TQF:บทที่ 25 ประทับสองมือบนใบหน้า
TQF:บทที่ 25 ประทับสองมือบนใบหน้า
คำพูดของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ทำให้ใบหน้าของทุกคนดำคล้ำ พวกเขาทุกคนรู้ว่า หงเหนียง นั้นทำเกินไป ครอบครัวเฉิงไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ถูกคุกคามโดย หงเหนียง ทุกคนต่างพูดไม่ออก
นางเฉิงรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเช่นกัน แน่นอนว่าชาวบ้านหมู่บ้านต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่ก็มีผู้หญิงปากร้ายเพียงไม่กี่คนเช่น หงเหนียง ที่พยายามคุกคามเธออยู่เสมอ เธออดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมการสนทนานี้
“ผู้เฒ่าหลิว ครอบครัวของข้าหนีมาอยู่ที่นี่เมื่อ 3 ปีก่อน พวกเราซาบซึ้งอย่างยิ่งที่พวกท่านให้เราอาศัยอยู่ที่นี่ เราไม่ได้ใช้พื้นที่ในหมู่บ้านหรือไม่ได้ไปแย่งทุ่งนาของพวกท่าน เราเลือกดินแดนที่แห้งแล้งและมอบเงิน 1 ตําลึงให้แก่ทุกคนด้วยหวังว่าพวกเราจะเป็นที่ยอมรับ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาสามีของข้าได้ให้ความช่วยเหลือแก่ทุกคน เขายังสร้างเครื่องมือในการล่าสัตว์สำหรับท่าน พวกเราคิดว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านต้นไม้และคิดว่าทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ตอนนี้ มีบางคนดูถูกลูกสาวข้าจากนั้นพวกเขายังมารุกรานที่บ้านของเรา เป็นเพราะในตอนนี้สามีของข้านั้นบาดเจ็บทำให้ตอนนี้บ้านเราไม่มีผู้ชายที่จะสามารถป้องกันได้ ดังนั้นพวกท่านจึงจงใจรังแกครอบครัวเราใช่หรือไม่?”
ทุกคนดูอับอาย ข้างในลึกๆทุกคนรู้ว่าครอบครัวเฉิงนั้นเป็นคนดี การช่วยเหลือหมู่บ้านมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฉิงไป๋หยวน เขาได้ช่วยสร้างเครื่องมือในการล่าสัตว์ ไถนาและซ่อมแซมบ้าน..
นางเฉิงพูดถูกครอบครัวเฉิงปฏิบัติต่อชาวบ้านราวกับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว พวกเขาให้ความช่วยเหลือหมู่บ้านทุกครั้ง และเป็นความจริงที่ว่าไม่มีใครใส่ใจในการคุกคามของ หงเหนียง แต่ในวันนี้ หงเหนียง นั้นได้ข้ามเส้นเกินไป ทุกคนจึงรู้สึกหงุดหงิดและอับอายเมื่อได้ยินคำพูดของครอบครัวเฉิง
เฉิงไป๋หยวน เคยสอนหลิวซานซินในเรื่องเทคนิคการล่าสัตว์ เขารู้สึกขอบคุณเสมอมาแต่เขาต้องรู้สึกอับอายมากๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของภรรยาของเขาดังนั้นเขาจึงตะโกนใส่นาง
“เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า รีบขอโทษครอบครัวเฉิงเร็วเข้า!”
“หลิวซานซิน ท่านเสียสติหรอ?กล้าดียังไงมาตะโกนใส่ข้า คอยดูเถอะข้าจะจัดการท่านในคืนน--”หงเหนียง ตะโกน
“เพลี้ย!”
เสียงตบดังสนั่น จน หงเหนียง กรีดร้องออกมาทำให้ทุกคนตกใจ ไม่มีใครคาดคิดว่า หลิวซานซินจะลงมือกับภรรยาของเขา
แม้แต่ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เองก็ยังมองหลิวซานซินด้วยความหวั่นเกรง เมื่อเธอมองไปที่ หงเหนียง ใบหน้าอวบอ้วนของเธอนั้นปรากฏรอยแดงของฝ่ามือเด่นชัด
“ท่าน...ท่านตีข้าหรอ!” หงเหนียง สั่นเทาด้วยความโกรธดวงตาของนางปูดโปนอย่างไม่น่าเชื่อ
หลิวซานซิน โกรธอย่างมาก แม้เขาจะรักภรรยาของเขาแต่เขาเป็นคนที่มีศักดิ์ศรีสิ่งที่ หงเหนียง ทำในวันนี้มันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจและน่าอับอาย
“ทำไมข้าจะทำไม่ได้ เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังทำอะไรลงไป?พี่ชายเฉิงและน้องสาวเฉิงทำอะไรให้กับเจ้าบ้าง พวกเขาเคยทำร้ายเจ้าหรือเปล่า มองดูที่ตัวเองสิทำอะไรลงไป กลับดิ้นรนมาที่นี่เพื่อขโมยของของพวกเขา!”
หลิวซานซิน โมโหเป็นอย่างมากและชี้ไปที่จมูกของนาง และพูดต่อ
“ข้าไม่สนใจว่าเจ้าอยากจะได้อะไรจากที่นี่หรือที่นั่น ข้ายอมให้เจ้านินทาคนอื่น แต่ตอนนี้เจ้ากลับกลายเป็นขโมย ไม่เพียงแค่นั้นเจ้ายังปฏิเสธที่จะยอมรับผิดและดูถูกคนอื่นอีก เจ้ามีสิทธิ์อะไรในการขับไล่พี่ชายเฉิงและครอบครัวของเขา?เจ้าต่างหากที่สมควรเป็นคนถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านต้นไม้ เจ้านำความอับอายขายหน้ามาให้แก่พวกเรา!”
“หลิวซานซิน ท่านคิดว่าท่านเป็นใคร กล้าที่จะทุบตีข้า เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ! เมื่อข้ากลับไปที่บ้านข้าจะให้น้องชายของข้าทุบตีท่านเช่น--”
“เพลี้ย!”
เสียงตบดังอีกครั้ง หงเหนียง รู้สึกตกตะลึงตอนนี้หน้าของเธอมีรอยนิ้วมือบนแก้มทั้งสองข้าง เมื่อมองเห็นสายตาอันโกรธเคืองของหลิวซานซิน ที่ส่งสัญญาณว่าหากไม่หยุดพูดนางคงโดนอีกครั้ง หงเหนียง จึงปิดปากเงียบ
“จำไว้ ได้สิ่งที่ข้าได้พูดออกไป หากเจ้ายังกระทำเรื่องน่าอายแบบนี้อีกครั้ง ข้าจะหย่ากับเจ้าและขับไล่เจ้าออกไปจากหมู่บ้านต้นไม้ แม้เจ้าไม่มีความละอายแต่ข้านั้นอับอายในสิ่งที่เกิดขึ้น!”
“....” นี่เป็นครั้งแรกที่ หงเหนียง ปิดปากเงียบและก้มหน้าลง นางกลัวการหย่าร้าง นางยอมตายมากกว่าการโดนหย่า!
ชาวบ้านคนอื่นๆต่างถอนหายใจ สุดท้ายแล้ว หงเหนียงได้เพียงมองครอบครัวเฉิงอยู่ที่นี่ต่อไป นางรู้สึกอิจฉาในความใจดีและอ่อนโยนของนางเฉิง นางอิจฉาที่นางเฉิงนั้นงดงามกว่าใครในหมู่บ้านแห่งนี้ นั่นคือเหตุผลที่นางกำหนดเป้าหมายโจมตีมาที่ครอบครัวเฉิงตลอด
โดยปกติแล้วถ้า เฉิงไป๋หยวน ไม่ได้รับบาดเจ็บนางคงไม่มีวันที่จะสร้างความวุ่นวายให้กับครอบครัวเฉิงได้ขนาดนี้
เมื่อเห็นว่า หงเหนียง ได้รับการสั่งสอนอย่างไรด้วยการตบ 2 ครั้งทำให้ความโกรธของ เฉิงเสี่ยวเสี่ยว เกือบจะหมดไปเธอมองไปที่กลุ่มชาวบ้านที่อยู่เบื้องหน้าเธอยิ้มและพูดว่า
“ท่านปู่หลิว ท่านลุงและท่านป้าคนอื่นๆ เชิญเข้ามาพักผ่อนในบ้านของเราก่อน ไม่มีใครมาเยี่ยมเราเป็นเวลานานแล้ว”
“อ่า..แม่นางเฉิงเจ้าสุภาพเกินไปแล้ว!”
ผู้เฒ่าหลิวยิ้มอย่างร่าเริงจากนั้นหันหน้าไปทาง หงเหนียง อย่างรวดเร็วและพูดว่า
“ภรรยาของซานซิน เจ้าได้ทำเกินไปพวกเราทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ควรมารังแกกัน ในตอนที่ท่านเฉิงยังคงสบายดีเขาได้ช่วยเหลือพวกเราอย่างมากมายรวมทั้งครอบครัวของเจ้าด้วย เจ้าอย่าได้เป็นคนเนรคุณ ระวังกรรมจะตามทัน!”
“หงเหนียง พวกเราทุกคนเห็นด้วยว่าเจ้าไม่สมควรต้องรังแกนางเฉิง ดูสิเจ้าได้ขโมยผักที่กำลังเติบโตและยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังต้องการขับไล่พวกเขาไปอีก เจ้าไม่คิดว่าเรื่องนี้มันเป็นแค่เรื่องเล็กใช่ไหม”
“มันเป็นโชคชะตาที่พวกเราทุกคนอยู่ด้วยกัน เจ้าไม่ควรทำให้พวกเขาลำบาก หากมีคนอื่นปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้เจ้าคงทำทุกวิถีทางเพื่อตอบโต้คนเหล่านั้น เจ้าควรที่จะเป็นคนที่ยุติธรรมมากกว่านี้”
“หงเหนียง พวกเราไม่อยากพูดแบบนี้แต่เจ้าข้ามเส้นเกินไปจริงๆ!”
“เราจะไม่ปล่อยให้เจ้าทำอย่างนั้นอีก!”
ผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่ติดตามมาจากหมู่บ้านได้พูดประนาม หงเหนียง ร่างอ้วนของนางสั่นเทาแต่เธอไม่มีคำพูดอะไรที่จะโต้เถียงในขณะที่หลิวซานซินจ้องมองนางอย่างโกรธแค้นนะพูดว่า
“ระวังจะตกนรก แล้วยมทูตจะดึงลิ้นและตัดแขนของเจ้า!”
“เอาล่ะพอแล้ว หงเหนียง คงไม่ทำเรื่องนี้อีกในอนาคต!”
ผู้เฒ่าหลิวโบกมือแล้วหันไปพูดกับนางเฉิง
“ฮูหยินเฉิง เราไม่ได้มาเยี่ยมเยียนท่านเฉิงเป็นเวลานาน ตอนนี้เราควรที่จะเข้าไปเยี่ยมเยียนเขาสักหน่อย!”
“ใช่แล้ว! ถ้าไม่ได้เยี่ยมเยียนพี่เฉิงมาสักพักหนึ่งแล้ว ไปเยี่ยมเขากันเถอะ!”
“ข้าเป็นห่วงเรื่องการฟื้นตัวของเขาเช่นกันเราควรที่จะไปเยี่ยมเขาสักครั้ง!”
“ฮูหยินเฉิง ท่านเฉิง เป็นอย่างไรบ้างเขาดีขึ้นหรือไม่”
“ขอบคุณทุกคน ขอบคุณผู้เฒ่าหลิว ขอบคุณ…”นางเฉิงโค้งคำนับทุกคน
เฉิงเสี่ยวเสี่ยว และพี่น้องของเธอก็โค้งคำนับด้วยเช่นกัน จากนั้นไม่นานทุกคนก็เข้าไปในบ้านเฉิง ต่างเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะ
-------------------------------------