ตอนที่ 31 ดูดกลืนพลังวิญญาณจากโลกและสรรพสิ่ง
ปัง!
เสียงพื้นเวทีที่เกิดจากแรงกระแทกของเด็กหนุ่มอีกคนนึง
"ศิษย์พี่เย่โม่" เจียงเมิ่งเอ๋อมอง "ท่านกำลังทำอะไร?"
"ศิษย์น้อง"เย่โม่เหลือบตาไปที่นาง "วันนี้ท่านอาจารย์มาเพื่อมาชมการประลองที่ยอดเยี่ยมของเจ้าในการชิงตำแหน่งผู้นำหอดาบ แต่เจ้ากลับทำขายหน้าบนเวที ด้วยตำแหน่งของอาจารย์ท่านไม่สามารถช่วยนางได้ อย่างไรก็ตามในฐานะศิษย์พี่ ข้าไม่สามารถยืนมองมันเฉยๆได้"
เย่โมมองดูเจียงวู่เฉิงอีกครั้งหลักจากนั้นก็พูดเสียงเย็น "เจียงวู่เฉิงในฐานะลูกผู้ชายเจ้ามีความภูมิใจหรือที่ได้รังแกสตรี?"
"สตรี?"เจียงวู่เฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ"ข้าบอกไม่ได้เลยว่านางเป็นสตรีตั้งแต่ที่นางสอนบทเรียนที่ลืมไม่ลงให้แก่ข้าเมื่อสองเดือนก่อน ทำให้ข้าได้รู้ว่าความแข็งแกร่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก"
"เจ้าพูดถูก" เย่โม่พยักหน้าอย่างเย็นชา "อย่างที่เจ้าพูดความแข็งแกร่งเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่มั่นใจได้เลยว่าเจ้าไม่สามารถแกล้งศิษย์น้องของข้าได้ง่ายๆ”
"ข้าจะบอกให้รู้ว่าเจ้าเป็นคนที่จิตใจคับแคบและหลอกลวงน่ารังเกียจ!"
เมื่อพูดจบพลังลมปราณที่แข็งแกร่งก็ถูกปล่อยออกมาจากเย่โม่
พลังลมปราณที่เหนือกว่าเจียงเมิ่งเอ๋อที่อยู่อาณาทะเลลมปราณอันลึกซึ้งก็ถูกปล่อยออกมา
"อาณาทะเลลมปราณขั้นสูงสุด"
"เย่โม่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในอาณาทะเลลมปราณขั้นสูงสุดได้อย่างไร?"
"เขาอายุเพียงเท่าไหร่ การบ่มเพาะของเขาจะสูงขนาดนี้ได้อย่างไร?"
"เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เจียงเมิ่งเอ๋อได้บรรลุอาณาเทละลมปราณอันลึกซึ้งในตอนอายุ16ปี ไม่ต้องพูดถึงศิษย์พี่ของนางเลย!"
ในลานประลองเต็มไปด้วยความอัศจรรย์
"สุ่ยหานซิน ในนิกายดาบเทียนหยวนมีอัจฉริยะจำนวนมาก"ไป่ฉงมองสุ่ยหานซินอย่างมีความหมาย
"เหตุผลที่นิกายดาบเทียนหยวนของข้ามีความแข็งแกร่งก็เพราะมีลูกศิษย์อัจฉริยะจำนวนมากที่ถูกความมั่งคั่งของพวกเราดึงดูด เมิ่งเอ๋อเป็นคนที่มีความสามารถสูงที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะแข็งแกร่งที่สุด"สุ่ยหานซินกล่าว
"แต่ศิษย์ของท่านทำเกินไปหรือเปล่า? ในตอนที่เจียงเมิ่งเอ๋อพ่ายแพ้เขาก็เสนอตัวออกมาช่วย แต่กลับกันถ้าเป็นเจียงวู่เฉิงลูกศิษย์ของนิกายท่านจะออกมาช่วยเขาไหม?"ไป่ฉงกล่าวเสียงเย็น
"แล้วยังไงล่ะ? มีเด็กฝึกหัดหลายคนในนิกายดาบเทียนหยวนของข้า ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็อายุ16เท่ากับเจียงวู่เฉิง มันเป็นเรื่องยุติธรรมถ้าพวกเขาจะสู้กัน"สุ่ยหานซินพูดและหัวเราะ
"มันไม่เหมือนกัน" ไป่ฉงส่ายหัวและกล่าวว่า "แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในวัยเดียวกัน แต่การบ่มเพาะของพวกเขานั้นค่อนข้างแตกต่างกัน ในขณะที่ลูกศิษย์ของท่านได้รับทรัพยากรจากนิกายดาบเทียนหยวน รวมถึงการฝึกฝนในเชิงดาบจากผู้มีพลังอาณาแก่นทองคำ รวมถึงลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งในนิกายดาบเทียนหยวน แต่เจียงวู่เฉิงเรียนรู้ทั้งหมดนี้ด้วยตัวเอง"
"แล้วจะโทษใครล่ะ? ต้องโทษตัวเขาเอง" สุ่ยหานซินเอ่ยถามไป่ฉงและพูดด้วยเสียงที่เบา “ไป่ฉง เจียงวู่เฉิงมาจากตำหนักขุนพลดาบ เขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านและท่านยังเป็นผู้ดูแลของลานนักสู้ แม้แต่ตำหนักขุนพลดาบยังอนุญาติให้ศิษย์ของข้ากระโดดออกไป ทำไมท่านถึงเข้ามายุ่ง?”
ไป่ฉงพูดไม่ออก เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางเหล่าผู้เชี่ยวชาญของตำหนักขุนพลดาบ
พวกเขาล้วนเป็นคนจากหอยุทธ์แดงและหอโอสถทุกคน ยกเว้นเจียนซินหง คนจากหอดาบไม่ได้อยู่ที่นี่ คนจากหอยุทธ์แดงและหอโอสถไม่ได้สนับสนุนเจียงวู่เฉิง สำหรับเจียนซินหงเขาลังเลอยู่ชั่วครู่เมื่อเขามองไปเห็นความเย็นชาจากสุ่ยหานซินเขาก็กลืนคำพูดทันที
เพราะเขาสามารถบอกได้ว่าสุ่ย หานซินโมโห หากเขาสนับสนุนเจียงวุ่เฉิงในตอนนี้ เขาคงไปตอแยผู้อาวุโสในนิกายเทียนหยาน ในนามของตำหนักขุนพลดาบเข้า
ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะกลืนคำพูดของเขา
ไป่ฉงไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะแม้แต่คนของตำหนักขุนพลดาบยังไม่ช่วยเขา แล้วเขาที่เป็นคนนอกจะพูดอย่างไรได้?
พลังลมปราณที่ยอดเยี่ยมมาจากเย่โม่ มันทำให้บรรดาลูกศิษย์ของตำหนักขุนพลดาบรู้สึกเคร่งเครียด
"อาณาทะเลลมปราณขั้นสูงสุด?"เจียงวู่เฉิงรู้สึกประหลาดใจ
อาณาทะเลลมปราณขั้นสูงสุดนั้นสูงกว่าระดับของเจียงเมิ่งเอ๋อ เย่โมนั้นเป็นศิษย์ของสุ่ยหานซินมานานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ฝึกฝนในนิกายดาบเทียนหยวนด้วยวิธีการบ่มเพาะและฝึกฝนดาบ ดาบของเขาจะต้องแข็งแกร่งกว่าของเจียงเมิ่งเอ๋ออย่างแน่นอนเพราะการบ่มเพาะของเขานั้นเหนือกว่า
เจียงวู่เฉิงต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะชนะเจียงเมิ่งเอ๋อ สำหรับเย่โม่นั้นเขารู้สึกไม่มั่นใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าเขาต้องสู้กับเย่โม่เมื่อเขาเห็นการแสดงออกที่เย็นชาของสุ่ยหานซินและคนอื่นๆ
"ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการต่อสู้ และข้าก็ไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธ ดังนั้นเรามาเริ่มกันเลย!"เจียงวู่เฉิงประสานมือของเขาแน่นแสดงความวิตกกังวลเล็กน้อยในดวงตาของเขา
"วิชาผลาญวิญญาณ..วิชาลับ!"
ฮึ่ม...เกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วอากาศโดยรอบ
ร่างของเจียงวู่เฉิงดูเหมือนจะเป็นหลุมดำที่สามารถดูดกลืนทุกอย่างได้หมด พลังธรรมชาติจากทุกสรรพสิ่งในจักรวาลต่างมาหาเขาด้วยความเร็วที่น่าประหลาดใจ
เมื่อพลังธรรมชาติหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของเจียงวู่เฉิง เขาก็รู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก
การฝึกฝนพลังลมปราณของเขาอยู่ในจุดสูงสุดขั้นที่8ของวิถีเซียนซึ่งใกล้เคียงกับอาณาทะเลลมปราณอันลึกซึ้ง อย่างไรก็ตามตอนนี้การบ่มเพาะทางพลังลมปราณของเขานั้นเหนือกว่าขั้นที่8ไปสู่ขั้นที่9ของวิถีลมปราณแล้ว
ในเวลาเดียวกันความเจ็บปวดก็ทำให้ใบหน้าของเขาหงุดหงิดอย่างมาก
ในที่สุดเมื่อวิชาลับผลาญวิญญาณได้มาถึงขีดสุด ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาก็มาถึงจุดสูงสุดเช่นกัน การฝึกฝนทางพลังลมปราณของเขาได้เลื่อนเข้าสู่ขั้น9วิถีลมปราณในทันที
ฟันของเขาบดกันอย่างแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยว ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นแสงไฟก็เติมเต็มความว่างเปล่า เสียงของเจียงวู่เฉิงที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและดื้อรั้นก็ดังก้องในใจของผู้คน
"เจ้าคือเย่โม่จากนิกายดาบเทียนหยวนใช่ไหม หากเจ้าต้องการความแน่ชัด งั้นข้าจะให้ความแน่ชัดกับเจ้าด้วยกำปั้นของข้าเอง”