาควรอธิบายยังไงกับการหายตัวไปถึงสามวันดี
หานเซี่ยวก้าวไปในโรงงาน เห็นลู่เฉียนกำลังเดินวนไปมาอย่างกังวล
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอโกรธเมื่อเห็นเขา
“ทำไมนายเพิ่งกลับมาตอนนี้?!นายรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงนายมากแค่ไหน?นายเป็นชาวต่างชาติ!ฉันคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับนายซะอีก!”
‘หะ เกิดอะไรขึ้น?’หานเซี่ยวจ้องมองเธอด้วยสายตาว่างเปล่า
“นายไปทำอะไรมากันแน่?”
“แค่เดินเล่น”
“อย่างน้อยนายก็ช่วยหาข้อแก้ตัวที่ดีกว่านี้ได้ไหม?!”
“ฉันคิดว่า..มันก็ดีแล้วนะ?”
“เหตุการณ์ยิงกันที่ลานขยะถูกรายงานข่าวเมื่อวาน ฉันคิดว่านายอาจติดอยู่ในนั้นและ..”ลู่เฉียนเริ่มจู้จี้
การถูกจู้จี้ไม่ได้ทำให้หานเซี่ยวขุ่นเคือง ในทางตรงกันข้าม มันกลับทำให้เขารู้สึกอบอุ่น
อย่างไรก็ตาม เฒ่าหมานลู่กลับปรากฏขึ้นทำลายช่วงเวลานี้
“แกยังมีชีวิตอีก?น่าผิดหวังเสียจริง”
“ฉันจะหาโทรศัพท์มือถือมาให้นาย ค่าใช้จ่ายจะหักจากเงินเดือนนาย”ลู่เฉียนกล่าว
“ไม่จำเป็น ฉันมีอยู่แล้ว”หานเซี่ยวตอบพลางหยิบมือถือสีดำออกมา
แม้พวกเขาจะบอกเขาไม่ให้ส่งหมายเลขโทรศัพท์ให้ใคร แต่ใครจะสนละ!
เมื่อเห็นโทรศัพท์สีดำ เฒ่าหมานลู่ก็จ้องเขม็ง เขาลากตัวหานเซี่ยวไปอีกมุมหนึ่ง
“นี่คือโทรสัพท์ของแผนก13 แกเข้าร่วมแผนก13แล้ว?”
“งั้นคุณก็รู้จักมัน”
“ฮืม ในเมื่อแกเข้าร่วมแผนก13แล้ว...งั้นก็ไสหัวไปให้พ้นโรงงานฉันซะ!”
“คุณสามารถออกไปได้หากคุณต้องการ แต่ผมจะไม่ไปไหน”
“แกกล้าพูดกับฉันเช่นนั้น?!ทำไมแกถึงคิด...”
เฒ่าหมานลู่หยุดชะงัก
“แก...กำลังพยายามคิดจีบหลานสาวฉัน?”เขาคำราม
“ไม่ใช่!”หานเซี่ยวรีบตอบ
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเฒ่าหมานกลับยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่
“เห้ เจ้าหนูหาน ตอนนี้ฉันก็กำลังคิดอยู่พอดี...หลานสาวฉันไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว แกคิดยังไงเกี่ยวกับเธอละ?”
หานเซี่ยวแข็งค้าง
“เฒ่าลู่ อย่างที่คนกล่าวกัน เมล่อนที่ถูกขโมยมักไม่หวานฉ่ำ!”
“แต่อย่างน้อยแกก็ยังมีเมล่อน!นอกจากนี้ เรายังต้องการเด็กมาสืบสกุล”
เรา?!อย่าลากผมไปเข้าร่วมแผนผังตระกูลคุณ!
“..”
“ฮี่ฮี่ ตีเหล็กต้องตีตอนที่มันร้อน!ฉันสามารถช่วยแกได้หลายเรื่อง”เขากล่าสเริมขณะตบไหล่หานเซี่ยวก่อนจะขึ้นบันไดไป ทิ้งหานเซี่ยวให้ยืนอย่างงุนงง
คนแก่ที่ต้องการลูกหลานมักน่ากลัว!
หานเซี่ยวหันหลังกลับ และต้องขนลุกเมื่อเห็นว่าลู่เฉียนยืนอยู่ด้านหลังเขามาตลอด เธอจ้องหานเซี่ยวด้วยดวงตากลมโต ซึ่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
“นี่เป็นการเข้าใจผิด!”
“มะ-ไม่!”ลู่เฉียนปิดใบหน้าเขินอายเธอและวิ่งขึ้นบันไดไป
“มันไม่ใช่อย่างนั้น..”
…
สำหรับลั่วซวน เขากระวนกระวายมาตลอดวัน เกลัวว่าหานเซี่ยวจะเข้าร่วมแผนกโลจิสติกส์และขโมยความเฉิดฉายไปจากเขา
เมื่อมาถึงจุดๆหนึ่ง เขาก็ตรงไปหาผู้อำนวยการเพื่อถามถึงหานเซี่ยว
“ข้อมูลเขาถือเป็นความลับ”ผู้อำนวยการฝ่ายโลจิสติกส์ที่มักมีรอยยิ้มบนใบหน้าเขากล่าวขึ้น“ทั้งหมดที่ฉันสามารถบอกเธอได้คือเขาได้เข้าร่วมแผนก13แล้ว”
หัวใจของลั่วซวนเต้นกระหน่ำกับข่าว
“เขาจะเข้าร่วมโลจิสติกส์หรือวิจัยกันครับ?”
ผู้อำนวยการส่ายหัว
“ไม่ใช่ทั้งสอง เขาจะเข้าร่วมแผนกปฏิบัติการลับ เขาจะเริ่มงานในอีกไม่กี่วัน
ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงให้ลั่วซวน
หน้าใหม่ที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นกลับถูกคัดเลือกเข้าหน่วยลับโดยตรง?ฉันทำงานมาหลายปี แต่ก็ยังอยู่ในแผนกวิจัย?
นี่ไม่ยุติธรรม!
..
หนึ่งสัปดาห์หลังเหตุการณ์ที่ลานขยะ เหล่ามาเฟียของทั้ง6เขตได้มารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นการหายไปของแรคคูร
หลังขบคิดถึงปริศนา พวกเขาก็สามารถค้นพบว่าแผนก13ได้ยื่นมือออกมา และนี่ก็ทำให้พวกเขาตกใจ
แรคคูนกลับไปกระตุกหนวดเสือเข้า?
“แรคคูรต้องไปตอแยแผนก13เข้า เขาอาจตายไปแล้ว”หัวหน้าของ2ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการประชุมประกาศ
เหล่าผู้นำโลกมืดล้วนมีสีหน้าดำมืด แม้พวกเขาจะมักทำตัวสูงส่งและองอาจต่อหน้าลูกน้อง พวกเขาก็รู้ดีว่าแผนก13สามารถกวาดล้างพวกเขาได้ทุกเมื่อ พวกเขาเป็นแค่กลุ่มอันธพาลเล็กๆ
เหนือสิ่งอื่นใด เมืองหลวงตะวันตกคือที่ตั้งของรัฐบาล และพวกเขาก็เป็นแค่หนูตามท่อระบายน้ำ ในความเป็นจริง พวกเขาไม่อาจเทียบได้กับนายหน้าขายอาวุธเถื่อนและข่าวในสลัมได้ด้วยซ้ำ!อย่างน้อยกลุ่มคนเหล่านั้นก็มีเบื้องหลังที่ทรงพลัง
“ใครอยากจะครองเขต7?”หัวหน้าเขต2ถาม
ทุกคนนิ่งเงียบ
“ไม่มีใครเลย?”
แม้เหล่าหัวหน้ามักต่อสู้แย่งอาณาเขตกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้ายึดครองเขต7โดยไม่เข้าใจเหตุผลการลงมือของแผนก13
“ไม่เป็นไร งั้นเราก็จะปล่อยให้พวกเลือดใหม่เข้าแย่งชิง”
ตอนนี้แรคคูนได้ถูกลบออกจากภาพ มีคนทะเยอทะยานในแก๊งเขาลุกขึ้นยืนเพื่อยึดอำนาจ แน่นอน ไม่ใช่ว่าพวกเขายินดีให้คู่ต่อสู้ใหม่เผยโฉม แต่เพราะสถานการณ์ในเขต7ยังไม่ชัดเจน พวกเขาแค่กำลังรอดูสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่ส่ายเกินไปที่จะกำจัดหัวหน้าใหม่ทันทีที่ทุกอย่างมั่นคง
...
ชีวิตของหานเซี่ยวในโรงงานกลับเป็นปกติ หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาก็เบิกเงินเดือนแรกล่วงหน้าเพื่อสั่งวัตถุดิบจากแผนก13
ในปัจจุบัน เขากำลังตรวจสอบกระสุนสีแดงเข้มบนฝ่ามือเขา มันถูกสลักด้วยลวดลายเปลวไฟ
[กระสุนระเบิดแรงสูง] : ทำให้เกิดการระเบิดในรัศมี3เมตรเมื่อกระทบเป้าหมาย
แม้มันจะเป็นคำอธิบายสั้นๆ แต่มันก็ทรงพลังมาก
กระสุนระเบิดแรงสูงประกอบด้วยเจลและก๊าซที่ติดไฟง่ายซึ่งสามารถติดไฟได้ง่ายกว่ากระสุนเจาะเกราะดั้งเดิม พวกมันจะระเบิดทันทีที่สัมผัสกับอากาศและตัวกระสุนก็จะหายไปพร้อมกับการระเบิดโดยไม่หลงเหลืออะไรไว้
วิธีการสร้างถูกอธิบายไว้ในพิมพ์เขียว และแม้หานเซี่ยวจะไม่เข้าใจมันดี เพราะเขายังไม่ได้เรียนรู้[เคมีพื้นฐาน]แต่เขาก็ยังสามารถสร้างมันได้ตามคำแนะนำ
สำหรับกระสุนปืนพกไปจนถึงกระสุนสไนเปอร์ ในอีกไม่กี่วันต่อมา หานเซี่ยวได้สร้างกระสุนระเบิดแรงสูงหลายสิบนัด
เขายังใช้โลหะคุณภาพดีเพื่อสร้างมีดพัน0.65เมตร 2.5กิโลกรัมพร้อมความเสียหาย13-19หน่วย มันเป็นมีดดำมีขอบเป็นสามเหลี่ยมและด้วยความที่มันยังไม่เหมาะกับการต่อสู้จริง มันจึงเอาไว้ใช้ฝึกฝน
หานเซี่ยวใช้ค่าประสบการณ์ที่เขาได้รับจากการสร้างกระสุนระเบิดและมีดพับเพื่อยกระดับ[ความสัมพันธ์กับเครื่องกล(ฝึกหัด)]เป็นระดับ4
[ความสัมพันธ์กับเครื่องกล(ฝึกหัด)]มีระดับสูงสุดคือ5 ซึ่งหานเซี่ยวต้องใช้ค่าประสบการณ์15000หน่วย [พื้นฐานการยิง]เขาอยู่ที่ระดับ8และนั่นก็ต้องใช้ค่าประสบการณ์45000เพื่อยกระดับ รวมทั้งหมด หานเซี่ยวต้องใช้ค่าประสบการณ์6หมื่นหน่วยเพื่อได้รับแต้มพรสวรรค์อีก2แต้ม
แต่ละประเทศใน6ประเทศจะครอบครองความรู้ขั้นกลางที่แตกต่างกันออกไป บนดาวเคราะห์อความารีน มีความรู้ขั้นกลางเพียง3ใน5ของคลาสหลัก นักสู้ ช่างกลและผู้ใช้พลังจิต
ด้วยความที่ดาวเคราะห์เริ่มต้นไม่มีความรู้ขั้นกลางครบทั้ง5สายอาชีพหลัก ผู้มาใหม่จึงมักถูกส่งไปดาวเคราะห์ตามการตั้งค่าที่พวกเขาป้อน
แม้แผนก13จะครอบครองความรู้ขั้นกลางของช่างกล แต่มันก็มีเพียงพันธมิตรระดับ’เทิดทูน’เท่านั้นจึงเข้าถึงได้
มันยังมีเส้นทางอีกยาวไกลก่อนหานเซี่ยวจะกลายเป็นที่เทิดทูนต่อแผนก13
นับตั้งแต่คืนที่หานเซี่ยวกลับมายังโรงงาน ลู่เฉียนก็ไม่มองเขาโดยตรงอีก และมักหน้าแดงและหนีไปหลังคุยกับเขาไม่กี่ประโยค ทำให้หานเซี่ยวรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก มันยิ่งไม่ช่วยอะไรเมื่อเฒ่าหมานมักปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวเพื่อมอบความรู้การจีบสาว
สำหรับตัวลู่เฉียนเอง เธอมีความรู้สึกผสมปนเปกัน
แน่นอน เธอไม่ได้เกลียดหานเซี่ยว แต่ทว่า เธอก็ไม่ได้ดูเหมือนจะชอบเขาเช่นกัน
เธอกลับกังวลว่าหานเซี่ยวจะเก็บของและออกไปหากเธอปฏิเสธเขา เหนือสิ่งอื่นใด เธอจะหาพนักงานดีๆเช่นเขาได้จากไหนกัน?
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของหานเซี่ยวก็สว่างขึ้น
มีข้อความ ‘ เอกสารสมบูรณ์แล้ว มารายงานตัววันนี้-เฟิง จุน’
“ในที่สุด”