SD:บทที่ 5 คำขอบคุณของ พานจินเหลียน
SD:บทที่ 5 คำขอบคุณของ พานจินเหลียน
หลังจากที่ได้ยิน ซูฉิวไป่ พูด อู่ต้า ยังคงยิ่งเงียบแต่ วังกันเหนียง มีใบหน้าไม่เชื่อถือ
“น้องชายเจ้าแน่ใจหรือว่าสามารถไปส่งพวกเรา 200 ไมล์ในเวลาครึ่งชั่วโมง?อย่าขี้โม้”
วังกันเหนียง มองไปที่ ซูฉิวไป่ ในขณะที่เธอกระตุกริมฝีปาก
“หญิงชราพี่ชายของข้าคุยโม้ตั้งแต่เมื่อไหร่?หากเขาบอกว่าเขาสามารถทำได้แม้แต่ 2000 ไมล์ในครึ่งชั่วโมงเขาก็ไม่พูดเกินจริงเลย ท่านก็เชื่อในตัวเขาไหมล่ะ!!”
อู่ซง รู้สึกไม่พอใจทันทีเขาจ้องมอง วังกันเหนียง ด้วยสายตาหงุดหงิด นั่นทำให้หญิงชราหวาดกลัวมากจนสีหน้าของเธอขาวซีด
“โอ้ ท่านพูดถูกแล้ว อู่ซง หากพี่ชายของท่านบอกว่าเขาใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการเดินทาง 200 ไมล์แม้ว่าเขาจะบินขึ้นไปบนฟ้าเขาก็สามารถทำได้ ข้าเป็นคนพูดไม่คิดเอง”
วังกันเหนียง ขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ ซูฉิวไป่ ยังคงสังเกตเห็นสายตาที่ไม่เชื่อถือของเธอ
“ดี ถ้าอย่างนั้น วังกันเหนียง คุณก็มากับพี่ชายของอู่ซงและภรรยาของเขา เพราะดูเหมือนว่าคุณยังไม่ค่อยจะเชื่อ หลังจากนี้คุณจะได้รับรู้ความจริง”
ซูฉิวไป่ หัวเราะอย่างลับๆเขาจะทำให้หญิงชราคนนี้ได้สัมผัสสิ่งที่เรียกว่า The Fast!! เนื่องจากไม่ จำกัดความเร็วหรือสัญญาณไฟจราจรดังนั้น ซูฉิวไป่ สามารถใช้ความเร็วสูงสุด ด้วยความคิดนี้เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แม้ว่า วังกันเหนียง จะปฏิเสธหลายครั้ง แต่เธอก็ไม่สามารถหลบหนีได้ เธอนั่งลงบนที่นั่งผู้โดยสารเพราะการจ้องมองของ อู่ซง จากนั้น ซูฉิวไป่ รัดเข็มขัดให้เธอ หญิงชราเริ่มหวาดกลัวและร้องไห้
“ทำไมท่านถึงร้องไห้ วังกันเหนียง? ท่านไม่คิดว่าข้าบังคับท่านใช่ไหม” อู่ซง มองหญิงชราผ่านหน้าต่างและตะคอกเสียงดัง
“ท่านอู่ ไม่มีอะไรเพียงแต่ข้ามีความสุขมาก! มีความสุข-”เธอร้องไห้อีกครั้งก่อนจะพูดจบประโยค
เมื่อหมดธุระกับ วังกันเหนียง แล้ว อู่ซง หันไปมอง พานจินเหลียน และ อู่ต้า
“พี่สะใภ้ นั่งให้ดี โปรดบอกถ้าคุณรู้สึกไม่ดี ความเร็วจะเร็วขึ้นในภายหลังเรื่อยๆ”
พานจินเหลียน และ อู่ต้า พยักหน้าหน้าตาของพวกเขาดูประหม่าเล็กน้อย หลังจากที่ ซูฉิวไป่ ร่ําลา อู่ซง เขาบอกว่าหาก อู่ซง มีความต้องการใดๆให้กดปุ่มบนอุปกรณ์ดังกล่าวและ ซูฉิวไป่จะกลับ มาที่นี่ทันที ในที่สุดชายทั้งสองคนก็กอดกันราวกับหมี จากนั้น ซูฉิวไป่ จึงขึ้นรถ
“ทุกคน โปรดนั่งให้ดี ผมจะให้คุณได้สัมผัสกับพลังลึกลับ ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่ร้อยปีในอนาคต GO!!”
ซูฉิวไป่ ตะโกนในขณะที่คาดเข็มขัดจากนั้นเขาสับเกียร์และเหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็ว รถพุ่งไปข้างหน้าทันที เขาสามารถเลี้ยวหักศอกได้ราวกับของเล่นแน่นอนเพราะเขาเป็นคนขับแท็กซี่ผู้มากประสบการณ์
ถนนในราชวงศ์ซ่งค่อนข้างเป็นเส้นตรงและไม่ค่อยมีคนบนท้องถนนบางครั้งจะมีม้าปรากฏขึ้น แต่พอบีบแตรมันจะกลัวเป็นอย่างมาก
ความเร็วของรถแท็กซี่เพิ่มเร็วขึ้นมากเรื่อยๆ ๆ 80 100 120…
ซูฉิวไป่ ตื่นเต้นมากเขาขับรถอย่างสนุกสนาน เกือบที่จะตกท่อระบายน้ำข้างทาง ยิ่งทำให้ อู่ต้า และ พานจินเหลียน ตกใจจนกอดกันแน่น
สำหรับ วังกันเหนียง เธอกลัวจนสลบทันทีที่รถออกมาจากเมืองจิงหยาง
หลังจากส่ง อู่ต้า และคนอื่นๆเรียบร้อย ซูฉิวไป่ ก็กลับบ้านด้วยความช่วยเหลือของระบบนำทาง เมื่อคิดถึงในสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เขารู้สึกพึงพอใจมาก
ทันใดนั้นระบบนำทาง ก็ดังขึ้นและให้คะแนนเติบโตแก่เขา 10 คะแนน ซูฉิวไป่ เข้าใจเหตุผลว่าทำไมเขาได้รับคะแนนหลังจากที่สับสนใน ช่วงเวลาหนึ่ง นั่นเป็นเพราะเขาไปส่ง พานจินเหลียน ในตัวเมืองชิงเหอ
ขอบคุณนะ พานจินเหลียน คะแนนเติบโตเป็นสิ่งที่ผมต้องการ!
ซูฉิวไป่ เปิดทักษะที่หน้าจออยากอดทนเรียกดูทักษะอย่างระมัดระวังทีละอัน ตอนนี้เขาระมัดระวังมากขึ้นหลังจากที่ทำผิดพลาดโดยการเพิ่มคะแนนให้กับค่าความรักในเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตามเขาสับสนมากยิ่งขึ้นหลังจากไตร่ตรองทักษะต่างๆ ดังนั้นก่อนที่เขาจะตัดสินใจทำอะไร ซูฉิวไป่ ตัดสินใจว่าเขาจะคิดอย่างรอบคอบหลังจากคืนนี้
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยง อู่ซง วางแผนที่จะหาข้าวกลางวันกิน เขาจะไปร้านขายเนื้อที่เขาคุ้นเคยและขายเนื้อเสือของเขา
ในเวลานั้นเองไฟสัญญาณจราจรเป็นสีแดงเขาจึงหยุดรถ ในขณะที่เขารอสัญญาณไฟเขาเห็นรถสปอร์ตเมอร์เซเดส - เบนซ์ ขับอย่างรวดเร็ว คนขับไม่มีความตั้งใจที่จะหยุดรถของเขาแม้ว่าจะเข้าใกล้เส้นทางม้าลายแล้ว แน่นอนว่ามันเป็นการเร่งเครื่องก่อนจะติดไฟแดง
ซูฉิวไป่ รู้สึกหัวใจของเขาถูกดึงออกมาเมื่อเขาเห็นชายชรากำลังข้ามถนนและถูกรถชนในวินาทีถัดมา
เขารู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีนักเมื่อเห็นชายชรากระเด็นออกไปหลายเมตรก่อนที่จะตกลงบนพื้นถนนอย่างหนักหน่วง เกิดความเงียบ 2-3 วินาทีบริเวณสี่แยกไม่นานสถานที่แห่งนั้นก็เกิดความวุ่นวายเพราะมีหลายคนเริ่มกรีดร้อง
ซูฉิวไป่ นั่งสั่นอยู่ในรถแท็กซี่ของเขาเขาสามารถเดาชะตากรรมของชายชรานี้ได้โดยไม่ต้องคิด ไม่มีใครสามารถมีชีวิตอยู่ได้หลังจากเจอแรงกระแทกขนาดนี้
บางทีชายชราคงกำลังจะกลับบ้านเพื่อกลับไปหาลูกสาวของเขา แต่ในเวลานี้พวกเขาไม่ถูกแยกจากกันตลอดไป..
ไม่มีทางช่วยชีวิตเขาจริงๆอย่างนั้นหรอ?
ซูฉิวไป่ มีคำถามอยู่ในหัวของเขา...ทันใดนั้นเขาก็คิดบางอย่างออก
ใครบอกว่าไม่มีทางล่ะ!ฉันสามารถที่จะช่วยเขาได้!
โดยไม่รอให้เสียเวลาอีกต่อไปซูฉิวไป่เปิดอินเตอร์เฟสขึ้นมาและเพิ่มทักษะอย่างรวดเร็ว เขาเห็นตัวเลือกที่เรียกว่า “ย้อนเวลา” เขาเคยลังเลที่จะเพิ่มคะแนนเติบโตกับมันก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เขาใส่คะแนนอย่างมั่นใจ การย้อนกลับเวลา 1 นาทีต้องใช้คะแนน 5 คะแนน ตอนนี้เขามี 10 คะแนนซึ่งเพียงพอที่จะย้อนกลับไป 2 นาทีก่อน เมื่อรู้ว่านี่คือความหวังสุดท้าย ซูฉิวไป่ คลิกตกลงอย่างรวดเร็ว
“เวลากำลังย้อนกลับ: 2 นาที กำลังเกิดปฏิกิริยาการกระตุ้นพลัง โปรดเตรียมพร้อม…”
ด้วยคำพูดเหล่านี้มาจากระบบนำทางของ ซูฉิวไป่ เขารู้สึกเพียงเเวบเดียวเท่านั้น จากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่ในรถ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาอยู่เมื่อ 2 นาทีก่อน
มันได้ผล!
ซูฉิวไป่ เหยียบคันเร่งหลังจากรู้ว่าเขาได้ย้อนเวลากลับมาแล้ว มันยังคงมีระยะห่างจากสี่แยกอีกเล็กน้อย เขาควรที่จะหยุดโศกนาฏกรรมได้ก็ต่อเมื่อเขาไปถึงที่นั่นก่อนเวลา
คนขับรถแท็กซี่ไม่เคยกังวลเรื่องใดมาก่อนในชีวิต หัวใจของเขาในตอนนี้เต้นแรงอย่างหนักในขณะที่มองดูแสงสีเขียวจากระยะไกล มันใกล้จะเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงในไม่ช้าและชายชราจะข้ามถนนในขณะที่รถสปอร์ตจะวิ่งมา ฉากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก่อนหน้านี้ได้เล่นซ้ำในใจของ ซูฉิวไป่ เขารีบขับรถเร็วยิ่งขึ้น เขาเกือบจะถึงสี่แยกแล้วเขาหยุดรถลงข้างหน้าทันที ซูฉิวไป่บีบแตร 2 ครั้งแต่ไม่มีการเคลื่อนไหว ไฟเขียวกำลังจะสิ้นสุดลงหากคลาดตอนนี้เขาคงจะไม่สามารถลืมมันได้ตลอดไป
ไม่มีเวลาแล้ว เขาเปิดประตูรถและกระโดดออกไปทันทีก่อนจะวิ่งดุเดือด รถที่วิ่งผ่านเขาไปแต่เขาไม่สนใจอีกต่อไปจิตใจของ ซูฉิวไป่ มีความคิดเดียวในขณะนี้นั่นคือต้องช่วยชายชราทุกวิถีทาง!
ในที่สุดเมื่อเขามาถึงทางแยกสัญญาณไฟจราจรก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและชายชราก็เดินขึ้นมาบนทางม้าลาย
“คุณปู่หยุดก่อน!”
เขาได้ยินเสียงรถสปอร์ตดังมาแล้วตอนนี้ ซูฉิวไป่ ตะโกนด้วยพลังเสียงทั้งหมดของเขา ชายชราหยุดเดินในขณะที่รถสปอร์ตกำลังพุ่งมา
จิตใจของ ซูฉิวไป่ ว่างเปล่าเขาอยู่ห่างจากชายชราเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่มีเวลาพอที่จะคิดมากนัก เขาจึงใช้พลังทั้งหมดของตัวเองพุ่งไปที่ชายชราเพื่อพลักให้กระเด็นออกไปพร้อมกับเขา
ถึงอย่างนั้นรถสปอร์ตก็ยังเฉี่ยวร่างของ ซูฉิวไป่
ปัง!
ซูฉิวไป่ ล้มลงกับพื้นพร้อมกับชายชราเขากลิ้งหลายตลบ สามารถได้ยินเสียงเบรกลากยาวอย่างกะทันหัน แต่ในใจของ ซูฉิวไป่ โลกทั้งใบเงียบสงบ เมื่อเขาได้ยินเสียงชายชรากำลังไออยู่ข้างๆเขาจึงรู้สึกตัว...เขาสามารถทำได้!
“เฮ้ นายเป็นยังไงบ้าง?นายพยายามที่จะแกล้งนอนกับพื้นทำเป็นบาดเจ็บใช่หรือไม่?จะบอกให้ผมมีเครื่องบันทึกวีดีโออยู่ในรถของผม”
ซูฉิวไป่ กำลังเบลอ เขากำลังตั้งสติมีผู้คนมากมายล้อมรอบตัวเขาก่อนจะได้ยินคำพูดเหล่านั้น เขาแยกเสียงได้ทันทีว่าคำพูดเหล่านั้นออกมาจากคนขับรถสปอร์ต เขารู้สึกโกรธมาก!
เมื่อ ซูฉิวไป่ ลุกขึ้นเขาพบว่าหน้าผากของเขาได้ขูดกับพื้นและมีเลือดไหลออกมา ฝูงชนก้าวถอยหลัง 2-3 ก้าวเมื่อเขาเห็นว่า ซูฉิวไป่ ลุกขึ้น
“อย่าพยายามเสแสร้ง นอกจากนี้การที่หัวของคุณเลือดออกไม่เกี่ยวกับผม คุณพุ่งมาชนรถผมเอง ดีแค่ไหนแล้วที่ผมไม่บอกว่าคุณตั้งใจที่จะทำลายรถของผม!”
คนขับเป็นชายหนุ่มวัย 20 ปี เขาแต่งตัวเรียบร้อย แต่ดูเหมือนว่าลักษณะการใช้ชีวิตของเขาไม่ค่อยดีนัก มุมปากของเขายกขึ้นอย่างเห็นดี ไม่มีร่องรอยการเสียใจในดวงตาของเขาในขณะที่พูด
ซูฉิวไป่ ก้าวไปข้างหน้าและเตะไปที่ท้องของชายคนนั้น
เชี่ยเอ้ย!ฉันใช้คะแนนไป 10 คะแนนและยังต้องเสี่ยงตายเพื่อจัดการความมักง่ายของแก แกยังจะพูดกับฉันด้วยวิธีนี้อีก! ถ้าฉันไม่สั่งสอนแกในวันนี้ แกคงคิดว่าฉันเป็นคนขับแท็กซี่กระจอกกระจอก
“มึง..มึงกล้าเตะกู!”
ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้คาดหวังว่า ซูฉิวไป่ จะเตะเขา เขาล้มลงกับพื้นและหันไปมอง ซูฉิวไป่ อย่างไม่น่าเชื่อ
“เตะ?ฮี่ฮี่...ถ้าฉันไม่ฆ่าแกในวันนี้ พานจินเหลียน อาจรู้สึกเสียดายคะแนนที่มอบให้!”
เมื่อถึงตอนนี้ ซูฉิวไป่ รีบเข้าไปเตะชายหนุ่มอีกครั้งอย่างรุนแรง ในที่สุดฝูงชนพยายามที่จะดึง ซูฉิวไป่ ออกจากการทำร้ายร่างกาย ชายหนุ่มที่อยู่บนพื้นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด เขาหวาดกลัวจนร้องไห้ออกมา
“หนุ่มน้อย ...ช่างเถอะ ฉันสบายดี ขอบคุณมาก”
ซูฉิวไป่ กำลังจะต่อยชายคนนั้นต่อก็มีเสียงเบาๆดังออกมาจากด้านหลัง เมื่อ ซูฉิวไป่ หันกลับไปเขาสังเกตเห็นว่าเป็นชายชราที่เขาเพิ่งช่วยชีวิต
“คุณปู่ไม่ต้องกังวล สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่จบอย่างง่ายๆ มันเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย!”
ซูฉิวไป่ ยินดีที่เห็นชายชราไม่เป็นอะไรแต่เขารู้สึกว่าเขาควรให้บทเรียนแก่อันตพาลน้อยนี้สักหน่อย
ถ้าไม่ใช่เพราะคะแนน 10 จุดที่เขาได้มารวมไปถึงมีระบบนำทางที่สามารถมีตัวเลือกย้อนเวลากลับมาได้ สิ่งที่ตามมาคงเป็นเรื่องเลวร้ายที่ไม่อาจแก้ไข
มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นจากฝูงชนหลังจากที่เขาพูดจบ
“ใครกล้าตีน้องชายของฉัน?!”
----------------------------------------