DC บทที่ 6: งูสามฤดู
“มันเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง… คล้ายกับข้าล่องลอยอยู่ท่ามกลางดวงดาวข้างทางช้างเผือก...”
“วิธีที่เขาแตะหลังข้า… มันเหมือนมือเขาจมลึกลงไปโดนเส้น… ข้ายอมตายเพื่อ...”
“ข้าเกลียดที่จะยอมรับ แต่เขา… เขาทำให้ร่างข้ายอมด้วยมือนั้น”
จ้าวเซวียนกระจายประสบการณ์จากซูหยางเหมือนไฟไหม้ฟางกับเพื่อนเธอทุกคน เหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ ไม่เพียงแค่นั้นเธอไม่ได้หยุดแค่สิบคนแต่ทุกคน หวังว่าความพยายามของเธอทำให้ซูหยางมองเธอดีขึ้น
“จริงรึ ซูหยางมีความสามารถพิเศษเช่นนั้นเลยรึ”
“เป็นไปได้ด้วยรึ เขามีชื่อเสียงเรื่องไร้สามารถและปัญญาอ่อน… ผู้อาวุโสนิกายหลายคนยังยอมแพ้...”
“ข้าพูดจริง ลองไปให้เขาบริการแล้วเจ้าจะรู้ทันทีว่าข้าพูดจริงหรือไม่”
แม้ว่าไม่สามารถชักจูงทุกคนด้วยเรื่องประสบการณ์ของเธอ จ้าวเซวียนก็สามารถกระตุ้นความสนใจใคร่รู้ในใจพวกหล่อน มากพอที่จะทำให้พวกหล่อนเพิ่มความใส่ใจในตัวซูหยางว่าเขาต้องการอะไร
–
–
–
ไม่กี่วินาทีหลังจากจ้าวเซวียนออกไปจากบ้านซูหยาง ถังหูและคู่ฝึก เมิ่งเจีย ออกมาจากห้องพวกเขา ทั้งคู่หน้าแดงและใจเต้นจากการฝึก
“ซ..ซูหยาง เจ้ากลับมาแล้ว” ถังหูมองไปยังซูหยางที่ยืนหน้าประตูและมองออกไปด้านนอกด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“อืม” ซูหยางหันกลับมามองพวกเขาและยิ้มกว้าง “ยินดีด้วยที่เลื่อนระดับ” เขาหัวเราะ
คำพูดของเขาทำให้ทั้งคู่ตะลึง และสีแดงบนใบหน้ายิ่งเข้มขึ้น
“ซูหยาง...” ถังหูเกาหัว เหมือนมีบางสิ่งอยู่ในใจ
“มิเห็นมีอะไรต้องอาย เจ้าเป็นชายแล้วหญิงของเจ้าก็อยู่ข้างๆ เชิดหน้าสง่างามไว้” ซูหยางเดินออกไปจากบ้านหลังจากพูด ทั้งคู่ได้แต่มองเขาหายไปด้วยสีหน้าตะลึง แปลกใจเพราะพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย
“ข้าคิดว่า… เขาดูหล่อขึ้นกว่าเดิมที่เคยเห็นก่อนหน้า...” เมิ่งเจียพูดอย่างแปลกใจ
“...” ถังหูนึกถึงซูหยางผู้ที่พูดติดอ่างทุกประโยค ทำไมบางคนสามารถเปลี่ยนไปมากมายในช่วงเวลาเล็กน้อย หรือการบาดเจ็บทำให้จิตเขาตื่นจากการหลับไหล
–
–
–
ซูหยางตรงกลับไปยังลานฝึกและเปิดป้ายอีกครั้ง เขามีเจตนารับลูกค้ามากกว่าหนึ่งคนต่อวัน
“ซูหยางกลับมาแล้ว เจ้านั่นไปยังมิถึงหนึ่งชั่วโมงเลย”
“บางทีเด็กนั่นอาจเปลี่ยนใจ คงงั้นแหละ”
เวลาผ่านไปเช่นเดิมอีกหนึ่งชั่วโมง ไม่มีใครต้องการใส่ใจกับซูหยาง เขาเหล่านั้นจึงมองดูจากที่ไกลด้วยความอยากรู้ เหมือนดูการแสดงข้างถนน
แต่คราวนี้ซูหยางไม่ต้องรอนานก่อนจะมีใครมา เด็กหญิงตัวเล็กที่เดินกระเผลก
“เจ้าเป็นคนรักษาอาการปวดหลังของศิษย์พี่หญิงจ้าว ใช่ไหม”
ซูหยางผงกหัวรับ
“อืม… ศิษย์พี่หญิงจ้าวพูดว่าฝีมือเจ้าเป็นของจริง ดูเหมือนศิษย์พี่เชื่อเจ้า… ดังนั้น… อืม...” เด็กหญิงตัวเล็กดูเหมือนอายุน้อยกว่าศิษยพี่หญิงจ้าวสองสามปีกระวนกระวายพยายามพูดความในใจ
“เจ้าอยากรู้ว่าข้าสามารถช่วยรักษาขาซ้ายเจ้าได้ ใช่หรือไม่”
เด็กหญิงตัวเล็กผงกหัวรับแข็งขัน
“ช่วงกลางวัน ขาซ้ายเจ้าจะไร้ชาด้าน กลางคืนมันจะกระตุก เป็นมานานเท่าไรแล้ว”
“หนึ่งอาทิตย์ได้” เด็กหญิงแปลกใจว่าทำไมซูหยางถึงมองทะลุปัญหาเพียงแค่มองปราดเดียว เธอรู้สึกว่าไม่สามารถซ่อนอะไรไว้จากสายตาเหมือนเปลือยเปล่าไปถึงกระดูกต่อหน้าเขา
“ร..รักษา… ได้ไหม” สายตาเธอมองเขามีประกายความหวัง “ผูอาวุโสนิกายได้ลอง แต่มิมีใครช่วยได้...”
"..."
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ซูหยางม้วนป้าย “เงื่อนไขสามข้อ… เจ้าทราบหรือยัง”
“ทราบแล้ว”
“ยอมรับหรือไม่”
“ข้ายอมรับ”
“ตามข้ามา”
เหล่าศิษย์มองอ้าปากหวอเมื่อซูหยางพาเด็กหญิงไปจากที่นั่น
“เจ้าสารเลวซูหยางกำลังจะเอาเปรียบเด็กหญิงตัวเล็กๆ...”
“มิมีใครหยุดพวกเขารึ”
“มันจะเป็นบทเรียนที่ดีของเธอ บางทีคราวหน้าเธออาจจะคิดอีกครั้งก่อนที่จะเชื่อคนเช่นซูหยางเวลาต้องการให้ช่วย”
“ใช่ว่าเราเป็นศิษย์ร่วมนิกายหมายความว่าเราต้องช่วยคนอื่น”
ในโลกนี้ที่คนแกร่งกลืนคนอ่อนแอ ซื่อไร้ประสบการณ์ไม่ใช่ข้ออ้างแต่เป็นความอ่อนแอ ถ้าไม่สามารถเอาชนะข้อด้อย ก็จะถูกกลืนโดยคนที่แข็งแกร่งกว่า
ศิษย์นิกายเหล่านั้นไม่ชอบดูเด็กหญิงตัวเล็กถูกเอาเปรียบ แต่ไม่มีใครมีเหตุผลพอที่จะหยุดพวกเขาเช่นกัน ในนิกายนี้ทุกคนเหมือนเป็นคู่แข่งมากกว่าเพื่อน มีศิษย์น้อยเท่าไรการแย่งทรัพยากรของนิกายก็น้อยลงเท่านั้น เมื่อไร้ผลประโยชน์ก็ไม่มีใครต้องการเสี่ยงช่วยคนแปลกหน้า
–
–
–
ซูหยางพาเด็กหญิงเข้าไปในห้อง โชคดีไม่มีทั้งถังหูหรือเมิ่งเจียอยู่เป็นพยานการพาเด็กหญิงอายุประมาณ 13 กลับบ้าน มิเช่นนั้นอาจมีเหตุวุ่นวายทันทีที่เข้าประตูบ้าน
เด็กหญิงกระวนกระวายตั้งแต่เธอไปหาซูหยาง ไม่ว่าจ้าวเซวียนจะพูดถึงเขาดีอย่างไร เธอก็ยังสบายใจไม่เต็มที่ เพียงแค่เข้าหาชายหนุ่มหล่อแบบซูหยางและเข้าห้องสองต่อสองก็ยากเกินรับได้ โดยเฉพาะเด็กหญิงที่เพิ่งเข้านิกายอย่างเธอ
“ถุงเท้ายาว ถอดมันออก” ซูหยางพูดหลังปิดประตูขังพวกเขาไว้ในห้องกันเสียง
"…"
“เจ้าถูกงูเกล็ดลายแดงเหลืองเขียวกัดประมาณเดือนก่อน ใช่ไหม”
“เอ๋ ทำไม..”
“งูนั่นเรียกงูสามฤดู มันสะสมพิษร้ายไว้ในร่างซึ่งจะค่อยๆ ฆ่าสิ่งที่มันกัด มิเหมือนพิษอื่นที่กระจายทั่วตัวในเวลาชั่วนาทีหรือวินาที พิษงูสามฤดูใช้เวลาเป็นสัปดาห์กว่าจะเริ่มเห็นอาการ ในเดือนแรกขาผู้เคราะห์ร้ายจะหมดสมรรถภาพ และทั้งแขนและขาในเดือนสอง ในเดือนสามพิษจะกระจายทั่วตัวทำให้ตายอย่างทรมานถึงเจ็ดวันจากนั้น”
ซูหยางอธิบายจนเด็กหญิงสั่นสยอง เสื้อผ้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ ช่างเป็นพิษร้ายที่กระทั่งนักฆ่าเลือดเย็นยังหวาดกลัว นับประสาอะไรกับเด็กหญิง
“โชคดี แค่เดือนเดียวที่เจ้าโดนกัด เจ้าจึงยังมิมีอันตราย”
“จ..จริงรึ..”
“จริง” ซูหยางเช็ดน้ำตาจากพวงแก้มพูดด้วยความมั่นใจ “ถ้าเพียงแค่การนวดทั่วไป ข้าคงมิสามารถช่วยเจ้าได้ แต่โชคดีมือข้าสามารถทำได้มากกว่าทำให้ผู้อื่นรู้สึกดี”
“อือ...”
เด็กหญิงถอดถุงเท้ายาวสีขาวเผยให้เห็นขาเรียบขาว
“เจ้าชื่อ” ซูหยางถาม
“ซีเยวี่ย 12 ปี”
“12… และเจ้ามานิกายแบบนี้ มนุษย์ช่างเป็นอะไรที่...” ซูหยางถอนหายใจแม้ว่าจะรู้ความจริงอยู่แล้ว เขาไม่ได้เยี่ยมโลกมนุษย์มาหลายพันปีในชีวิตก่อน ดังนั้นเขาไม่รู้จักวิถีชีวิต แต่เมื่อมองและใช้ชีวิตในโลกมนุษย์ เขาได้แต่ถามถึงความเป็นมนุษย์ของมนุษย์โลก
“แม้ว่าจะถูกรับเข้านิกาย แต่ข้ายังมิได้รับอนุญาตให้ร่วมฝึกคู่จนกว่าข้าจะเป็นผู้ใหญ่อายุถึง 16” ซีเยวี่ยอธิบายด้วยเสียงเอียงอายหลังจากเห็นความไม่สบใจบนใบหน้าซูหยาง
“นั่นค่อยสมเหตุสมผล...” ซูหยางพูดโล่งอก “เอาละนอนคว่ำ ข้าจะคลายกล้ามเนื้อบริเวณขาเจ้าก่อนจะจัดการกับพิษ”
ซีเยวี่ยนอนเงียบบนเตียงอย่างเชื่อฟัง รอซูหยางเตรียมความพร้อม
“เอาละ… เวลาสิบนาทีของเจ้าเริ่มละ” มือเขาจับขาของเธออย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เสียงน่ารักหลุดออกมาจากปากเธอ
ไม่นาน กล้ามเนื้อขาของซีเยวี่ยก็คลายตัว อาการชาด้านก็เริ่มหายจนรับรู้ได้