ตอนที่แล้วMoney Monster Episode XII [ความโลภสีขาว]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMoney Monster Episode XIV [มื้อเที่ยงกับเงินที่หายไป]

Money Monster Episode XIII [รางวัลของผู้ชนะ]


Money  Monster

Episode XIII

[รางวัลของผู้ชนะ]

หลังจากที่กำจัดอมนุษย์สีขาวได้สำเร็จไลท์ก็ต้องพบกับปัญหาที่เขาคาดไม่ถึง นั่นก็คือ...

“จะขึ้นไปยังไงล่ะทีนี้” ไลท์พูดขณะเงยหน้ามองไปด้านบน ตอนนี้เขาอยู่ในบ่อกักเก็บน้ำที่ลึกราวห้าเมตร จนถึงเมื่อครู่เขาคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้ยิงหัวอมนุษย์สีขาวได้จึงลืมนึกไปเลยว่าจะกลับขึ้นไปได้อย่างไร

จะปีนขึ้นไปก็ลำบากเพราะที่พนังโดยรอบลื่นขนาดใช้เท้ายันขึ้นไปยังไม่ได้ เชือกก็เก่าขาดรุ่งริ่งไม่น่าจะรับน้ำหนักร่างกายของชายหนุ่มไหว เรียกได้ว่าหมดทางไปต่อโดยสิ้นเชิง

มันทำให้ไลท์รู้สึกอยากควักสมองตัวเองออกมาทุบเล่นให้รู้แล้วรู้รอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาให้อภัยความไม่รอบคอบของตัวเองไมได้ จนอดคิดไม่ได้ว่าคงไม่ใช่ว่าจะต้องอยู่ตรงนี้ตลอดไปหรอกนะ!

“ช่วยด้วย! มีคนอยู่ตรงนี้!” ไลท์ตะโกนขอความช่วยเหลือ หวังว่าจะมีใครสักคนโผล่มาได้ยิน ก่อนที่จะได้ยินเสียงคนดังออกมาจากทิศทางต่างๆ

“กรี้ด!! ช่วยด้วย”

“ไม่เอาแล้ว! ฉันอยากกลับบ้าน! ฉันจะกลับบ้าน!”

“ทำไมมันไม่ตายสักทีฟะ! โถ่เว้ย แบบนี้จะฆ่ามันได้ยังไง ขนาดทหารยังไม่ให้ออกรบตั้งแต่วันแรกเลยนะเฟ้ย นี่มันบ้าเกินไปแล้ว”

เสียงกรีดร้อง ร้องตะโกน คร่ำครวญดังออกมาไม่หยุด ทำให้ไลท์รับรู้ได้ทันทีว่า ต่อให้เขาจะร้องขอความช่วยเหลือจนคอแทบแหก แม้คนอื่นได้ยินแต่ก็ใช่ว่าจะปลีกตัวมาช่วยเหลือเขาได้

“เฮ้! ใครก็ได้มาช่วยฉันก่อน! ถ้าฉันขึ้นไปได้จะช่วยจัดการพวกมันให้ ฉันฆ่ามันได้หนึ่งตัวเชียวนะ! มาช่วยฉันก่อน!” ไลท์ยังไม่ลดละความพยายาม แม้ในความเป็นจริงตอนนี้เขาจะไม่ต่างจากคนธรรมดาเพราะไม่เหลือกระสุนสักนัดแล้วก็ตาม

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนไลท์ไม่ได้นับ ไม่ว่าจะตะโกนขนาดไหน ยื่นข้อเสนอไปเท่าไหร่ก็ยังไร้การตอบสนอง ชายหนุ่มได้แต่นั่งรอคอยในบ่อที่ทั้งมืดและแคบ สารพัดความคิดด้านลบผุดขึ้นมาในหัวต่างๆ นานา

โดนทิ้งร้างไว้อยู่ในบ่อจนเน่าตาย

          เมื่อตกดึกจะมีผีเจ้าที่ออกมาอยู่เป็นเพื่อน

และอื่นๆ มากมายเกินจะนึกออก ร่างกายของชายหนุ่มพลันขนลุกซู่สยองขวัญยิ่งกว่าเจออมนุษย์นับร้อย เขาสาบานไปชั่วชีวิตว่าจะไม่ทะลึ่งลงมาในบ่อน้ำอีกแล้ว! ก่อนที่จะเริ่มร้องตะโกนขอความช่วยเหลือออกไปอย่างบ้าคลั่ง

“ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย! ได้โปรดเถิด ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้ มันทั้งมืด แคบแถมเปียกด้วย อยู่ตรงนี้มันหนาว ใครก็ได้พาฉันขึ้นไปข้างบนที ฉันคิดถึงข้างบนเหลือเกิน”

“อ๊ะ มีคนอยู่ตรงนี้ด้วย” เสียงของชายผู้หนึ่งดังขึ้นก่อนที่จะชะโงกหน้ามามองไลท์ที่อยู่ในบ่อ ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือนมีพ่อพระมาโปรด เปรียบดั่งแสงสว่างท่ามกลางความมืดทำให้ยิ้มกว้างในทันที

“ช่วยฉันด้วย! ฉันติดอยู่ตรงนี้”

“อืม..ขอคิดดูก่อนนะ”

“อย่าคิดเลย! เป็นเพื่อนมนุษย์ต้องช่วยกันสิ”

“อื้ม..”

“จริงสิ! นายกำลังโดนไล่ล่าใช่ไหม ฉันช่วยนายได้นะ ฉันฆ่ามันไปแล้วตัวหนึ่ง”

“อ้อ!เรื่องนั้นไม่เป็นไร ฉันฆ่ามันไปแล้ว”

“อ่าว! ถ้างั้นก็อย่าคิดเยอะ มาช่วยฉันก่อน!”

“เอ..”

“แฮมเบอร์เกอร์! ถ้าช่วยฉันขึ้นไปได้ฉันจะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์นาย” ไลท์ยื่นข้อเสนอแม้จะดูทุเรศไปสักหน่อยแต่นี่ก็มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้แล้ว เมื่อได้ยินคำว่า[แฮมเบอร์เกอร์]ชายคนนั้นก็หูพึงในทันที  “

“จะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์ฉันจริงๆ เหรอ!” โชคเข้าข้างเหมือนว่าชายหนุ่มคนนี้จะชอบแฮมเบอร์เกอร์มาก ทำให้ไลท์เผยรอยยิ้มกว้าง

“ใช่!”

“กล้วย ขอกล้วยด้วยได้ไหม”

“ที่หลังบ้านฉันมีเป็นต้น!”

“ถ้างั้น ขอโคล่าขวดเบ้อเร่มด้วย!”

“ช่วยฉันก่อน!”

“ได้ๆๆ!” ชายคนนั้นพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะเดินออกไปหาอะไรสักอย่าง ไลท์รู้สึกคล้ายถูกยกภูเขาออกจากอกเพราะในที่สุดก็ได้รับความช่วยเหลือเสียที ทว่าจากนั้นไม่นานก็มีวัตถุบางอย่างตกลงมากระแทกหัวเขา มันมีน้ำหนักค่อนข้างเบาและมีผิวราบเรียบสีดำ

ไลท์มีสีหน้างวยงงทันทีที่เห็นมัน พอมองดูมันดีๆ ก็พบว่ามันคือห่วงยาง

ใช่..ห่วงยา

“ทำไมถึงเอาห่วงยางมาให้ฟะ!” ไลท์แทบจะพ่นไฟหันไปตะคอกคนที่อยู่ไปข้างบนด้วยใบหน้าแดงไปด้วยโทสะ พร้อมเหวี่ยงห่วงยางกลับขึ้นไปด้านบนอย่างสุดแรง

“อ่าว ก็จะได้ไม่จมน้ำไปก่อนไง”

“รีบพาฉันขึ้นไปสิว้อย! จะเอาห่วงยางมาทำแมวน้ำอะไร”

“โทษทีๆ รอแป๊บ” ชายคนนั้นหัวเราะด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะกลับมาพร้อมกับไม้ไผ่ยาวๆ ยื่นลงมาตรงหน้าไลท์

“...” ชายหนุ่มนิ่งเงียบไม่ยอมพูดจาอะไร ได้แต่มองไม้ไผ่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาอันว่างเปล่า

“จับสิ!” คนด้านบนเห็นว่าคนด้านล่างไม่ยอมทำอะไรสักทีเลยร้องทักขึ้น ในทันใดนั้นก็เสมือนว่าได้มีบางสิ่งบางอย่างได้ขาดพึงในฉับพลัน ดวงตาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงก่อนจะลุกท่วมตัวอย่างรวดเร็ว

“เชือก! ไปเอาเชือกมาสิโว้ย! เอาไม้ไผ่มาทำซากอะไร!”

“ก็เห็นว่ามันยาวดีเลยคิดว่าน่าจะดึงขึ้นมาได้”

“โอ๊ยเครียด! ไม้ไผ่โง่ๆ นี่จะสู้เชือกได้ยังไง จะให้ฉันจับมันแล้วนายจะเป็นคนดึงขึ้นไปงั้นเรอะ! ไปเอาเชือกมาผูกกับเสาสักต้นเซ่ ไอ้เบื้อกนี่!” ไลท์หัวร้อนสุดขีดพูดออกมาเป็นฉอดๆ โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายมีสถานะเป็นถึงผู้ให้ความช่วยเหลือ ชายคนนั้นได้แต่ยิ้มจืดๆ เกลาหัวด้วยความเขินอายเล็กน้อยแล้วเดินออกไปหาเชือดมาตามคำสั่งของไลท์

‘จะบ้ากะละมัง ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนที่ทั้งโง่และซื่อบื้อขนาดนี้อยู่บนโลกด้วย มันจัดการกรีดสีขาวได้ยังไงล่ะเนี่ย’ ไลท์ถึงกับกรีดร้องในใจ รอคอยในบ่อจนกระทั่งมีเชือกเส้นหนึ่งหล่นลงมาทำให้เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะจับมันปีนขึ้นไปสู่ด้านบนอย่างปลอดภัยเสียที

เมื่อได้สัมผัสกับแสงอาทิตย์อันเจิดจ้าและอากาศอันบริสุทธิ์ เสมือนกับมีน้ำหยดลงบนพื้นดินที่เหือดแห้ง รู้สึกได้ถึงความมีชีวิตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จู่ๆ น้ำตาลูกผู้ชายมันก็ไหลพราก

“อา..สวรรค-”

“เบอร์เกอร์ของฉันล่ะ!” ยังไม่ทันได้เอ่ยจบคำก็ถูกทวงบุญคุณอย่างรวดเร็ว ไลท์เปลี่ยนจากใบหน้ายิ้มแย้มกลายมาทำหน้าบึ้งในพริบตาพร้อมส่งสายตาตำหนิอย่างแรงให้กับชายหนุ่มตรงหน้า

อีกฝ่ายน่าจะมีอายุพอๆ กันกับเขา มีเส้นผมสีน้ำตาลแล้วร่างกายสูงโปร่งประมาณร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร แต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาวเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่เรียงกันเป็นชั้นๆ อย่างชัดเจน ใบหน้าค่อนไปทาหล่อคมจนหน้าหมั่นไส้ กำลังส่งสายตาอันใสซื่อตรงมาทางนี้อย่างไม่ลดละ

“เบอร์เกอร์ กล้วยกับโคล่าที่บอกไง! ฉันช่วยนายขึ้นมาแล้วนี่ อย่าลืมทำตามสัญญานะ”

“นี่นาย..ใจคอจะเอาตอนนี้เลยงั้นเรอะ”

“ไม่ได้เหรอ?”

“ฟังนะพี่น้อง ที่นี่เป็นเมืองร้าง! ไม่มีร้านสะดวกซื้อและไม่มีร้านอาหารไหนเปิด รอกลับไปก่อนได้ไหม”

“เออจริงด้วย!ฮะๆๆๆ” เจ้าตัวหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี เล่นเอาไลท์เริ่มตั้งคำถามในใจแล้วว่านี่จงใจหรือแกล้งโง่กันแน่

“จริงสิ! ฉันชื่อครอสซ์นะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ครอสซ์ยื่นมือมาตรงหน้าแล้วกล่าวแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้ม

“ไลท์ ยินดีที่ได้รู้จัก” ไลท์ยื่นมือไปจับตามมารยาท แต่ในวินาทีที่มือของทั้งคู่สัมผัสกัน เสียงลำโพงที่ติดตั้งอยู่ทั่วเมืองก็พลันดังขึ้นพร้อมกันเป็นสัญญาณของการสิ้นสุดลงของการทดสอบ

[โปรแกรมฝึกฝนสิ้นสุดลง ยกเลิกระบบจำลองพื้นที่] สิ้นเสียงประโยคนี้ทุกอย่างถูกย้อมไปด้วยแสงสีขาวโพลนจนต้องหรี่ตาลง พอรู้สึกตัวอีกทีตำแหน่งที่ยืนอยู่ก็เปลี่ยนไปแล้ว

ขณะนี้โบรกเกอร์ทุกคนก็ย้ายที่ลับมายังห้องขนาดใหญ่อันแออัดเช่นเดิมไม่ใช่เมืองร้างอันโล่งกว้างอีกต่อไป ตำแหน่งของทุกคนเสมือนกับก่อนหน้าจะเจอกับอมนุษย์สีขาวไม่มีผิด ทำให้เบื้องหน้าของไลท์ที่ควรจะมีครอสซ์ยืนอยู่กลับว่างเปล่า

“ยินดีต้อนรับกลับ เหล่าโบรกเกอร์เอ๋ย” เสียงของมาสเตอร์อินเวสเตอร์ดังกึกก้องให้ทุกคนหันไปมองเขาเป็นตาเดียวกันโดยอัตโนมัติด้วยหลากหลายอารมณ์ มีทั้งคนที่ไม่พอใจจนก่นด่า สาปแช่ง และอีกสารพัดความไม่พอใจที่ได้ถูกกระทำเช่นนั้นออกไป

“จงฟังให้ดี! เจ้าพวกขี้แพ้ทั้งหลาย” มาสเตอร์อินเวสเตอร์ขึ้นเสียงส่งผลให้ทุกคนเงียบปากลง ก่อนที่จะมีหน้าจอแสดงผลขนาดมหึมาปรากฏขึ้นกลางอากาศ

 

จากการเก็บสถิติในโปรแกรมฝึกฝน ผลจากการรับมือสถานการณ์เฉพาะหน้า จาก 9,456 ผู้เข้าร่วมมีดังนี้

 

 

สถิติข้อมูลที่ถูกรวบรวมมาแสดงบนหน้าจอทั้งหมด เหล่าโบรกเกอร์ได้แต่จดจ้องมันอย่างไม่วางตา โดยเฉพาะกลุ่มคนที่จัดอยู่ในประเภทที่สาม ผู้เลือกที่จะหนีและไม่ต่อสู้เลย แม้จะเป็นปริมาณที่มากที่สุดแต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีกับมันเลยแม้แต่น้อย เพราะยังมีคนที่เลือกจะสู้อยู่อีกนับพันและมีอีกเป็นร้อยที่สามารถจัดการสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

นั่นทำให้รู้ชัดแล้วว่า ‘พวกขี้แพ้’ ที่มาสเตอร์อินเวสเตอร์ได้พูดเมื่อสักครู่นี้เป็นการตบหน้าหมู่คนนับครึ่งหมื่นอย่างไม่ไว้หน้า

จะอ้างว่าเพราะตนไม่เคยต่อสู้มาก่อนเลยเลือกที่จะหนีเอาชีวิตรอดงั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นแล้วสามร้อยกว่าคนที่เอาชนะได้นั่นคืออะไร

เหล่าโบรกเกอร์ที่หนีมาตลอดได้แต่ทำหน้าเขียวเก็บงำความรู้สึกไม่กล้าตะโกนต่อว่าออกไปเฉกเช่นกับที่ทำในครั้งแรก พอจะท้วงติงเรื่องอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นระหว่างการถูกไล่ล่าก็ต้องหมดคำพูดลง เมื่อแผลที่ควรจะมีหายไป บางคนถึงขนาดเสียแขนขาแต่ขณะนี้มันกลับยังอยู่ไม่ได้หายไปไหน

หมดข้ออ้างที่จะเถียงอย่างสมบูรณ์

“การไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าไม่ได้ไม่ใช่เรื่องน่าละอาย เพราะมันต้องใช้ทั้งไหวพริบ สติปัญญา และจิตใจที่ไม่หวั่นไหว แต่ว่า! เมื่อถึงคราวต่อสู้จริงพวกเจ้าได้รับโอกาสให้ผิดพลาดหรือไม่ ไม่! นี่มันไม่ใช่เกม มีหนึ่งหัวใจหนึ่งชีวิต! ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ผิดพลาดทั้งนั้น”

“อะ..อึก” หลายคนถึงกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความตึงเครียด เพราะเป็นอย่างที่มาสเตอร์อินเวสเตอร์พูดจริงๆ

หากในความเป็นจริงคงมีใครสักคนต้องตายไปแล้ว

“แต่ถึงจะรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าหมดทางเยียวยา.. ทุกคนสามารถพัฒนาได้! และการปลุกปั้นโบรกเกอร์ให้มีประสิทธิภาพคืองานของศูนย์อบรมอย่างพวกเรา” มาสเตอร์อินเวสเตอร์เอ่ยเสร็จแล้วสลายชุดพ่อมดสีดำให้กลายเป็นชุดสูทธรรมดา ชายสูงอายุหยิบบัตรสีดำขึ้นสูงก่อนที่จอแสดงผลจะฉายภาพซูมให้เห็นชัดๆ

“นี่คือMoney Monster Card ย่อสั้นๆ ว่าMMC เป็นตัวสื่อกลางระหว่างผู้ใช้และพลังของโบรกเกอร์อย่างพวกเรา เมื่อสัมผัสและเพ่งจิตจะทำให้สามารถเปลี่ยนเป็นโหมดต่อสู้ได้” สิ้นเสียงประโยคมือข้างที่ถือบัตรMMCสะบัดหนึ่งทีก่อนที่แสงสีดำจะโอบคลุมร่างให้ชุดพ่อมดสีดำกลับมาสวมเป็นดังเดิม

“นี่คืออาภรณ์วิเศษ มีระดับและความสามารถแตกต่างกัน ช่วยให้ดูดซับความเสียหายจากภายนอกและเพิ่มพูนสมรรถภาพทางกายให้สูงมากยิ่งขึ้น” ว่าแล้วก็สะบัดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นเข็มขัดสีเงินแวววาวที่คาดอยู่บริเวณเอว ชายสูงอายุคว้าเอาแท่งไม้บางอย่างที่แนบไว้ด้านซ้ายมาในมือก่อนมันจะขยายออกกลายเป็นไม้เท้าขนาดใหญ่

“นี่คืออาวุธ! โบรกเกอร์ทุกคนจะมีอาวุธประจำกายคนละหนึ่งชิ้น มีอยู่ด้วยกันสามสายใหญ่ที่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน อาวุธแต่ละชิ้นสามารถอัพเกรดให้แข็งแกร่งขึ้นได้ ไม่ว่าจะใช้วัตถุดิบมาปรับแต่ง ใส่รูนเพื่อเพิ่มความสามารถ ยิ่งระดับของอาวุธสูงเท่าไหร่พลังก็มากขึ้นตามไปด้วย”

หลังจากนั้นก็มีหุ่นไม้หนึ่งตัวปรากฏขึ้นกลางอากาศ มาสเตอร์อินเวสเตอร์สะบัดไม้เท้าเสกแสงจางๆ ออกมาที่ปลายไม้เท้าก่อนจะออกคำสั่งให้พุ่งเข้าใส่หุ่นไม้ตนนั้นแต่มันก็ไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรมากนัก จนกระทั่งชายสูงอายุหยิบการ์ดขึ้นมาจากสต๊อกการ์ดที่แนบตรงเอวอีกข้าง

“นี่คือการ์ดลงทุน(Invest Card)! มันคือหนึ่งในขุมกำลังหลักของโบรกเกอร์ มีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้นห้าประเภทที่สำคัญ ได้แก่ การ์ดอัญเชิญ(Summon) การ์ดความสามารถ(Ability) การ์ดจู่โจม(Attack) การ์ดอาวุธ(Weapon) การ์ดกับดัก(Trap) แต่ละใบจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน ทุกครั้งที่ใช้งานจำเป็นต้องใช้เงินในบัญชีในการดำเนินการ ยิ่งราคาที่ต้องจ่ายแพงเท่าไหร่ประสิทธิภาพทีได้รับก็ยิ่งสูงตามไปด้วย”

[Attack Card : ลูกไฟบรรลัยกัลป์ 12,950 Coin]

คุณสมบัติ:สร้างเปลวเพลิงขนาดใหญ่ออกมาโจมตีเป้าหมาย

เสียงสังเคราะห์ดังขึ้นเมื่อการ์ดถูกเสียบเข้าไปในช่องสีดำรูปร่างคล้ายตลับเทป

“เช็ค”

[Payout Complete (ชำระเสร็จสิ้น) ]

เปลวเพลิงขนาดใหญ่ก่อรูปร่างขึ้นกลางอากาศ และขยายกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นลูกบอลไฟขนาดใหญ่ มาสเตอร์อินเวสเตอร์เบิกตาโพลงควงไม้เท้าชี้ไปที่หุ่นไม้ตนเดิมส่งผลให้ลูกไฟพุ่งเข้าใส่เป้าหมายจนเกิดระเบิด

หุ่นไม้ที่มีสภาพสมบูรณ์ถูกแผดเผาและมีชิ้นส่วนถูกทำลายจนกระเด็นไปทั่วทิศทาง เหล่าโบรกเกอร์พากันมองภาพตรงหน้าด้วยความอัศจรรย์ พอคิดว่าตนเองก็สามารถทำเช่นนั้นได้เหมือนกันก็พลันบังเกิดความรู้สึกตื่นเต้น ยินดีปรีดากันยกใหญ่

โบรกเกอร์ที่อยู่ที่นี่แทบทั้งหมดเป็นวัยรุ่นถึงคนวัยทำงานตอนต้น หลายคนเคยมีความใฝ่ฝันที่จะใช้พลังวิเศษเหมือนในหนังซุปเปอร์ฮีโร่หรือขบวนการพิทักษ์โลก การที่มีพลังไว้ในครอบครองช่างเป็นอะไรที่วิเศษมากในสายตาของพวกเขา

“การ์ดที่ข้าใช้ไปคือการ์ดจู่โจมมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตี แต่ไมได้หมายความว่าเราจะใช้มันได้ทุกเมื่อ เพราะสต๊อกการ์ดจะสุ่มการ์ดขึ้นมือให้ทุกสองนาทีครึ่ง เพราะฉะนั้นจึงไม่มีทางรู้เลยว่าการ์ดที่จะได้รับมีอะไรบ้าง พวกเจ้าทุกคนต้องอย่างพึ่งพาพลังของการ์ดจนเกินไป!”

เมื่อมาสเตอร์อินเวสเตอร์พูดจบประโยค ก็มีประตูบานใหญ่ปรากฏขึ้นก่อนที่จะค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ ให้หัวใจของเหล่าโบรกเกอร์เต้นไม่เป็นส่ำว่าจะมีตัวอะไรโผล่มาอีกหรือไม่ แต่ก็ต้องโล่งอกเมื่อพอมองเข้าไปกลางในกลับพบหอสมุดขนาดใหญ่มหึมาตั้งตระหง่านอย่างองอาจ

“จงใช้เวลาที่เหลืออยู่ค้นคว้าด้วยตนเอง โปรแกรมการฝึกจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า จงอุตสาหะ โบรกเกอร์ จงขัดเกลาตนเองให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และนี่คือรางวัลของผู้มีชัย!”

แสงสว่างปรากฏขึ้นบนอากาศราวสามร้อยกว่าจุดก่อนที่จะค่อยๆ คล้อยลงต่ำเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดลงตรงหน้าของโบรกเกอร์กลุ่มหนึ่งรวมถึงไลท์

มันเป็นแหวนที่มีใบหน้าของชายผู้หนึ่งที่พวกเขาไม่รู้จัก ตัวแหวนถูกสร้างด้วยทองคำสลักลวดลายให้ความรู้สึกมีมนต์ขลังบางอย่างที่ให้ความรู้สึกฮึกเหิมเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ามันมาไว้ในมือ

“แหวนทองคำที่ถูกสลักลวดลายด้วยตัวอักษรพิเศษ บนตัวแหวนจารึกด้วยใบหน้าของกษัตริย์ที่ถูกขนานนามว่าเป็นจ้าวแห่งความมั่งคั่งเละรุ่งเรือง ไมดาสผู้สัมผัสทองคำ! จงรับไว้ โบรกเกอร์ จงเติบโตให้รวดเร็วยิ่งกว่าใคร และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า”

ไลท์เผยรอยยิ้มออกมาที่มุมปากก่อนจะสวมแหวนเข้าที่นิ้วนางข้างขวา ดวงตาฉายแววออกไปที่นอกประตูบานนั้นที่ซึ่งมีทุกสิ่งที่เขาต้องการรอคอยอยู่ ที่ซึ่งคนอื่นๆ พากันแย่งกันเข้าไปกันอุตลุด

‘ให้มันได้แบบนี้สิ’

มาดูสิว่าฉันจะทำอะไรได้บ้าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด