ตอนที่ 22 ชำระความอัปยศ [อ่านฟรี]
ตอนที่ 22 ชำระความอัปยศ
เคล็ดวิชามีดปลิดชีพ?
ในขณะนี้ ในใจของศิษย์ทำเนียบภายนอกทุกคนต่างมีความรู้สึกสงสัยอย่างลึกๆ
เคล็ดวิชามีดปลิดชีพนั่น คือวิชามีดที่น่ากลัวแบบใด ถึงกับสามารถทำให้หลินเทียนผู้เป็นศิษย์อันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายนอกแสดงความหวาดกลัวได้ถึงขนาดนี้
"วิชายุทธระดับกึ่งสูงสุด" ทันใดนั้น หลินเทียนพูดดังขึ้นอย่างช้าๆ
หลังจากที่พูดจบ และเกิดความเงียบอย่างแปลกประหลาด พร้อมกันนั้น ผู้ชมต่างก็เดือดพล่านขึ้นทันที
"อะไรนะ? วิชายุทธระดับกึ่งสูงสุด!"
"ศิษย์ทำเนียบภายนอกของเรา ไม่ต้องพูดถึงวิชายุทธระดับกึ่งสูงสุดเลย แค่วิชายุทธระดับสูง เพียงพบเจอแต่มิเคยครอบครอง แต่หลินเจว๋เตาผู้นี้ กลับครอบครองวิชายุทธระดับกึ่งสูงสุด น่าสะพรึงกลัวยิ่ง!"
"ตำนานไร้พ่ายของหลินหาน เกรงว่ากำลังจะสิ้นสุด"
บัดนี้ ศิษย์แต่ละคนล้วนมองหลินเจว๋เตาผู้สะพายมีดยาวด้านหลังด้วยความตกใจ
"วิชายุทธระดับกึ่งสูงสุด?"
แม้แต่ศิษย์ทำเนียบภายในบางคนที่มาร่วมชมการประลองยังแฝงความตกตะลึงในดวงตา
อย่างที่ทราบ วิชายุทธระดับสูงสุด ยังพบเจอในทำเนียบภายในยากมาก
เกรงว่า คงมีเฉพาะผู้แข็งแกร่งอันดับต้นๆของทำเนยบภายในเท่านั้น ที่มีคุณสมบัติในการแตะต้องวิชายุทธระดับสูงสุด
“พ่อหลินเจว๋เตาผู้นี้คือหลินป้าเตา เป็นผู้อาวุโสระดับสูงที่มีอำนาจบารมีสูงของสำนักตระกูลหลิน” บางคนก็กระพริบตาและพากันคาดเดา
แต่ในเวลานี้ หลินเจว๋เตาดึงหลินเหม่ยเอ๋อที่ยืนข้างๆเขาเข้าไปในอ้อมกอด แล้วมองหลินหานด้วยสายตาเย็นชา: "หลินหาน ไม่ทราบว่า เจ้ารู้สึกยังไงเมื่อเห็นเพื่อนในวัยเด็กที่เติบโตพร้อมเจ้ามาอยู่ในอ้อมกอดของข้า?
ในตอนนี้ หลินเจว๋เตาต้องการใช้หลินเหม่ยเอ๋อมาฉีกหน้าหลินฮัน
แต่บัดนี้ วิสัยทัศน์การมองโลกของหลินหานกว้างขวางขึ้น จิตใจแข็งแกร่ง แค่คำพูดประโยคเดียวมิอาจสามารถสั่นคลอนเขาได้
“ผู้หญิงแพศยาที่ถูกข้าเล่นตั้งแต่เด็กจนโตจนข้าเบื่อแล้ว แค่เจ้าคิดว่าเป็นสิ่งล้ำค่า แล้วคิดว่าข้าจะสนใจเหรอ?”
ทันใดนั้น หลินหานพูด น้ำเสียงเหน็บแนม
"เจ้า ... " หลินเจว๋เตาคิดไม่ถึงว่าหลินหานจะพูดสิ่งนี้จริง ๆ สีหน้าของเขาแข็งแกร้าวขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะอย่าง การที่มีศิษย์ทำเนียบภายนอกกจำนวนมากรอบๆต่างมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกประหลาด ทำให้ใบหน้าของหลินเจว๋เตาร้อนฉ่า
"หลินหาน! เจ้าพูดเรื่องอะไรนะ!"
ทันใดนั้น เสียงแหลมของหลินเหม่ยเอ๋อก็ดังขึ้น "เจ้าเป็นเพียงศิษย์จากสาขาที่ต่ำต้อย มีคุณสมบัติอะไรมาพูดถึงข้า? เจ้าคนต้อยต่ำยาจกเช่นเจ้า มีตบะสูงแล้วอย่างไร ไร้สถานะ ไม่มีภูมิหลัง ไม่มีใครสนับสนุน! ถูกกำหนดให้เป็นแค่สวะเท่านั้น! "
"ข้าก็มีข้าเป็นที่พึ่ง!"
ทันใดนั้น หลินหานส่งเสียงตะโกน
"บูม"
ออร่าอันทรงพลังแผ่ออกจากร่างของหลินหานในทันใด
ในขณะนี้ มังกรทองคำห้ากรงเล็บร้องคำรามในโลกแห่งจิตของหลินหาน เสียงคำรามมังกรสะท้านฟ้า เพียงพริบตาเดียว บารมีแห่งจักรพรรดิมังกรอย่างเจือจางถูกรวมเข้ากับคำพูดของหลินหานในขณะนี้
ข้าก็มีข้าเป็นที่พึ่ง!
ข้า ก็คือที่พึ่งพาของข้า!
เมื่อพูดจบ ราวกับเสียงดังของสายฟ้าฟาด
เหล่าศิษย์ทำเนียบภายนอกนับไม่ถ้วนสีหน้าแข็งทื่อ แต่อารมณ์เริ่มตื่นเต้นฮึกเหิม
พวกเขาล้วนเป็นศิษย์ต่ำต้อยแห่งทำเนียบภายนอก ไม่มีสถานะและไม่มีภูมิหลัง พวกเขาได้แต่รู้สึกไม่ยินยอมในใจว่าทำไมไม่มีบุคคลที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังพวกเขา ทำไมจึงไม่มีการสนับสนุนที่ทรงอำนาจอยู่เบื้องหลัง
แต่ในเวลานี้ คำพูดของหลินหานกลับทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนตาสว่างทันที
ตัวเองไม่มีที่พึ่งแล้วยังไง?
เช่นนั้น ก็ให้ตัวเองกลายเป็นที่พึ่งของตัวเอง!
ในเวลานี้ หลินหานยืนอยู่บนสังเวียนเป็นตาย สายตาคมกริบดั่งใบมีด เขาจ้องมองที่หลินเหม่ยเอ๋อซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ทำให้ใบหน้ามุ่งร้ายของหลินเหม่ยเอ๋อ เปลี่ยนเป็นสีซีดเผือด
นาง ถูกดวงตาที่เย็นชาของหลินหานทำให้หวาดกลัวโดยสมบูรณ์ และไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย
“เด็กคนนี้ น่าสนใจขึ้นมาหน่อย” ในเวลานี้ ผู้อาวุโสแห่งทำเนียบภายในที่อยู่ตรงกลางของสังเวียนเป็นตายได้เห็นสิ่งนี้ ดวงตาจึงเปล่งประกายสลัว ๆ
"หลินหาน!"
ในเวลานี้ หลินหรูเยียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก กำลังมองดูชายชุดสีเขียวที่ยืนอยู่บนสังเวียนเป็นตาย ราวกับดาบยาวลู่ลม ออร่าไม่ธรรมดา
ราวกับว่าหัวใจของนางสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม
แม้ว่าหลินหานจะมีขอบข่ายยุทธจตุสวรรค์ แต่ออร่าเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะสู้กับปรมาจารย์ยุทธบางคนได้
"เป็นคู่ต่อสู้ที่ทรงพลัง!"
ไม่ไกลนัก หลินเทียนซึ่งเป็นลูกศิษย์อันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายนอก เกิดความหวาดกลัวเล็กน้อยในดวงตา "หลินหานคนนี้ ข้ารู้จักดีที่สุด เป็นแค่คนจากสาขาที่ห่างไกล ในหนึ่งปีที่ผ่านมา กล้ำกลืนฝืนทนถูกรังแก แต่ในระยะเวลาอันสั้นนี้ ร่างกายของเขาเกิดอะไรขึ้นกันนะ เหตุใดจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมายเช่นนี้?"
สิ่งที่คนอื่นเห็นอาจเป็นความแข็งแกร่งของหลินหาน แต่อย่างไรก็ตาม ดวงตาของหลินเทียนเป็นเหมือนคบเพลิง เพราะสิ่งที่เขาสังเกตเห็นคือ พลัง ปราณ วิญญาณของหลินหาน รวมทั้งเจตจำนงการต่อสู้และหัวใจแห่งวิถียุทธของหลินหาน
หัวใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความสงสัย
หากหลินหานได้รับยาตันผันเปลี่ยนวิญญาณ หรือกลืนผลพิกลแห่งฟ้าดิน ก็สมเหตุสมผลที่จะฝึกฝนให้แข็งแกร่งในเวลาอันสั้น
แต่สิ่งใดกัน ที่สามารถเปลี่ยนพลัง ปราณ วิญญาณของคนๆหนึ่ง เปลี่ยนจากภายในจนประจักษ์แจ้งได้ถึงขนาดนี้?
ในความเป็นจริง ไม่ได้มีเพียงหลินเทียนเท่านั้น แต่หลินหรูเยียนผู้ลึกลับและมีความรอบรู้ที่ไม่ธรรมดา ในใจของนางยังเปี่ยนความพิศวงต่อหลินหานอย่างไม่จบไม่สิ้น
หากหนึ่งปีที่ผ่านมาของหลินหานเปรียบเขาเป็นดั่งมด ตอนนี้เขาก็เกิดใหม่อย่างแท้จริง และกลายเป็นมังกรที่มีศักยภาพไม่ จำกัด
เมื่อเขาถือกำเนิด ก็จักฉายแสง รอคอยให้มังกรกลับสู่มหาสมุทธ แล้วทะยานสู่สวรรค์ชั้นเก้า มองโลกกว้างจากเบื้องบนอย่างทระนง
"ลุงกุ่ย เจ้าพูดว่าสถานที่เล็ก ๆ แห่งนี้ไม่มีคนที่อยู่โลกเดียวกับข้า แต่ ... " หลินหรูเยียนครุ่นคิดในใจ ดวงตาคู่งามมองไปที่หลินหานซึ่งยืนอยู่บนสังเวียนเป็นตาย ดวงตาแสดงความฉงนใจ
ในเวลานี้ พอหลินหานได้ใบหน้าซีดเผือดของหลินเหม่ยเอ๋อ ทั้งใบหน้าที่ขุ่นมัวถึงขีดสุดของหลินเจว๋เตา ในใจของหลินหานจึงรู้สึกถึงความสุข
ความไม่เต็มใจและความเศร้าหมองที่สุมในใจในหนึ่งปีที่ผ่านมา ถูกขจัดจนหมดสิ้นในที่สุด
วันนี้ ความอัปยศที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยได้รับหลังจากที่ก้าวเข้ามาในสำนักตระกูลหลิน ในที่สุดก็ถูกชำระล้างเสียที
“เจ้าหนู เจ้ากล้าดูถูกข้า กำเริบเสิบสานนัก!” ทันใดนั้น หลินเจว๋เตาดึงมีดยาวด้านหลังออกมา
ดวงตาของเขาเย็นชามาก จ้องเขม็งหลินหาน จิตสังหารพลุ่งพล่าน และยิ้มอย่างโหดเหี้ยม: "ตอนนี้ ข้ายังใช้ในประโยคเดียวกันนั้น จงคุกเข่าต่อหน้าข้า หักแขนตัวเองหนึ่งข้าง มิฉะนั้น เจ้าจะต้องตายอย่างสยดสยอง”
"ข้าก็ขอใช้ประโยคเดิม"
ในขณะนี้ หลินหานที่ยืนอยู่บนสังเวียนเป็นตาย ผมสีดำราวกับน้ำตก ลูกตาเฉกเช่นสายฟ้า จิตสังหารพรุ่งปรี๊ด เขาดึงดาบยาวค่อยๆชี้ไปทางหลินเจว๋เตา: "ข้าเชื่อว่า คนที่จะต้องตายอย่างสยดสยอง... คือ เจ้า! "
"บูม"
สสารถ่องแท้ที่น่าหวาดกลัวปะทุออกมาทันที
เคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่ถูกกระตุ้นอย่างระห่ำ ร่างกายของหลินหานคล้ายกับจะมีเสียงมังกรคำราม ทำให้เขาระบิดพลังที่ทรงแสนยานุภาพ
แต่ในตอนนี้เอง หลินเจว๋เตาที่อยู่ไม่ไกลไกลนักได้โจมตี
"เคล็ดวิชามีดปลิดชีพ!"
"รูปแบบแหวกนภา!"
"รูปแบบทะลวงนภา!"
"รูปแบบขยี้นภา!"
หลินเจว๋เตาส่งเสียงร้องด้วยเสียงเย็นยะเยือก มีดยาวในมือของเขาส่องประกายสีเลือด พลังดาบถูกตวัดทะลวงผ่านท้องฟ้า ปล่อยการโจมตีสามมีดไปทางหลินหานทันที
พลังมีดทุกการโจมตี สามารถตัดขาดอากาศได้
พลังมีดแต่ละเล่มจะแข็งแกร่งกว่าอีกเล่ม มีดเต็มไปด้วยจิตแห่งการฆ่าและทำลายล้าง
ราวกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อยู่ภายใต้พลังมีดนี้ จะต้องถูกทำลายล้างจนไม่เหลือซาก และถูกปลิดชีพ
"วิชายุทธระดับสูงสุด ถึงกับสัมผัสถึงข่ายจิตได้เล็กน้อย"
ไม่ไกลนัก หลินเทียนแลดูตกใจ
"ข่ายจิต?"
หลินหรูเยียนเปลี่ยนอารมณ์ในดวงตาคู่งาม นางหันไปมองหลินหานทันที หัวใจรู้สึกถึงอันตราย
"โล่ระฆังทองตะวันฉาย!"
แต่ในเวลานี้ น้ำเสียงที่สงบจนถึงขีดสุดดังขึ้นในทันที
"เวิง"
ทันใดนั้นอากาศก็แกว่งไปมา พร้อมกับต้องเผชิญหน้าพลังพลังมีดทั้งสามที่น่ากลัว สสารถ่องแท้เดือดทั่วร่างของหลินหาน สองมือของเขาค้ำยันอยู่บนท้องฟ้า ระฆังทองคำโบราณปรากฏขึ้นรอบๆร่างกายของเขา ราวกับมันถูกหล่อด้วยทองคำโลหะ จึงส่องแสงเงางามสีทองอร่าม เย็นยะเยือก แข็งแรง เต็มไปด้วยพลังงานและความแข็งแกร่ง!
"ครืด"
พลังมีดสามเล่มที่มีความรุนแรงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พร้อมพลังที่น่าสะพรึงกลัว โจมตีเฉือนตัดระฆังขนาดใหญ่ทันที จนส่งเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น
ยามนี้ ฝุ่นควันลอยคละคลุ้ง ปกคลุมทุกอย่าง
"ต้านได้หรือเปล่า!"
"หลินหานคงไม่โดนตัดเป็นชิ้น ๆไปแล้วใช่ไหม?"
บนพื้นของสังเวียนเป็นตายเริ่มแตกและทลายลง ฝุ่นหนาแน่นถูกลมพัดลอยคลุ้ง ทำให้ผู้คนมองคนทั้งสองคนบนสังเวียนได้ไม่ชัดเจน
ศิษย์ทำเนียบภายนอกจำนวนนับไม่ถ้วน แม้กระทั่งศิษย์ทำเนียบภายในในต่างพากันเคร่งเครียด ส่งเสียงร้องอย่างตื่นตระหนก