ตอนที่ 12 คืนจันทร์เพ็ญล้างคำสาป
ตอนที่ 12 คืนจันทร์เพ็ญล้างคำสาป
จอมเวทจันทราเธด้าพาเซน่ามายังลานกว้างด้านหลังบ้านบึงน้ำของนาง ลานกว้างนั้นเป็นทุ่งหญ้าเล็ก ๆ ที่แสนเขียวขจี เซน่ารู้สึกกลิ่นใบไม้ใบหญ้าวันนี้หอมกว่าทุกครั้งที่นางเคยได้กลิ่น เธด้าให้เซน่ายืนห่างจากนางระยะหนึ่ง จากนั้นเธด้ากรีดวาดไม้กายสิทธิ์เป็นรูปวงกลม
“ริงออฟมูน” (Ring Of Moon - วงแหวนแห่งดวงจันทร์) ทันใดรอบกายเซน่าปรากฏแสงสีเงินงดงามขึ้นเป็นรูปวงกลมเหมือนวงแหวนขึ้นกลางอากาศ
จอมเวทจันทรากรีดวาดไม้กายสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ปากนางพึมพำคาถาโบราณที่ไม่อาจรับฟังเข้าใจ
“มูนไลท์ อินฟิวส์ (Moonlight Infuse- อาบไล้แสงจันทรา )” เธด้าตะโกนขึ้นพร้อมชี้ไม้กายสิทธิ์ขึ้นฟ้าไปยังที่ทิศทางที่ดวงจันทร์ลอยอยู่
ทันใดนั้น ดวงจันทร์เพ็ญลอยอยู่เด่นอยู่บนฟ้าพลันส่องแสงสีขาวมาที่เซน่าอย่างเหลือเชื่อ แสงสีขาวของดวงจันทร์ทำให้ร่างกายของเซน่าร้อนอย่างยิ่ง ร่างสตรีอันอ่อนแอของนางถึงกับทนไม่ไหวพยายามเดินออกจากบริเวณแสงจันทร์ที่สาดส่องมายังตัวนาง แต่ยังดีที่เวทริงออฟมูน (Ring of Moon) ซึ่งเป็นเวทวงแหวนสีเงินได้ล้อมรอบเซน่าไว้กันไม่ให้นางหลุดออกจากบริเวณที่แสงจันทร์สาดส่อง
“ข้าเธด้าขอพรแห่งดวงจันทราซึ่งเปรียบเสมือนพี่สาว เหล่าเทวทูตสวรรค์ซึ่งเปรียบดั่งพี่ชาย ให้พลังแก่ข้าในการชำระล้างคำสาปอันชั่วร้ายและดำมืด กำจัดมันให้สาบสูญไปจากโลกอันงดงามที่พระเจ้าเมธีอาร์ทรงสรรค์สร้างขึ้น”
ไม่ทราบกระแสลมพัดมาจากทิศทางใด กิ่งไม้ใบหญ้าล้วนสั่นไหว เห็นร่างกายของเซน่าลอยขึ้นเล็กน้อย กายนางไม่ขยับไหวติงคล้ายหมดสติไป
ร่างกายเซน่าค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง ทรวงอกที่นูนเด่นเริ่มหดเล็กลง ผมที่ยาวสลวยพลันสั้นขึ้น แขนที่ผิวพรรณขาวผ่องเปลี่ยนแปลงเป็นสีเหลือง นิ้วมือที่เรียวงามเริ่มหยาบหนา ขนคิ้วเรียวดำกลับมาหนามากขึ้น จมูกซึ่งเรียวงามขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ไม่นานก็ปรากฏเป็นใบหน้าอันคมคายของบุรุษผู้หนึ่ง
บุรุษผู้นั้นลืมตาขึ้น แววตาของเขาคมกริบยิ่งกว่ามีดดาบ ร่างกายที่ลอยอยู่ของเขาค่อยๆ ลงสู่พื้นดินอย่างแผ่วเบา
เบื้องหน้าจอมเวทจันทราคือบุรุษผู้มีลักษณะองอาจและสูงส่ง ยากที่จะหาบุรุษใดในแดนดินเทียบเทียม
เรดิกัล กษัตริย์แห่งความมืดกลับคืนร่างเดิม !
“ขอบคุณ” เรดิกัลกล่าวกับจอมเวทจันทรา
เธด้ากล่าวว่า “อย่าได้ลืมคำสัญญา”
เรดิกัลพยักหน้าตอบ
“เวฟออฟดูม” (Wave Of Doom - เกลียวคลื่นแห่งคราเคราะห์) เรดิกัลร้องพร้อมกวาดมือขวาออก ปรากฏพลังเสี้ยวจันทร์สีดำซัดใส่ต้นไม้ต้นหนึ่งจนมันระเบิด ลำต้นหักโค่นลงเหลือแต่ตอ
เรดิกัลมองดูมือขวาตนเองอย่างพอใจ เขาเร่งพลังเวทแห่งความมืดในร่างกายให้ไหลวนเวียนไม่หยุด ความรู้สึกเขาตอนนี้ยินดียิ่งกว่าคนอยู่กลางทะเลทรายได้เจอน้ำ แต่ไม่ว่าคำเปรียบเปรยใดก็ไม่อาจบรรยายความรู้สึกเขาในยามนี้ได้ใกล้เคียง
“อย่าได้ทำลายสิ่งของใดในอาณาเขตข้าอีก” จอมเวทจันทรากล่าวเตือน
เรดิกัลยิ้มเล็กน้อยกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วง”
เรดิกัลรู้สึกเสื้อผ้าสีน้ำตาลที่เขาสวมใส่คับแน่นและอึดอัด จึงหยิบเสื้อผ้าชุดดำที่เตรียมไว้ พุ่งตัวไปยังทิศทางป่าเบื้องหน้าเขาทันที
ร่างของเรดิกัลพุ่งออกดุจธนูออกจากแหล่ง ท่องทะยานอยู่ในป่าไม่หวนกลับ รู้สึกร่างกายเบายิ่งกว่าสายลม อดีตกษัตริย์หนุ่มเร่งระดับความเร็วขึ้น สายลมปะทะใส่ใบหน้าเขาไม่หยุดยั้ง เขาหัวเราะออกมาเป็นกิริยาที่ไม่มีใครเคยพบเห็น ความรู้สึกอัดอั้นนับเดือนได้ระบายออก
ทันใดร่างกายเรดิกัลที่ท่องทะยานพลันชะงักลงดุจถูกตะปูตอกตรึงไว้ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มขึ้น
หมู่บ้านดอร์มังเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่ติดกับชายแดนของอาณาจักรเพธอส มีประมาณเจ็ดแปดสิบหลังคาเรือน ตอนนี้เป็นเวลากลางดึกมากแล้ว ผู้คนต่างทยอยเข้านอนพักผ่อนร่างกายเพื่อรอทำงานในเช้าวันใหม่
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นในบ้านของชายผู้หนึ่งดังขึ้น เขากับภรรยาหลับไปเนิ่นนานแล้ว เขาไม่อยากให้เสียงดังทำให้ลูกสาววัยเจ็ดปีของเขาตื่นขึ้น
ชายในบ้านตะโกนถาม “ใคร?”
“ฮาค ข้าเอง”
“อีริค นี่เวลาใดแล้ว มีธุระค่อยคุยพรุ่งนี้ยังไม่สาย” ชายที่ชื่อฮาคกล่าว
“เปิดประตูก่อน ข้า..ข้ามีธุระสำคัญ”
ฮาคตบหน้าผากตนเองเบา ๆ เพื่อคลายความงัวเงียยามตื่นกลางดึก เขาลุกขึ้นจากเตียง ฮาคเห็นภรรยาเขาลืมตาตื่นขึ้น ฮาคจึงกล่าว “เจ้านอนต่อเถอะ”
ฮาคออกไปเปิดประตูเห็นชายร่างเตี้ยเล็กนามอีริคยืนอยู่หน้าบ้าน สีหน้าสีซีดเผือด ข้างหลังอีริคมีบุรุษชุดดำคิ้วเข้มใบหน้าคมคายยืนอยู่
ฮาคกล่าวถามว่า “มีธุระอะไร แล้วคนชายผู้นี้คือ?”
บุรุษชุดดำกล่าวเสียงราบเรียบ “ตามข้ามา”
ฮาคต้องตื่นกลางดึกซ้ำยังโดนคนแปลกหน้าพูดจาสั่งก็รู้สึกหัวเสียเสียไม่น้อย จึงถาม “เจ้าเป็นใคร จะให้ข้าไป…”
“อ๊าก” ฮาคร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวด ร่างกายเขารู้สึกหนักยิ่งกว่าถูกหินใหญ่ทับ เขาถึงกับคุกเข่าและล้มนอนคว่ำลงในที่สุด บริเวณพื้นที่เขานอนมีอาณาเขตสีดำอยู่รอบกาย กระดูกของเขาแต่ละข้อแทบปริแตกแยกออกจากกัน เป็นความรู้สึกทรมานอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ดาร์ค กราวิตี้” (Dark Gravity-แรงดึงดูดแห่งความมืด) บุรุษชุดดำกำมือขวาแน่นพร้อมร่ายเวทมนตร์แห่งความมืดชั้นสูงออกมา
ภรรยาของฮาคได้ยินเสียงร้องของสามี จึงรีบลุกขึ้นจากเตียงวิ่งมาที่ประตูหน้าบ้าน
“ฮาค เจ้าเป็นอะไร?” นางหมายจะก้มลงไปหาสามีที่นอนคว่ำกาย
ผลั่ก ! บุรุษชุดดำสะบัดมือซ้ายออก ร่างกายภรรยาฮาคถึงกับกระเด็นไปกระแทกกับพื้นบ้านได้รับความเจ็บปวด นี่เป็นเวทความมืดไร้สภาพของบุรุษหนุ่มชุดดำ
ภรรยาฮาคล้มลงนอนอย่างเจ็บปวดโดยที่ตัวนางยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินบุรุษชุดดำเอ่ยขึ้น
“ข้าจะพูดอีกครั้งเดียว หากไม่อยากให้ภรรยาเจ้าต้องตาย ตามข้ามา”
ฮาคค่อย ๆ ลุกขึ้น เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าหวาดกลัวถึงที่สุด เขาเดินขาสั่นตามบุรุษชุดดำไปและโดยมีอีริคเพื่อนของเขาช่วยพยุงกาย
บุรุษชุดดำคือเรดิกัล เขาจดจำความแค้นที่ทุกผู้คนกระทำกับเขาได้ โดยเฉพาะยามที่เขาตกยากถูกสาปเป็นสตรี ช่วงเหตุการณ์ที่หมู่บ้านดอร์มัง ในโรงเตี๊ยมสุขสันต์เขาถูกชายกลุ่มหนึ่งข่มเหงทำร้าย
ฮาค..ชายหนวดดำซึ่งเริ่มต้นวิวาทกับเขาก่อน ทำร้ายเขาหลายครั้ง
อีริค..ชายร่างสูงใหญ่ที่จับตัวเขาไว้
ชายร่างเตี้ยเล็ก..ไม่ทราบชื่อ ตบหน้าหยามเกียรติกษัตริย์อย่างเขาถึงที่สุด
ชายร่างท้วม..ไม่ได้ทำอะไรเขา แต่สั่งให้อีริคลากเขาออกไปเพื่อกระทำบางสิ่ง
เรดิกัลจดจำสองชื่อฮาคและอีริคได้อย่างแม่นยำ ความแค้นนี้ไม่ว่าเขาจะอยู่ในร่างบุรุษหรือสตรีก็ต้องชำระล้าง
เรดิกัลขี่ม้าโคลวินด์ของโคโล่ออกจากป่าไม่หวนกลับมายังหมู่บ้านดอร์มัง แต่การเดินทางต้องใช้เวลาเนิ่นนาน เขาเพิ่งมาถึงหมู่บ้านดอร์มังในกลางยามสี่ (ตี 4- 6 โมงเช้า)
เรดิกัลบุกเข้าไปยังโรงเตี๊ยมสุขสันต์ แสดงอานุภาพเวทแห่งความมืด ทำลายข้าวของในโรงเตี๊ยมแทบพังพินาศสิ้น จากนั้นเค้นถามที่อยู่ของคนชื่ออีริคกับฮาคจากเจ้าของโรงเตี๊ยมซึ่งเป็นชายอายุประมาณห้าสิบกว่าปี
หมู่บ้านดอร์มังเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กผู้คนย่อมรู้จักกันหมด เจ้าของโรงเตี๊ยมจึงพาเรดิกัลไปบ้านอีริคซึ่งอยู่ที่ใกล้ที่สุดก่อน เรดิกัลปล่อยตัวเจ้าของโรงเตี๊ยมไปและข่มขู่ให้อีริคซึ่งก็คือชายร่างสูงใหญ่พาเขาไปหาฮาค
เดินกันไปได้สักพักหนึ่ง เรดิกัลสั่งให้อีริคเคาะประตูบ้านของ “เดร็ก” ชายร่างเตี้ยที่ตบหน้าเขาตอนเป็นเซน่า เมื่อเดร็กเปิดประตูบ้าน เรดิกัลก็ไม่พูดมากเขายื่นมือออกใช้เวทแห่งความมืดไร้สภาพบีบคอเดร็ก
เดร็กโดนพลังเวทเรดิกัลบีบคอจนหายไม่ออก เขาใบหน้าเขียวคล้ำ ร้องอู้อี้ในลำคอ เขาถึงกับทรุดกายลงเพราะขาดอาการหายใจ เรดิกัลกล่าว
“ไม่อยากให้ครอบครัวเจ้าตายตามข้ามา”
แต่เดร็กแทบไม่มีแรงเดินแล้ว ทั้งฮาคและอีริคต่างก็พยุงกายเดร็กตามเรดิกัลไป
ชายร่างท้วมซึ่งเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มบุรุษสี่คนที่เคยรุมทำร้ายเซน่า เขามีชื่อว่าแสตนตันซึ่งเป็นหนุ่มโสดอยู่บ้านกลางทุ่งนา เรดิกัลแค่ใช้เวทแห่งความมืดบีบคอข่มขู่เขา แสตนตันก็เดินตามเรดิกัลมาอย่างยอมจำนน
เรดิกัลพาพวกมันทั้งสี่ออกนอกหมู่บ้านดอร์มังไปยังทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง ซึ่งม้าโคลวินด์ของโคโล่ก็อยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้ เรดิกัลวุ่นวายอยู่นานจนเวลาจวนจะถึงปลายยามสี่แล้ว (ตี 4- 6 โมงเช้า)
เรดิกัลจ้องมองพวกมันอยู่เนิ่นนานคล้ายกำลังคิดหาวิธีทรมานพวกมันให้สาสมแก่สิ่งที่กระทำ
ชายร่างเตี้ยเล็กรวบรวมความกล้าแต่ยังกล่าวเสียงสั่นเครือว่า “ท่าน..ท่านนำตัวพวกเรามาทำไม พวกเราไม่เคยมีเรื่องกับท่าน เราไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ”
เรดิกัลกล่าวว่า “พวกเจ้าจำสตรีที่พวกเจ้าทำร้ายนางในโรงเตี๊ยมเมื่อเดือนก่อนได้หรือไม่?”
ทั้งสี่ค่อยเข้าใจเหตุผล สตรีงามนางนั้นมีเรื่องกับพวกเขาจริง ๆ
ชายร่างสูงใหญ่ชื่ออีริคกล่าวว่า “นางเป็นอะไรกับท่าน คนรักหรือน้องสาว?”
เรดิกัลไม่ตอบคำถามมันและกล่าวเสียงเย็นชาว่า “ถ้าอยากมีชีวิตรอด พวกเจ้าก็ฆ่ากันเอง คนที่เหลือรอดคนสุดท้ายข้าจะปล่อยไป”
คนทั้งสี่มองหน้ากันอย่างตื่นตระหนก เห็นบุรุษชุดดำเบื้องหน้าไร้เหตุผลเกินไป ชายหนวดดำนามฮาคจึงกล่าวว่า
“ข้าทำร้ายสตรีนางนั้นจริง ๆ แต่อย่าถึงกับฆ่าพวกข้าเลย ข้าอยากขอโทษนางด้วยตนเอง”
ฮาคพูดจาถ่วงเวลาหวังให้บุรุษชุดดำพาเขาไปพบสตรีนางนั้น
เรดิกัลกล่าวเสียงเย็นชาว่า “ข้าจะไม่พูดซ้ำสอง”
พวกฮาคหันมองหน้ากัน นึกถึงจะอย่างไรวันนี้คงรอดชีวิตยาก พวกมันสี่คนพยักหน้า วิ่งเข้าหาเรดิกัลพร้อมกันและเงื้อมหมัดต่อยเรดิกัล
แต่กายพวกมันยังไม่ทันได้เฉียดใกล้เรดิกัล พวกมันทั้งหมดต่างคุกเข่าลง ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดที่แม้แต่ปีศาจได้ยินยังเวทนา เรดิกัลใช้เวทดาร์ดกราวิตี้ ดึงดูดตรึงร่างพวกมันไว้
เรดิกัลมองพวกมันอย่างเย็นชาจากนั้นกล่าวว่า “วันนี้ข้าอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ข้าจะให้พวกเจ้าได้ตายด้วยเวทแห่งความมืดชั้นสูง ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดที่ชีวิตชั้นต่ำอย่างพวกเจ้าจะได้รับ”
แสตนตันชายร่างท้วมหวาดกลัวยิ่ง มันน้ำตาคลอเบ้าร้องขึ้นมา “เป็นพวกมันทำ ข้าไมได้แตะต้องสตรีนางนั้นแม้แต่น้อย”
เมื่อทูตมรณะมาเยือน สันดานมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวก็เริ่มขึ้น
เรดิกัลยิ้มเล็ก ๆ อย่างพอใจ “งั้นเจ้าฆ่าพวกมัน ข้าจะปล่อยเจ้า”
ชายรางท้วมสั่นหน้ากล่าวว่า “ข้าไม่กล้า”
“ใช้การไม่ได้” เรดิกัลกล่าว จากนั้นพลันขยับแขนกรีดเป็นแนวตั้งสองครา
“เวฟออฟดูม” พริบตานั้น คลื่นเวทเวฟออฟดูมโจมตีใส่แขนทั้งสองของอีริคจนแขนมันขาดด้วนทันที เห็นหยาดโลหิตสาดกระจาย มันร้องด้วยความเจ็บปวดและสิ้นใจตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
อีริคใช้แขนทั้งสองจับตัวเซน่าไว้ ดังนั้นเรดิกัลจึงตัดแขนทั้งสองของมัน
ถึงตอนนี้ชายอีกสามคนต่างอ้าปากค้าง สีหน้าหวาดกลัวสุดขีด ชายหนวดดำและชายร่างเตี้ยพยายามลุกขึ้นและวิ่งหนีอย่างสุดกำลัง
“เมิร์ค จาเวลิน” (Mirk Javelin-หอกแห่งความมืด) เรดิกัลยื่นมือซ้ายออกแสงสีดำพุ่งออกจากมือเขาพุ่งใส่หลังชายหนวดดำ ลำแสงสีดำทะลุผ่านกายชายหนวดดำจนบริเวณท้องมันเป็นรูใหญ่ ร่างกายมันล้มลง โลหิตสด ๆ ไหลนองเต็มทุ่งหญ้าอันเขียวขจี
ฮาควันนั้นต่อยท้องทำร้ายเซน่า ดังนั้นเดริกัลจึงเล่นงานมันที่ท้อง
เรดิกัลพุ่งกายไปยังเบื้องหน้าของเดร็ก ชายร่างเตี้ยเล็กซึ่งกำลังวิ่งหนีอยู่ เดร็กปากสั่นและคุกเข่ากล่าวว่า “ให้อภัยข้า ได้โปรด”
“โซล คอนโทล” (Soul Control-ควบคุมวิญญาณ) เรดิกัลยื่นมืออกใช้เวทความมืดไร้สภาพอีก เวทมนตร์โซล คอนโทล เป็นเวทที่ใช้ควบคุมร่างกายศัตรู แต่เวทนี้จะใช้งานได้ยากหากใช้กับผู้ที่มีพลังเวทใกล้เคียงกันเพราะอีกฝ่ายจะมีพลังเวทคุ้มกันกายทำให้ควบคุมไม่ได้ เรดิกัลไมได้ใช้เวทมนตร์นี้บ่อยนัก เขามักใช้เวทนี้เพื่อข่มขู่หรือทรมานศัตรูเพื่อความสมใจส่วนตัวมากกว่า
ที่เรดิกัลควบคุมเดร็กครานี้ไม่ใช่คอ หากแต่เป็นปาก !!
เดร็กรู้สึกเจ็บปวดปากอย่างยิ่ง กรามเขาแทบหัก ฟันแทบจะหลุดร่วงพร้อม ๆ กัน ความเจ็บปวดสุดบรรยายถึงกับทำให้เขาหลั่งน้ำตาออกมา
เดร็กตบหน้าของเซน่า ดังนั้นบริเวณใบหน้าเขาจึงต้องถูกเล่นงาน
ได้ยินเสียงเอะโวยวายดังขึ้น ที่แท้ภรรยาของฮาคได้สติหลังจากความหวาดกลัวก็รีบไปแจ้งหัวหน้าหมู่บ้าน ชาวบ้านนับร้อยต่างพากันหาตัวพวกฮาคและเพื่อนทั้งสาม ทั้งหมดกระจายกำลังค้นหาในหมู่บ้านแล้วแต่ไม่พบ จึงยกกำลังกันออกมานอกหมู่บ้านดอร์มังทันที
เรดิกัลไม่อยากพัวพันกับชาวบ้านอีก เขาขยับแขนและบีบมือตนเองแน่น พริบตาพลังโซลคอนโทลย้ายจากปากไปอยู่ที่คอ เดร็กรู้สึกคล้ายมีสิ่งใดมาอุดคอไว้ เขาหายใจไม่ออก ใบหน้าเขาเขียวคล้ำจากนั้นค่อย ๆ สิ้นใจตาย !
เรดิกัลหันไปมองชายร่างท้วมที่ชื่อแสตนตัน กล่าวถามว่า
“เจ้าไม่หนี?”
แสตนตันสั่นหน้า น้ำตาของเขาหลั่งไหลอาบแก้ม เขาไม่มีเรี่ยวแรงแม้กระทั่งจะหนีเหมือนผู้อื่นด้วยซ้ำ
เรดิกัลกล่าวต่อว่า “วันนั้นเจ้าจะบอกให้เพื่อนเจ้าพาสตรีนางนั้นไปไหน?”
แสตนตันวันนั้นเมาอย่างยิ่ง เขาพูดว่าอะไรก็จำแทบไม่ได้แล้ว ปากของเขากระทบกับฟันดังกึก ๆ ด้วยความหวาดกลัว แม้แต่แรงจะอ้าปากตอบยังไม่มี
เรดิกัลเห็นชาวบ้านเริ่มยกพวกมาทางนี้แล้วจึงกล่าว
“ข้าจะตัดขาของเจ้า! เจ้าจะได้ไม่ต้องพาใครไปไหนอีก”
“เวฟออฟ...” เรดิกัลยกมือขึ้นพร้อมจะร่ายเวทแห่งความมืด แต่พริบตานั้นเขารู้สึกมือสั่น ร่างกายสั่นเทาคล้ายป่วยไข้ ร่างกายของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา
ยามนั้นแสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณเริ่มสาดส่องแสงสีส้มงดงามจับตา แสงจันทราอันอ่อนโยนล่วงลาลับ ดวงจันทรารอคอยยามค่ำคืนเพื่อหวนกลับขึ้นมาใหม่
เรดิกัลเห็นชาวบ้านเริ่มส่งเสียงเอะอะโวยวายแสดงว่าเห็นเขาแล้ว ร่างกายของเขาสั่นไม่หยุด เรดิกัลวิ่งหนีเข้าไปป่าอย่างรวดเร็ว เขาพบกับโคลวินด์อาชาคู่ใจของโคโล่ เรดิกัลรีบขี่โคลวินด์เข้าไปในด้านลึกของป่าทันที
“เธด้าเจ้าหลอกลวงข้า!!”
สตรีงดงามนางหนึ่งครุ่นคิดด้วยความโกรธแค้น นางสวมชุดบุรุษสีดำ ร่างกายเปียกโชก นางวิ่งเข้าไปที่บ้านจอมเวทจันทราซึ่งอยู่กลางบึงน้ำใสอันงดงาม ก่อนหน้านี้นางข้ามธารน้ำตกที่มีหินเก้าก้อนวางอยู่เพื่อเข้าถึงอาณาเขตจอมเวทจันทรา แต่ด้วยความรีบร้อนนางถึงกับตกลงไปในน้ำตกทำให้ชุดนางเปียกโชก มีสภาพทุกลักทุเล อย่างยากลำบากนางค่อยมาถึงบ้านจอมเวทจันทราที่นางโกรธแค้น
สตรีชุดดำเคาะประตูบ้านของจอมเวทจันทราเธด้าอย่างเสียงดังโดยไม่เกรงใจ
สักพักจอมเวทจันทราเปิดประตูบ้านของนาง จ้องมองสตรีเบื้องหน้า แววตาอันเย็นชาดุจน้ำแข็งปรากฏแววสงสัยขึ้น
“นี่เจ้า...”
“คำสาปไมได้หายไป ข้ากลับร่างเป็นสตรีอีก!” สตรีสวมชุดดำกระชากเสียง
สตรีชุดนำนางนี้คือเซน่าหรือเรดิกัลในร่างบุรุษ
เธด้านิ่งเงียบ จากนั้นจึงกล่าว
“พลังคำสาปซาอูร้ายกาจเกินไป พลังของข้าทำได้เพียงแค่ใช้พลังแห่งจันทราคลายคำสาปให้เจ้าได้ชั่วคราว”
“ข้าจะกลับเป็นบุรุษได้อีกหรือไม่?” เซน่าถาม
เธด้ากล่าวว่า “ได้..ข้าขอพรจากจันทราล้างคำสาปเจ้าในคืนวันเพ็ญ ดังนั้นเจ้าสามารถกลับเป็นบุรุษได้ทุกคืนวันเพ็ญ เนื่องจากวันนั้นจะเป็นวันที่คำสาปอ่อนพลังที่สุด จันทร์เพ็ญจะช่วยเพิ่มพลังพรของข้าให้ช่วยสะกดคำสาปไว้”
เซน่าร่างกายสั่นโงนเงนแทบล้มลง ความสุขล้นที่มีเมื่อยามค่ำคืน หายไปในเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน
ในเดือนหนึ่งจะมีจันทร์เพ็ญเพียงหนึ่งครั้ง นางจะเป็นตัวของตัวเองได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น
เซน่ากล่าวเสียงโกรธเคืองว่า “ถ้าเช่นนั้นคำสัญญาของเจ้ากับข้าเล่า?”
เธด้ากล่าวว่า “เมื่อข้าไม่อาจล้างคำสาปของซาอูก็ได้แต่ยกเลิกไป”
เซน่าได้แต่ปลอบใจตนเองว่า อย่างน้อยเขายังได้กลับคืนร่างเดิมทุกหนึ่งเดือนย่อมดีกว่าเป็นสตรีไปตลอดกาล
เซน่านิ่งเงียบไปชั่วครู่จึงถาม “ด้วยภูมิปัญญาของเจ้าที่ผู้คนร่ำลือยกย่อง ไม่มีวิธีอื่นล้างคำสาปได้เลยหรือ?”
เธด้านิ่งเงียบไป จากนั้นจึงกล่าว “มี..วิธีแรก ให้เจ้าใช้โอกาสในคืนวันเพ็ญกลับคืนร่างเดิมหาหนทางกำจัดซาอู ตอนนี้มันใช้พลังสาปเจ้า พลังเวทมันต้องอ่อนแอลงอย่างมาก หากเจ้ามีความมั่นใจสามารถบุกเข้าไปยังเพธอสสังหารมัน”
เซน่าครุ่นคิดว่าวิธีนี้ไม่เลว แต่ซาอูมีพลังเวทมหาศาลแม้จะลดลงบ้างก็ไม่ทราบจะลดลงไปเท่าใด สติปัญญาซาอูก็ลึกล้ำ เล่ห์กลก็มากมายสุดคณานับ ซาอูต้องป้องกันตนเองอย่างรัดกุม อย่าว่าแต่การกลับไปเพธอสนับว่าอันตรายอย่างยิ่งเพราะนางไม่มีพรรคพวกเหลืออยู่เลย มิหนำซ้ำการฝ่าทหารเพธอสเข้าไปถึงตัวซาอูก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก
เซน่าถาม “วิธีที่สองเล่า?”
เธด้าจ้องตาเซน่าและกล่าวช้า ๆ “ใช้หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียน”
----------------------
เรดิกัลเราโหดไปหรือเปล่า? คอมเม้นกันมาได้นะครับ แล้วก็หยดน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งลอเลียน มันชื่อเรื่องนิยายนี่นา จะสำคัญอย่างไร เป็นมาอย่างไรตอนหน้ารู้กัน !!