บทที่ 29 การต่อสู้เพื่อเป็นหนึ่ง
บทที่ 29
การต่อสู้เพื่อเป็นหนึ่ง
เพ้ง!
เสียงปะทะดังสนั่น คลื่นพลังลมปราณระเบิดออกจากตรงกลางของหลี่ฟู่เฉิน และ เฉินตูจิว ผลักทั้งสองฝั่งถอยร่นออกไป เฉินตูจิวสิบก้าวและหลี่ฟูเฉินถอยเพียงเก้าก้าว
“วิชาฝ่ามือเมฆาอัคนีของข้ายังไม่เพียงพองั้นเหรอ”
เฉินตูจิวรู้สึกว่าผลลัพท์ล้ำลึกหยั่งไม่ถึง
วิชาฝ่ามือเมฆาอัคนีนี้เป็นวิชาฝ่ามือดั้งเดิมที่สร้างโดยท่านลุงเฉินตูเจียนเหอของเขา การใช้มันร่วมกับวิชาเปลวไปพลังหยางจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด แม้พร้อมการฝึกฝนในปัจจุบัน ก็เพียงพอที่จะทำร้ายผู้เยี่ยมยุทธขอบเขตพลังลมปราณขั้นที่แปดได้
“ความร้อนแรงของวิชาฝ่ามือเมฆาอัคนีของตระกูลเฉินตู เป็นดังข่าวที่ร่ำลือมา”
หลี่ฟู่เฉินได้บ่มเพาะ วิชาฝ่ามือภูผาแยก จนสำเร็จ การโจมตีของฝ่ามือของเขามีพละกำลังอย่างน้อย 1,500 กิโลกรัม ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเฉินตูจิวลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะวิชาหยกแดงที่ เป็นฐานพลังงานของหยาง แผลจะเกิดขึ้นบนฝ่ามือของหลี่ฟู่เฉิน จากความร้อนจัด
“วิชาเขี้ยวพยัคฆ์สังหาร!”
หลี่ฟูเฉินไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดกับเฉินตูจิว ขณะกระโดดขึ้นสูงกลางอากาศ ก็เข้าฟันสังหารฉับพลันสองครั้งไปที่เฉินตูจิว
วิชาเขี้ยวพยัคฆ์สังหารอาจเป็นแค่วิชาดาบระดับเหลืองขั้นต่ำ แต่มีพลังมากล้น การเคลื่อนที่ของดาบเพียงครั้งเดียว พลังของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าการเคลื่อนหวดของวิชาดาบระดับสีเหลืองขั้นกลาง
จากกลางอากาศ เงาดาบรูปกากบาทพุ่งเข้าหาเฉินตูจิว
“เมฆีโชติช่วงสู่สวรรค์!”
เฉินตูจิวรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายของและต้านทานดาบไขว้ที่ใกล้เข้ามา
ปัง ป้าง! บู้ม!
การระเบิดพลังลมปราณหลายครั้งทำให้เฉินตูจิวยิ่งถอยห่าง ถูกผลักถอยร่นอย่างต่อเนื่องทำให้เขาอารมณ์เดือดดาล
“ดาบเสี้ยวพระจันทร์!”
หลี่ฟู่เฉินที่ยังอยู่กลางอากาศฟาดมือขวาของเขาลงอย่างแรง คมดาบขยายออกไปเหมือนดวงจันทร์เสี้ยวและขังเฉินตูจิวอยู่ภายใน
วิชาดาบเสี้ยวพระจันทร์และวิชาวิชาเขี้ยวพยัคฆ์สังหารเป็นศิลปะดาบระดับสีเหลืองขั้นต่ำ
เพียงเพราะมันเป็นระดับต่ำไม่ได้หมายความว่ามันอ่อนแอ อันที่จริงความแตกต่างระหว่างศิลปะดาบระดับสีเหลืองขั้นกลางคือจำนวนการเคลื่อนไหวของดาบ แรงของดาบนั้นใกล้เคียงกันและที่สำคัญที่สุดการเคลื่อนที่ของดาบขั้นต่ำนั้นง่ายกว่าและเร็วกว่าในการออกกระบวนท่า
เป้ง!
แขนของเฉินตูจิวถึงกับชา เขาถูกกดลงที่พื้นและทยานไปข้างหลัง ร่างที่น่าสงสารของเขาลงมาที่ขอบเวทีเพียงครึ่งก้าวก่อนที่จะก้าวออกจากขอบเขต
“เจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้” หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ตามไปโจมตีอีกครั้ง
หลี่ฟู่เฉินเลิกคิ้วขึ้น เขาต้องการดูว่ามีรูปแบบการต่อสู้ใดที่คู่ต่อสู้เตรียมไว้
“ไม่แน่ใจว่า กระบวนท่านี้สงวนไว้สำหรับหยางไคแต่ข้าจะแสดงให้เจ้าดู” วิชาลมปราณเช่าหยางหลู่ ครอบคลุมแขนทั้งสองของเขาเพื่อบรรเทาอาการชา เฉินตูจิวเปิดตาของเขาและจ้องมองที่หลี่ฟู่เฉินอย่างเยือกเย็น ความร้อนแรงเพิ่มขึ้นภายในร่างกายของเขา
“วิชาดาบมังกรเพลิง!”
เมื่อประกายแสงจ้าแวววับ เฉินตูจิวพุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉินทันทีทันใด มีช่องว่างห่างกันเพียงห้าเมตรเท่านั้น แรงผลักดันนี้มีเปลวไฟล้อมรอบราวกับพายุลูกไฟหมุนที่ลอยขึ้นรอบหลี่ฟู่เฉิน
วิชาดาบมังกรเพลิงเป็นวิชาดาบระดับสีเหลืองขั้นสูงของตระกูลเฉินตู นอกจากนี้ยังเป็นศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมจากท่านเจ้าเมือง, เฉินตูเจียนเหอ ด้วยพลังอันมหึมามีเพียงผู้เยี่ยมยุทธ์ในขั้นที่เจ็ดของขอบเขตพลังลมปราณเท่านั้นที่สามารถเข้าใจสาระสำคัญของมันได้ แต่ภายใต้การปกครองของเฉินตูเจียนเหอ, เฉินตูจิวแทบจะไม่ได้สัมผัสสถานะผู้เริ่มฝึกของกระบวนท่าแรกนี้เพียงแค่นำพลังออกมา ยังขาดรายละเอียดยิบย่อย
แต่มันก็เพียงพอแล้วสำหรับจอมยุทธ์โดยเฉลี่ยทั่วไป
“วิชามหึมาพายุ!”
หลี่ฟู่เฉินเย้ยเบา ๆ กระบวนท่านี้เต็มไปด้วยช่องโหว่ ไม่ว่าพลังจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์ หลี่ฟู่เฉินหลบไปทางด้านขวาของเฉินตูจิวและเตะส่งคู่ต่อสู้พุ่งทยานสูงขึ้นและพุ่งพรวดออกจากเวที
“แม้แต่เฉินตูจิวก็ถูกสยบ! เทพแห่งการต่อสู้ครอบครองหลี่ฟูเฉินอยู่หรือไร!”
“เจ้าไม่เห็นเหรอ? เฉินตูจิวตวัดดาบประหัดประหารอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ดาบกลับทำให้แตกออกง่ายโดยหลี่ฟู่เฉินด้วยวิชาเตะนี้”
“ ทักษะการต่อสู้ของหลี่ฟู่เฉินนั้นยอดเยี่ยม การเคลื่อนไหวด้วยดาบพร้อมพละกำลังยังไม่เพียงพอที่จะเข้าถึงเขา
ผู้ชมคุ้นเคยกับการได้เห็นชัยชนะต่อเนื่องของหลี่ฟู่เฉิน ดังนั้นพวกเขาไม่รู้สึกแปลกใจเลย
“พรสวรรค์ในศิลปะการต่อสู้และการต่อสู้ของหลี่ฟู่เฉินนี้เป็นดังปรากฎการณ์” เฉินจงหมิงชมหลี่ฟูเฉินหลายครั้งหลายคราในวันนี้
เฉินตูเจียนเหอ หัวเราะร่า “โครงกระดูกปกติจะประสบความสำเร็จได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น รออีกไม่กี่ปี และดูว่าเขาจะมีความสามารถอะไร”
“นั่นเป็นความจริงไม่ว่าเขาจะมีศักยภาพใด ๆ ก็ตามจะต้องใช้เวลาสองสามปีในการวิเคราะห์” เฉิงจงหมิงพยักหน้ารับ
***
หลังจากพักได้ชั่วครู่ หลี่ฟู่เฉินมุ่งหน้าไปที่เวทีประลองอีกครั้ง
คู่ต่อสู้ของเขาในครั้งนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนโดยไม่มีใครโต้แย้ง ผู้นั้นคือ หยางไค
หยางไคอายุสิบหกปีสูงเจ็ดฟุตพร้อมรูปลักษณ์น่าชื่นชม การฝึกฝนของเขาบรรลุถึงขอบเขตพลังลมปราณขั้นที่เจ็ด และความแข็งแกร่งทางกายอยู่ที่ 1,000 กิโลกรัม ในแง่การรับรู้ศิลปะการต่อสู้และทักษะการต่อสู้ เขาเหนือกว่าทุกคนยกเว้นหลี่ฟู่เฉิน แม้แต่จือฮงซิ่วที่เก่งกาจในการต่อสู้ก็พ่ายแพ้ด้วยปัจจัยเรื่องระดับการฝึกฝนและความแข็งแกร่งทางกายภาพ
อาจกล่าวได้ว่าในทุกปัจจัย หยางไคเหนือชั้นที่สุดโดยไม่มีข้อบกพร่อง
“ท่านพี่ใหญ่หยางไค จะทุบตีเจ้าให้ตายเหมือนสุนัขที่ตายแล้ว!”
กวนเหม่ยโกรธฉุนเฉียว หยางฉีที่ช่วยเธอก่อนหน้านี้ถูกกำจัดไปแล้วในรอบแรก กวนเผิ้ง และ กวนห่าวของตระกูลกวน ทั้งคู่พ่ายแพ้ต่อหลี่ฟู่เฉิน สิ่งนี้ทำให้ตระกูลกวนสูญเสียหมากตัวสำคัญทั้งหมด นางพึ่งได้เพียงหยางไคให้สั่งสอนหลี่ฟู่เฉิน ในใจของนาง นางชอบหยางไคมาตลอด หากสามารถแต่งงานกับเขาได้และเมื่อหยางไคเป็นลูกศิษย์ชั้นในของนิกาย นางอาจมีโอกาสตามเข้าไปในนิกายคังเหลียน
“เทียนฮั่น ท่านคิดว่า ฟู่เฉินจะคว้าชัยชนะในครั้งนี้หรือไม่?” เฉินยู่หยานกล่าวอย่างเคร่งเครียด
หลี่เทียนฮั่นยื่นมือเข้ามากุมมือเฉินยู่หยาน “ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร ฟู่เฉินยังคงสามารถเข้าสู่ นิกายคังเหลียนได้ เราได้แต่เพียงรอดูเท่านั้น”
หลี่เทียนฮั่นรู้สึกกังวลมากกว่าเฉินยู่หยาง เนื่องจากการคว้าอันดับที่หนึ่งหมายถึงการได้รับรางวัลหนึ่งหมื่นเหรียญทองและเม็ดโอสถลมปราณเพิ่มพูนสองขวด เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นผู้นำตระกูลอีกต่อไปและถูกลดระดับให้เป็นครอบครัวสาขา เขาคงไม่มีทางที่จะสนับสนุนบุตรชายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบุตรชายของเขาเข้าสู่นิกายคังเหลียน คงต้องการเหรียญทองคำจำนวนมากและหนึ่งหมื่นเหรียญทองจะช่วยเขาได้นานขึ้น
“เจ้าไม่ดีพอที่จะต่อสู้กับข้า” หยางไคกล่าวชัดถ้อยชัดคำกับหลี่ฟู่เฉิน
“พวกเราต้องประสบด้วยตัวเองถึงจะรู้” หลี่ฟู่เฉินแสดงท่าทีจริงจัง หยางไคนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่าย ถ้าปราศจากการฟาดฟัน เขาไม่มั่นใจว่าใครแกร่งกว่ากัน
“จริงเหรอ?”
“วิชาอสรพิษสามแฉก!”
หยางไคกวัดแกว่งดาบด้วยความเร็วเต็มพิกัด สามารถมองเห็นแค่ประกายเงาแสงเท่านั้น มันเป็นเหมือนลิ้นสามแฉกของงูพิษ
คมดาบนี้ไม่เพียงรวดเร็ว มันยังรวมพลังอันน่าประหลาดใจ หลี่ฟู่เฉินที่ยืนห่างออกไปไม่กี่เมตรรู้สึกได้ถึงแรงที่พุ่งเข้าชน นี่ไม่ใช่พลังลมปราณของดาบ แต่เป็นพละกำลังที่เกิดจากดาบไม้ที่คมกริบดั่งใบมีดโกน
“วิชาดาบอสรพิษสำเร็จแล้ว!”
ด้วยการปาดมองเพียงครั้งเดียว หลี่ฟู่เฉินรับรู้ได้ว่าวิชาดาบอสรพิษของหยางไคนั้นสำเร็จแล้ว
ตอนนี้ยกเว้นหลี่ฟู่เฉิน มีเพียงหยางไคเท่านั้นที่สำเร็จวิชาดาบระดับเหลืองขั้นกลาง แม้แต่เหอปิงและจือฮงซิ่วก็ห่างชั้นไม่กี่ก้าว แต่เหอปิงถูกชดเชยด้วยทักษะการต่อสู้ที่น่าทึ่งของเขาในขณะที่จือฮงซิ่วอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้นเช่นเดียวกับหลี่ฟู่เฉิน
ในช่วงเวลานี้มันคงน่าละอายถ้าหลี่ฟู่เฉินยังคงรั้งพละกำลังที่แท้จริงของเขาไว้
การโคจรวิชาหยกแดงขั้นที่หกของเขา ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีก 30% เมื่อกวัดแกว่งดาบดาบแสดงการต้อนรับหยางไค......
กลุ่มลับ ที่เพจ indynovels