TQF:บทที่ 29 ความคาดหวังของทุกคน
TQF:บทที่ 29 ความคาดหวังของทุกคน
(TL:เริ่มแปลจากจีน หากมีข้อผิดพลาดต้องขออภัย)
หยูเฮง ปรากฏการณ์ขึ้นและร่อนลงต่อหน้าของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว และพูดอย่างจริงจังว่า
“คุณหนูท่านอาจไม่รู้ ว่ามีคนแบบนี้จริงๆ พวกเขาสามารถใช้จิตวิญญาณบังคับกระดูกของตัวเองและกล้ามเนื้อของพวกเขาเปลี่ยนแปลงพลังงานจากสวรรค์ การฝึกฝนของเขาสามารถเรียกลมและฝนได้”
“เข้าใจแล้ว!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พยักหน้า ความจริงเรื่องเหล่านี้ปรากฏอยู่ในนิยายและละครทีวีที่เธอเคยเห็นนับไม่ถ้วน เพียงแต่ว่าเธอแค่สงสัยเท่านั้น
“ใช่แล้ว หยูเฮง เจ้าเป็นยังไงบ้างในตอนนี้?” เมื่อคิดได้ว่าหลังจากที่ หยูเฮง ได้รักษาพ่อของเธอร่างกายของ หยูเฮง นั้นเริ่มเบาบางทำให้ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว รู้สึกเป็นกังวลและพยายามสังเกตรอบๆตัวของ หยูเฮง
หยูเฮง หัวเราะอย่างร่าเริง และพูดว่า
“คุณหนู ท่านได้โปรดมั่นใจ หยูเฮง ไม่ได้เป็นอะไร แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสักกี่ครั้งตราบใดที่กลับมายังมิติแห่งนี้มันจะได้รับการฟื้นฟูในไม่ช้า”
“สุดยอด!มันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมมาก!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พยายามระงับความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองและถาม หยูเฮง ว่า
“หยูเฮง เจ้าสามารถรักษาโรคอื่นๆได้หรือไม่?”
“ข้าสามารถทำได้แต่แม้จะพูดว่าข้าสามารถรักษาตัวเองได้เมื่อเข้ามาในมิติแห่งนี้แต่จะเกิดความเสียหายกับระดับการบ่มเพาะของข้า ถ้าไม่สามารถรักษาคนอื่นในปัจจุบันนี้ได้อีก ไม่เช่นนั้นมันเป็นเรื่องยากที่ข้าจะสามารถฟื้นฟูระดับการบ่มเพาะของตัวเอง” หยูเฮง พยักหน้าและพูดอย่างจริงจัง
“การบ่มเพาะของเจ้าเหมือนกับที่พวกเราทุกคนฝึกหรือไม่?”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว คิดว่า หยูเฮง นั้นเป็นนางฟ้าของสวรรค์ เธอคงไม่จำเป็นต้องฝึกฝน
“คุณหนู หยูเฮง นั้นเป็นนางฟ้ามิติแห่งนี้ ตราบใดที่ระดับของมิติสูงขึ้น หยูเฮง ก็จะเติบโตขึ้นและความสามารถเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน”
“เจ้าหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับมิติแห่งนี้อย่างนั้นหรอ?”
“ใช่แล้วคุณหนู ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับมิติแห่งนี้ยิ่งระดับของมิติเพิ่มสูงมากขึ้นเท่าไหร่เราจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากขึ้นเท่านั้นและสัตว์เหล่านี้ก็สามารถกลายเป็นพลังให้กับคุณหนูได้”
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องรีบหา พืชพันธุ์ต่างๆเพื่อมายกระดับมิติให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว!”หัวใจของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ตื่นเต้นเธอต้องการดูว่ามิติแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
“อย่างไรก็ตามหากคุณหนูสามารถยกระดับของมิติสูงขึ้นเรื่อยๆ และมีส่วนผสมของธาตุทั้ง 5 หยูเฮง สามารถเปลี่ยนมิตินี้ให้เป็นโลกเล็กๆได้!”
“----”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พูดไม่ออกเธอได้แต่ตกตะลึงและมองไปที่ หยูเฮง ผู้ซึ่งกำลังพูดอย่างมีความสุข
ในวันต่อมาภายใต้การจัดการของท่านพ่อ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว และพวกน้องๆต้องฝึกฝนกันอย่างหนักวันนี้ไม่มีเด็กคนใดได้เล่นริมแม่น้ำ
ผู้เฒ่าหลิวและชาวบ้านอีกหลายคนได้รับเชิญจาก เฉิงไป๋หยวน พวกเขารู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็น เฉิงไป๋หยวน สามารถลุกขึ้นยืนได้ แต่พวกเขารู้ว่าคงมีคนช่วยเหลือครอบครัวเฉิงอย่างแน่นอน ชาวบ้านเหล่านั้นได้แต่ถอนใจอิจฉาในความโชคดีของครอบครัวเฉิง
วันนี้ครอบครัวเฉิงได้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง มีการปลูกต้นข้าวมากมายอีกทั้งมีแปลงผักหลายชนิด ทุ่งหญ้าที่มีการเลี้ยงไก่,กระต่าย,เป็ด,วัว และสัตว์ปีกอื่นๆเหล่านี้ถูกเลี้ยงไว้ในมิติและถูกนำออกมาเพื่อให้คนอื่นได้เห็น บ่อน้ำด้านหน้าบ้านถูกสร้างขึ้นเช่นกัน มีปลาตัวเล็กๆกว่า 1 โหลอยู่ในนั้น ถึงแม้จะดูเหมือนบ้านชาวนาธรรมดาแต่ เฉิงไป๋หยวน คิดว่าสถานที่แห่งนี้มันเหมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มันมีเฉพาะสถานที่ที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณเท่านั้นที่จะสามารถปรากฏเหตุการณ์แบบนี้
ที่ตลาดในเมืองตระกูลหนิงยังคงส่งคนรับใช้มาดูที่ตลาดทุกวันเพื่อที่จะรอพบแม่และลูกสาวที่ขายสัตว์วิญญาณอย่างไรก็ตามพวกเขาต้องรู้สึกผิดหวัง 2-3 มานี้พวกเขาไม่ได้พบเห็นแม่และลูกสาวราวกับว่าพวกเขาเป็นเพียงอุกาบาตบนท้องฟ้าที่วิ่งผ่านมาและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้ว่าพวกเขาจะไม่พบใครเลยแต่พวกเขาก็ไม่รีบร้อนเนื่องจากวันนั้น หมอจากสำนักแพทย์ได้อยู่กับแม่และลูกสาว หากพวกเขาต้องการรอพบเธอทั้งคู่เพียงแต่ต้องไปตามหาหมอคนนั้นและให้บอกที่อยู่ของแม่และลูกสาวเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ต้องการใช้วิธีนี้ พวกเขาไม่รู้รายละเอียดของอีกฝ่ายมันไม่ฉลาดเลยที่จะไปรบกวนอีกฝ่ายโดยไม่มีเหตุผล มันอาจทำให้พวกเธอไม่พอใจ พวกเขาทําได้เพียงรอแม่และลูกสาวปรากฏตัวที่ตลาดอีกครั้ง แต่เวลาผ่านพ้นไปพวกเขาก็ยังไม่เห็นแม่และลูกสาวปรากฏตัวออกมา ไม่เพียงแต่ผู้เฒ่าตระกูลหนิงที่เป็นกังวลแม้แต่เถ้าแก่โรงเตี๊ยมก็เริ่มกังวลเช่นกัน หลังจากที่เขาส่งผลผลิตครั้งล่าสุดไปยังเจ้านายของเขา เจ้านายของเขาต้องการที่จะติดต่อแม่และลูกสาวบ้านเฉิง แต่ภายใต้ความกดดันของทั้งสองตระกูลก็ไม่สามารถทำให้แม่และลูกสาวครอบครัวเฉิงปรากฏตัวได้
ผ่านไป 2 เดือนผู้เฒ่าหนิงเริ่มร้อนใจ เขาไม่ต้องการที่จะพลาดขุมทรัพย์แห่งนี้สำหรับพวกเขามันสำคัญมากดังนั้นเขาจึงสั่งคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขาว่า
“เกาหยาง เจ้าจะตามหาแม่และลูกสาวสองคนนั้นอีกครั้งได้ไหม?”
“นี่…”เกาหยางลังเลสักครู่ เขาไม่ได้บอกเรื่องหมอที่สำนักแพทย์รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน
ผู้เฒ่าหนิงขมวดคิ้วและถามว่า
“มีอะไรผิดปกตินั่นหรอ จงพูดออกมา?”
“นายท่านเรื่องนี้ ข้าคิดว่าการใช้วิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่ดี!” เกาหยางเริ่มกล่าวถึงสถานการณ์และความคิดของเขาหลังจากฟังที่ เกาหยาง พูดผู้เฒ่าหนิงพยักหน้าและพูดว่า
“เจ้าพูดถูกหากเราบังคับท่านหมอบอกสถานที่อยู่ของพวกนาง พวกเราอาจทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ พวกเราจะรออีก 2-3 วันถ้าพวกนางไม่ปรากฏตัวเราคงต้องส่งใครสักคนไปพร้อมกับท่านหมอ”
ในลานกว้างของโรงเตี๊ยมชายวัยกลางคน 2 คนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอย่างดีกำลังจ้องมองเถ้าแก่โรงเตี๊ยมซึ่งกำลังก้มหน้าและเหงื่อแตก
“จูจางเจ้าเป็นคนในตระกูลของเรา ทำไมเจ้าไม่บอกรายละเอียดกับพวกเราไม่ได้?”
“ท่านไป๋ ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการที่จะบอกท่าน แต่หลังจากที่พวกนางมาขายสินค้าครั้งสุดท้ายข้าก็ไม่ได้เบาะแสพวกนางอีก”เถ้าแก่โรงเตี๊ยมจูจางก้มหัวลงอย่างไม่มีทางเลือกพร้อมกับอธิบาย
ก่อนที่ท่านไป๋จะได้พูดอะไร ก็ปรากฏเสียงที่เยือกเย็นข้างเขาพูดขึ้นมาว่า
“ถ้าเจ้าไม่ได้ถามคนพวกนั้นและตอนนี้พวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัว แล้วเจ้าจะบอกเจ้านายของเจ้าได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าไม่สามารถบอกอะไรได้ข้าคิดว่าเจ้าไม่สมควรที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป”
“ท่านไป๋เรื่องนี้…”เถ้าแก่โรงเตี๊ยมเจอปัญหาอันใหญ่หลวงเข้าแล้ว
ท่านไป๋ตบลงบนไหล่ของเถ้าแก่โรงเตี๊ยมเบาๆและพูดว่า
“เถ้าแก่เจ้าจงภาวนาให้พวกนางปรากฏตัวในวันนี้ ไม่เช่นนั้นแม้แต่ชีวิตของเจ้าก็ไม่อาจปกป้องเอาไว้ได้!”
“ท่านไป๋ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าพวกนางจะมาเมื่อไหร่!”
“ดังนั้นเจ้าได้แต่ภาวนาให้พวกนางปรากฏตัวในเร็วๆนี้!”
“ข้า-..”
ในที่สุดเถ้าแก่ก็ออกจากลานบ้านไปและพยายามสวดภาวนาให้แม่และลูกสาวครอบครัวเฉิงปรากฏตัวอีกครั้งในไม่ช้านี้ไม่อย่างนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบสิ้นอย่างน่าเวทนา
“ท่านพ่อพวกเราไปบนภูเขากันเถอะ!”หลังจากทานอาหารเช้า เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พูดกับพ่อของเธอ
เฉิงไป๋หยวน ตกใจเมื่อรู้ว่าลูกสาวของเขาต้องการขึ้นไปบนภูเขาอย่างไม่มีเหตุผลแต่เขายังคงพยักหน้าและพูดว่า
“ตกลงวันนี้พวกเราจะขึ้นไปบนภูเขากัน!”
------------------------------------------