DC บทที่ 8: สาเหตุที่ท่านยังโสด
ทันที่ที่อาบน้ำเสร็จซูหยางก็กลับไปที่ลานฝึกที่มีศิษย์นิกายฝึกฝนฝีมือกันที่นั่น
“เจ้าซูหยางกลับมาแล้ว ช่างยึดมั่นกับแผนเหลือเกิน...”
“เกิดอะไรขึ้นกับสองคนที่กล้าตามเขาไป พวกเธอรายงานพฤติกรรมซูหยางหรือยัง”
“เอ๋ เจ้ามิได้ยินรึ มิเพียงแต่ทั้งคู่พอใจอย่างมาก ยังช่วยเหลือเจ้านั่นป่าวประกาศชื่นชมการบริการด้วย”
“อะไร ซูหยางทำอะไรให้พวกเธอถึงทำตัวเหมือนหมาที่พยายามให้เจ้าของพอใจ”
“ใครจะรู้ แต่เมื่อข้าเห็นจ้าวเซวียนเมื่อคืน เธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มราวกับว่าได้เกิดใหม่”
“เฮ้ ดูนั่น”
“นั่น...”
“ศิษย์คำนับผู้อาวุโสหลาน”
เหล่าศิษย์นิกายต่างพากันคำนับหญิงสาวสวยที่เดินมาหาพวกเขาจากที่ไกล ข้างเธอมีเด็กหญิงน่ารักผิวละเอียดใบหน้าผ่องใส
“ศิษย์พี่ชายซู”
นั่นคือซีเยวี่ยที่ทักทายเขาด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
“ดูจากที่การวิ่งของเจ้า ข้าประเมินว่าขาเจ้าหายแล้ว ใช่ไหม”
ซีเยวี่ยผงกหัว “ใช่แล้ว ขอบคุณศิษย์พี่ชายซูและการรักษาที่มหัศจรรย์ เมื่อคืนอาการปวดหายไปข้าสามารถหลับได้สนิทเป็นครั้งแรกในช่วงที่ผ่านมา”
“ยินดีที่ได้ยิน” ซูหยางยิ้มให้อย่างสุภาพแฝงความห่วงไยเป็นเหตุให้ซีเยวี่ยหน้าแดง
“ฮิฮิฮิ...” ภาพซูหยางดูดน่องของเธอวานนี้ปรากฏขึ้นในใจซีเยวี่ย ความรู้สึกที่ริมฝีปากเขาประทับลงไปยังจำได้ลึกซึ้งเหมือนว่ามันประทับลึกลงไปในใจ
“เจ้าเป็นคนรักษาเธอเมื่อวานนี้รึ” สาวสวยดูอายุประมาณยี่สิบกว่าถามขณะที่มาถึงเบื้องหน้าพวกเขา
“ข้าเอง”
สาวสวยซึ่งถูกเรียกว่าผู้อาวุโสหลานจากเหล่าศิษย์ขมวดคิ้วจากการทำตัวเฉยเมยของซูหยาง “ซูหยาง 16 ปี อยู่ในนิกายมาเกือบปีในฐานะศิษย์นอกแต่ยังมิมีคู่ฝึก อีกทั้งคำร่ำลือว่าปัญญาอ่อนและทำอะไรมิเป็น… เจ้าทำได้อย่างไร เจ้าเด็กนี่มิยอมบอกข้าว่าเจ้ารักษาเธอได้เช่นไรแม้แต่น้อย”
ซูหยางมองซีเยวี่ยที่หน้าแดงเมื่อได้ยินคำถามผู้อาวุโสหลานและพูดว่า “ข้าขออภัยล่วงหน้า แต่นี่เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างลูกค้ากับข้า ข้ามิได้รับอนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลกับคนแปลกหน้า”
“เจ้าพูดว่าเช่นไร” ผู้อาวุโสหลานหน้าดำคร่ำเครียด “ข้าจำต้องเตือนหรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอยู่กับใคร ข้าคือผู้อาวุโสหลาน หัวหน้าผู้อาวุโสของตึกพยาบาลศิษย์นอก อาการเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งหมดของศิษย์นอกอยู่ภายใต้การดูแลของข้า นั่นหมายถึงเธอก็อยู่ในการดูแลของข้าเช่นกัน
“...แล้ว” ซูหยางทำตัวเฉยเมยเช่นเดิมไม่มีผลกระทบจากการจ้องแทบกินเลือดกินเนื้อของเธอ เขาพูดต่อ “นั่นมีอะไรเกี่ยวข้องกับข้ารึ”
“จ..เจ้า… เจ้าเด็กผยองไร้คารวะผู้อาวุโส”
“พี่หลาน หยุด” ซีเยวี่ยผวาเรียกผู้อาวุโสหลานที่จะตบหน้าซูหยางโดยไม่ออมแรงให้หยุด
“...” ผู้อาวุโสหลานสะกดความโกรธในอกสูดลมหายใจลึก “ซีเยวี่ย เจ้ามั่นใจว่าเจ้าเด็กเลวเหม็นเน่านี้สามารถรักษาขาเจ้าได้ทั้งที่หมอผู้ช่ำชองเช่นข้า… มิอาจบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า”
ซูหยางหัวเราะเมื่อผู้อาวุโสหลานเรียกตนเองว่าหมอผู้เชี่ยวชาญจนทำให้เธอจ้องมองเขา เธอรู้สึกว่าเขาหัวเราะเยาะ
“พี่สาวหลาน เรามิได้มาวันนี้เพื่อระรานศิษย์พี่ชายซูนะ เรามาขอความช่วยเหลือ” ซีเยวี่ยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงกังวลเหมือนเป็นพี่สาวคนโต
ผู้อาวุโสหลานแค่นเสียงเย็นเยียบ “เด็กเลวที่อายุมิถึงครึ่งของข้าเช่นเจ้านี่จะทำอะไรได้ มิมีทางที่เจ้าเด็กผยองนี่จะช่วยข้าได้”
“เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าช่วยรักษาอาการปวดรุนแรงที่บั้นท้ายตอนเจ้านั่งมิได้ ไปหาคนที่มีความสามารถ คนที่มีอายุมากกว่าเจ้าเท่าตัว...”
ผู้อาวุโสหลานหนังตากระตุกอย่างควบคุมไม่ได้จากถ้อยคำเหน็บแนมของซูหยาง
“ดูสิ ศิษย์พี่ชายซูรู้จริง เขาสามารถบอกได้ว่าท่านเจ็บปวดจากการมองเพียงแวบเดียว ท่านต้องให้เขาช่วยท่าน”
คำพูดไร้เดียงสาของซีเยวี่ยคล้ายมีดคมทิ่มดวงใจผู้อาวุโสหลาน แม้ว่าเธอไม่อยากจะยอมรับ แต่ความรู้จริงของซูหยางเพิ่มความประหลาดใจแก่เธอมากขึ้น
“แม้ว่าเธอเชื่อเจ้า ข้ามิมีทางเชื่อเจ้า กลับ ซีเยวี่ย” ผู้อาวุโสหลานหมุนตัวลากเอาซีเยวี่ยไปกับเธอด้วย
เหล่าศิษย์แถวนั้นต่างพากันประหลาดใจว่าพวกเธอมีความสัมพันธ์อะไรกัน พวกเธอคล้ายพี่น้อง แต่ทุกคนรู้ดีว่าผู้อาวุโสหลานไม่มีญาติ
—
—
—
“พี่สาวหลาน ท่านเจ็บหนักมาสองสามวันจากอาการบาดเจ็บ กระทั่งฝึกปราณมิได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป...”
“อย่ากังวลเรื่องข้า ซีเยวี่ย ข้าจะหาทางรักษาตัวโดยมิต้องพึ่งเจ้าซูหยาง เจ้านั่นเป็นเพียงศิษย์นอกขณะที่ข้าเป็นผู้อาวุโสนิกาย ข้าต้องเสียหน้าแย่ถ้าต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้านั่น”
“...” ซีเยวี่ยถอนใจจากความดื้อดึงของอีกฝ่าย เธอรู้จักผู้อาวุโสหลานตั้งแต่เธอแบเบาะเพราะว่าครอบครัวของพวกเขามีความสัมพันธ์กัน แม้ว่าจะไม่ใช่พี่น้องแท้จริง แต่ก็ถือกันเหมือนเป็นญาติสนิท
“พี่สาวหลาน… นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมท่านถึงยังโสด… ท่านทะนงตนเกินไป และท่านอายุ 40 แล้ว… ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปท่านต้องโสดไปจนตาย”
คำพูดซีเยวี่ยเกือบทำให้ผู้อาวุโสหลานกระอักเลือด “เจ้าเด็กเลว เจ้ายังเด็กเกินที่จะมีคู่ฝึกแล้วยังมาพูดถึงข้า ข้าจะให้เจ้าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสหลานทั้งอาทิตย์”
“เอ๋ แต่...”
“ไม่มีแต่ ข้าคือผู้อาวุหลานของเจ้าเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์”
ซีเยวี่ยถอนหายใจ เธอหันไปมองซูหยางที่ยังยืนอยู่อย่างเงียบสงบ “ศิษย์พี่ชายซู...” เธอหน้าแดงเมื่อมองไปยังหน้าเขา