TQF:บทที่ 27 การรักษาของเถาวัลย์หยก
TQF:บทที่ 27 การรักษาของเถาวัลย์หยก
“เกาหยาง เจ้าอย่าได้โกหกข้า!”
เมื่อดูเหมือนว่าเกาหยางจะบอกความจริงผู้เฒ่าหนิงก็ขมวดคิ้ว
“ถ้าพวกนางอยู่ในเมืองจริง ทำไมคนของข้าจึงล้มเหลวในการค้นหาพวกนางมาตลอดทั้งเดือน?”
“นายท่านข้าสามารถบอกได้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในเมือง พวกเขาเป็นชาวบ้าน ข้าเห็นว่าพวกนางออกไปนอกเมืองพร้อมกับหมอจากสำนักแพทย์ ข้าคิดว่าพวกนางจะต้องมีคนไข้ที่อยู่ที่บ้าน” เกาหยาง คาดเดา
ผู้เฒ่าหนิงพยักหน้า
“อืม..พวกนางเข้ามายังเมืองนี้บ่อยๆคงได้พบกัน เกาหยาง จงไปพักผ่อนเสียเถิด ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปข้าอยากให้เจ้าใส่ใจกับเรื่องแม่ลูกคู่นี้มากยิ่งขึ้น ลองมาดูกันว่าพวกนางกำลังเลี้ยงสัตว์วิญญาณด้วยตัวเองหรือไปนำมันมาจากที่ไหน พวกเราต้องหาคำตอบในเรื่องนี้”
“ เกาหยาง เข้าใจแล้ว!”
ในตอนนี้ที่บ้านครอบครัวเฉิงทุกคนกำลังล้อมรอบเตียงของ เฉิงไป๋หยวน และรอผลวินิจฉัยของหมอ หลังจากนั้นไม่นานท่านหมอลูบเคราและพูดขึ้นว่า
“อาการบาดเจ็บของท่านเฉิงนั้นส่วนใหญ่หายดีแล้ว แต่เส้นเอ็นของเขาถูกตัดและกระดูกถูกบดขยี้ หลังจากได้ยาของข้าในครั้งที่แล้วเส้นเอ็นของเขาได้รับการรักษาค่อนข้างดี ตอนนี้ที่เหลือเป็นเพียงเรื่องของกระดูกที่แตกหัก มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะกลับมายืนได้อีกครั้ง..”
คำพูดของหมอเหมือนหินที่ทุ่มเข้าไปในจิตใจของทุกคน แสงในดวงตาของ เฉิงไป๋หยวน จางลง
“แค่ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วพวกเราก็มีความสุขกับการฟื้นฟูนี้แล้ว ขอบคุณท่านหมอมาก!”
“อย่ากังวลไปท่านเฉิง พื้นฐานของท่านนั้นดีมาก หากท่านกินยาต่อไปมันอาจเป็นไปได้ว่าท่านจะสามารถยืนได้อีกครั้งใน 2 หรือ 3 เดือนข้างหน้า!”
“จริงหรือคะท่านหมอ!”นางเฉิงถามด้วยเสียงดังเล็กน้อย ความกลัวที่สุดของเธอคือสามีของเธอไม่สามารถยืนได้อีกครั้ง
ท่านหมอยิ้มและพยักหน้า
“อย่ากังวลไปฮูหยิน ข้ามีความรู้สึกว่าพื้นฐานสามีของท่านนั้นแข็งแกร่งกระดูกของเขาจะได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ว่าต้องกินยาให้ครบถ้วนเขาจะดีขึ้นอย่างแน่นอน”
“ขอบคุณท่านหมอ...ขอบคุณมาก!”นางเฉิงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่นี่คือคำตอบที่เธอคาดหวังเอาไว้
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้แต่เด็ก 3 คนก็ปรากฏรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของพวกเขา นางเฉิงได้เชิญหมอและลูกศิษย์ของเขาพักทานอาหารเที่ยง หลังจากทานอาหารเที่ยงเขาได้เก็บค่าธรรมเนียมการรักษาและออกเดินทางหลังจากที่นางเฉิงด้วยขอบคุณพวกเขาอีกครั้ง
เฉิงไป๋หยวน แสดงออกอย่างมืดมนหลังจากพบว่าสินค้าที่พวกเธอเอาไปขายนั้นสามารถทำเงินได้ถึง 100 ตำลึง เขาถอนหายใจยาวและพูดคำว่า
“ข้ากลัวว่า..ชีวิตที่สงบสุขของเราจะเหลืออีกไม่นาน!”
“ท่านพ่อ มันจะไม่เป็นไร คนอื่นจะไม่สามารถทำอะไรเราได้ตราบใดที่เราไม่พูดอะไร สุดท้ายแล้วจะไม่มีใครล่วงรู้นอกจากเรา พวกเขาจะไม่รู้ถึงแหล่งที่มาของสัตว์วิญญาณเหล่านี้” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เป็นกังวลเล็กน้อยแต่ก็ไม่มากเกินไป สุดท้ายแม้คนอื่นๆต้องการคำตอบแต่ถ้าพวกเขาไม่พูดก็จะไม่มีใครรู้
เฉิงไป๋หยวน เข้าใจเขาพยักหน้าและสั่งสอนลูกสาวของเขาว่า
“จงระวังให้มากๆอย่าให้ใครรู้เรื่องราวของเรา ระวังสิ่งที่เราจะพูดออกไปเวลาที่มีคนอื่นสอบถาม!”
“เข้าใจแล้วท่านพ่อ เสี่ยวเสี่ยว จะหาวิธีจัดการเรื่องนี้เอง!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ตอบอย่างมั่นใจ
นางเฉิงมองลูกสาวของเธออย่างเป็นห่วงและถอนหายใจ
“ถ้า..สามีของข้าไม่ได้รับบาดเจ็บคงไม่มีเรื่องอะไรต้องกังวล..ยกเว้น….”
“ยกเว้นอะไรหรือท่านแม่” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว หันไปมองแม่ของเธอยังลังเลและถามขึ้น
นางเฉิงมองไปที่ลูกสาวของเธอและหันไปสบตากับสามีที่นอนบนเตียง เธอส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดว่า
“ไม่มีอะไรหรอก เสี่ยวเสี่ยวไปพักผ่อนเถอะ!”
“ตกลง!” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว รู้ดีว่าแม่ของเธอนั้นไม่ยอมเปิดเผยเรื่องนี้ง่ายๆ หลังจากที่เธอออกไป เฉิงไป๋หยวน ได้มองภรรยาของเขาและถามคุณว่า
“หยูฉิน เป็นอะไรไปหรอ?”
“ข้ากลัวว่า...สิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่นี้..จะล่วงรู้เข้าไปถึงหูคนพวกนั้น?หากเป็นอย่างนั้นเราจะไม่สามารถรับมือได้”
“...” เฉิงไป๋หยวน เงียบแต่แววตาของเขาแสดงออกถึงความโกรธแค้น
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว กลับไปยังห้องนอนของเธอและเข้าไปยังมิติทันที ทันใดนั้น หยูเฮง ก็ปรากฏตัวบนไหล่ของเธอ
“คุณหนูท่านดูไม่มีความสุขเลย!”
“หยูเฮง เจ้ารู้เรื่องบาดเจ็บของท่านพ่อหรือไม่ เจ้าพอที่จะทำอะไรได้ไหม” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว มองไปที่ หยูเฮง มีความหวังปรากฏในดวงตาของเธอ ในความคิดของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว นั้นเธออยากเห็นพ่อของเธอลุกขึ้นยืนได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ครอบครัวของเธอไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา เธอเชื่อว่าถ้าท่านพ่อของเธอสามารถฟื้นตัวได้อีกครั้งทุกอย่างจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี หยูเฮง เงยหน้าขึ้นแล้วพูดอย่างน่ารักว่า
“ข้าไม่รู้ว่ามันจะใช้ได้หรือเปล่า แต่ท่านควรลองเอาน้ำเถาวัลย์หยกไปใช้ดู”
“จริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“ทำไมเราไม่ลองดูล่ะ”
“ตกลงมาลองกันเถอะ!”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ออกจากมิติอย่างมีความสุขและมุ่งหน้าไปยังที่อยู่อาศัยของพ่อแม่ของเธอด้วยหัวใจที่ร่าเริง เธอแอบเห็นแม่ของเธอร้องไห้อีกครั้งเธอรู้สึกหมดหนทางดูเหมือนว่าแม่ของเธอจะร้องไห้บ่อยเกินไป
“เสี่ยวเสี่ยว มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรอ” เฉิงไป๋หยวน ถามลูกสาวของเขาเมื่อเห็นว่า เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เดินเข้ามา
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เดินเข้าไปหาพวกเขาแล้วโค้งคำนับ
“ท่านพ่อท่านแม่ ท่านทั้งคู่รู้ว่าข้ามีมิติ ในมิตินั้นมีนางฟ้าเกิดขึ้น นางฟ้าได้บอกข้าว่านางอาจรักษาอาการบาดเจ็บของท่านพ่อได้!”
นางฟ้า?
เฉิงไป๋หยวน และ นางเฉิง ตกตะลึงจากนั้นใบหน้าของพวกเขาก็แสดงออกถึงความประหลาดใจและมีความสุขปนเปกัน นางเฉิงถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อว่า
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าหมายความว่าอย่างไร มีนางฟ้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“ใช่แล้วท่านแม่!” เสี่ยวเสี่ยว ยิ้ม
“หยูเฮงจงปรากฏตัวออกมา!”
ตามคำสั่งของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว หยูเฮง ตัวน้อยปปรากฏต่อหน้าทุกคน เฉิงไป๋หยวน รู้สึกตกตะลึงมีนางฟ้าอยู่จริงๆและนี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เขาได้เห็นนางฟ้า เขารู้ว่านางฟ้ามีพลังอำนาจแบบไหนเขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง
นางเฉิงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาของพ่อแม่ของเธอเธอบอกกับ หยูเฮง ว่า
“หยูเฮง นี่คือท่านพ่อท่านแม่ของข้าเจ้าช่วยดูอาการบาดเจ็บของท่านพ่อได้หรือไม่”
“คุณหนูท่านไม่ต้องกังวล ข้าได้ตรวจสอบเขาแล้ว!”
หยูเฮง ตัวน้อยไม่ได้รู้สึกกังวลเมื่อเห็นปฏิกิริยาของบุคคลทั้งสองคน เธอโบกแขนเล็กๆของเธอจากนั้นปรากฏน้ำผลไม้สีเขียวบริสุทธิ์ร่วงลงมาสู่ เฉิงไป๋หยวน
เธอมอง เฉิงไป๋หยวน ที่กำลังตกตะลึงอยู่เธอรีบตะโกนออกมาอย่างรวดเร็วว่า
“เร็วเข้าใช้พลังฉี ของท่านโคจรที่เส้นเอ็นกล้ามเนื้อและกระดูกของท่าน!”
เมื่อได้ยินคำเตือนของนางฟ้า เฉิงไป๋หยวน เริ่มต้นการโคจรพลังฉีทันที
นางเฉิงมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความหวาดกลัว แม้แต่ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ที่เคยอ่านนิยายแฟนตาซีมามากมายในชีวิตก่อนหน้านี้เธอยังรู้สึกประหลาดใจและหลงใหลในสิ่งที่เกิดขึ้น และเมื่อเห็นสถานการณ์ปัจจุบันเธอสามารถเข้าใจเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
ประมาณ 10 นาทีหลังจากนั้น หยูเฮง ดึงแขนของเธอกลับมา เฉิงเสี่ยวเสี่ยว สังเกตเห็นว่า หยูเฮง ดูเหน็ดเหนื่อยร่างกายของเธอบางเบา เฉิงเสี่ยวเสี่ยว จับตัวของ หยูเฮง และถามยังเป็นกังวลว่า
“หยูเฮง เจ้าเป็นยังไงบ้าง”
“คุณหนู หยูเฮง ไม่เป็นอะไร ข้าจำเป็นต้องพักผ่อน!”
ทันทีที่เธอพูดจบประโยคเธอก็พุ่งเข้าไปในมิติ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เองก็อยากจะติดตามเข้าไปตรวจสอบแต่เมื่อเห็นว่าพ่อของเธอยังไม่ลืมตาขึ้นมาเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอยู่เพื่อเฝ้ารอ แม่และลูกสาวไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ในที่สุด เฉิงไป๋หยวน ที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น นางเฉิงถามออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า
“ท่านพี่!ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
“ท่านพ่อถ้ารู้สึกดีขึ้นไหม” เฉิงเสี่ยวเสี่ยว อดไม่ได้ที่จะถามเช่นกัน
เฉิงไป๋หยวน พยักหน้า “ดีขึ้นมาก ข้าคิดว่าข้าสามารถยืนได้แล้ว!”เขาพยายามลุกขึ้นในขณะที่พูด แม่และลูกสาวรีบช่วยพยุงทันที เฉิงไป๋หยวน ผู้ซึ่งนอนอยู่บนเตียงมาเป็นเวลา 3 เดือนในที่สุดก็สามารถลุกขึ้นยืนได้ นางเฉิงถามด้วยความกังวลว่า
“ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง”
----------------------------------------------