ตอนที่แล้วบทที่ 30 คว้าชัยชนะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 มุ่งหน้าสู่นิกายคังเหลียน

บทที่ 31 รางวัล


บทที่ 31

รางวัล

“ฟู่เฉิน เจ้าทำมันได้แล้ว!”หลี่เทียนฮั่นและเฉินยู่หยานมองกันและกันอย่างมีความสุข

หลังจากเสียสละตำแหน่งผู้นำตระกูลและสถานะครอบครัวหลักแล้ว หลี่เทียนฮั่นและเฉินยู่หยานก็ยังรู้สึกว่ามันคุ้มค่า

“ไม่น่าเชื่อ .. จากการทำนายและการคาดเดานับไม่ถ้วนใครจะคิดว่าโชคชะตาจะเลือกหลี่ฟู่เฉินที่จะชนะทุกสิ่ง”

“ชะตากรรมนั้นลี้ลับและยากที่จะคาดเดาเสมอ นี่คือเหตุผลที่คนมักจะหลงใหลมัน”

“ตั้งแต่เริ่มต้นไม่มีใครคาดหวังอะไรดีดีจากหลี่ฟู่เฉิน ทุกคนดูถูกตระกูลหลี่และตัวหลี่ฟู่เฉิน แต่ดูสิว่าใครรอดชีวิต”

หลี่ฟู่เฉินได้รับเกียรติทั้งหมดจากการชนะอันดับหนึ่งในการแข่งขันเฟ้นหาอัจฉริยะ จากนี้ไปบุคคลผู้มีอิทธิพลทุกคนในเขตการปกครองของหยุ่นวู่จะรู้จักเขา แต่ความจริงคือทุกคนจะให้ความสนใจเพียงเล็กน้อยกับเขาโดยไม่คาดหวังมาก มีหลายกรณีที่อัจฉริยะโครงกระดูกปกติที่เก่งขอบเขตพลังลมปราณ แต่ด้อยลงหลังจากไปถึงขอบเขตก่อกำเนิดเนื่องจากข้อจำกัดโดยธรรมชาติ

เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลงท่านเจ้าเมืองเฉินตูเจียนเหอ เริ่มมอบรางวัล

ผู้ชนะเลิศ - หลี่ฟู่เฉิน: บัตรทองมูลค่า 10,000เหรียญทองและรางวัลเม็ดโอสถลมปราณเพิ่มพูนสองขวด

อันดับที่2 -หยางไค: บัตรทอง (5,000 เหรียญทอง)และเม็ดโอสถลมปราณเพิ่มพูนหนึ่งขวด

อันดับที่3 -เฉินตูจิว: บัตรทอง (3,000 เหรียญทอง), โอสถปราณจิตวิญญาณ 5ขวด

อันดับที่4 -เหอปิง: บัตรทอง (2,000 เหรียญทอง),โอสถปราณจิตวิญญาณ 2ขวด

อันดับที่5 -จือฮงซิ่ว: บัตรทอง (2,000 เหรียญทอง), เม็ดโอสถปราณจิตวิญญาณ 2ขวด

อันดับที่6ถึง 20: บัตรทอง (1,000เหรียญทอง),เม็ดโอสถปราณจิตวิญญาณ 1ขวด

บัตรทองคือใบรับรองที่สามารถใช้ในการแลกเหรียญทองคำจากธนาคาร บัตรทองทุกใบมีมูลค่าหน้าบัตรของตัวเองโดย 500เหรียญทองเป็นอย่างน้อยและ 100,000เป็นมูลค่าสูงสุด บัตรทองมีความสะดวกมากกว่าการนำเหรียญทองจำนวนมากไปด้วย

“10,000เหรียญทองช่างเป็นสมบัติที่มีค่ามหาศาล!”เมื่อมองดูบัตรทองในมือของเขา หลี่ฟู่เฉินไม่อาจหุบยิ้มได้ ครัวเรือนทั่วไปต้องการทองคำประมาณ 10เหรียญต่อปี ด้วย 10,000เหรียญทองใคร ๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินขนาดใหญ่ จ้างคนรับใช้สักสองสามคนและใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยได้ตลอดชีวิต

ในเวลาเดียวกันเม็ดโอสถลมปราณเพิ่มพูน2ขวดก็เพียงพอสำหรับที่จะฝึกบ่มเพาะได้นานขึ้น

หลังจากพิธีมอบรางวัล เฉินจงหมิงยืนขึ้น“ข้าเฉินจงหมิง ผู้อาวุโสภายนอกของ นิกายคังเหลียน ข้าจะเป็นคนนำทางพวกเจ้าไปสู่​นิกาย พวกเจ้าโชคดีที่ได้เป็นสาวกนิกาย แต่อย่าพึ่งดีใจไป มีลูกศิษย์ที่แตกต่างกันหลายระดับและต้องผ่านการทดลองประเมินของนิกายเท่านั้น พวกเจ้าจะกลายเป็นศิษย์สาวกภายนอกอย่างเป็นทางการจริงๆหรือไม่ ถ้าไม่ พวกเจ้าจะเป็นได้แค่ศิษย์รับงานย่อยได้เท่านั้น”

“นอกจากนี้ ข้าขอประกาศว่า เนื่องจากกวนเซี่ยแห่งตระกูลกวนเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมและได้รับการยอมรับจากผู้อาวุโสนิกายคังเหลียน พวกเราจะมอบตำแหน่งพิเศษเพิ่มเติมแก่ตระกูลกวน หลังจากพิจารณาถี่ถ้วนแล้ว ตำแหน่งนี้จะถูกมอบให้กับ.....กวนเผิ้ง ...”

ทันทีที่เฉินจงหมิงกล่าวสิ้นสุดลง ผู้คนก็เริ่มโวยวาย!

นิกายคังเหลียน มอบตำแหน่งสิทธิพิเศษให้กับตระกูลกวน นี่เป็นข่าวที่ยอดเยี่ยมสำหรับตระกูลกวนซึ่งแต่เดิมไม่ได้อะไรกลับมา ใครจะคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ สิ่งนี้ทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงถึงชะตากรรมที่ถูกเปิดเผยอีกครั้ง

กวนเผิ้งตกตะลึงเป็นครั้งแรก จากนั้นความสุขก็หลั่งมา เขาเคยสิ้นหวัง ไม่คิดว่าความสุขจะมาแทนที่อย่างรวดเร็วและทันทีทันใด

“หลี่ฟูเฉิน ข้าจะรอถากถางเจ้าในนิกายคังเหลียน” กวนเผิ้งคิดและจ้องมองที่หลี่ฟูเฉินแบบนั้นชั่วครู่หนึ่ง

กวนห่าวรู้สึกหดหู่ ทำไมถึงเป็นกวนเผิ้งไม่ใช่เขา

กวนหยูและผู้อาวุโสมีความยินดียิ่ง กวนหยูคิดว่า “จะเป็นอย่างไรถ้าเขาได้ที่หนึ่ง มีเพียงบุตรสาวของข้า กวนเซี่ยเท่านั้นที่สามารถดึงดูดความสนใจของนิกายคังเหลียนและให้ตำแหน่งพิเศษเพิ่มเติมแก่ตระกูลกวน

“ประเด็นคืออะไร” หลี่ฟู่เฉินเลิกคิ้ว แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงท่ทีอะไรมากมาย

แม้ว่ากวนเผิ้งงจะเข้าเป็นศิษย์นิกายคังเหลียน แต่มันก็ไม่สำคัญสำหรับเขา

“ข้าให้เวลาสามวันในการเตรียมการและเข้ารายงานต่อที่พำนักของท่านเจ้าเมือง”เฉิงจงหมิงกล่าวต่อ

การแข่งขันอัจฉริยะได้สิ้นสุดลง อีกหนึ่งการแข่งขันจะจัดขึ้นในอีกสองปีข้างหน้า

***

กลับไปที่ที่พักของตระกูลหลี่ หลี่ฟู่เฉินรู้สึกถึงบรรยากาศที่แปรเปลี่ยนไป ทุกคนมองไปที่ครอบครัวของเขาด้วยอารมณ์อึดอัดใจ ภายในอารมณ์เหล่านั้นมีทั้งสงสารและมีความสุขที่ได้เห็นความโชคร้ายของครอบครัว

หลังจากหลี่ฟู่เฉินถามไถ่ในที่สุดหลี่เทียนฮั่นก็ผยความจริงออกมา

สีหน้าของหลี่ฟู่เฉินเย็นชา เขาไม่คาดหวังว่าตระกูลจะไม่สนใจเขา แม้แต่ได้อันดับหนึ่งในการแข่งขัน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย

“ท่านพ่อท่านแม่ ฟู่เฉินสาบานว่าสิ่งนี้จะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น วันหนึ่งข้าจะให้ผู้ก่อตั้งและเหล่าผู้อาวุโสคืนตำแหน่งครอบครัวและตำแหน่งผู้นำตระกูลกลับมาให้ได้ หลี่ฟู่เฉินป่าวประกาศ

หลี่เทียนฮั่น “ฟู่เฉิน แค่ผลลัพธ์นี้พ่อก็พอใจแล้ว อย่ากดดันตัวเองเลย มันเป็นเพียงตำแหน่งประมุข ไม่ว่าเราจะเป็นครอบครัวหลักหรือไม่ พ่อก็ไม่สนใจหรอก ข้ายังคงเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตก่อกำเนิด ข้าไม่อดอยากหรอก”

เฉินยู่หยานกล่าวสมทบ “เมื่อเจ้าอยู่ในนิกายคังเหลียนเจ้าต้องมีสมาธิและไม่ปล่อยให้ปัญหาของเราทำให้เจ้าลำบากใจ”

หลี่ฟู่เฉินพยักศรีษะรับ เขารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดตอนนี้ไม่มีน้ำหนักใด ๆ การดิ้นรนในนิกายคังเหลียนเท่านั้น สามารถช่วยดึงทุกสิ่งที่เป็นของบิดามารดากลับคืนมา

***

ในสนามหลังบ้านอีกแห่งหนึ่ง หลี่เทียนฮั่นกำลังสนธนากับหลี่หยุ่นไห่

“หยุ่นไห่ เจ้าไม่ต้องสิ้นหวัง ลุงของเจ้าเป็นนักบวชนิกายชั้นนอก เมื่อข้ายังเด็ก ข้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาและได้ส่งจดหมายถึงเขา ขอให้เขาใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ในนิกาย เพื่อจัดให้เจ้าเข้าเป็นศิษย์งานย่อย หากเจ้าทำงานฝึกฝนอย่างหนัก การได้เป็นสาวกนิกายชั้นนอกไม่ใช่แค่ความฝัน”

“ข้ามีลุงเป็นศิษย์นักบวชนิกายชั้นนอก งั้นเหรอ? ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย?หลี่หยุ่นไห่ประหลาดใจ

หลี่เทียนหั่นหัวเราะเบา ๆ “ทุกตระกูลมีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับนิกาย ตระกูลหลี่จะไม่มีเลยได้อย่างไร”

นักบวชนิกายชั้นนอกอาจฟังดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่การที่จะกลายเป็นนักบวชของ นิกายคังเหลียนไม่ใช่เรื่องง่าย

ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์นิกายภายใน หากไม่มีบรรลุขอบเขตปฐพีก่อนอายุ 35 พวกเขาจะถูกลดระดับจากการเป็นศิษย์ในนิกายไปสู่นักบวชฝึกหัดนิกายภายใน จากนักบวชฝึกหัด พวกเขาจะก้าวหน้าสู่ตำแหน่งนักบวชนิกายชั้นนอกนักบวชทุกคนจะดูแล นักบวชฝึกหัดจำนวนมาก

การบรรลุขอบเขตปฐพีก่อนอายุ 35 เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แม้แต่ท่านเจ้าเมือง เฉินตูเจียนเหอ สามารถบรรลุขอบเขตปฐพีตอนอายุ 36 เท่านั้น แต่เขาก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็วในฐานะนักบวชฝึกหัดและตั้งตนเป็นผู้อาวุโสนิกายชั้นนอกและกลายเป็นเจ้าเมืองของเมืองหยุ่นวู่

“หลี่ฟู่เฉิน ข้าจะรอดูเจ้าเมื่ออยู่ในนิกาย” ใบหน้าหลี่หยุ่นไห่ฉายรังสีร้ายกาจและแปรเปลี่ยนเป็นรังสีอำมหิต

***

ภายในสามวัน หลี่ฟู่เฉินได้ทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ เช่นให้ของขวัญเป็นแหวนพลอยสีฟ้าแก่หลี่เซี่ยวตี้

นางเป็นผู้หญิงที่ขยันและแหวนนี้จะช่วยเหลือนางได้ดี

ด้วยวิชาหยกแดงอันดับหกความเร็วของหลี่ฟู่เฉินในการดูดซับพลังงานจากสวรรค์และโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในขณะเดียวกันผลลัพท์จากแหวนไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป เหตุผลหลักคือเขามีทองคำจำนวนมากและการให้แหวนเป็นสิ่งที่เขาสามารถหาซื้อได้

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หลี่ฟู่เฉินมาถึงที่พำนักท่านเจ้าเมือง เขาออกเดินทางพร้อมเฉิงจงหมิงและพร้อมกับคนอื่นๆ มุ่งสู่นิกายคังเหลียน....

***

ติดตามอัพเดทได้ที่ page@indynovels

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด