ตอนที่แล้วทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 33
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 35

ทีมบาสหัวใจนักสู้ ตอนที่ 34


ตอนที่ 34

“โค้ชหลี่ครับ ผู้เล่นวิ่งเสร็จแล้ว นี่คือข้อมูลของพวกเขาครับ” หยางซิ่นเจ๋อเอาสมุดบันทึกยื่นให้หลี่หมิงเจิ้ง

หลี่หมิงเจิ้งหยิบสมุดบันทึก ในใจคิดคว่าหยางซิ่นเจ๋อทำงานละเอียดจนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อสักครู่ เขาพูดแค่ต้องการบันทึกเวลาวิ่งเสร็จ แล้วทำสถิติเปรียบเทียบกับเมื่อวาน แต่ว่าหยางซิ่นเจ๋อไม่เพียงแค่บันทึกเวลาการวิ่งแต่ละรอบของผู้เล่นเท่านั้น ยังใช้สัญลักษณ์ดาว ระบุตรงผู้เล่นที่เริ่มวิ่งช้าลงในรอบไหน

บันทึกที่หยางซิ่นเจ๋อทำมีเยอะแต่ไม่ซับซ้อน ทำให้หลี่หมิงเจิ้งมองปราดเดียวก็เข้าใจ หลี่หมิงเจิ้งพยักหน้าพอใจมาก “คุณเป็นผู้ช่วยโค้ชที่ดีมาก”

หลังจากหลี่หมิงเจิ้งดูข้อมูลเสร็จ ก็เอาสมุดบันทึกคืนหยางซิ่นเจ๋อ “คุณช่วยผม รวมตัวผู้เล่น ไม่ต้องเข้าแถวนะ ให้พวกเขายืนกันตามสบาย”

“ครับ” หยางซิ่นเจ๋อที่ถูกชม อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด รีบวิ่งไปรวมตัวผู้เล่น

หลังจากรวมตัวผู้เล่นเสร็จ หลี่หมิงเจิ้งมาที่ด้านหน้าของผู้เล่น “หลังจากผ่านการฝึกซ้อมอย่างหนักเมื่อวานนี้ จากความเร็วในการวิ่ง เห็นได้ชัดว่าวันนี้ร่างกายของทุกคนค่อนข้างเหนื่อยล้า นอกจากหลี่กวงเย่า ที่ใช้ความเร็วปกติวิ่งครบสิบรอบแล้ว คนอื่นๆ ช้าไปประมาณสามสิบวินาทีถึงหนึ่งนาที ดังนั้นการฝึกซ้อมของวันนี้ จะมุ่งเน้นที่การสร้างทีมกับการป้องกันของแต่ละคน การรับรู้ในการป้องกัน มีคำถามอะไรไหม?”

เงียบกันหมด

หลี่หมิงเจิ้งถามอีก “ผมไม่เหมือนกับโค้ชทั่วไป จะไม่ถือว่าคำถามที่พวกคุณถามเป็นการท้าทายอำนาจ ดังนั้นหากเวลาที่ฝึกซ้อม มีปัญหาอะไรหรือมีแนวคิดอยากจะปรึกษาหารือกับผม ช่วงเวลาพักสามารถมาหาผมได้ หากตอนนี้ไม่มีคำถามอะไร ไมค์ เว่ยอี้ฝาน หยางเจิ้นอี้ เปาต้าเหว่ย จันเจี๋ยเฉิง จัดการป้องกันแบบแบ่งโซนสองต่อสาม”

“ครับ!”

หลังจากทั้งห้าคนยืนในตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว หลี่หมิงเจิ้ง พูดให้ผู้เล่นทั้งหมดได้ยิน “ไมค์ เซ็นเตอร์คือศูนย์กลางป้องกันของทีม ดังนั้นผมต้องการให้คุณเพิ่มความมั่นใจ ไม่ต้องอาย สั่งการตำแหน่งป้องกันของเพื่อนร่วมทีม!”

ไมค์งอตัว พยักหน้าด้วยความตื่นเต้น

“อี้ฝาน ไมค์ยังขาดประสบการณ์การป้องกันจริง ดังนั้นเธอชี้แนะไมค์” หลี่หมิงเจิ้งชี้ไปที่เว่ยอี้ฝานแล้วพูด

“ครับ โค้ช!”

“เจินอี้ เธอก็เหมือนกัน คอยช่วยไมค์ในเวลาที่เหมาะสม”

“ครับ โค้ช!”

“ติ้งหวา เดี๋ยวแกมาเป่าตัดสิน” ภายใต้การจ้องมองของทุกคน หลี่หมิงเจิ้งหยิบลูกบาสเดินเข้าไปในสนาม “หย่าซู เดี๋ยวเธอถือลูกบาส ไม่ว่าผมหรือกวงเย่ามีช่องว่าง ก็ส่งบอลได้เลย” พูดจบก็ส่งบอลให้เซี่ยหย่าซู

แล้วพัฒนาการของสถานการณ์ก็เกินความคาดหมายของทุกคน ภายใต้การเล่นวงนอกของหลี่กวงเย่า หลี่หมิงเจิ้งเล่นวงใน จากการป้องกันแบบคุมโซนสองต่อสามของไมค์ก็เหมือนกับสลัดจานหนึ่ง วงนอกสกัดความเร็วตัดเข้าของหลี่กวงเย่าไม่ได้ วงในก็ การก้าวขาป้องกันหลี่หมิงเจิ้งในพื้นที่เขตจุดโทษต่อก็หมดหนทาง ทั้งห้าคนแทบจะพูดได้ว่าถูกหลี่หมิงเจิ้งสองพ่อลูกเล่นงาน

“เจินอี้ เธอต้องประกบชิดและเร็วกว่านี้ อย่าลังเล! ไม่อย่างนั้น ด้านการรุก ไม่ว่าจะเป็นรุกจากด้านหลังหรือรุกทางด้านหน้าของแป้น การป้องกันในพื้นที่เขตโทษก็เหมือนแปะกระดาษไว้!”

“ครับ!”

“ไมค์ เมื่อต้องการเพิ่มการป้องกันก็ต้องพูด เรียกอี้ฝานหรือเจินอี้มาช่วยเธอ ยังมีอีก ตอนที่ป้องกัน ใช้ขาของเธอมาป้องกัน ไม่ต้องใช้มือ ทำอย่างนี้จะฟาวล์ได้ง่าย!”

“ครับ!”

“อี้ฝาน ก้าวขาไวกว่านี้”

“ครับ!”

“พอยต์การ์ดสองคนที่อยู่ด้านหน้า อย่าให้ปล่อยผ่านมาง่ายๆ! ขยับขาของพวกเธอ ตอนนี้มีเพียงกวงเย่าที่เป็นพอยต์การ์ด คนเดียวกำลังรุกขึ้นมา ลองคิดดูหากในสนาม ด้านการรุก มีพอย์การ์ดสองคน พวกเธอจะต้องตกลงกันยังไง!”

ภายใต้คำแนะนำของหลี่หมิงเจิ้ง การป้องกันของทั้งห้าคน ค่อยๆ ปรากฎความร่วมมือและความเข้าใจกันโดยปริยาย ซึ่งเกิดการบ่มเพาะขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในระหว่างปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นจับคู่ยังไง เสริมป้องกันยังไง ประกบยังไง เคลื่อนไหวยังไง สื่อสารกันยังไง

ฝึกซ้อมเช่นนี้ครึ่งชั่วโมง หลี่หมิงเจิ้งตะโกนให้หยุด การฝึกป้องกันแบบสามต่อห้าสิ้นสุดลง หลี่หมิงเจิ้งให้ผู้เล่น พักห้านาที แล้วเรียกเว่ยอี้ฝานกับหยางเจินอี้มาข้างหน้า

“ไม่ว่าจะเป็นความสูงหรือประสบการณ์ พวกเธอสองคนคือคนที่ผมพึ่งพาได้ แม้ว่าไมค์เรียนรู้เร็ว แต่ว่ายังต้องการความช่วยเหลือจากคุณทั้งสองคน เสริมตำแหน่ง ช่วยป้องกัน” หลี่หมิงเจิ้งตบไหล่ของทั้งสองคน “ผมเห็นความก้าวหน้าของพวกคุณ ดังนั้นผมเชื่อว่าพวกคุณทำได้”

หลังจากเว่ยอี้ฝานกับหยางเจินอี้ไปพักผ่อน หลี่กวงเย่าก็มาหาหลี่หมิงเจิ้ง “พ่อครับ อีกสักครู่ ผมอยากจะป้องกัน”

“โอเค ไม่มีปัญหา” หลี่หมิงเจิ้งรับปากด้วยความยินดี

หมดเวลาพัก หลี่หมิงเจิ้งให้ปรับการป้องกันเป็น สามต่อสี่ ไมค์ เว่ยอี้ฝาน หลี่กวงเย่า เปาต้าเหว่ยรับผิดชอบป้องกัน เซี่ยหย่าซู หยางเจินอี้ จันเจี๋ยเฉิงรับผิดชอบรุก

“ด้านการป้องกัน ป้องกันพื้นที่ สอง ต่อสอง ด้านการรุก ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มได้เลย” หลี่หมิงเจิ้งตะโกนไปทางสนาม

พอหลี่หมิงเจิ้งพูดจบ หลี่กวงเย่าตบมือ พูดเสียงดัง “เฮ้ ไม่ว่าจะเป็นใคร เพียงแค่สามารถผ่านฉันไปได้ ฉันเลี้ยงน้ำเกลือแร่ยี่ห้อSuper Supau ไม่ใช่เป็นกระป๋องนะ เป็นแบบ 590 มิลลิลิตร!”

มะระที่อยู่นอกสนามได้ยินหลี่กวงเย่าพูด ก็หัวเราะออกมา บอกกับเซียวฉงอวี๋ “เห็นไหม รูปแบบการนำของเขามีเอกลักษณ์”

เซียวฉงอวี๋พยักหน้า “ไม่เหมือนกับทีมบาสที่เราเคยเจอ แต่ว่าพี่มะระ เขาเพิ่งจะขึ้นม.4 ถึงแม้ความแข็งแกร่งจะมากแค่ไหน ส่วนใหญ่เพื่อนร่วมทีมเป็นรุ่นพี่ มีอำนาจอย่างนี้จะเหมาะสมเหรอ?”

มะระส่ายหน้า โต้แย้งวิธีการพูดของเซียวฉงอวี๋ “สไตล์ของผู้เล่นแต่ละคนไม่เหมือนกัน เมื่อก่อน ทีมที่พวกเราเคยเจอ ส่วนใหญ่จะมีระบบรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่กวงเป่ย เป็นทีมที่เพิ่งจะตั้งขึ้นมา ดังนั้น ความแข็งแกร่งเฉพาะตัว จึงจะมีอำนาจ ในเมื่อเว่ยอี้ฝานที่เคยเล่นในลีกเอก็ยังไม่พูดอะไร งั้นก็แสดงว่าทุกคนยอมรับว่าหลี่กวงเย่า มีความแข็งแกร่ง”

มะระเงยหน้า แสดงให้เซียวฉงอวี๋รู้ว่าเขามองไปที่สนาม “นายดูสิ ในทีมมีนักเรียมชั้นม.6 หยางเจินอี้ต้องท้าทายหลี่กวงเย่าแล้ว”

ในสนาม บรรยากาศไม่ค่อยปกติ การแสดงออกของแต่ละคนไม่เหมือนกับเมื่อสักครู่นี้ หยางเจินอี้ถือบอล ทำท่าชู้ตหลอกหลายครั้งกับโยกหลอก แต่หลี่กวงเย่าไม่ขยับตาม

“รุ่นพี่ รุกเข้ามาเลยสิ”

หยางเจินอี้หายใจหอบ โยกไหล่ตัดเข้าทางขวา แต่ว่าหลี่กวงเย่าเดาทิศทางการรุกของเขาได้หมด หยางเจินอี้ป้องกันบอลไม่ทัน หลี่กวงเย่าก็แย่งบอลไปอย่างรวดเร็ว ถือบอลไว้ในมือ

“รุกเข้ามาอีกรอบ”หลี่กวงเย่าคืนบอลให้หยางเจินอี้

หยางเจินอี้ถือบอล ยืนด้านนอกเส้นสามคะแนน มองท่าทางที่จริงจังของหลี่กวงเย่า ในใจรู้สึกถึงการกดดันของหลี่กวงเย่า

เปรียบเทียบนิสัยของหยางเจินอี้แล้ว เว่ยอี้ฝานยิ่งเป็นคนเก็บตัว แต่ว่านิสัยไม่ยอมแพ้ที่แทบจะเหมือนกัน

หยางเจินอี้ แบกความกดดันของหลี่กวงเย่าที่แผ่กระจายออกมา พอถือบอลทำท่าลองก้าวไปทางขวา ก็รีบตัดเข้าซ้าย แต่หลี่

กวงเย่ายังคงเร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว ใช้ตัวบังการรุกของเขา กดดันหยางเจินอี้จนต้องเก็บบอลไว้ “ด้านหลังมองให้ดี เมื่อพอยต์การ์ดของอีกฝ่ายได้บอล จะมีโอกาสส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมที่ใต้แป้น เวลานี้เป็นโอกาสดีของพวกเธอที่ยืนป้องกันอยู่แนวหน้า เพราะว่าถูกพอยต์การ์ดปิดตายไว้ ไม่สามารถส่งบอลออกมาให้ได้ ต้าเว่ย เห็นพอยต์การ์ดถูกกัน งานของเธอก็คือมาป้องกันคนที่มารับช่วงต่อของเขา อย่าปล่อยให้คนที่มารับช่วงต่อ มีโอกาสรับบอลได้ง่ายๆ!” หลี่กวงเย่าป้องกันหยางเจินอี้ไปด้วย พูดกับเพื่อนร่วมทีมที่ป้องกันไปด้วย

นอกสนาม มะระที่เห็นหลี่กวงเย่าป้องกันหยางเจินอี้ได้ทั้งสองครั้ง ก็ยิ้มออกมา พูดกับเซียวฉงอวี๋ “ดูแล้ว เขากล้าที่จะพูดเสียงดัง ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลนะ”

 

ในเวลาการฝึกซ้อมสองชั่วโมง หลี่หมิงเจิ้งเปลี่ยนหลายรูปแบบการป้องกัน สองต่อสาม สามต่อสาม สามต่อสี่ แม้ว่าวันนี้หลี่

หมิงเจิ้งจะไม่ได้ฝีกซ้อมด้านความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม ผู้เล่นทุกคนดูเหมือนอ่อนเพลียมาก

ถือโอกาสที่ผู้เล่นฝึกซ้อมเสร็จ ดื่มน้ำ พักผ่อน มะระถือโทรศัพท์มือถือ เปิดโหมดบันทึกเสียง อ่านคำถามที่เตรียมไว้แล้วในสมุดบันทึก หลังจากท่องในใจอยู่หลายครั้ง จึงก้าวขาเดินไปทางผู้เล่น

อันดับแรกมะระไปหานักเรียนชั้นม.6 ที่อยู่ในทีมเพียงคนเดียว หยางเจินอี้

“นักเรียนหยาง ผมอยากจะถามคุณสองสามคำถาม คำถามแรก ความปรารถนาของผม คำถามที่สอง คุณหวังว่ามีส่วนร่วมกับทีมยังไง?”

เพราะว่ามีประสบการณ์เคยถูกสัมภาษณ์ตอนที่แข่งสมัยมัธยมต้น หยางเจินอี้ตอบอย่างเปิดเผย “ในด้านการรุก ผมหวังว่าจะได้รับบทบาทการรับมือจากการคุกคามของวงนอก ด้านการป้องกันคือ ป้องกันการรีบาวด์อย่างแน่นหนา ด้านความปรารถนาของผม หวังว่าจะสามารถแข็งแกร่งกว่านี้”

“ขอบคุณครับ”

หลังจากพูดจบ มะระก็ถามผู้เล่นตามลำดับอาวุโส และถามคำถามเดียวกัน

เว่ยอี้ฝานครุ่นคิด “ตอนนี้ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายและการป้องกัน หวังว่าจะสามารถกลับไปรู้สึกเหมือนตอนที่เล่นอยู่หรงซิน ช่วยเหลือทีมให้เล่นตามจังหวะที่โค้ชหวังไว้ ทำการป้องกันให้ดี”

จันเจี๋ยเฉิงพูดอย่างฉะฉาน “ความแข็งแกร่งของร่างกายของผมกับความสามารถในการป้องกันแย่มาก ดังนั้นตอนนี้ต้องเพิ่มสองเรื่องนี้ แต่ว่าการควบคุมบอลของตัวเองกับการส่งบอล ผมมีความมั่นใจมาก เมื่อร่างกายของผมตามจังหวะการเล่นของทีมทันแล้ว ก็จะเป็นการเล่นที่แข็งแกร่งของผมจริงๆ

เปาต้าเหว่ยเกาหัว “ผมชอบเล่นบาส แต่ไม่มีพรสวรรค์ ดังนั้นผมว่าเริ่มจากการป้องกัน ต้องพยายามช่วยเหลือทีม…”

เซี่ยหย่าซูมองมะระ สายตาแหลม “ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไร ใช่แล้ว ฉันไม่สามารถลงแข่งได้ แต่ว่าฉันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของทีม อย่าดูถูกฉัน หากฉันสามารถลงสนามได้ ผลงานของฉัน จะทำให้ทุกคนตกตะลึงแน่นอน เชอะ!”

ไมค์พูดตะกุกตะกัก “ผม…ก็..” พูดไม่จบสักประโยค ก็ไปหลบอยู่ด้านหลังหลี่กวงเย่า

หลี่กวงเย่าหัวเราะลั่น “พวกคุณอย่าถือสาเขาเลย ไมค์ขี้อายมาก ผมช่วยเขาพูด”พื้นที่เขตจุดโทษคือโลกของผม รุกเข้ามาก็อย่ากลัวที่จะถูกผมบล็อก!” ได้ยินหลี่กวงเย่าพูดอย่งนี้ ไมค์ดึงเสื้อหลี่กวงเย่าด้วยความตื่นเต้น ส่ายหน้าแสดงถึง ว่าตัวเองไม่ได้คิดแบบนั้น

หลี่กวงเย่าตีหัว แสดงให้เห็นว่าขออภัย “ขอโทษครับ ผมพูด ขาดไปหลายประโยค ‘คนตัวใหญ่ในทีมอื่นต้องระวังไว้ รีบาวด์เป็นของผม ใครก็แย่งผมไปไม่ได้’ จบแล้วครับ”

หลี่กวงเย่าใช้มือดึงไหล่ไมค์ ลากเขามายืนข้างๆ “พวกคุณจำเขาไว้ อีกไม่นาน เขาใช้การรีบาวด์กับการบล็อกที่จะเขย่าวงการบาสเกตบอลมัธยมปลาย!”

มองไมค์ที่รีบหลบอยู่ด้านหลังหลี่กวงเย่า มะระไม่คิดว่าคำพูดของหลี่กวงเยามีโน้มน้าวอะไรได้

หลี่กวงเย่ามาพร้อมรอยยิ้มที่เชื่อมั่นในตัวเอง “ตาผมแล้ว สิ่งที่ผมหวัง กับช่วยเหลืออะไรทีมมีเยอะจริงๆ แม้นิตยสารของพวกคุณมีสองร้อยหน้าก็เขียนไม่หมด ผมพูดสั้นๆ ง่ายๆ แล้วกัน

“ผมต้องเอาแชมป์กลับมาให้กวงเป่ย!”

……………………………………………………………………………………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด