ตอนที่แล้วบทที่ 33 ด่านตรวจสอบโครงกระดูก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 35 ศิษย์นิกายชั้นนอกขั้นที่ 1

บทที่ 34 เส้นทางชิงหยุน


บทที่ 34

เส้นทางชิงหยุน

การทดสอบที่สองเป็นการทดสอบการรับรู้

แบบทดสอบการรับรู้ ประกอบด้วยสิบกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีศิษย์สิบคน

การทดสอบนั้นง่าย ในระหว่างการทดสอบ ศิษย์แต่ละคนจะได้รับคัมภีร์วิชาดาบพื้นฐานและภายในเวลาที่กำหนดภายในธูปหนึ่งเล่ม ยิ่งเคลื่อนไหวด้วยดาบมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรับรู้ได้มากขึ้น แต้มรางวัลก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

หลี่ฟู่เฉินคลายคัมภีร์และตระหนักว่ามันเป็นวิชาดาบพื้นฐาน วิชาดาบพื้นฐานด้อยกว่าวิชาดาบระดับสีเหลืองขึ้นต่ำและแทบไม่มีนัยสำคัญของดาบ

“ทั้งหมด14กระบวนท่า ไม่มากเท่าไหร่” หลี่ฟู่เฉินวิเคราะห์อย่างจริงจัง

ธูปเผาไหม้เรื่อยๆตามเวลา

“เอาล่ะ เจ้าเริ่มก่อน” แต่ละกลุ่มมีผู้ตรวจสอบเป็นผู้อาวุโส ชี้ไปยังเยาวชนกลุ่มหลี่ฟู่เฉิน

เยาวชนหยิบดาบเหล็กของเขาขึ้นมาอย่างตั้งใจเพื่อแสดงวิชาดาบ

หกกระบวนท่า ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ เยาวชนแทบไม่เข้าใจกระบวนท่าทั้งหก

“ไป่เฟย, 60 แต้ม” ผู้ตรวจสอบผู้เขียนบันทึกคะแนนลงใบบันทึกการลงทะเบียนของไป่เฟย

“แต้มสำหรับผู้ผ่านความเข้าใจในหกกระบวนท่า? มันหมายความว่าถ้ามีกระบวนท่าเพิ่มเติมทุกครั้ง มันจะมี 5 คะแนนพิเศษหรือไม่” หลี่ฟู่เฉินคิดกับตัวเอง

ตามที่หลี่ฟู่เฉินคาดไว้ หกกระบวนท่าคือ 60 แต้ม เจ็ดกระบวนท่าคือ 65 แต้ม แปดกระบวนท่า 70 แต้มและ 5 แต้มสำหรับทุกครั้งที่มีกระบวนท่าเพิ่มเติม

“หยางไค, 75 แต้ม.”

“เฉินตูจิว, 65แต้ม”

“เฉินตูเหลียง,แต้ม.”

“กวนเผิ้ง, 60 แต้ม.”

“เหอปิง, 70 แต้ม.”

“จือฮงซิ่ว. 75แต้ม.”

ในหมู่พวกเขา หยางไคและจือฮงซิ่วมีการรับรู้สูงสุด โดยทำความเข้าใจกระบวนท่าภายในเวลาที่กำหนดเฉินตูเหลียงแย่ที่สุดทำความเข้าใจเพียง 4 กระบวนท่าเท่านั้นไม่เพียงเขาล้มเหลวในการทดสอบนี้ เขาได้รับ 40 คะแนนเท่านั้น

ในครั้งนี้เฉินตูเหลียงมีท่าทีแสดงออกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจากในระหว่างการตรวจสอบโครงกระดูกที่ดูเขาเหลอหลา

เมื่อถึงคราวของหลี่ฟู่เฉิน ทุกคนต่างลุ้นตัวโกร่ง

ผู้ที่เข้าร่วมในการแข่งขันอัจฉริยะของเมืองหยุ่นวู่รู้ว่าหลี่ฟูเฉินมีการรับรู้ที่ยอดเยี่ยม ถ้าไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สามารถเอาชนะหยางไคและคว้าอันดับหนึ่งในการแข่งขันได้ ตอนนี้ทุกคนอยากรู้ว่าการรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินดีแค่ไหน จำกัดเวลาด้วยธูปหนึ่งเล่มเพียงพอสำหรับหลี่ฟู่เฉิน

กระบวนท่าที่หนึ่ง กระบวนท่าที่สอง กระบวนท่าที่สาม ...

...

หลี่ฟู่เฉินกวัดแกว่งดาบเหล็กและเคลื่อนไหวพริ้วสบายๆ เหมือนเมฆที่ลอยอยู่และสายน้ำไหลเอื่อย

แววตาผู้ตรวจสอบอาวุธเปล่งประกายขึ้นแล้วขึ้นอีก ความแตกต่างระหว่างคนอื่นกับหลี่ฟู่เฉินไม่ได้ถูกสังเกตโดยผู้อื่น แต่เขาเห็นได้สาวกคนอื่น ๆ เพียงแค่เข้าใจแต่ละกระบวนท่าทีละท่าและไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน หลี่ฟูเฉินไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำมันได้สำเร็จ

กระบวนท่าที่หก กระบวนท่าที่เจ็ด กระบวนท่าที่แปด ...

ใบหน้าของหยางไค, กวนเผิ้ง และที่เหลือถึงกับถอดสี

กระบวนท่าที่สิบสาม

กระบวนท่าที่สิบสี่

หลี่ฟู่เฉินยังคงนิ่งสงบและนำดาบเหล็กใส่ฝัก

“ดี ! ทำได้ดีมาก” นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อาวุโสทุกคนชมเชย“หลี่ฟู่เฉิน 110 แต้ม”

ถ้าทุกคนได้เห็น ผู้อาวุโสเขียนบันทึกลงบนบัตรทะเบียนของหลี่ฟู่เฉิน ศิษย์ผู้นี้มีการรับรู้วิชาดาบได้ดี 14 กระบวนท่าดาบ และยังรวมทุกการเคลื่อนไหวเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบอีก 10 แต้มพิเศษ '

“110 แต้ม?”

เหอปิงและจือฮงซิ่วต่างตกตะลึง พวกเขาสงสัยว่าโครงกระดูกของหลี่ฟู่เฉินเป็นโครงกระดูกปกติแท้หรือไม่ ถ้าไม่ใช่จะอธิบายการรับรู้อันน่าทึ่งของเขาเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ทางดาบได้อย่างไร

“แย่ล่ะ” ใบหน้าของกวนเผิ้งงดูประหม่า แม้ว่าหลี่ฟู่เฉินเพิ่งได้ 40 แต้มในการตรวจสอบโครงกระดูก แต่เมื่อเพิ่มแต้มจากการทดสอบการรับรู้นี้ เขามีทั้งหมด 150 แต้มและดีกว่าตนเอง 30 แต้ม

หยางไค หรี่ตาขณะกำลังไตร่ตรอง

"ดูสิ! มีคนได้ 110 แต้มอยู่ที่นั่นการรับรู้ที่น่าประหลาดใจนี้คืออะไร!”

“110 แต้ม…ข้าไม่คิดว่าจะมีสาวกรุ่นก่อนหน้าที่เคยประสบความสำเร็จได้เท่านี้ ที่ดีที่สุดคือ 100 แต้ม”

“นั่นสิ เฉพาะเหล่าผู้ปราดเปรื่องที่ได้รับการคัดเลือกล่วงหน้าเท่านั้นที่จะได้รับ 110แต้ม”

“8ปีที่แล้วมีผู้ปราดเปรื่องที่มี 120แต้ม ข่าวลือสะพัดว่าเขาเข้าใจการกระกวนท่าที่สิบห้าจากสิบสี่กระบวนท่าตามตำรา เขาถูกเรียกว่า เทพแห่งดาบ และตอนนี้เขาเป็นสาวกโดยตรง”

“เมื่อเทพแห่งดาบเข้ามา เขาก็อยู่ในขอบเขตพลังลมปราณระดับที่เก้าแล้ว นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถเปรียบเทียบได้”

ความปั่นป่วนในกลุ่มของหลี่ฟู่เฉิน ทำให้เกิดความสนใจมากมาย แต่ไม่มีใครจำเขาได้ในระหว่างการตรวจสอบโครงกระดูกซึ่งเป็นเพียงโครงกระดูกปกติ

***

“บางทีเขาอาจสามารถทำลายโครงกระดูกปกติและไปถึงเกินขอบเขตพลังลมปราณ” จือฮงซิ่ว คิดกับตัวเอง ***

หลังจากการทดลองการรับรู้ การทดลองที่สำคัญที่สุดคือการทดลองด้วยจิตตานุภาพ

จาก 3การทดลอง:

การทดลองใช้โครงกระดูกกำหนดความสามารถโดยธรรมชาติของคน ๆ หนึ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

การพิจารณาการรับรู้กำหนดโดย 2ส่วนเท่า ๆ กันของความสามารถเฉพาะตัวและความพยายาม

การทดลองความมุ่งมั่น ในทางกลับกันผลที่ได้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ดังนั้นในระดับหนึ่ง การทดลองใช้จิตตานุภาพจึงมีความสำคัญสูงสุด หากไม่มีความตั้งใจและความมุ่งมั่นแม้จะมีโครงกระดูกที่ดีที่สุด วันที่จอมยุทธ์พิชิตจุดสูงสุดก็จะไม่มีวันมาถึง ในทางตรงกันข้ามผู้ที่มีโครงกระดูกปกติอาจขาดทักษะโดยธรรมชาติ แต่ด้วยความทะเยอทะยานและความตั้งใจที่เพียงพอก็ยังคงมีความหวังที่จะพัฒนาไปสู่ระดับที่สูงขึ้นในอนาคต

ซึ่งหมายความว่าหากบุคคลใดบุคคลหนึ่งมีทั้งพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิดและความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งพวกเขาจะไม่ล้มเหลวและอาจประสบความสำเร็จอย่างมาก

การทดลองใช้พลังจิจจานุภาพไม่ได้ดำเนินการบนภูเขาหนึ่งเดียว แต่อยู่ในหุบเขาลึก

มีเส้นทางสีเขียวและกว้างขวางที่ทอดยาวจากปากทางเข้าหุบเขาไปจนถึงทางลึกของหุบเขา หมอกหนาและรัศมีที่ชั่วร้ายกำลังสั่นคลอนภายในหุบเขาราวกับปิศาจนับไม่ถ้วนถูกซ่อนเร้นอยู่ภายใน รอการโจมตี

“ข้างหน้าเป็นถนนที่ดูน่าสยดสยอง”

ม่านตาหลี่ฟู่เฉินหดลงขณะที่เขารู้สึกว่าเส้นทางนั้นลวงตา มันทำให้เกิดอันตรายที่ไม่รู้จักซึ่งเขาไม่คุ้นเคย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังรู้สึกถึงความสมจริงของความจริงที่ไร้สาระ

“นี่คือเส้นทางชิงหยุนของนิกายคังเหลียน ถ้าผ่านได้หมายความทักษะความสามารถนั้นเพิ่มขึ้นในโลกนี้ หากเจ้าไม่สามารถทำได้แม้ว่ามีโครงกระดูกที่ดีที่สุดแต่ก็ไม่มีค่าอะไรเลย เราจะตัดสินเจ้าตามเวลาที่เจ้าได้รับ”

มีผู้อาวุโสหลายคนในสถานที่สำหรับการทดลองใช้จิตตานุภาพ ผู้ที่รับผิดชอบคือผู้อาวุโสที่มีพลังลมปราณที่มิอาจวัดได้ เห็นได้ชัดว่าอยู่ในระดับที่แตกต่างจากผู้อาวุโสที่เหลือ หากหลี่ฟู่เฉินเข้าใจไม่ผิด เขาจะต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาผู้อาวุโสภายนอกนิกาย ถือเป็นผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่

“เอาล่ะพวกเจ้าทุกคนเข้ามาได้!” ผู้อาวุโสนอกนิกายโบกมือเรียก

เมื่อได้ยินคำสั่งทุกคนเดินตามแถวและเข้าไปในหุบเขา ในเวลาเพียงไม่นานเงาของเหล่าสาวกก็ไม่ปรากฏให้เห็นเมื่อพวกเขาผสมกลมกลืนกับหมอก

เมื่อไปถึงเส้นทาง ชิงหยุน หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าตัวเองมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น

“แรงกดดันมหาศาลเช่นนั้นเหมือนกับแบกน้ำหนัก2-3ร้อยกิโลกรัม”

ใบหน้าของหลี่ฟูเฉินเคร่งเครียด แต่เขาไม่รู้ว่าเส้นทางชิงหยุนนี้ยาวไกลแค่ไหน ถ้ามันไกลเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้ น้ำหนักก็จะบดขยี้เขาทั้งๆที่มีเขายังมีชีวิตอยู่

***

ไม่นานหลังจากเหล่าสาวกทั้งหมดเข้ามาในสายหมอก ...

“ท่านอาวุโสเซี่ยว ท่านคิดว่าใครจะได้รับคะแนนเต็มสำหรับการทดลองใช้พลังจิตตานุภาพ นี้” เฉินจงหมิงหันสายตาของเขาไปที่ท่านอาวุโสเสี่ยวจางเฟิง

เสี่ยวจางเฟิงตอบด้วยน้ำเสียงลุ้มลึก “ข้ากลัวว่าเป็นไปไม่ได้ เส้นทางชิงหยุนใช้ทั้งความกดดันและภาพลวงตา ในช่วงสิบปีที่ผ่านมามีเพียงสาวก 3คนเท่านั้นที่ได้คะแนนเต็มและพวกเขาเป็นบุคคลระดับ 4ดาวและ 5ดาวที่ได้รับคัดเลือกล่วงหน้า”…..

กลุ่มลับที่แฟนเพจ @indynovels

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด