ตอนที่ 32 ร่วมมือ
เมื่อถุงเหนือหัวหานเซี่ยวถูกถอดออก เขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องสว่างแสบตา เขาต้องใช้เวลาให้ดวงตาปรับเข้ากับแสงสักพัก
เขานั่งบนเก้าอี้โลหะเย็นด้านหน้าโต๊ะ มันเป็นห้องสืบสวนทั่วไปที่มีกระจกทางเดียวด้านข้างหานเซี่ยว
คนสองคนกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะ : หลี่ ฮุ่ยและเฟิง จุน
“ขอให้ผมได้แนะนำตัวก่อน ผมเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับจากแผนกป้องกันของมังกาดรา”เฟิงจุนพูด“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้พบกัน คุณจำได้ไหม?”
“ผมจำได้”หานเซี่ยวตอบกลับอย่างเฉยเมย“ผู้ชายกระเป๋าหนัก”
เฟิงจุนพูดไม่ออก ช่วยไม่พูดเรื่องนั้นไม่ได้รึไง?
“แผนก13 หลี่ฮุ่ย”หลี่ฮุ่ยแนะนำตัว สีหน้าและลักษณะการพูดของเขาเย็นชาอย่างมาก
แผนกป้องกันของมังกรดาราประกอบไปด้วย13ส่วนและถูกเรียกว่าแผนก13
“เราควรเรียกคุณว่าหานเซี่ยวหรือซีโร่?”เฟิงจุนถาม
“ตามที่พวกคุณชอบ”
“หยุดพล่ามได้แล้ว”หลี่ฮุ่ยกล่าวแทรก“อธิบายมาว่าทำไมองค์กรต้นกำเนิดถึงตั้งค่าหัวคุณหนึ่งล้านและบอกเราทุกอย่างที่คุณรู้”
“ทำไมผมถึงควรบอกคุณ?”หานเซี่ยวถาม
หลี่ฮุ่ยหัวเราะอย่างเย็นชา
“คุณคิดว่าสถานที่นี้คืออะไร?หากเราอยากให้คุณพูด คุณก็ต้องพูด!”
“แล้วหากผมไม่ละ?”หานเซี่ยวเยาะเย้ย“จะยิงผม?”
“คิดว่าฉันไม่กล้า?”หลี่ฮุ่ยคำราม
“พอ พอได้แล้ว!สงบสติลง หานเซี่ยว คุณควรรู้ว่าเรามาจากรัฐบาล หากคุณร่วมือ เราจะไม่ทำอะไรกับคุณอย่างแน่นอน”
หานเซี่ยวยิ้มและปรับเปลี่ยนท่านั่งสบายๆก่อนตอบ“ตำรวจดี ตำรวจเลว ไม่คิดว่าวิธีนี้มันล้าสมัย?อย่างน้อยคุณก็ควรลองทำอะไรที่แตกต่าง?ผมคิดว่าควรหาสาวสวยมาสักคน การคุยกับชายชราแสนโหดเหี้ยมสองคนช่างไม่น่าเสวนาเอาสักเลย ช่วยยิ้มให้หน่อยสิ เข้าใจไหม?ไม่เอาน่า ยิ้มหน่อย”
หานเซี่ยวตอกตะปูตรงจุด เฟิงจุนยิ้มแห้งและสื่อสารกับหลี่ฮุ่ยผ่านสายตา เขาถีบตัวขึ้นด้วยความโกรธและชี้หน้าหานเซี่ยวพลางตะโกน“นี่ไม่ใช่สถานที่ที่แกจะมาเล่นตลก!ฉันมีอำนาจทีท่จะกักขังแกตราบเท่าที่ฉันต้องการ”
“น่ากลัวจังเลย”หานเซี่ยวหัวเราะเยาะก่อนจะหุบรอยยิ้มบนใบหน้าและกล่าวเสริม“ผมมาจากองค์กรต้นกำเนิด ภัยคุกคาม?คุณคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะใช้ได้กับผม?ไม่เอาน่า คุณกำลังหลอกตัวเองอยู่ หากคุณอยากร่วมมือกับผม ก็ได้!แค่คุณแสดงความจริงใจออกมา!ให้คนที่มีคุณสมบัติพอจะพูดกับผมเข้ามา ไม่ใช่พวกคุณสองคน!”เมื่อหานเซี่ยวพูดจบประโยค เขาก็เอนหลัง กระแทกเก้าอี้เสียงดัง
เฟิงจุนและหลี่ฮุ่ยมองหน้ากัน หน้าที่พวกเขาคือการหาจุดยืนของหานเซี่ยว และหานเซี่ยวก็รู้เรื่องนี้ดี ซึ่งทำให้เขากล้าประกาศอย่างไร้ความกลัว
ทันใดนั้น เสียงดังกังวานก็ถูกส่งผ่านลำโพงในห้องสืบสวน“ได้ตามที่คุณขอ ผมจะคุยกับคุณเอง”
“คุณเป็นใคร?”หานเซี่ยวถามพลางหันไปมองกระจกด้านเดียว
“แผนก13 ผู้อำนวยการหน่วยสืบลับ ผมมีคุณสมบัติพอจะคุยกับคุณไหม?”
“ผมเดาว่าได้”หานเซี่ยวตอบอย่างเฉยเมย
ดวงตาของหลี่ฮุ่ยและเฟิงจุนเบิกกว้าง หน้าด้านเสียจริง!
ผู้อำนวยการหน่วยสืบลับเล่นตามน้ำและเริ่มถาม”คุณเพิ่งบอกว่าคุณมาจากองค์กรต้นกำเนิด-
“ผมเคย”หานเซี่ยวแก้ไข
“งั้น คุณก็ถอนตัวแล้ว?”
“ใช่”
“ตำแหน่งของคุณคืออะไร?”
“เจ้าหน้าที่วิจัยโลจิสติกส์”
“คุณวิจัยเรื่องอะไร?”
“เครื่องจักรและอาวุธ”
“โกหก”ผู้อำนวยการกล่าวตัดคำ“แล้วคุณจะอธิบายเรื่องค่าหัวคุณได้ยังไง?”
หานเซี่ยวยิ้ม-เขาคาดหวังกับคำถามนี้ไว้มาก
“แทนที่จะเรียกผมว่าคนโกหก ไม่ใช่ว่าพวกคุณสันนิษฐานไว้แล้วว่าผมครอบครองข้อมูลสำคัญ?ไม่ว่านั่นทำให้พวกคุณคอยสอดแนมผม?”เขาตอบกลับ“ข้อมูลสามารถใช้เป็นอาวุธได้-แต่ต้องไม่อยู่ผิดมือ ผมได้ออกจากเส้นทางผมเพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจร่วมมือ ผมไม่ใช่ศัตรูพวกคุณ องค์กรต้นกำเนิดต่างหาก และพวกเขาก็คือศัตรูผมเช่นกัน”
“ทำไมเราควรร่วมมือกับคุณ?”ผู้อำนวยการถาม“ลองมองรอบตัวคุณ-คุณอยู่ในอาณาเขตเรา เรามีอุปกรณ์มากมายที่จะทำให้คุณเปิดปาก!”
หานเซี่ยวหยุดยิ้มไปสักพักก่อนกล่าว“บันทึกข้อความ : ปฏิทินกาแล็กซี่ปี687 วันที่14มิถุนายน ตำแหน่งสัญญาณ:ดาวเคราะห์อความารีน ปลายทาง:ฐานที่8ของดาวเคราะห์ดาราทมิฬ เนื้อหาของข้อความเป็นความลับสูงสุด”
ผู้อำนวยการนิ่งเงียบอยู่สิบนาทีเต็ม
หลี่ฮุ่ยและเฟิงจุนผงะเมื่อตระหนักว่าแม้สิ่งที่หานเซี่ยวพูดจะฟังดูไม่เข้าใจสำหรับพวกเขา แต่มันกลับดูล้ำค่าต่อผู้อำนวยการที่ต้องส่งข้อมูลนี้ให้กับเบื้องบน
หลังรออยู่นาน ผู้อำนวยการก็พูดผ่านลำโพงอีกครั้ง ครั้งนี้ น้ำเสียงเขากลับดูจริงจังอย่างมาก
“คุณแน่ใจ?”เขาถามโดยตรง
“ไม่งั้นผมจะรู้จักดาราทมิฬได้ยังไง?”
“....”
ผู้อำนวยการสวมสีหน้าหนักอึ้ง หากข้อมูลที่หานเซี่ยวมอบให้เขาเป็นจริง มันก็ถือเป็นวิกฤติต่อทั้งดาวเคราะห์ ไม่ใช่แค่มังกรดารา
หานเซี่ยวแสยะยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขาเตรียมตัวมาดี
ในยุคแห่งการสำรวจ มีขุมพลังสามแห่งที่ต่อสู้กันมานานหลายหมื่นปี แม้มันจะใช้เวลานาน แต่ในที่สุดทั้งสามขุมอำนาจก็ทำข้อตกลงและยุติการต่อสู้กัน พวกเขาตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อความสงบสุข ความเรียบร้อยและความก้าวหน้า
จักรวาลนั้นกว้างใหญ่ไพศาล มันเต็มไปด้วยดวงดาวนับไม่ถ้วนและรูปแบบชีวิตอันยิ่งใหญ่จากทุกมุมอวกาศ ข้อมูลจำนวนมหาศาลถูกถ่ายทอดไปทั่วจักรวาลอย่างต่อเนื่องผ่านเทคโนโลยีและการรวมกันของความคิดและเจตจำนงค์ของชีวิตในจักรวาลก็ได้ยกปรากฏการณ์ที่เรียกว่า’เสียงกระซิบแห่งจักรวาล’
แม้จักรวาลจะดูสงบสุขและมั่นคง แต่ในความเป็นจริง มันกลับเต็มไปด้วยความโกลาหล
อารยธรรมทุกประเภทล้วนเกิดขึน้พร้อมกัน-นับแต่การชื่นชมอวกาศจนถึงการสงสัยว่าพวกเขาเป็นเพียงคนกลุ่มเดียวหรือไม่ ในความโอหัง พวกเขาจึงคิดพิชิตทั่วกาแล็กซี่ของตนก่อนจะเข้าสู่จักรวาลอันกว้างใหญ่ คิดว่าพวกเขาคือผู้ถูกลิขิต-เพียงเพื่อจะพบว่าพวกเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
จักรวาลที่ถูกสำรวจสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายส่วน ตัวอย่างเช่น : เทือกสลาย แดนดาราโบราณ เกลียวเงินและทะเลพิศุทธิ์ แต่ละส่วนเหล่านี้จะประกอบไปด้วยกลุ่มดาวหลายสิบกลุ่ม แต่ละกลุ่มดาวยังมีกาแล็กซี่เป็นจำนวนมาก อันเป็นที่ตั้งของระบบดาวเคราะห์หรือระบบดวงดาวที่เป็นเลขรหัส ที่ตั้งของดาวเคราะห์มากมาย และพวกมันก็ก่อตัวกันเป็นเกมแห่งห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่อย่าง’กาแล็กซี่’
เทือกสลาย-กลุ่มดาวโคลตัน-สวนอวกาศ-ระบบที่9-ดาวเคราะห์อความารีน นี่คือพิกัดของดาวเคราะห์อความารีนในจักรวาลอันกว้างใหญ่ มันเป็นการรวมกันของคำพูดและตัวเลขที่ได้จากการใช้เลขคณิตศาสตร์อันซับซ้อน
พลังของดวงดาวที่เข้ามาติดต่อกับอความารีนเป็นอารยธรรมชั้นสูงของสวนอวกาศ เคโดลาส ‘ดาราทมิฬ’ที่หานเซี่ยวอ้างถึงแต่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของเคโดลาส แต่พวกเขาก็ต้องล่มสลายด้วยความพยายามยึดอำนาจและตอนนี้ก็กลายเป็นศัตรูสุดขมขื่น
โลกของ’กาแล็กซี่’กว้างใหญ่ และหลายขุมอำนาจก็ขัดแย้งกันเสมอ ระดับความก้าวหน้าของอารยธรรมส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความสามารถการเดินทางในห้วงอวกาศ ด้วยความที่เคโดลาสสามารถเดินทางไปมาระหว่างระบบดวงดาวได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งรูหนอนหรือประตูดวงดาวที่พวกอารยธรรมชั้นสูงคิดค้นขึ้น พวกเขาจึงถือเป็นอารยธรรมในระดับกาแล็กซี่ ซึ่งสูงกว่าดาวเคราะห์อความารีนมาก
หากองค์กรต้นกำเนิดได้ติดต่อกับดาราทมิฬและได้รับกำลังสนับสนุนจริง นั่นย่อมถือเป็นวิกฤติต่อ6ประเทศ ขุมอำนาจชั่วร้ายอย่างพวกเขาย่อมไม่ใส่ใจกับกฏการสำรวจที่ถูกตั้งโดนสามมหาอำนาจ : สนธิสัญญาแห่งจักรวาล(ปัจจุบันถือเป็นฉบับที่7)
ความจริงที่อความารีนได้รับการติดต่อโดยขุมพลังระดับดวงดาวถือเป็นความลับสุดยอดของ6ประเทศ ดังนั้น ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองลับเช่นเขาจึงเชื่อว่าหานเซี่ยวกำลังพูดความจริง และนี่ก็ทำให้เขาหวั่นวิตกอย่างมาก
แต่ทว่า ความจริงก็คือองค์กรต้นกำเนิดไม่ได้ติดต่อกับดาราทมิฬ หานเซี่ยวเพียงแต่งขึ้นเพราะมันย่อมไม่อาจตรวจสอบได้ มันก็แค่กลยุทธ์เพื่อสร้างคุณค่าให้ตัวเขา แต่ก็ยังเป็นการต่อต้านองค์กรต้นกำเนิดไปในตัว นอกจากนี้ มันยังช่วยให้เขาทำภารกิจหลักสำเร็จอีกด้วย
ดาวเคราะห์เริ่มต้นทั้งหมดตั้งอยู่ค่อนข้างห่างไกลกัน อย่างไรก็ตาม มีบริการท่องเที่ยวระหว่างดวงที่ใครก็สามารถติดต่อได้ตราบเท่าที่มีอุปกรณ์ที่สามารถสื่อสารผ่านดวงดาว พวกมันจะค้นหาตำแหน่งของอุปกรณ์ส่งสัญญารและมาหาผู้ซื้อ ตราบเท่าที่มีเงินพอ แม้จะเป็นทัวร์ทั่วจักรวาลก็ยังไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ เหนือสิ่งอื่นใด หากผู้เล่นดาวอื่นๆไม่อาจมาหากันได้ แล้วจะมีการแข่งขันและทัวร์นาเมนต์ในกาแล็กซี่ได้ยังไง?กิจกรรมเกมส่วนใหญ่จะถูกจัดบนดาวเคราะห์ที่เป็นกลางหรือดาวร้าง
“เอาแผนที่มังกรดาราและปากกามา”หานเซี่ยวกล่าวขึ้น
เฟิงจุนรีบนำของมาวางบนโต๊ะ หานเซี่ยวหยิบปากกาและวงกลมตำแหน่งสามจุดบนแผนที่“นี่คือฐานลับทั้งสามแห่งขององค์กรต้นกำเนิดในมังกรดารา ถือซะว่ามันเป็นของขวัญสำหรับความสัมพันธ์เรา”
“คุณรู้แค่3?”
หานเซี่ยวกลอกตา
“ไม่อย่างแน่นอน แต่คุณสามารถไปตรวจสอบจุดเหล่านี้ได้ก่อน เราสามารถคุยกันเพิ่มทีหลังได้”
“เงื่อนไขของคุณคืออะไร?”ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองลับถาม(เปลี่ยนจากหน่วยสืบ เอาจริงๆก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไร)
“ผมก็แค่อยากร่วมมือเพื่อต่อต้านองค์กรต้นกำเนิด”หานเซี่ยวตอบด้วยรอยยิ้มลึกลับ
แค่นั้น?ผู้อำนวยการคิดกับตัวเอง
“ผมจะถ่ายทอดการสนทนาของเราให้กับเบื้องบน ขออภัย แต่คุณต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้รับคำสั่งมา”
ตุบ!
ไมค์ถูกปิด
หานเซี่ยวขมวดคิ้วขณะขยับข้อมือเขา
“อย่าใช้เวลานานไปละ ผมมีวันหยุดแค่วันเดียว”