ตอนที่ 17 อาณาจักรโกลด์เด้นกราวด์
ตอนที่ 17 อาณาจักรโกลด์เด้นกราวด์
โกลด์เด้นกราวด์เป็นอาณาจักรใหญ่ที่สุดในแดนใต้ โดยเฉพาะเมืองหลวงอีรอสมีความใหญ่โตเป็นพิเศษมากกว่าเมืองอื่นใด มีกำแพงเมืองสีขาวสูงตระหง่านถึงร้อยเมตร กำแพงเมืองอีรอสได้ชื่อว่าเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดิน ต่อให้เหล่าคนยักษ์บุกมาก็ไม่อาจทำอย่างไรได้
บนกำแพงเมืองมีหอคอยสูงคอยสอดส่องระวังศัตรู เหล่าทหารเกราะสีเงินนับพันยืนเรียงรายตามจุดต่าง ๆ ใบหน้าพวกเขามีเหงื่อไหลซึมท่ามกลางอากาศร้อนและแสงแดดที่แรงจัด หากแต่สีหน้าของเหล่าทหารกล้าไม่แสดงความเหนื่อยอ่อนแม้แต่น้อย
ขบวนรถของโชก้าและท่านหญิงลินเดียร์ผ่านเข้าประตูเมืองอีรอส เซน่าเห็นในเมืองมีผู้คนคับคั่ง มีร้านรวงเปิดขายของมากมาย ตั้งแต่ร้านขายอาหาร ร้านขายของวิเศษ เช่น ไม้กายสิทธิ์ แผงผลไม้ ร้านหนังสือ ร้านเสื้อผ้า ร้านค้าต่าง ๆ แน่นขนัด จนไม่อาจเดินได้หมดในเวลาไม่กี่วัน
บ้านช่องในเมืองอีรอสส่วนใหญ่ล้วนประดับธงสีทองปักลายรูปดาบสีขาว คาดว่าเป็นรูปดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอส ธงนี้เป็นสัญลักษณ์ของอาณาจักรโกลด์เด้นกราวด์ ชาวเมืองปักธงของอาณาจักรมากมายเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความภูมิใจในชาติตนเองของชาวเมืองอีรอสยิ่ง
เจ็ดร้อยปีก่อนเดเรนปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เฮฟเว่นซาวด์ก่อตั้งอาณาจักรโกลด์เด้นกราวด์ขึ้นมา เขาก็พัฒนาเมืองอีรอสบ้านเกิดตนหวังให้เจริญเท่ากับนครลอเลียน เมืองหลวงของราชวงศ์โทเบียเจียนซึ่งเป็นแหล่งรวมอารยธรรม
หลังเดเรนสังหารจักรพรรดิไทดัล เขาก็สั่งขนย้ายสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ตั้งแต่เพชร และอัญมณีอันมีค่าและหนังสือ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ จากนครลอเลียนมายังเมืองอีรอส เมืองหลวงแห่งอาณาจักรโกลด์เด้นกราวด์ ดังนั้นตลอดเจ็ดร้อยปีที่ผ่านมา เมืองอีรอสคือแหล่งรวมอารยธรรมยุคใหม่
ขบวนรถของท่านหญิงลินเดียร์และโชก้าเข้าไปที่คฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง กำแพงบ้านติดป้ายทองขนาดใหญ่ “วิกเชอร์เสนาบดีคลัง”
ที่แท้ก่อนหน้าลินเดียร์สงสัยว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนาง มีเพียงแต่โชก้าและเซน่าที่รู้เห็นเรื่องเหล่าบุรุษชุดดำ ดังนั้นลินเดียร์จึงชักชวนทั้งสองให้ไปพักผ่อนที่บ้านของนางเพื่อต้องการให้ทั้งสองเล่ารายละเอียดกับบิดาของนางซึ่งเป็นถึงเสนาบดีคลัง
ภายในบ้านของลินเดียร์งดงามอย่างยิ่ง เพดานสีทองติดคริสตัลสีขาวส่องแสงเพิ่มความสว่างไสวและยังเต็มไปด้วยของประดับหรูหรา ยังทั้งมีแจกันลายครามวางเรียงราย เห็นรูปปั้นบุรุษสวมชุดเกราะแบบทหาร รูปปั้นสตรีงามสวมกระโปรงถือดอกกุหลาบ หากมองเพียงผิวเผินอาจคิดว่ารูปปั้นเหล่านี้เป็นคนจริง ๆ
ตามฝาผนังบ้านประดับไปด้วยภาพวาด มีทั้งภาพของเดเรนปฐมกษัตริย์แห่งโกลด์เด้นกราวด์ ภาพทหารเกราะเงินทำศึก ภาพทิวทัศน์ท้องฟ้าและผืนป่า แสดงถึงรสนิยมอย่างสูงของเจ้าของบ้าน
ข้าวของเครื่องใช้ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ล้วนทำมาจากทอง จานชามก็ล้วนทำด้วยทอง โชก้าเป็นพ่อค้าสายตาแหลมคม มองดูก็ทราบว่าสิ่งใดเป็นทองจริง สิ่งใดเพียงแค่ทำเลียนแบบ แต่เขาทราบดีว่าไม่ควรพูดมาก
ลินเดียร์ให้สาวใช้ในบ้านจัดหาห้องพักให้เซน่าและโชก้า จากนั้นให้ทั้งสองอาบน้ำชำระกาย เซน่าหลังอาบน้ำเสร็จแล้วสาวใช้นางหนึ่งก็เปิดประตูห้องนำชุดมาให้
ชุดนั้นเป็นชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน ทำจากผ้าไหมชั้นดี สาวใช้กล่าวว่า
“ท่านหญิงสั่งให้ข้านำชุดมาให้ท่าน”
เซน่าขมวดคิ้วกล่าวว่า “นี่ชุดเหลวไหลอะไร?”
สาวใช้งงเล็กน้อย ชุดที่นางนำมาให้มีราคาแพงและงดงามยิ่งไม่ทราบเหลวไหลอย่างไรจึงกล่าว
“ท่านหญิงบอกว่าเห็นท่านสวมชุดบุรุษ คิดว่ายามเดินทางลำบากจึงต้องสวมชุดรัดกุม แต่ตอนนี้อยู่ในบ้านของท่านหญิง ท่านสามารถใส่ชุดที่เหมาะสม”
“ชุดที่เหมาะสมของข้าคือชุดบุรุษ” เซน่ากล่าวเสียงเข้ม
สาวใช้ตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม เห็นสตรีนางนี้นิสัยประหลาดยากเข้าใจ สาวใช้จึงรับคำและรีบไปรายงานลินเดียร์
ลินเดียร์ทราบว่าเซน่ามีวิชาดาบระดับสูง แสดงว่าเป็นคนชอบฝึกฝนวิชาการต่อสู้ จึงเข้าใจว่าเซน่ามีนิสัยของบุรุษติดตัวมาบ้างถึงชอบแต่งกายเลียนแบบบุรุษ ดังนั้นลินเดียร์จึงให้สาวใช้หาชุดแบบเขารูปของสตรีไปให้นาง
เซน่าเห็นสาวใช้นำชุดสีน้ำเงินมาให้ เป็นเสื้อและกางเกงเข้ารูปในแบบของสตรี สตรีสาวใช้กล่าวว่า
“ท่านหญิงไม่ทราบรูปร่างส่วนสูงท่าน จึงไม่อาจหาชุดบุรุษมาให้ท่านได้ ท่านสั่งให้นำชุดเข้ารูปของสตรีมาแทนก่อน หากท่านต้องการสวมชุดบุรุษ หลังทานอาหารท่านหญิงจะพาท่านไปร้านขายเสื้อเพื่อเลือกซื้อ”
เซน่าไม่อยากเรื่องมากอีก ชุดสีน้ำตาลของนางก็สกปรกยิ่ง ชุดสีดำก็สั่งตัดตามรูปร่างของเรดิกัลใส่แล้วหลวมกว้างเกินไป เซน่าจึงยินยอมใส่ชุดสีน้ำเงินนี้
โชก้าและลินเดียร์นั่งอยู่บนโต๊ะยาวสีทองที่ยาวกว่าสามเมตร โดยมีลินเดียร์นั่งอยู่ตรงกลาง ทั้งสองเห็นเซน่าเดินมาถึง เซน่าใส่เสื้อและกางเกงของสตรีถือดาบสีเงิน มีความงดงามปราดเปรียว ท่วงท่าที่เดินมาก็สง่างามราวเชื้อพระวงศ์อันสูงศักดิ์ โชก้าเห็นแล้วได้แต่มองตาค้างในความงามของเซน่า
ท่านหญิงลินเดียร์กล่าวว่า “ที่นี่เป็นบ้านของข้า มีทหารคุ้มกันนับร้อย ท่านไม่จำเป็นต้องถือดาบตลอดเวลาก็ได้”
เซน่ากล่าวว่า “ข้าจะไม่ประมาทอีก”
ความหมายของเซน่าคือในงานเลี้ยงฉลองชัยชนะที่ปราบคอร์แซค นางประมาทซาอูจึงถูกวางยาพิษ หากไม่ใช่เพราะอานุภาพของดาบเพน (Pain-เจ็บปวด) ทำให้เหล่าราชองครักษ์ที่ทรยศเกรงกลัว นางอาจตายไปแล้วก็ได้
ทุกคนย่อมไม่เข้าใจความหมายของนาง
เมื่อแขกมาพร้อมแล้ว สาวใช้ทยอยยกอาหารมาให้ไม่ขาดสาย ทั้งเนื้อไก่ ปลา กุ้ง ผักหลายชนิด เซน่าไม่ได้กินอาหารดี ๆ แบบนี้มานานแล้ว จึงกินอย่างเต็มที่ โชก้ากล่าวว่า “ท่านหญิง พิธีเลือกราชินีจะเริ่มขึ้นเมื่อไร?”
ลินเดียยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า “ฝ่าบาทฟินเดลจะเลือกคู่ครองในอีกห้าวันข้างหน้า ข้าไม่ได้พบเจอท่านนับสิบปีแล้ว”
โชก้าถามอย่างสนใจว่า “ท่านหญิง ท่านเป็นอะไรกับราชาฟินเดล?”
รอยยิ้มของลินเดียร์ดุจดังบุปผาแรกแย้ม ตอบไปว่า
“ข้าเป็นญาติห่าง ๆ ของฝ่าบาท ปู่ของข้าเป็นน้องชายของปู่ราชาฟินเดล”
โชก้ากล่าวว่า “ท่านเช่นนั้นท่านก็เป็นเชื้อพระวงศ์”
ลินเดียร์พยักหน้าตอบ
โชก้าถามว่า “เหตุใดราชาฟินเดลจึงเลือกราชินีเร็วปานนี้ พระองค์เพิ่งอายุเพียงสิบแปดปี”
ลินเดียร์ตอบไปว่า “สองปีก่อนบุรุษในเงามืดเพโดกัสบุกโจมตีเมืองทางตะวันตกของอาณาจักโกลด์เด้นกราวด์ ราชาองค์ก่อนเธเรน นำทัพออกศึกด้วยพระองค์เองทั้งที่เข้าสู่วัยชรา แม้จะขับไล่เพโดกัสไปได้ แต่พระองค์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนสวรรคตพระองค์ทรงเห็นว่าชีวิตมีความไม่แน่นอน จึงเป็นห่วงท่านพี่ฟินเดลและอนาคตของราชวงศ์ จึงทรงมีรับสั่งสุดท้ายให้ราชาฟินเดลแต่งงานเมื่ออายุสิบแปดเพียงเพราะต้องการให้ราชวงศ์มีทายาท”
ท่านหญิงลินเดียร์อธิบายต่ออีกว่า “ในอดีตราชวงศ์เฮฟเว่นซาวด์ กษัตริย์แต่ละรัชกาลมีพระโอรส พระธิดาหลายพระองค์ แต่มาถึงในรุ่นของราชาเธเรน พระองค์ทรงมีพระธิดาหนึ่งองค์และพระโอรสเพียงหนึ่งองค์ ราชาเธเรนเพิ่งมีพระโอรสตอนอายุห้าสิบปี จึงทรงเป็นห่วงเรื่องการสืบทอดทายาทยิ่ง จึงมีรับสั่งเช่นนี้”
เซน่าถามขึ้นบ้างว่า “ฟินเดลมีพี่สาวหรือน้องสาว?”
เซน่าเรียกหาชื่อราชาฟินเดลตรง ๆ ลินเดียร์รู้สึกแปลกใจแต่ก็ไม่ถือสา
ท่านหญิงลินเดียร์ตอบไปว่า “พระพี่นางฟินโอร่าเป็นพี่สาวของราชาฟินเดล พระมารดาของพวกท่านสิ้นพระชนม์ตั้งแต่ท่านยังเล็ก ราชาเธเรนจึงเลี้ยงดูทั้งสองเติบใหญ่ด้วยพระองค์เอง พระพี่นางฟินโอร่าถูกเลี้ยงดูโดยบุรุษ นางจึงชอบการฝึกเพลงดาบเหมือนกับท่าน..เซน่า”
เซน่าไม่เคยทราบมาก่อนว่าฟินเดลมีพี่สาวและยังชอบฝึกเพลงดาบ
“กุหลาบศักดิ์สิทธิ์” โชก้ากล่าว
เซน่าถาม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
โชก้ากล่าวว่า “ท่านฟินโอร่าฉายากุหลาบศักดิ์สิทธิ์เนื่องเพราะนางชอบสวมชุดสีแดงเช่นเดียวกับสีของดอกกุหลาบ ฝีมือดาบของนางยอดเยี่ยมกว่าบุรุษทั้งปวง”
ลินเดียร์พยักหน้ากล่าวว่า “พระพี่นางฟินโอร่าเป็นที่รักของประชาชนยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝีมือดาบ สติปัญญา ความเมตตา เป็นดุจดั่งเหมือนพระแม่ที่ยังมีชีวิต ทำให้ประชาชนตั้งฉายานางว่ากุหลาบศักดิ์สิทธิ์”
แต่ไรมาเซน่าดูถูกสตรีมาโดยตลอด แต่เมื่อได้ยินลินเดียร์และโชก้ายกย่องฟินโอร่า นางก็รู้สึกสนใจขึ้นมาบ้าง
ทันใดสาวใช้นางหนึ่งก็เดินเข้ามา “ท่านหญิง นายท่านมาแล้ว”
ลินเดียร์ได้ยินเช่นนั้นก็ลุกขึ้น จากนั้นไม่นานเห็นชายสวมชุดสีทองผมสีดำ ไว้หนวดเรียวแหลมเดินมา สีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดียิ่ง
ทั้งสองต่างสวมกอดกัน ชายชุดสีทองกล่าวว่า “พ่อคิดถึงเจ้าเหลือเกิน เมื่อรู้ว่าเจ้ามาถึงจึงรีบลางานครึ่งวันมาหาเจ้า”
ลินเดียร์กล่าวว่า “ข้าก็เช่นกัน”
จากนั้นลินเดียร์แนะนำโชก้าและเซน่าต่อพ่อนาง และกล่าวว่า
“พ่อของข้า ท่านวิกเชอร์เป็นเสนาบดีคลังแห่งโกลด์เด้นกราวด์”
โชก้ารีบลุกจากเก้าอี้ค้อมกายคำนับ ส่วนเซน่านางเป็นถึงอดีตกษัตริย์จึงไม่คิดลดตัวคำนับขุนนางประเทศอื่น นางจึงเพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้น
วิกเชอร์แปลกใจในกริยาเซน่าเล็กน้อย แต่เขาเห็นเป็นแขกของลูกสาวก็ไม่นำมาใส่ใจ เขานั่งลงทานอาหารด้วย ลินเดียร์ให้โชก้าเล่าถึงเรื่องที่นางเกือบถูกลอบสังหารให้วิกเชอร์ฟัง วิกเชอร์ครุ่นคิดไม่ตอบคำ สักพักเขาจึงเคาะนิ้วกล่าวว่า
“ข้าคิดไม่ออกว่าลูกสาวข้าที่แม้แต่แมลงยังไม่กล้าฆ่าจะไปทำอะไรให้ใคร? ตัวข้าเองแม้จะมีเรื่องบาดหมางกับขุนนางคนอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับจะคิดฆ่าฟันกัน”
วิกเชอร์กล่าวกับลินเดียร์ว่า “อีกห้าวันเจ้าต้องเข้าวังไปงานเลือกราชินีขององค์เหนือหัวฟินเดล ไม่แน่พระองค์..พระองค์อาจจะเลือกเจ้า”
ลินเดียร์ยิ้มอย่างเอียงอาย นางนิ่งเงียบไม่ตอบ
วิกเชอร์กล่าวว่า “คิดไม่ถึงจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น ความปลอดภัยของเจ้าสำคัญที่สุด ในห้าวันนี้เจ้าอย่าออกไปไหนโดยพละการ”
“มอสกิล” วิกเชอร์ตะโกนเรียก
ทหารเกราะเงินหนวดทองนามมอสกิลซึ่งคุ้มครองลินเดียร์เดินเข้ามาถึง
วิกเชอร์สั่งว่า “เจ้าค้นหาที่มาของพวกบุรุษชุดดำให้ได้ หากลูกสาวข้าเป็นอะไร เจ้าต้องรับผิดชอบ”
มอสกิลค้อมกายรับคำสั่ง
“เขาแพ้ข้าในดาบเดียวหากเจอบุรุษชุดดำก็ได้แต่ตายเปล่า” เซน่ากล่าวขึ้น
วิกเชอร์หันไปมองเซน่าและถามว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
เซน่ากล่าวว่า “ท่านถามเขาเองเถอะ”
วันก่อนมอสกิลประมาทถูกเซน่าใช้ดาบจ่อคอในชั่วพริบตา นับเป็นความอัปยศของทหารเกราะเงินอย่างเขา
ลินเดียร์และโชก้าเห็นว่าเซน่าจะอย่างไรก็ไม่ควรกล่าวถึงเรื่องนี้ให้มอสกิลต้องอับอายต่อหน้าเสนาบดีคลังวิกเชอร์
มอสกิลกล่าวว่า “ท่านวิกเชอร์ ข้า..ข้าเคยพ่ายแพ้ใต้เงื้อมมือนาง แต่ตอนนั้นนางฉวยโอกาสที่ข้าประมาท”
วิกเชอร์กล่าวอย่างสงสัยว่า “พ่ายแพ้ต่อสตรีนางนี้? เจ้าเป็นถึงหัวหน้าทหารของข้า ไม่ว่าจะประมาทหรือไม่ก็ไม่อาจนำมาอ้างได้”
วิกเชอร์มองไปที่เซน่าเขาแทบไม่เชื่อว่าสตรีงามนางนี้สามารถชนะมอสกิลได้
เซน่ากล่าวว่า “หากเจ้าอ้างข้าฉวยโอกาสโดยเจ้าไม่ทันระวัง ข้าจะให้โอกาสเจ้าแก้ตัว”
โชก้ารู้สึกว่าเซน่าไร้เหตุผลไปบ้าง คล้ายต้องการหาเรื่องมอสกิลทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน ขณะที่เขาจะเตือนเซน่า ได้ยินมอสกิลกล่าวเสียงเข้มว่า “ได้ ข้าจะประลองกับเจ้า”
วิกเชอร์เงียบไปครู่นึงจึงกล่าว “หากพวกเจ้าทั้งสองตกลงประลองกันข้าก็ไม่อาจห้าม มอสกิลนางเป็นแขกของลินเดียร์เจ้าอย่าได้ทำร้ายนาง”
วิกเชอร์เชื่อว่ามอสกิลประมาทจริง ๆ จึงพ่ายแพ้ต่อสตรีงาม คาดไม่ถึงเซน่ากล่าวว่า
“มอสกิล เจ้าลงมืออย่างเต็มที่ หากฆ่าข้าตายได้ก็จงทำ”
ทุกคนได้แต่ตะลึงคำพูดของเซน่า
ที่ลานกว้างของบ้านเสนาบดีวิกเชอร์ ที่แห่งนี้ไว้สำหรับฝึกทหารของวิกเชอร์ทั้งยามเช้าและเย็น เมื่อได้ยินการประลองระหว่างหัวหน้าทหารมอสกิลกับสตรีนามเซน่า
เซน่าถือดาบมูนสตรองสีเงินของนาง ส่วนมอสกิลถือดาบเหล็กกล้าเล่มหนึ่ง
“เข้ามาเถอะ” เซน่ากล่าวเสียงราบเรียบ แต่แววตานางคมกริบดุจคมดาบ
มอสกิลไม่เคยเห็นสตรีที่มีแววตาเช่นนี้มาก่อน แต่เขารู้ว่าเซน่าเหยียดหยามเขามากเกินไป จึงวิ่งเข้าไปฟันดาบใส่เซน่า
เซน่าพลันกรีดดาบออกเป็นวงกลม ดาบของเซน่ากระทบถูกดาบมอสกิล ดาบมอสกิลคล้ายถูกมือที่มองไม่เห็นบังคับให้หมุนตามดาบเซน่าไปด้วย
เพลงดาบเงาจันทร์ทรา ชมดูจันทร์เพ็ญ
พริบตาที่ดาบมอสกิลถูกดาบเซน่าเบี่ยงเบนให้เปลี่ยนทิศทาง ดาบเซน่าพลันแยกออกจากดาบมอสกิลอย่างรวดเร็วดุจประกายไฟ จากนั้นจ่อใส่คอมอสกิลทันที !
ท่าดาบชมดูจันทร์เพ็ญเป็นท่าดาบแนวตั้งรับที่กรีดวาดเป็นรูปวงกลมดุจจันทร์เพ็ญเพื่อป้องกันการโจมตีศัตรู จากนั้นอาศัยจังหวะที่อาวุธศัตรูถูกชักนำให้เบี่ยงเบนจนเกิดช่องว่าง จู่โจมใส่ศัตรูทันที
มอสกิลพ่ายแพ้ในท่าเดียว !
ทุกคนในลานกว้างเงียบกริบและเบิกตากลมกว้าง พวกเขายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเซน่าเอาชนะมอสกิลได้อย่างไร
โชก้าเริ่มคิดหนักหากต้องการได้เซน่าเป็นภรรยา หากเขาประมาทไม่แน่ดาบของนางอาจจ่อใส่คอเขาเหมือนมอสกิลก็ได้
มอสกิลมีสีหน้าซีดเผือดกล่าวว่า “เจ้า..เจ้าใช้เวทมนตร์”
เซน่ากล่าวว่า “หากเจ้าไม่ยอมแพ้ก็เข้ามาอีก”
มอสกิลตะโกนว่า “นำหอกของข้ามา”
ทหารเกราะเงินนายหนึ่งนำหอกสีเงินของมอสกิลมา มอสกิลรับหอกไว้แล้วกล่าวว่า “ข้าจะไม่เกรงใจอีก”
มอสกิลตวาดและแทงหอกเงินใส่เซน่า ได้ยินเสียงลมดังหวืดแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของหอกนี้ เซน่าหลบไปทางขวา มอสกิลกวาดหอกตาม
แต่ชั่วขณะที่มอสกิลกำลังเปลี่ยนท่าจากแทงเป็นกวาด เซน่าก็ใช้ดาบแทงใส่คอมอสกิลอย่างรวดเร็ว
หอกของมอสกิลเพิ่งกวาดออกไปได้เล็กน้อย แต่ดาบของเซน่าแทงมาอย่างรวดเร็วทำให้มอสกิลต้องขยับกายหลบ คิดไม่ถึงเซน่าพลันหยุดชะงักท่าดาบจากนั้นนางพุ่งกายไปด้านข้างมอสกิลและแทงดาบออกเป็นวงโค้งรูปเสี้ยวจันอย่างรวดเร็ว
มอสกิลไม่เคยเห็นเพลงดาบประหลาดแบบนี้มาก่อน ไม่ทราบจะรับมืออย่างไร ชั่วพริบตาที่ชักช้า ดาบเซน่าก็จ่อใส่ด้านหลังมอสกิลแล้ว !
มอสกิลตื่นตะลึงยิ่ง จากนั้นมันทิ้งหอกเงินในมือกระทบกับพื้นเสียงดัง จากนั้นกล่าวว่า “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้”
คนในลานกว้างเองก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขาไม่เชื่อว่ามอสกิลจะพ่ายแพ้ง่ายดายเช่นนี้ แต่ก็มีบ้างปรบมือให้เซน่า โดยเฉพาะพวกสาวใช้สตรี
เสนาบดีคลังวิกเชอร์หลังหายตื่นตะลึงก็ปรบมือให้เซน่า เขาเดินไปหาเซน่ากล่าวว่า “นึกไม่ถึงเจ้าจะชนะหัวหน้าทหารของข้าได้อย่างง่ายดาย เจ้าต้องการรางวัลอะไร?”
เซน่ากล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการรางวัล ข้าเพียงแค่จะบอกว่าพวกบุรุษชุดดำร้ายกาจกว่าที่ท่านได้ยินจากคำเล่า หากพวกเขาคิดสังหารลูกสาวท่าน ทหารของท่านไม่แน่จะทำอะไรพวกมันได้ ท่านอย่าได้ประมาท”
วิกเชอร์กล่าวถามว่า “หากข้าจ้างให้เจ้าเป็นผู้คุ้มกันลูกสาวข้า เจ้าจะตกลงหรือไม่? ข้ามีค่าตอบแทนให้อย่างงาม”
เซน่าครุ่นคิดไม่ตอบคำ นางมองไปที่ลินเดียร์ ได้ยินลินเดียร์กล่าวว่า
“เช่นนั้นก็ดี ท่านพ่อข้าจะได้มีเพื่อนด้วย”
ที่ผ่านมาลินเดียร์เป็นสตรีชนชั้นสูงที่เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน นางไม่ใช่คนมีเพื่อนมากนัก เมื่อนางเห็นเซน่ามีความแตกต่างจากสตรีอื่นจึงรู้สึกสนใจและเห็นว่าเซน่าเป็นคนตรงไปตรงมาไม่เหมือนชนชั้นสูงที่มักใส่หน้ากากเข้าหากัน
แต่ลินเดียร์คิดผิด !
เมื่อเซน่าได้ยินว่าลินเดียร์จะต้องเข้าไปในวังเพื่อเข้าร่วมพิธีเลือกคู่ของราชาฟินเดล นางจึงฉุกคิดได้ว่ามีแต่การเป็นผู้คุ้มกันลินเดียร์ นางจึงมีโอกาสติดตามลินเดียร์เข้าไปในวังเพื่อสืบเรื่องหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียน
ที่เซน่ากล่าวยั่วยุมอสกิลเพื่อให้เกิดการต่อสู้กันเพราะเซน่าต้องการแสดงฝีมือให้วิกเชอร์เห็นและเพื่อให้วิกเชอร์ตั้งนางเป็นผู้คุ้มกันของลินเดียร์ หากวิกเชอร์ไม่เอ่ยปาก เซน่าก็จะเอ่ยปากขอเป็นผู้คุ้มกันเอง ซึ่งวิกเชอร์คงยากปฏิเสธได้
ลินเดียร์เข้าใจว่าเซน่าเป็นสตรีที่ตรงไปตรงมา แต่เซน่าที่แท้จริงคือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
ห้าวันต่อมา ลินเดียร์แต่งกายด้วยชุดกระโปรงสีขาวปักลายดอกลิลลี่อย่างงดงาม นางและเซน่าเตรียมพร้อมเข้าไปในวังเพื่อเข้าร่วมพิธีเลือกราชินีของราชาฟินเดลแล้ว
“หากไม่ได้หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ข้าต้องชิงดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งอีรอสมาให้ได้” เซน่าครุ่นคิดขึ้นพร้อมรอยยิ้มคล้ายมีแผนการในใจ…
--- จบตอน 17 ----
สมองเซน่านี่ทำด้วยอะไรมีแต่แผนเต็มไปหมด ตอนหน้าพิธีเลือกราชินีสุดหวาน เซน่าจะชิงดาบศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่ นางจะเจอร่องรอยของหยดน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ไหม โปรดติดตาม !