Chapter 17 : ทักษะเสริมของลีโอ
Chapter 17 : ทักษะเสริมของลีโอ
ผมรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของตัวเอง
รู้สึกได้ถึงเลือดอุ่น ๆ ที่ไหลทะลักออกมาจากรอยแผลที่ถูกมีดสั้นฟันจนเป็นทางยาว จากตอนแรกที่ชา ๆ ตอนนี้มันกลายเป็นความเจ็บ เหมือนโดนมีดปอกผลไม้บาด แต่เจ็บกว่าเดิมเยอะ เพราะแผลที่ได้ใหญ่กว่า แถมแผลเปิดออกมาอย่างรวดเร็ว มิเกลมีสกิลนักฆ่าที่เคลื่อนไหวตัวเองได้ว่องไวจนผมมองไม่ทัน เขาไวพอ ๆ กับตอนที่ลีโอฝึกซ้อมทักษะการฟันดาบให้กับผมเลย อาจจะไม่เทียบเท่า แต่ก็ไวในระดับที่สายตาของผมมองเห็นเขาเป็นเงาสีดำราง ๆ
ผมยกดาบสีทองขึ้นมาตั้งรับ พยายามมองหาร่างของมิเกลที่ไม่รู้ว่าจะพุ่งเข้ามาหาจากทางด้านไหนอีก ตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียงของเขาที่พูดออกมา เหมือนกับเจ้าตัวสมเพชผมเสียเต็มประดา จึงพูดเพื่อเป็นการบอกใบ้ว่าเขาอยู่ตรงไหน
“ไอ้กระจอก ! ฉันจะให้นายได้ตายอย่างทรมาน” เสียงมิเกลพูดขึ้นมา ผมรีบหันไปมองที่มาของเสียงทางด้านขวามือของตัวเองอย่างรวดเร็วทันที ก่อนตวัดปลายดาบออกไป
เฟี้ยว !
แต่ผมพลาดอีกครั้ง ... คมดาบเมื่อกี้ไม่ต่างอะไรไปจากการเอาดาบไปฟันกับอากาศเล่น
“โอ๊ย ! อ๊าก ! อ๊าก !”
ผมร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แทบจะทรุดตัวลงไปที่พื้นอย่างหมดแรง รู้สึกถึงมีดสั้นของมิเกลที่ฟันเข้าที่กลางหลังอีกหลายแผล จนตอนนี้เสื้อที่ใส่อยู่ขาดวิ่นและชุ่มไปด้วยเลือดของตัวเองเต็มแผ่นหลัง มือขวาที่ถือดาบอยู่ตอนนี้สั่นแบบควบคุมไม่อยู่เพราะความเจ็บปวดที่บริเวณข้อมือ
รู้สึกสมเพชตัวเองจัง ... ที่ทำอะไรหมอนั่นไม่ได้สักอย่าง อยากจะมาช่วยคนอื่น แต่ตัวเองยังเอาตัวเองไม่รอดเลย
ตั้งแต่เกิดมา ผมไม่เคยเจอเรื่องอะไรแบบนี้เลย การฝึกกับลีโอเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ หมอนั่นฟันมีดสั้นลงมาที่ร่างของผมจริง ๆ และเลือดของผมก็ไหลออกมาจริง ๆ
เจ็บจนแสบไปหมดทั้งร่าง
นี่ผมต้องมาตายแบบนี้จริง ๆ หรอ ...
ตุบ !
ร่างของผมถูกอัดกระเด็นจนเกือบตกลงไปจากด้านบนของตัวรถไฟ แต่มือซ้ายของผมยันตัวไว้ได้ทันก่อนที่จะร่วงลงไปที่เหวลึกด้านล่าง ร่างของมิเกลปรากฏตัวให้ผมเห็นพร้อมกับเดินตรงมาหาอย่างช้า ๆ
“นายไม่มีเวทมนตร์งั้นหรอ ไม่มีเวทมนตร์แต่กล้ามาสู้กับผู้ใช้เวทแบบฉันเนี่ยนะ ตลกสิ้นดี”
ตอนนี้ผมไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพูด แค่ขยับตัวยันตัวเองให้ลุกขึ้นยังยากลำบาก แผลที่หมอนั่นฟันลงมาบนตัวผมมีมากเกินจนไม่ได้นับ ไม่อยากคิดเลยว่าสภาพตัวเองตอนนี้มันแย่และทุเรศแค่ไหน ผมเหนื่อยอ่อนเหลือเกิน ร่างของมิเกลขยับเข้ามาใกล้ผมเรื่อย ๆ สุดท้ายผมคงทำอะไรไปไม่ได้นอกจากรอความตายที่กำลังเข้ามาถึงในไม่ช้า ผมพยายามอย่างเต็มที่แล้ว
แต่ก่อนที่เปลือกตาของผมที่แสนอ่อนล้าจะพยายามปิด เสียงเรียกของลีโอก็ดังขึ้นมา มันดังมาจากดาบเล่มสีทองในมือข้างขวาของผมที่ยังคงกำไว้แน่น ลีโอร้องออกมาด้วยความเป็นห่วง
“วิน ! นายเป็นไงบ้าง ! นายอยู่ในอันตรายหรอ นายบ้าหรือไง ออกไปสู้กับมิเกลคนเดียว !”
ออร่าสีฟ้าแผ่ออกมาจากดาบเล่มสีทองของผมที่ลีโอให้มาเป็นอาวุธ มันให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเหมือนกับตอนที่ผมเคยอัญเชิญลีโอออกมา ออร่าสีฟ้าแผ่ขยายจากดาบลามขึ้นมาอยู่บนตัวของผม ผมเริ่มรู้สึกดีขึ้น ความอ่อนล้าเริ่มหายไป แผลที่เคยปวดแสบไปทั้งตัวเริ่มบรรเทาลง ถึงจะยังไม่ถึงกับหายสนิท แต่เลือดก็หยุดไหลออกมาแล้ว
ผมมีความรู้สึกว่าตัวของตัวเองเบาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างของผมยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วตามที่สมองสั่ง มิลเกลมองมาที่ผมแบบไม่เข้าใจ ว่าทำไมอาการบาดเจ็บของผมหายไปอย่างรวดเร็ว ผมเห็นเข้ากัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด มือสองข้างที่ถือมีดสั้นกำไว้แน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมา
ที่ปลายคมของมีดสั้นมีออร่าสีแดงก่อนเจ้าตัวจะสะบัดมันออกตรงมายังผม คมอากาศสีแดงพุ่งตรงมาหาผมอย่างรวดเร็ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่างดูช้าลงแบบไม่น่าเชื่อ ภาพทุกอย่างที่ผมมองออกไปในตอนนี้ถูกทำให้ช้าลงเกือบเท่าตัว ผมหมุนตัวกระโดดหลบจากคมอากาศสีแดงนั้นได้ ก่อนภาพทุกอย่างจะกลับมาเคลื่อนไหวปกติแบบเดิมเหมือนที่มันเคยเป็น
“แก ! ทำไมดวงตาแกกลายเป็นสีฟ้าเมื่อกี้ ! แกทำอะไร !” มิเกลร้องออกมาพร้อมกับเคลื่อนที่อย่างว่องไวฟันคมอากาศด้วยมีดสั้นตรงมาหาผมอีกหลายที แต่ผมก็กระโดดหลบได้อย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่หมอนั่นฟันออกมา ภาพทุกอย่างที่ผมเห็นจะช้าลง ก่อนมันจะกลับไปเป็นแบบภาพปกติเหมือนเดิม
หมอนั่นพูดว่าตาผมกลายเป็นสีฟ้างั้นหรอ ...
เหมือนกับสีดวงตาของลีโอ ...
ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงของลีโอก็ดังออกมาอีกครั้งจากดาบที่ผมกระชับไว้แน่นในมือ
“นายฟังฉันนะ ไม่ต้องตอบ ฉันอยู่ในดาบ มีนายได้ยินคนเดียว ฉันจะให้นายยืมพลังเวทมนตร์เอง ทำทุกอย่างเหมือนตอนที่เราฝึกด้วยกัน อดทนหน่อยนะ อีกแปบหนึ่งฉันก็ขยับได้แล้ว ฉันจะรีบออกไปช่วยนาย”
“แต่ฉันว่านายเอาชนะหมอนั่นได้แน่วิน สังเกตรูปแบบการเคลื่อนที่ของหมอนั่นให้ดี ๆ นายจะจับจังหวะได้”
“ทักษะเสริมของฉัน คือผู้ถือครองกุญแจจักรราศีสามารถใช้พลังเหมือนกับการก็อปปี้ตัวฉันได้ทั้งหมดเป็นเวลา 15 นาที ล้มมันให้ได้นะวิน ฉันเอาใจช่วย ห้ามตายล่ะ”
ทันทีที่ลีโอพูดจบ ผมก็เข้าใจทุกอย่างได้ในทันที ทั้งการที่แผลทุกอย่างในตัวผมรักษาเยียวยาตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วราวกับสายลม รวมถึงสีของดวงตาที่กลายเป็นสีฟ้าเหมือนลีโอเวลาผมเห็นการเคลื่อนที่ของศัตรู ผมเคลื่อนที่ได้อย่างว่องไวแตกต่างจากตอนแรกจนมิเกลดูตกใจขึ้นมาทันที ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า เป็นผมเองซะอีก ที่เคลื่อนที่ได้เร็วกว่ามิเกล ผมสังเกตเห็นทุกครั้งที่ผมขยับตัว จะเห็นตัวเองกลายเป็นเพียงเงาสีฟ้าเหมือนกับลีโอไม่มีผิด แต่ในสายตาคนทั่วไปคงจะมองว่ามันรวดเร็วมาก
เคล้ง !
เสียงดาบของผมกระทบกับมีดสั้นคู่ของมิเกล
ในที่สุดผมก็รับมีดสั้นคู่ของหมอนั่นได้ทันสักที ใบหน้าของมิเกลมองผมแบบคาดไม่ถึง ก่อนจะถอยหลังออกไปเป็นฝ่ายตั้งรับเองบ้าง กับดาบที่ผมเหวี่ยงเข้าใส่เจ้าตัวอย่างรุนแรง แรงดาบที่เหวี่ยงเข้าใส่เป็นคมอากาศที่มีออร่าสีฟ้าเหมือนตอนที่ผมเห็นลีโอต่อสู้มาหลายครั้ง ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวของผมที่โจมตีไปเหมือนตอนที่เคยซ้อมไว้กับลีโอในระยะเวลาหนึ่งเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา อยากจะบอกว่าพอได้พลังเวทมนตร์ของลีโอมาอยู่ในตัว ประสิทธิภาพของการฝึกที่ผ่านมามันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ผมรู้สึกมั่นใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการโจมตี มันง่ายดายไปหมด
เคล้ง !
มีดสั้นด้ามหนึ่งของมิเกลถูกดาบของผมเหวี่ยงเข้าใส่กระเด็นตกลงไปในเหวลึก จนตอนนี้มีมีดสั้นเหลืออยู่ในมือข้างขวาของมิเกลเพียงข้างเดียว มิเกลพุ่งตัวเข้ามาหาผมอีกรอบอย่างรวดเร็วแบบไม่ยอมแพ้ ผมก็พุ่งตัวเข้าไปหาไปมิเกลเช่นกัน ผมกลายเป็นเงาสีฟ้าที่พุ่งเข้าไปใส่มิเกล เช่นเดียวกันกับมิเกลที่กลายเป็นเพียงเงาสีดำที่พุ่งเข้ามาหาผม
เสียงคมดาบและมีดสั้นกระทบกันอยู่หลายครั้งจนเกิดประกายไฟออกมาบนอากาศ
เคล้ง ! มีดสั้นที่อยู่ในมือขวาของมิเกลกระเด็นหลุดออกจากมือร่วงตกลงไปในเหวลึกอีกครั้ง
และทันทีที่ได้จังหวะ ดาบในมือข้างขวาของผมก็ฟันไปยังร่างตรงหน้าเมื่อเห็นช่องโหว่ ปลายคมลากยาวตั้งแต่หัวไหล่มายังกลางลำตัวของมิเกล โดยผมพยายามควบคุมน้ำหนักมือให้พอเหมาะกับความลึกของแผล
เลือดไหลสาดกระเซ็นออกมาทันที ...
คราวนี้ไม่ใช่มาจากร่างของผม แต่เป็นร่างของมิเกล
ความเร็วของมิเกลลดฮวบลงเยอะหลังจากที่ถูกโจมตี เขาทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลออกมาเยอะพอสมควรเมื่อโดนจุดสำคัญ เจ้าตัวยันเข่าขึ้นมาหนึ่งข้างเพื่อรองรับน้ำหนักของตัวเอง ต้องขอบคุณลีโอที่ทำให้ผมรู้ว่าการฝึกทุกอย่างที่เจ้าตัวได้สอนให้ผม มันมีความหมายแค่ไหนในตอนนี้ ผมลากดาบไปกับพื้นเดินเข้าไปใกล้กับมิเกล พร้อมกับชูปลายคมไปที่ลำคอของเขา
“ปล่อยเด็กผู้หญิงคนนั้นซะ” ผมพูดออกไป หันมองไปยังเด็กผู้หญิงที่มิเกลจับตัวมา ซึ่งเหมือนถูกมัดห้อยอยู่บนอากาศด้วยพลังเวท มิเกลเงยหน้าขึ้นมองผม ก่อนหันไปมองเด็กผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่มีทางเลือก เพราะตอนนี้มันก็เหมือนกับว่าเขาแพ้อย่างหมดรูปแล้ว ไม่นานร่างของเด็กผู้หญิงที่ลอยอยู่เหนือเหวลึกก็ลอยกลับมาอยู่ด้านบนของรถไฟไม่ห่างจากตัวผมมากนัก เด็กผู้หญิงคนนั้นร้องไห้ออกมาตลอดเวลา ก่อนถอยหลังออกห่างจากบริเวณที่ผมกับมิเกลต่อสู้กันด้วยความกลัวเมื่อพ้นจากพ้นจากพันธนาการ
ปลายคมของดาบผมยังคงจ่ออยู่ที่ลำคอของมิเกล ดวงตาสีเขียวเงยขึ้นมามองหน้าผมอย่างหยิ่งทะนง
“จะฆ่าก็ฆ่า อย่ามาลีลา” มิเกลพูดออกมา
“ฉันไม่เคยฆ่าคน” ผมพูดออกไป ก่อนปลายคมขอบดาบจะเสียบลงไปยังขาข้างหนึ่งของมิเกลจนทะลุ เลือดไหลทะลักออกมา พอนึกถึงตอนที่หมอนั่นฟันผมมาแบบไม่ยั้งก็รู้สึกสะใจขึ้นมาทันที
“อ๊าก !”
“คนอย่างนายมันต้องถูกจับกลับไปอยู่ในคุก” ผมพูดออกไป พร้อมกับกระชากดาบออกจากขามิเกลจนเจ้าตัวร้องโอดโอยออกมาอีกรอบ แค่นี้หมอนั่นก็เดินหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ตามมาด้วยหมัดหนัก ๆ อีกหมัดที่ทำให้หมอนั่นสลบไป
ออร่าสีฟ้ารอบตัวผมกับดาบค่อย ๆ จางหายไป ผมเหมือนเครื่องจักรที่หมดพลังงาน อยู่ ๆ ร่างกายมันก็อ่อนแอลงอย่างดื้อ ๆ สงสัยคงคบเวลาที่ลีโอได้บอกไว้แล้ว ว่าผมสามารถใช้พลังของเขาได้แค่สิบห้านาทีเท่านั้น สภาพของผมตอนนี้เละไม่มีชิ้นดี เสื้อผ้าขาดวิ่นเปรอะไปด้วยเลือดที่แห้งกรัง ผมหันไปมองเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ร้องไห้อยู่อย่างหวาดกลัวกับภาพที่เห็น
“ไม่เป็นไรแล้วนะ เธอปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องกลัวฉัน” ผมพูดออกไป พร้อมกับค่อย ๆ ขยับตัวเดินเข้าไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าข้างล่างเป็นยังไงบ้าง มินจุนกับไอรีนจะจัดการกับมัสกาและลูกน้องของมิเกลได้หรือเปล่า แต่ตอนนี้ช่างมันก่อนเถอะ สภาพผมแย่จนไม่รู้จะแย่ยังไงแล้ว
ผมเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กผู้หญิงที่กำลังร้องไห้อยู่ เอื้อมมือไปลูบหัวของเธอเป็นเชิงปลอบ แต่เหมือนร่างกายผมตอนนี้จะเกินขีดจำกัดของตัวเอง อยู่ ๆ ก็หน้ามืดล้มตึงลงไปตรงหน้าของเด็กหญิงคนนั้น เป็นสิ่งสุดท้ายที่รู้สึกว่าล้มไปเพื่อให้หัวตัวเองแตก
ก่อนสติผมจับดับวูบไป ...
ด้านล่างภายในรถไฟ
ปืนเลเซอร์ความเข้มสูงถูกยิงออกมาจากฝีมือของไอรีน เจาะไปยังสมองของลูกน้องมิเกลคนหนึ่งจนมีกลิ่นไหม้เกรียม ขณะที่เจ้าตัวกระโดดหมุนตัวหลบลูกตุ้มเหล็กของมัสกา โดยมีมินจุนคอยสนับสนุนโดยการปล่อยลูกบอลเวทลมซัดเข้าช่วยเหลือคนที่มาเกาะแกะเธอ ตอนนี้ทั้งเธอและมินจุนต่างเป็นห่วงกวินท์ ที่ดันบ้าดีเดือดตามมิเกลออกไปคนเดิน เธอเองก็อยากจะออกไปช่วยเขาแต่สลัดจากพวกนี้ที่คอยขัดขวางไม่ได้สักที
ตู้ม !
ลูกเหล็กแหลมคมของมัสกาเฉียดใบหน้าของเธอไปหน่อยเดียว ถ้าเธอช้ากว่านี้อีกนิดเดียวสมองได้ถูกเจาะเพราะปลายคมที่ยาวออกมาจากลูกตุ้มเหล็กแล้ว ไอรีนพุ่งตัวเข้าไปหาลูกน้องคนสุดท้ายของมิเกลที่ตอนนี้เหลืออยู่ตัวคนเดียว ประสบการณ์การจัดการกับผู้ใช้เวทของเธอมีอย่างโชกโชนตั้งแต่เด็กจนเข้าถึงตัวผู้ใช้เวทได้อย่างรวดเร็ว ก่อนมือเรียวนั้นจะหักคอของลูกน้องมิเกลดังกร๊อบ ร่างนั้นตาค้างก่อนล้มตัวลงไปกองกับพื้น
มินจุนมองสิ่งทีไอรีนทำอย่างหวาด ๆ เขาไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยว่าไอรีนเป็นนักวิจัยเช่นเดียวกันกับกวินท์ เพราะทักษะการต่อสู้ของไอรีนมันเกินกว่านักวิจัยทั่วไปเยอะ เจ้าตัวน่าจะมีเบื้องหลังอะไรที่ปิดซ่อนพวกเขาไว้อยู่ แต่ตอนนี้เขาเองก็ต้องติดไว้ก่อน เพราะยังเหลือมัสกาอีกคนที่ยืนจังก้าขวางเขากับไอรีนไว้อยู่ไม่ให้ออกไปด้านนอกของตู้รถไฟ
“ไอรีน เธอว่าวินมันเป็นไงบ้างแล้วเนี่ย !” มินจุนร้องออกมา กระโดดหลบโซ่ตรวนของมัสกาที่ฟาดมาทางเขา อย่างรุนแรง ถึงแม้มัสกาจะมีรูปร่างที่ดูไม่น่าจะเคลื่อนไหวได้ไว แต่กลับพุ่งโจมตีเขากับไอรีนได้ไวมาก จนตอนนี้ทั้งคู่เหนื่อยไปหมดเพราะต้องคอยหลบมัสการะหว่างที่จัดการกับลูกน้องของมิเกล
“เพื่อนนายไม่ใช่หรอ ... คงยังไม่ตายหรอก” ไอรีนตะโกนตอบ ยิงปืนเลเซอร์ความเข้มสูงไปยังมัสกา ขณะเดียวกันกับมินจุนที่ซัดลูกบอลลมตรงไปหาพร้อมกัน
ตู้ม !
เกิดควันจากการระเบิดตลบอบอวน ตู้รถไฟที่อยู่กลางสะพานข้ามเหวลึกโครงเคลงอย่างน่ากลัว ดูเหมือนจะเริ่มรับการต่อสู้ที่ดุเดือดภายในตู้รถไฟไม่ไหวแล้ว ร่างของมัสกายังยืนจังก้าอยู่ตรงนั้นไม่ได้หลบไปไหนเลยสักนิด ดูเหมือนทั้งบอลลมของมินจุนและปืนเลเซอร์ความเข้มสูงของไอรีนจะทำอะไรภูติดวงดาวตนนี้ไม่ได้
แววตาปูดโปนสีแดงมีความหงุดหงิดโมโหเป็นอย่างมาก ริมฝีปากที่มีฟันแหลมคมอ้าปากกว้าง ไอรีนกับมินจุนที่พอได้สติก็มองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างสยดสยอง แมลงวันนับร้อยนับพันตัวโบยบินออกมาจากปากของมัสกา พวกมันยั้วเยี้ยจนพวกเขาขนลุก ช่างน่าขยะแขยงเหลือเกิน พวกมันบินตรงมายังมินจุนและไอรีนที่เป็นเป้าหมายราวกับจะรุมทึ้ง
ตอนนี้พวกเขาก็ได้แต่ภาวนา ...
ว่าภูติดวงดาวแต่ละคนจะหายจากการเป็นอัมพาตโดยไว ...