DC บทที่ 7: ขจัดพิษ
เพียงสามนาทีกล้ามเนื้อขาซ้ายของซีเยวี่ยก็ผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ เหมือนซาลาเปาทั้งนิ่มทั้งเรียบในมือซูหยาง
“ข้าจะเริ่มดูดพิษแล้ว” ซูหยางหยิบเข็มที่เล็กละเอียดเหมือนเส้นผมให้ดู
ใบหน้าเปี่ยมสุขของซีเยวี่ยชะงักเมื่อมองเห็นเข็ม
“จ..เจ้าจะทำอะไร” เธอถามด้วยน้ำเสียงพรั่นพรึง
ซูหยางยิ้มชี้ไปที่ขาซ้าย แต่ยิ้มหล่อของเขาเป็นแสยะยิ้มของปีศาจในสายตาซีเยวี่ย
“หย..หย..หยุด มันมีทางเดียวเท่านั้นเหรอ”
“แล้วข้าจะดูดพิษได้เช่นไร” เขาตอบคำถามด้วยคำถาม “ปิดตาซะ เจ้าจะมิรู้สึกด้วยซ้ำ”
ซีเยวี่ยหลับตาอย่างละล้าละลัง ร่างสะท้านไม่หยุด
ทันใดมือข้างหนึ่งก็ลูบไปบนศีรษะทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยหยุดสั่นอีกต่อไป เวลาเดียวกันเข็มในมือซูหยางก็ปักลงไป
รูเล็กจนแทบไม่เห็นด้วยตาเปล่าปรากฏขึ้นบนน่องซ้ายของซีเยวี่ย ควันขาวพวยพุ่งออกมาจากรูเกิดเป็นหมอกขาวเหนือขา
เมื่อหมอกปรากฏซูหยางก็ประกบริมฝีปากเข้ากับรูบนน่องและเริ่มต้นดูดโดยไม่ลังเล
“อาา นั่น..”
ความรู้สึกถูกดูดบนน่องทำให้ซีเยวี่ยเบิกตากว้าง เมื่อเห็นปากซูหยางบนน่องหน้าเธอก็ปรากฏสีแดงแทบหมดสติเพราะความตกใจ
อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นการกระทำที่ต่ำช้าไร้ยางอายของซูหยาง เธอก็ไม่ได้ต่อต้าน ยินยอมให้ทำต่อไป เธอหายใจถี่เร็วสายตาเต็มไปด้วยความต้องการ...ทางเพศ
เวลาเดียวกันซูหยางตั้งใจเต็มที่ในการดูดพิษผ่านรูเล็กๆบนน่อง เสื้อผ้าเขาเต็มไปด้วยเหงื่อร่างกายถูกพิษที่ดูดแผดเผา ทุกส่วนบนร่างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และเพราะว่าเขามีพลังการฝึกปรือต่ำทำให้ยากต่อการสะกดพิษในร่าง ถึงปรารถนาแต่ใช่เวลาที่สุขกับความนุ่มนิ่มบนริมฝีปากไม่
ในเวลานั้นสิ่งที่ได้ยินในห้องเล็กและเงียบนั้นมีเพียงเสียงหอบหายใจและครางเบาๆของซีเยวี่ยเท่านั้น แต่ละนาทีผ่านเหมือนชั่วโมงสำหรับทั้งคู่ หนึ่งในอ้อมกอดของความสุขสม อีกหนึ่งกล้ำกลืนฝืนทนเจ็บปวด
เมื่อเวลาผ่านสิบนาทีไปเล็กน้อย ซูหยางก็ถอนริมฝีปาก
ซูหยางถ่มเลือดสีดำออกทันทีที่ริมฝีปากพ้นน่องนิ่มของซีเยวี่ย ใบหน้าเขาซีดขาว
ซูหยางเช็ดเลือดดำจากมุมปากและยิ้า “นานมากแล้วที่ข้าต้องเสียเหงื่อเช่นนี้ระหว่างรักษา...”
ซูหยางล้มลงบนเตียงข้างซีเยวี่ยหลังพูดจบ เกือบสิ้นสติ
“จ..จ..เจ้าไหวไหม” ซีหยางร้องลั่นอย่างตกใจ
“โชคดี พิษยังมิแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นอยู่เพียงแค่ขาซ้าย ข้าจึงสามารถดูดพิษออกโดยมิมีปัญหา แต่พลังฝีมือแค่ระดับสามเขตปฐมวิญญาณทำให้ปราณไร้ลักษณ์น้อยนิดนี้หมดสิ้นอย่างรวดเร็ว ข้าเพียงแค่หมดแรงเพราะปราณไร้ลักษณ์… ปล่อยข้านอนสักพักก็จะหาย… อย่าลืม… เงื่อนไข...”
ซูหยางหลับไปทันทีเมื่อสิ้นคำพูด ซีเยวี่ยตะลึงไม่รู้จะทำอะไร แต่เมื่อเขาพูดว่าเขาไม่เป็นอะไร เธอก็โล่งอก
หลังจากแต่งตัวแล้ว ซีเยวี่ยช่วยจัดท่านอนประหลาดให้ซูหยางและห่มผ้าให้ก่อนจะจากไปอย่างเงียบๆ
–
–
–
เมื่อซูหยางตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาเช้าของอีกวัน เขาลุกนั่งแล้วมองผ้าห่มที่คลุมตัว “เป็นคนใจดีเหมือนกันนะ” เขายิ้ม
แม้จะคาดไว้ว่ามันจะค่อนข้างมีปัญหาในการรักษาซีเยวี่ย เขาไม่คิดว่ามันจะท้าทายเช่นนี้เพราะพลังการฝึกปรือที่ต่ำ
“ข้าต้องการเพิ่มพลังการฝึกปรือจริงๆ… แต่ก่อนจะรับพลังวิญญาณหยางแท้และล้างสิ่งสกปรกในร่าง ข้าต้องคุ้นเคยกับร่างนี้และพลังฝีมือที่ไร้ค่านี้ก่อน”
ซูหยางลงจากเตียงและอาบน้ำอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเขากลับมานั่งที่เตียงในท่าขัดสมาธิดอกบัว
ลึกลงไปในใจ เทคนิคการฝึกปราณมากมายที่เขาร่ำเรียนในชาติก่อนปรากฏขึ้นทีละชิ้น เขาไม่ใช่แค่เพียงเพลย์บอยในชาติก่อน แต่ยังเป็นผู้ฝึกฝนและหมอด้วย ดังนั้นเขาจึงมีข้อมูลมากมายให้เลือก
“คัมภีร์หลอมร่างสวรรค์...หนึ่งในเจ็ดคัมภีร์สวรรค์สูงสุด ของรักของจักรพรรดิ์สวรรค์...”
ในชีวิตก่อน ซูหยางไม่สามารถฝึกฝนคัมภีร์หลอมร่างสวรรค์นี้เพราะเขาได้รับมันช้าเกินไปและเขาได้หลอมร่างเขาไปแล้ว
“มิเพียงแต่ข้าขโมยกายและใจลูกสาวของท่าน ข้ายังได้รับเทคนิคการฝึกปราณที่ท่านชื่นชอบ ถ้าจักรพรรดิ์สวรรค์ยังมีชีวิตอยู่… ข้าต้องหลีกเลี่ยงท่านทุกวิถีทาง...”
เขาปิดตา และเริ่มสาธยายคัมภีร์หลอมร่างสวรรค์ที่อยู่ในหัว
“กลืนจักรวาล หลอมร่าง สร้างกายเซียน – ร่างสวรรค์”
คัมภีร์หลอมร่างสวรรค์เป็นเทคนิคที่ใช้ฝึกทั้งร่างกายและพลังฝีมือ เพื่อที่ให้ได้ร่างสวรรค์ เขาต้องดูดกลืนปราณไร้ลักษณ์และหลอมให้เป็นของตัวเองกระจายไปเป็นพลังปราณและปรับสภาพร่างกายพร้อมกัน
มีสองเส้นทางที่จะฝึกฝนจนกลายเป็นเซียน
เส้นทางแรกคือการหลอมปราณ หลอมปราณไร้ลักษณ์ ส่วนใหญ่ผู้ที่ฝึกเป็นเซียนเลือกใช้เส้นทางนี้ เส้นทางนี้ทำให้ผู้ฝึกสามารถใช้เทคนิคที่เปี่ยมพลัง ควบคุมแรงโน้มถ่วง เหินร่างบนฟ้า หรือเปลี่ยนสภาพอากาศ มันเป็นเส้นทางที่ลึกล้ำและมีเสน่ห์
อีกเส้นทางคือการหลอมร่าง หลอมสร้างร่างกาย มีคำกล่าวว่าการหลอมร่างยากกว่าการหลอมปราณหลายสิบเท่า ซึ่งต้องอดทนต่อความเจ็บปวดทนทรมานมากมายเพื่อเลื่อนระดับเพียงเล็กน้อย แต่การทนทรมานทำให้พวกเขาสามารถย้ายภูเขาด้วยมือเปล่า เปลี่ยนสภาพภูมิประเทศ หรือเจาะรูบนดวงดาวด้วยนิ้วมือ
โดยทั่วไป แต่ละคนจะต้องเลือกเส้นทางว่าจะเป็นหลอมปราณหรือหลอมร่าง ไม่ใช่ทั้งคู่เพราะว่าเวลาที่ต้องใช้มหาศาลสำหรับการฝึกฝนทั้งสองแบบ แต่คัมภีร์หลอมร่างสวรรค์กลับอนุญาตให้สามารถฝึกทั้งหลอมปราณและหลอมร่างไปพร้อมกัน จึงถือเป็นคัมภีร์สวรรค์สูงสุด
ทันใดร่างของซูหยางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเหมือนถูกย่างด้วยไฟ อุณหภูมิร่างเพิ่มไปจนเกือบ 150 องศาเซลเซียสภายในไม่กี่นาที กลิ่นเหม็นไหม้โชยจากใต้ร่างของเขา เขากำลังเผาที่นอนด้วยอุณภูมิจากร่างกาย
ซูหยางใช้พิษงูสามฤดูที่คงเหลืออยู่ในร่างเพื่อแผดเผาร่าง เขาตัดสินใจทำหลังจากเห็นซีเยวี่ย
แม้ว่าเขาจะไม่มีคู่ฝึกสำหรับฝึกคู่ ก็ยังมีหลายเส้นทางสำหรับฝึก แม้ว่าจะไม่สุขสบายเหมือนการฝึกคู่ที่สามารถสนุกอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย วิธีนี้ก็ยังเป็นวิธีการฝึกสำคัญของโลกและให้ประโยชน์มากกว่าการฝึกคู่ในหลายสถานการณ์
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ความรู้สึกสดชื่นก็พลุ่งขึ้นภายในร่างซูหยางทำให้ร่างเย็นลง เขาเลื่อนเป็นระดับสี่เขตปฐมวิญญาณและขั้นเริ่มต้นของหลอมร่างปฐมวิญญาณไปพร้อมกัน