ตอนที่ 188 ใช่ ข้าขู่กรรโชกเจ้า
หลังจากกลับไปที่เรือนของนาง เฟิงหยูเฮงอยากจะคุยกับบานซู ถ้านางสามารถไปที่ค่ายทหารของซวนเทียนหมิงได้ อย่างไรก็ตามก่อนที่นางจะคุยกับบานซู บานซูริเริ่มที่จะยุติความคิดที่ว่า “ในสภาพอากาศเช่นนี้แม้แต่รถม้าก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ คุณหนูถึงแม้ว่าคุณหนูจะไปถึงค่ายทหาร ยามก็จะไม่สามารถมองเห็นว่าคุณหนูเป็นใครผ่านหิมะนี้ หากคุณหนูพยายามฝืนผ่านเข้าไป คุณหนูจะต้องพบกับลูกธนูรอบทิศทางขอรับ”
จากนั้นนางจึงตระหนักถึงความยากลำบากในการร้องขอของนาง ไม่พอใจกับสิ่งนี้นางยังคงถามว่า “เป็นไปได้หรือไม่ หากเจ้าแอบเข้าไปก่อน แล้วบอกซวนเทียนหมิงล่ะ”
บานซูส่ายหัวอีกครั้ง “ไม่ว่าข้าจะพาคุณหนูไปที่ค่ายทหารอย่างปลอดภัยหรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่ข้าสัญญาไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้ข้าคงทำให้ไม่ได้ขอรับ”
เฟิงหยูเฮงทำได้เพียงยอมแพ้
ในหิมะที่ตกหนักที่คล้ายกับหายนะ นางไม่สามารถให้บานซูแบกรับความเสี่ยงนี้ได้เพราะความกังวลของนาง ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดนางจะรออีกสักวัน แม้ว่าหิมะจะไม่หยุดในวันพรุ่งนี้ แต่หิมะคงไม่ตกหนักเท่าวันนี้
คนนั่งรอบห้อง หวงซวนเป็นคนที่ชอบเคลื่อนไหวไปมา หลังจากนั่งพักซักพักนางไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ ได้อีกต่อไป “แทนที่จะนั่งอยู่ในห้อง เราไปดูสถานการณ์ที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงกันดีกว่า ว่าพวกเขากำลังทำอะไร” นางยืนขึ้นแล้ววิ่งไปที่หน้าต่าง เมื่อมองย้อนกลับไปนางพูดกับเฟิงหยูเฮง “คุณหนู บ่าวรับใช้ขอออกไปดูนะเจ้าคะ” หลังจากนี้นางไม่รอให้เฟิงหยูเฮงตอบและออกทางหน้าต่างไปทันที
วังซวนพูดอย่างหมดหนทาง “หวงซวนไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้เจ้าค่ะ!”
เฟิงหยูเฮงไม่สนใจ “มันก็แค่หิมะตก พวกเจ้าทุกคนรู้จักวิทยายุทธ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องกับข้า ปล่อยให้นางออกไปดูเป็นสิ่งที่ดี”
วังซวนไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม นางยังคงวางถ่านไว้ในเตาถ่าน แต่ห้องก็ยังมีอากาศเย็นพอที่จะทำให้พวกเขาสั่นจากความหนาว
จากนั้นนางก็พูดกับเฟิงหยูเฮง “ดูเหมือนว่าไม่มีทางที่จะส่งอาหารกลางวันได้ เมื่อหวงซวนกลับมา บ่าวรับใช้คนนี้จะไปห้องครัวกับนาง เมื่ออาหารพร้อม หวงซวนจะนำอาหารไปให้คุณหนู และบ่าวรับใช้คนนี้จะไปส่งที่เรือนของท่านฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ”
เฟิงหยูเฮงพยักหน้า “ดี ลำบากเจ้าแล้ว”
“คุณหนูพูดอะไรแบบนั้นเจ้าคะ”
เฟิงหยูเฮงไม่ค่อยสดใส นางเริ่มเคาะถ่านหินในเตาถ่าน ด้วยการเคาะแต่ละครั้งประกายไฟจะปะทุออกไป นางถามวังซวนว่า “บอกข้าทีถ้าหิมะตกหนักมากที่นี่ แล้วที่ค่ายทหารจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ ?”
วังซวนส่ายหัว “บ่าวรับใช้ไม่รู้เจ้าค่ะ เมืองหลวงไม่มีหิมะตกมากขนาดนี้ แต่ไม่ควรมีปัญหามากเจ้าค่ะ มันจะไม่มีอะไรมากไปกว่าปัญหาในการทำอาหารและการกิน แต่ฝ่าบาทจะไม่อดอยากเจ้าค่ะ”
เฟิงหยูเฮงถอนหายใจเล็กน้อย “ข้าเป็นห่วงขาของเขา”
เมื่อได้ยินพูดถึงขาของซวนเทียนหมิง วังซวนก็เริ่มกังวล ทั้งสองนั่งเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดแม้แต่บานซูผู้ซึ่งนั่งอยู่บนคานเพดานก็รู้สึกถูกกดขี่โดยความเงียบ
โชคดีที่หวงซวนกลับมาหลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ พร้อมกับข่าวที่จะรายงานให้เฟิงหยูเฮง “เฟิงเฉินหยูกำลังบ้าคลั่งอยู่ในห้องของนาง นางส่งคนไปเชิญหมอในตอนเช้า แต่หมอไม่สามารถมาได้ และบ่าวรับใช้ที่ถูกส่งออกไปยังไม่ได้กลับมาเลยเจ้าค่ะ”
วังซวนเยาะเย้ย “พายุหิมะตกขนาดนี้มันคงแปลกถ้านางสามารถกลับมาได้”
อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงถามว่า “ทำไมนางถึงเรียกหาหมอ ?”
หวงซวนอยากรู้อยากเห็นอย่างเห็นได้ชัด “นางเป็นเหมือนคนบ้าคลั่ง กรีดร้องในห้อง ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูดจริง ๆ ดูเหมือนว่านางจะพูดอะไรบางอย่างที่ยังไม่มาถึง และหมอคนก่อนนั้นก็เป็นคนหลอกลวง”
เฟิงหยูเฮงไตร่ตรองมาซักพักแล้วเข้าใจ อารมณ์หดหู่ก่อนหน้านี้ก็เริ่มดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นางแตะบ่าวังซวนและกล่าวว่า “หิมะที่ตกหนักเช่นนี้จะไม่มีสถานที่ขาดแคลนในเมืองหลวงที่ต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นกำลังคนหรือสิ่งของ ฮ่องเต้ก็ต้องเป็นห่วงเช่นกัน เมื่อหิมะหยุดให้เราไปทำงานที่เป็นประโยชน์ในนามของตำหนักหยูและร้านห้องโถงสมุนไพร สำหรับเงินที่ใช้ในการทำงานนี้เฟิงเฉินหยูได้เตรียมไว้ให้เราแล้ว”
วังซวนและหวงซวนเริ่มสับสน เฟิงเฉินหยูได้เตรียมไว้ ? สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร ?
บานซูกระโดดลงมาจากคานและเอนตัวใกล้กับเฟิงหยูเฮง “เป็นไปได้หรือไม่ที่คุณหนูอยากได้ เงิน 1,000,000 เหรียญเงินที่นางได้รับจากตระกูลเฉิน ? ฟู่, เฟิงจินหยวนเร็วกว่าเรา 1 ก้าวในการได้รับเงิน 1,000,000 เหรียญเงิน”
เฟิงหยูเฮงเลิกคิ้ว “เขายังไม่ได้รับเงินไม่ใช่หรือ ? ตราบใดที่เงินยังคงอยู่ในมือของเฟิงเฉินหยู นางก็จะไม่มีทางเลือกใดที่นางจะให้ เพียงแค่รอดู เมื่อหิมะหยุดลง เฟิงเฉินหยูจะมาที่นี่ด้วยความตั้งใจของนางเอง”
ไม่ว่าเฟิงเฉินหยูจะมาหรือไม่ วังซวน, หวงซวน และบานซูก็ไม่เชื่อ ในอีกด้านหนึ่งพวกเขาสงสัยว่าทำไมคุณหนูของพวกเขาถึงแน่ใจ และนอกเหนือไปจากนั้น พวกเขาหวังว่าพวกเขาจะได้รับเงิน 1,000,000 เหรียญเงิน นั่นคือเงินจำนวนมาก มันจะกลายเป็นการสิ้นเปลืองที่ไม่ต้องการ!
เจ้านายและบ่าวรับใช้รอเวลาผ่านไปหวังว่าจะได้รับ 1,000,000 เหรียญเงิน เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นไปในที่สุดก็หิมะหยุดตก
วังซวนเปิดประตูสิ่งแรกในตอนเช้าทำให้หิมะข้างนอกตกลงมาและคลุมขาของนาง โชคดีที่วันนี้ผ่านพ้นไปแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีหิมะตกมาอีก สิ่งนี้ทำให้ทุกคนหายใจด้วยความโล่งอก
“ถ้าหิมะยังตกอยู่ ข้ากลัวว่าไม่จำเป็นต้องไปทางเหนือ เมืองหลวงจะกลายเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ” วังซวนพึมพำขณะมองหาไม้กวาดเพื่อเคลียร์พื้นที่ตรงหน้าประตู โชคดีที่นางสามารถเคลียพื้นที่ได้ จากนั้นนางมองไปที่ห้องปีกและห้องของบ่าวรับใช้ และเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดกำลังกวาด วังซวนตัดสินใจที่จะยืนบนโต๊ะที่ลานบ้านและเริ่มกำกับบ่าวรับใช้
นางปิดประตูแล้วกลับไปบอกกับเฟิงหยูเฮงว่า “การออกจากคฤหาสน์นั้นยากที่จะจัดการได้ แต่ถ้าคุณหนูอยากไปค่ายทหารนั่นคงเป็นไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าถนนในเมืองหลวงนั้นใช้งานน้อยกว่าถนนนอกเมืองหลวง ในการไปยังค่ายทหารคุณหนูจะต้องผ่านภูเขา แม้ว่าภูเขาลูกนี้จะไม่สูงมากมันจะยากเกินไปในสภาพอากาศในตอนนี้”
เฟิงหยูเฮงถอนหายใจออก นางรู้ว่าถ้าหิมะนี้ไม่ละลายมันคงยากถ้านางอยากไปค่ายทหาร
“ลืมมันไปเถอะ ไปที่ร้านห้องโถงสมุนไพรกันดีกว่า !” นางตัดสินใจและเริ่มใส่เสื้อผ้าของนางขณะพูดว่า “ทานข้าวก่อน ไม่ต้องรีบ ข้าคิดว่าบ่าวรับใช้คฤหาสน์ตระกูลเฟิงก็กวาดหิมะออกไปเช่นกัน เมื่อพวกเขาเปิดเส้นทาง ข้าคิดว่าเฟิงเฉินหยูคงจะเริ่มเคลื่อนไหว”
ก่อนที่นางจะทานโจ๊กเม็ดบัวของนางเสร็จ ฉิงซวงก็มารายงาน “คุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิงมาจากเรือนหลิว ตอนนี้นางรออยู่ที่ประตูเจ้าค่ะ คุณหนูจะให้นางเข้ามาหรือไม่เจ้าคะ ?”
ฉิงซวงรู้ตัวเองเสมอในฐานะบ่าวรับใช้ของเรือนตงเซิง ซึ่งหมายความว่าบ่าวรับใช้ของสำนักงานใหญ่มณฑล เมื่อใดก็ตามที่นางพูดถึงผู้คนจากตระกูลเฟิง จะมีความแตกต่างอย่างชัดเจนในคำพูดของนาง เมื่อนางพูดถึงเฟิงเฉินหยูนั้นไม่มีความรู้สึกใจดี
เฟิงหยูเฮงหัวเราะเยาะและรู้สึกว่าเฟิงเฉินหยูมาเร็วมาก จากนั้นนางก็พยักหน้า “ให้นางเข้ามา”
จากนั้นฉิงซวงก็คำนับ แล้วเดินกลับไป
หลังจากรอนานกว่าครึ่งชั่วยาม ในที่สุดเฟิงเฉินหยูก็เข้ามาหานาง รองเท้าและถุงเท้าเปียก และเสื้อคลุมของนางถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ นางไม่มีเวลาที่จะกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของนางขณะที่นางพูดทันทีที่เห็นเฟิงหยูเฮง “ข้ามีบางอย่างที่ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
ตรงกันข้ามกับความกังวลของนาง เฟิงหยูเฮงยังคงสงบและชี้ไปที่โจ๊กอย่างช้า ๆ “พี่ใหญ่ต้องรอให้ข้าทานจนเสร็จก่อนเจ้าค่ะ เมื่อวานหิมะตกหนักมากห้องครัวไม่ได้ทำอาหารมากนัก ตอนนี้ข้าหิวมากเลยเจ้าค่ะ”
วังซวนยิ้มเยาะ นางหิวแน่นอน คุณหนูของนางทานโจ๊กไป 3 ถ้วยแล้ว
จมูกของเฟิงเฉินหยูเริ่มฟืดฟัดด้วยความโกรธ นางอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังและมาขอความช่วยเหลือจากเฟิงหยูเฮง แต่เฟิงหยูเฮงกลับไม่สนใจนาง ?
แต่เฟิงเฉินหยูไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้นางมาขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าเฟิงหยูเฮงจะพูดอะไรนางก็ต้องทน ดังนั้นนางจึงดึงเก้าอี้แล้วนั่งลง มองที่เฟิงหยูเฮงทาน นางอดทนรอให้เฟิงหยูเฮงทานทีละคำจนหมด
เมื่อเฟิงหยูเฮงทานเสร็จก็ผ่านไปครึ่งชั่วยาม เมื่อถึงเวลาที่นางวางตะเกียบและชามลง เฟิงเฉินหยูได้มาถึงขีดจำกัดความอดทนของนางแล้ว
เฟิงหยูเฮงไม่ได้กลั่นแกล้งเฟิงเฉินหยูอีกต่อไป นางโบกมือสั่งวังซวนและคนอื่น ๆ ออกไป เฟิงเฉินหยูยังไล่ยี่หลินด้วย เมื่อนางทั้งสองอยู่ในห้อง ในที่สุดเฟิงเฉินหยูก็เอ่ยว่า “วันนี้ข้ามาขอความช่วยเหลือจากเจ้า เฟิงหยูเฮง ข้าจะให้เงินเจ้า 10,000 เหรียญเงินเพื่อข้อตกลงของเรา ตกลงหรือไม่ ?”
เฟิงหยูเฮงจ้องมองด้วยความประหลาดใจและแสร้งทำเป็นมองตาพูดว่า “อะไรทำให้พี่ใหญ่ยอมจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก ?”
เฟิงเฉินหยูสูดหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มให้เห็นฟันของนาง ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ นางได้เปิดเผยเรื่องที่เกือบทำให้นางเสียสติ “ดูเหมือนว่า ข้าจะ…ตั้งครรภ์”
ฟู่ !
เฟิงหยูเฮงที่เพิ่งจิบชาเข้าไปก็พ่นชาออกมาทันที ทำให้ชากระเด็นไปโดนหน้าเฟิงเฉินหยู นางมองใบหน้าของเฟิงเฉินหยูซึ่งเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ สำหรับตัวนางเอง นางทรมานกับการกลั้นหัวเราะมาก
“พี่ใหญ่พูดเล่นหรือพูดจริงหรือเจ้าค่ะ ? ท่านไม่ได้ล้อเล่นกับข้าใช่หรือไม่ ? อ่า ! ถ้าอย่างนั้นเด็กคนนี้จะเรียกข้าว่าป้าหรือน้าเจ้าคะ ?”
ทันใดนั้นเฟิงเฉินหยูก็ยืนขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู นางรู้สึกว่าการมาที่นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ไม่ว่านางจะขอความช่วยเหลือจากใคร นางขอความช่วยเหลือจากเฟิงหยูเฮงได้อย่างไร ? สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อถูกยั่วยุหรือไม่?
เมื่อเห็นว่านางกำลังจะจากไป เฟิงหยูเฮงก็ไม่ได้หยุดนางแต่พูดว่า “ราคาไม่ยุติธรรม เราต้องคุยกันต่อไปอีกหน่อย”
เฟิงเฉินหยูหยุดเดินและบนใบหน้าของนางมีความสุขปรากฏขึ้นทันที เงินไม่ใช่ปัญหา ตราบใดที่เฟิงหยูเฮงเต็มใจที่จะช่วยเหลือ มันจะดีกว่าอย่างอื่น
ตอนนี้เมืองหลวงได้รับความเดือดร้อนจากหิมะ ภัยพิบัติทำให้หมอที่นางเชิญไม่สามารถมาได้ โชคดีที่ยี่หลินบอกนางตั้งแต่เช้าตรู่ว่านางไม่สามารถพาหมอจากภายนอก หากเรื่องนี้ทราบถึงหูคนนอก อาจเป็นไปได้ว่านางจะมีผลลัพธ์เช่นเดียวกับบุหนี่ชาง ! ถ้าเวลานั้นมาถึงและทุกคนในเมืองหลวงก็รู้ นางจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างไร?
คิดมาเป็นเวลานานมีเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้นที่นางสามารถทำได้ นั่นคือมาหาเฟิงหยูเฮง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด นางไม่ต้องเผชิญกับน้องรองอีกต่อไป นางไม่สนใจที่จะมาอีกครั้ง ตราบใดที่นางกำจัดมารหัวขนในท้องของนาง นางก็จะสามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ เมื่อวันที่นางกลับมา เฟิงหยูเฮงจะเป็นคนแรกที่นางจะกำจัด
เฟิงเฉินหยูมีความคิดแปลก ๆ เหล่านี้เมื่อนางมาที่เรือนตงเซิง ตอนนี้นางได้ยินว่าเฟิงหยูเฮงต้องการพูดคุยเรื่องราคา หมายความว่านางได้ตกลงกันแล้ว เฟิงเฉินหยูรู้สึกโล่งใจ
นางหันกลับมาและพูดอย่างกระตือรือร้น “เจ้าบอกราคามาสิ !”
เฟิงหยูเฮงมองมาที่นางแล้วยิ้มว่า “พี่ใหญ่ สำหรับเงิน 10,000 เหรียญเงิน ช้าจะช่วยตรวจดูว่าท่านตั้งครรภ์หรือไม่”
“ตรวจดูว่าข้าตั้งครรภ์หรือไม่” เฟิงเฉินหยูตกตะลึง “เจ้าหมายถึงอะไร ?”
“พี่ใหญ่ไม่แน่ใจตอนนี้ท่านตั้งครรภ์หรือไม่ ? ข้ามีวิธีตรวจเพื่อดูว่าท่านตั้งครรภ์จริงหรือไม่ แต่ราคาของการตรวจนี้คือ 10,000 เหรียญเงิน ท่านต้องการหรือไม่เจ้าคะ ?”
เฟิงเฉินหยูขมวดคิ้ว 10,000 เหรียญเงินเพื่อตรวจสอบว่านางตั้งครรภ์หรือไม่นั้นราคาแพงเล็กน้อย ประจำเดือนของนางไม่มา และนางเพิ่งรู้สึกคลื่นไส้และเหนื่อย ในความเป็นจริงนางมั่นใจมากว่านางตั้งครรภ์ แต่ถ้าไม่มีแพทย์ตรวจ นางก็ไม่กล้าแน่ใจ
“นั่นมันไม่แพงไปหน่อยหรือ ?” นางจ้องมองเฟิงหยูเฮง “เจ้ากำลังขู่กรรโชกข้าอย่างชัดเจนภายใต้การเสแสร้งเท็จ แต่เจ้ากำลังพูดว่าเจ้าจะขายบางอย่างให้ข้าในราคา 10,000 เหรียญเงินเช่นนั้นหรือ ?”
เฟิงหยูเฮงพยักหน้า “สิ่งที่พี่ใหญ่พูดนั้นถูกต้อง ข้ากำลังขู่กรรโชกท่าน” นางยื่นมือออกมา “ถ้าท่านพบว่าสิ่งนี้แพงเกินไปให้ไปหาหมอคนอื่น! ยิ่งกว่านั้นการพิจารณาว่าบุคคลที่ตั้งครรภ์หรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการตรวจชีพจร หากมีการวินิจฉัยผิดพลาด จากนั้นร่างกายของท่านพี่จะถูกทำลาย หากท่านไม่สามารถมีบุตรได้อีกต่อไป นั่นจะเป็นปัญหาใหญ่”
เฟิงเฉินหยูเงียบลง หาหมอคนอื่น ถ้านางไปหาหมอคนอื่นได้ นางก็ยอมตายมากกว่ามาที่เรือนตงเซิง คำพูดของเฟิงหยูเฮงก็ประสบความสำเร็จในการทำให้นางกลัว ถ้านางไม่สามารถมีบุตรได้ด้วยเงินนิดหน่อยในฐานะผู้หญิง นางจะเหลืออะไรอีก ?
“ลืมมันไปเถอะ 10,000 ก็ 10,000” นางนั่งลงด้วยความสิ้นหวังแล้วถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหากข้าตั้งครรภ์จริง ข้าต้องจ่ายเท่าไรหากต้องการกำจัดเด็ก ?”
เฟิงหยูเฮงเปิดเผยรอยยิ้มแปลก ๆ “ไม่มาก เพียง 1,000,000 เหรียญเงิน”