DC บทที่ 12: เปี่ยมล้นด้วยความสุข
มือที่มั่นคงของซูหยางยื่นไปด้านหลังของผู้อาวุโสหลาน ใบหน้าสงบนิ่งดังกับไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ เหมือนเป็นเรื่องปกติ
วินาทีต่อมาเขายกชายเสื้อเธอขึ้น เผยให้เห็นถึงบั้นท้ายขาวราวหิมะ ชั้นในไหมสีแดง และขาขาวเรียวยาว
สะโพกเธอกลมกลึงเปล่งปลั่งเจริญตาราวไข่มุกสวยคู่หนึ่งวางชิดกัน แม้ในชีวิตก่อนซูหยางยังไม่ค่อยเห็นหญิงสาวที่มีบั้นท้ายสวยไร้ที่ติเช่นผู้อาวุโสหลาน
เขาค่อยสัมผัสอย่างแผ่วเบาราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าที่เปราะบาง ทันทีที่นิ้วของซูหยางแตะไปบนผิวสวยเหมือนหยกเนื้อดีของผู้อาวุโสหลาน ร่างเธอสั่นสะท้าน เขาค่อยกดนิ้วทั้งสิบลึกลงไปในแก้มก้นที่อ่อนนุ่มส่งคลื่นความสุขแผ่ไปทั่วร่างของเธอ
“อาาาา..” ผู้อาวุโสหลานร้องครางอย่างลืมตัวเมื่อความสุขสมพลันแทรกเข้ามาท่ามกลางความเจ็บปวดลึกล้ำ เธอไม่อาจใส่ใจกับสิ่งที่ซูหยางทำด้านหลังเธอและถึงจะเป็นอะไรก็ตามเธอต้องการมากกว่านี้
ซูหยางนวดบั้นท้ายเธอต่อเนื่องและวิธีที่เขานวดดูเหมือนกับเขานวดแป้งขนมปัง แต่ละการเคลื่อนไหวแม่นยำไร้ที่ติ
ความเจ็บปวดของผู้อาวุโสหลานลดลงไปมากและความสุขสบายท่วมท้นเธออย่างรวดเร็ว
“อาา… ขออีก… อาา...” ร่างของเธอเริ่มเกิดกำหนัด และเธอร้องขอเพิ่มโดยไม่รู้ตัว ดวงตาสีดำส่องประกายราวดาราบนฟ้าค่ำ รอยดำปรากฏบนชั้นในระหว่างขาสองข้าง แผ่ขยายออกทีละน้อยและดำขึ้นกว่าเดิม
ริมฝีปากใต้หัวเหน่าเธอพลันเสียวกระสัน ร่างเธอเริ่มสะท้านหนักขึ้น ผู้อาวุโสหลานรู้สึกกลัวและกังวล เธอรู้ว่าความสุขสบายนี้คงต้องแผดเผาร่างกายและวิญญาณ แต่เธอก็ไม่ได้บอกให้ซูหยางหยุด
“บ..บางอย่าง… กำลังจะออก...” เธอรู้สึกเหมือนถูกกระตุ้นให้ฉี่
เวลานั้นเองซูหยางสอดนิ้วเข้าไปในชั้นใน สัมผัสส่วนที่ไวต่อความรู้สึกที่สุดในร่างเธอ เม็ดละมุด
ทันทีที่นิ้วของเขาสัมผัสกับอัญมณีงามสีชมพูเล็กๆ ผู้อาวุโสหลานรู้สึกเหมือนกับร่างกายถูกสายฟ้าฟาด ปิดกั้นร่างกายจิตใจในทันที และในชั่วเวลานั้นเขื่อนกั้นน้ำในตัวเธอก็เปิดออกเป็นเหตุให้สายน้ำวาวระยับพุ่งออกดุจน้ำพุ
“อาาา” เป็นครั้งแรกในชีวิตของผู้อาวุโสหลานที่ได้รับประสบการณ์การสำเร็จความใคร่
ซูหยางถอนมือที่เปียกแฉะด้วยน้ำหวานพรหมจารีของผู้อาวุโสหลานออก และเช็ดให้แห้งด้วยเสื้อของตนเอง
“เมื่อพลังหยินในร่างเจ้ามิเสถียร วิธีอื่นเดียวที่ทำได้ก็คือให้ร่างเจ้าปล่อยมันออกมา” ซูหยางพูดกับผู้อาวุโสหลานผู้ซึ่งนอนเหยียดยาวบนพื้นเย็น ร่างของเธอยังคงบิดกระตุกจากผลตกค้าง เขาพูดต่อ “ข้ายังจะให้ตำรับยาเจ้า ให้มั่นใจว่าเจ้ากินมันทุกวัน มิฉะนั้นอาการเจ็บจะกลับมาก่อนที่จะถึงการรักษาครั้งต่อไป”
“ฮ่าาา.. ฮ่าา… ฮ่าาาา...” ผู้อาวุโสหลานไม่อาจตอบคำ เธอวุ่นอยู่กับการหอบหายใจ จิตใจเธอสับสนเหมือนกับสัตว์ร้ายนับพันอาละวาดอยู่ภายใน
ซูหยางไม่ได้รบกวนเธอและตรงไปล้างมือ หลังจากนั้นเขานำเอากระดาษและปากกาออกมาเขียนตำรับยา
เมื่อเวลาที่เขาเขียนเสร็จ ผู้อาวุโสหลานก็เพิ่งสงบ…จิตใจ เธอขยับตัวออกจากพื้นและมองซูหยางด้วยรังสีอำมหิต ใบหน้าแดงราวมะเขือเทศ
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในขณะนั้น เหมือนเวลาถูกหยุดไว้โดยผู้อาวุโสหลาน ไม่เคยสักครั้งในชีวิตที่เธอจะคาดคิดว่าร่างกายของเธอจะถูกใช้เป็นของเล่นทำนองนั้นโดยศิษย์นอกสามัญไร้ความโดดเด่น เพียงแค่คิดถึงท่าทางไร้ยางอายที่เธอทำและกิริยาหยาบคายที่เธอแสดงออกระหว่างการรักษาก็เพียงพอที่จะทำให้เธออยากฆ่าตัวตาย ซ้ำร้ายความจริงที่ว่าเธอชอบมันมากยิ่งทำให้รู้สึกแย่
“นี่คือตำรับยาสำหรับเจ้า อย่าลืมเอาไปด้วย...” ซูหยางยื่นแผ่นกระดาษให้เธอ
"..."
มองเธอนั่นอยู่ตรงนั้นราวรูปปั้นหิน ซูหยางถอนใจ “อย่าคิดมากเกินไป มันเป็นแค่การรักษาอาการป่วยของเจ้า เพียงแค่ทำเหมือนมิมีอะไรเกิดขึ้น...”
“...ทำเหมือนมิมีอะไรเกิดขึ้น.. เจ้าคิดว่าข้าสามารถทำอะไรแบบนั้นได้” ผู้อาวุโสหลานตะโกนขึ้นทันใด จนซูหลานถึงกับเลิกคิ้ว
“ร่างข้าตอนนี้สกปรกเพราะมือเจ้า ความพยายามที่ข้าใช้เพื่อรักษาร่างพรหมจรรย์ล้วนไร้ค่า มิต้องพูดถึงว่าเจ้าเป็นแค่ศิษย์นอกไร้ความสำคัญและข้าเป็นผู้อาวุโสนิกาย เจ้าจะรับผิดชอบได้อย่างไร”
“สกปรก” ซูหยางขมวดคิ้วในทันใด “ช่างเนรคุณ แม้หลังจากความพยายามที่ข้าใช้ในการช่วยเหลือเจ้าจากความทรมาน เจ้ารู้ไหมว่ามีหญิงมากมายในโลกที่ยินยอมตายเพื่อให้ข้าได้สัมผัสร่าง ฮึ่มม ออกไป” เขาแค่นเสียงเย็นเยียบ รู้สึกโกรธเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มเกิดใหม่
ผู้อาวุโสหลานชะงักค้างหลังจากเห็นความเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูหยางที่ปรกติวางเฉย ความกลัวปรากฏขึ้นในใจเธอ
“ข..ข้า” ผู้อาวุโสหลานกัดฟันบังคับตนเองให้ลุกขึ้นแม้จะไม่มีกำลังเหลือบนขา เธอพยายามเดินออกจากประตู… หลังจากล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้งบนเส้นทาง
หลังจากผู้อาวุโสหลานพ้นจากคลองจักษุ ซูหยางล้มตัวลงบนเตียงด้วยสภาพเหนื่อยล้า “จริงเลย...หญิงเนรคุณ..” เขายิ้มขื่นขมก่อนเคลิ้มหลับไป
ปล. ต้องการสอบถามความเห็นท่านผู้อ่าน เนื่องจากบทหลังๆ จะมีการกล่าวถึงอวัยะเพศตรงๆ ในฐานะผู้แปล การแปลออกไปตรงๆ ตามภาษาไทยนั้นดูไม่สุภาพมาก ผมจึงคิดว่า
โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ