DC บทที่ 17: น่ากลัวแต่น่าหลงไหล
DC บทที่ 17: น่ากลัวแต่น่าหลงไหล
จางจ้องมองซูหยางอย่างดุร้าย มือเธอป้องปิดร่างกาย สถานการณ์เหมือนกับซูหยางล่วงเกินเธอทั้งกายและใจ
“อะไรนั่น เจ้าต้องการให้ข้ารับเจ้าเป็นลูกมิใช่รึ” ซูหยางยิ้มเป็นเหตุให้จางเลือดฉีดพล่านด้วยความอาย
“ข..ข้าจะจำไว้” จางบ่นพึมพัมเสียงต่ำ สายตาเธอตรึงอยู่กับซูหยาง
“ข้ามั่นใจว่าจะเป็นเช่นนั้น” ซูหยางไม่สนใจคำพูดเธอ เขาได้ยินคำพูดเช่นนี้มามากนักในชีวิตก่อน
อวี้เช็ดน้ำลายที่ไหลย้อยจากมุมปากและคิดกับตนเอง “เขาสามารถทำให้พวกเราทั้งสามคนรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์โดยมิได้สัมผัสจุดหวงห้าม...หากว่าเขาทำ...พวกเราจะรู้สึกดีกว่านี้อีกหรือไม่”
อวี้พลันปรารถนาให้มือซูหยางดูแลหลืบเร้นลับของเธอ หรืออาจล่วงลึกลงไปในโลกสีชมพูของเธอ
—
—
—
หลังจากนั้นสักพัก อวี้และจางเดินออกมาจากห้องซูหยาง ทั้งคู่ดูหมดแรง
“ศิษย์พี่หญิงจาง ศิษย์น้องหญิงอวี้ พวกเจ้ายังไหวไหม” บรรดาหญิงสาวด้านนอกเข้าไปช่วยประคองพวกเธอ
“อาจารย์.. เธอหลอกพวกเรา รับโอสถหยินพ้นพิสัยเป็นเรื่องเป็นไปมิได้” จางถอนหายใจ ทำให้บรรดาหญิงสาวงุนงง
เธอพูดต่อ “ข้ารู้ว่ามันดีเกินจริง..สำหรับพวกเราที่จะได้โอสถหยินพ้นพิสัยง่ายๆ…แท้จริงแล้วนี่เป็นการกลั่นแกล้ง...”
ทุกคนในที่นั้นยกเว้นซวานและอวี้ตกตะลึง รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของเธอ ทำไมเพียงแค่การนวดธรรมดาน่ากลัวเช่นนั้น
“ต่อไป” เสียงไร้อารมณ์ของซูหยางดังขึ้น เป็นเหตุให้บรรดาหญิงสาวหัวใจหยุดเต้น ไม่มีใครกล้าก้าวเท้าไป หวาดกลัวกับผลลัพธ์
“...ถ้ามิมีใครแล้ว งั้น..”
“รอก่อน ข้าไปเอง ข้ามิเชื่อว่าข้าจะเสียท่ากับคนอย่างเจ้า”
“ศิษย์น้องเล็กหญิงหมิง” บรรดาหญิงสาวต่างมองไปยังหญิงสาวที่อ่อนวัยที่สุดด้วยความประหลาดใจ
“ดีมาก.. ตามข้ามา”
ซูหยางและหมิงเดินหายเข้าไปในห้อง
—
—
—
สิบนาทีหลังจากนั้น ประตูก็เปิดออก
“ศิษย์น้องเล็กหญิงหมิง” บรรดาหญิงสาวร้องเสียงดัง มองดูอย่างตกใจเมื่อเห็นหมิงคลานออกจากห้องด้วยน้ำตานอง ร่างกายเธอเสียวซ่านจนกระทั่งบางอย่างง่ายๆ เช่นการยืนยังเป็นไปไ่ม่ได้ในครั้งเดียว
“มีใครอีกไหม” ซูหยางกราดสายตาไปยังหญิงสาวที่เหลือ ทำให้พวกเธอรู้สึกหนาวเยือก
"…"
ไม่คิดฝันว่าพวกเธอจะมีวันเจอสถานการณ์ที่น่าหวาดกลัวแต่ก็น่าหลงไหลในเวลาเดียวกัน
บรรดาหญิงสาวต่างไม่คิดว่านี่คือการเดิมพันอีกต่อไป แต่เป็นการท้าทายจากซูหยางผู้ที่พูดด้วยรอยยิ้ม “พวกเจ้าคิดหรือว่าจะสามารถต้านทานกลเม็ดเด็ดพรายของข้า มาเลยถ้าเจ้ากล้าพอ”
“ข้าไป”
หญิงสาวก้าวตรงไปและพวกเขาก็เข้าไปในห้อง
สิบนาทีต่อมา หญิงสาวออกมาด้วยผมยุ่งเหยิงและใบหน้าแดงก่ำ
ความหวังในดวงตาของพวกเธอริบหรี่ลงทุกครั้งที่พ่ายแพ้ โอกาสที่จะได้รับโอสถหยินพ้นพิสัยช่างตึงเครียดและยิ่งเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาต่างพากันท้าทายซูหยาง ไม่มีใครปรารถนาที่จะเสียหน้าโดยการยอมแพ้เด็กที่อ่อนกว่าเธอหลายปีทั้งด้านอายุและประสบการณ์
อนิจจา ทันทีที่ซูหยางสำแดงฤทธิ์ ร่างกายของบรรดาหญิงสาวล้วนยอมจำนน กระทั่งขอให้ได้มากกว่านั้น
—
—
—
ไม่นานนักก็หลงเหลือเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้รับการนวด
“ศิษย์พี่หญิงเซียว… ตาท่านแล้ว..”
“ศิษย์น้องหญิงเซียว…เหลือเจ้าเพียงคนเดียวที่ยัง..”
ศิษย์หญิงเซียวมองไปยังผองพี่น้องด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
“แต่...แต่ ข้ามีคู่ฝึกแล้ว...ข้ามิยอมให้ชายอื่น...” เซียวพยายามที่จะหาข้ออ้างให้ตนเองพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ แต่บรรดาพี่น้องต่างพากันเหยียดหยาม
“ฮึ่ม พวกเราทุกคนล้วนมีคู่ฝึกเช่นกัน”
“ใช่ว่าเขาจะทำมิดีมิร้าย...มันเป็นแค่การนวดธรรมดา..”
“ตรงส่วนไหนที่ธรรมดา มองดูพวกท่านทุกคนนอนอยู่บนพื้น ลองส่องกระจกดูท่าทางบนใบหน้าพวกท่านสิ กระทั่งการฝึกคู่ที่หยาบโลนที่สุดยังมิสามารถทำให้พวกท่านดูน่าอายได้เช่นนี้ เกิดอะไรขึ้นกับความเป็นกุลสตรีของพวกท่านกัน” เซียวยังคงปฏิเสธ เพียงมองดูซูหยางยืนอยู่หน้าห้องทำให้เธอสะท้าน ยืนอยู่ตรงนั้นซูหยางเหมือนเป็นปีศาจร้าย และประตูทางเข้าห้องก็เหมือนเส้นทางสู่นรกที่สามารถกลืนกินจิตวิญญาณ
“ข้ามิบังคับใครให้มารับบริการ” ซูหยางพูด “ถ้ามีแค่นี้ ก็ถือว่างานจบแล้ว”
บรรดาหญิงสาวพากันมองเซียวเจือแววเวทนา เธอไม่รู้ว่าพลาดโอกาสและต้องเสียใจในสักวัน
“อืม...ซูหยาง..” ศิษย์หญิงอวี้พลันเรียกหาเขาอย่างเอียงอาย
“มีอะไรรึ” เขาหันมามองเธอ
“ถ..ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ เจ้าสามารถมาหาข้า อวี้เอียน สำหรับคำแนะนำ.. แม้ว่าข้าจะเป็นเพียงศิษย์นอก ในฐานะคนจากตำหนักโอสถข้ามีคนรู้จักในนิกาย… ฉะนั้นถ้าเจ้าต้องการอะไรเจ้าสามารถมาหาข้า...”
“เจ้าเล่ห์” บรรดาหญิงคนอื่นต่างพากันมองเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง ไม่มีใครสักคนจะนึกว่าน้องเล็กสุดในบรรดาพวกเขาจะกล้าริเริ่ม
“ซูหยาง ข้าชื่อซวานจิงหลิน ข้าสามารถช่วยได้ ถ้าเจ้าต้องการอะไรเจ้าสามารถหาข้าได้ที่ตำหนักโอสถหรือที่ห้องพักข้าก็ได้..”
“ข้าชื่อเจียปีอวี้ ข้าสามารถ...”
บรรดาหญิงสาวต่างแย่งกันแนะนำตัวเองต่อซูหยาง สร้างความตื่นตะลึงให้กับเซียวและถังหูที่ยืนนิ่งเป็นไก่ไม้ตั้งแต่ต้น
“ทำตัวเหมือนหมาติดสัด นี่เป็นเพราะซูหยาง” เซียวไม่สามารถทนดูได้อีกบรรดาหญิงสาวทำลายภาพพจน์ของพวกเธออีกต่อไป เธอหันกายออกไปจากที่แห่งนั้น
เมื่อเซียวจากไป คนอื่นทอดถอนใจ แม้ว่าจะอวดตัวไปบ้างแต่พวกเธอเชื่อว่าการกระทำของพวกเธอสมเหตุผล
ความปั่นป่วนสงบลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อหญิงสาวเตรียมตัวจากไป ซูหยางก็เตือนพวกเธอ “อย่าลืมสัญญา”
“อย่าว่าแต่สิบคน ข้าจะกระจายข่าวการบริการของเจ้าไปให้ทุกคนที่ข้ารู้จัก”
“ข้าด้วย”
“ข้าจะตั้งตารอเดือนหน้า..”
“...ข้าก็เช่นกัน...”
ซูหยางมองดูบรรดาหญิงสาวแยกย้ายจากไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เมื่อพวกเธอจากไปหมดแล้ว ถังหูก้นกระแทกพื้นด้วยสายตาตื่นตระหนก
เขาไม่อยากเชื่อ ตั้งแต่เมื่อไรที่ซูหยางได้รับความนิยม กระทั่งเป็นเหตุให้ศิษย์พี่หญิงหลายคนต้องคุกเข่าให้เขา
ซูหยางจ้องมองถังหูแล้วหัวเราะ “คุ้นเคยกับมันไว้ ยังจะมาอีกเยอะ”
“มาอีกเยอะ..” ถังหูกรอกสายตาเกือบสิ้นสติ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงพายุที่เริ่มก่อตัวขึ้นในสถานที่แห่งนี้