ตอนที่แล้วMoney Monster Episode IX [สู่พรมแดนไร้ขอบเขต]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMoney Monster Episode X [มุ่งหน้าสู่วอลสตรีท!]

Money Monster Episode IX [ถือกำเนิด ราชาแห่งการทำลายและการสร้างสรรค์]


Money Monster

Episode IX

[ถือกำเนิด ราชาแห่งการทำลายและการสร้างสรรค์]

 

 

เมื่อรู้ตัวอีกทีไลท์ก็มาปรากฏยังสถานที่ที่เขาไม่รู้จัก

มันเป็นเสมือนมิติพิศวง รอบกายเต็มไปด้วยสีเงินและสีทองเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทำจากเงิน เครื่องประดับและภาชนะที่ถูกสร้างจากทองคำ ภาพงานศิลปะที่ลอยอยู่กลางอากาศ และกลิ่นน้ำหอมที่พอสูดดมเข้าไปก็แทบจะกระอักลมหายใจออกมา

‘รู้สึกไม่ถูกชะตากับที่นี่ยังไงก็ไม่รู้’ ไลท์คิดในใจก่อนจะกวาดสายตามองสำรวจไปทั่ว อเดมัสที่อยู่ด้วยกันจนเมื่อครู่ไม่รู้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทิ้งให้เขาต้องอยู่บนทางเดินตามลำพัง

ไลท์บังคับร่างให้เดินไปตามทางเรื่อยๆ แม้เขาจะไม่มีความรู้ด้านงานศิลปะแต่ก็สัมผัสได้ว่าสิ่งของทุกอย่างที่มีในสถานที่แห่งนี้เป็นผลงานเลอค่า มีมูลค่ามหาศาลอย่างแน่นอน และยิ่งเดินไปก็ไม่ได้เห็นแต่งานภาพหรือภาชนะอีก แต่เห็นตู้โชว์เครื่องเพชร งานประติมากรรม และสิ่งของพิสดารสุดแปลกตา

‘ต้องมีเงินขนาดไหนถึงหามาได้ขนาดนี้’ ไลท์ลอบคิดในใจอีกครั้งก่อนจะเดินมาถึงปลายทาง เป็นประตูบานใหญ่ที่ถูกประดับด้วยเพชรเล็กใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน เขากลืนน้ำลายลงคอเฮือกโตก่อนจะเอื้อมแขนไปสัมผัส ประตูก็ค่อยๆ เปิดออก

เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องเล่นเสียง ให้บรรยากาศคลาสสิกอย่าบอกใคร เมื่อก้าวเข้ามาในห้องพลันรู้สึกได้ถึงมนต์ขลังบางอย่างจากบรรยากาศที่แผ่ออกมาจากตัวห้อง แสงไฟสีเหลืองอ่อนตลับกับธีมของห้องที่ราวกับหลุดมาจากยุโรปยุคโบราณ รกรุงรังไปด้วยกองหนังสือ ของเล่นและตุ๊กตา

“มาแล้วงั้นเหรอ” เสียงใสดังขึ้นจนไลท์ต้องรีบหันไปเหลียวมอง เก้าอี้เลื่อนสีดำค่อยๆ หมุนตัวอย่างเชื่องช้าจนทำให้เขาเห็นรูปลักษณ์ของเจ้าของเสียงอย่างชัดเจน

ดูจากภายนอกเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าชวนลุ่มหลงมากคนหนึ่ง เส้นผมสีทองคำขาวกับดวงตาสีมรกต ตกแต่งหน้าจนขาวสะอาด ทาปากด้วยลิปสติกสีเงิน รูปร่างสมส่วนมาตรฐานแต่งกายด้วยชุดของสุภาพบุรุษ ชวนให้สับสนว่า เป็นสตรีแต่งชาย หรือเป็นบุรุษหน้าหวานกันแน่

“ยินดีที่ได้รู้จัก เรามีนามว่ามาม่อนแห่งความโลภ เป็นว่าที่คู่สัญญาของเจ้า” มาม่อนเอ่ยแนะนำตัวพลางผายมือไปยังที่นั่งตรงกันข้ามของเธอ? ไลท์ผงกศีรษะเบาๆ อย่างว่าง่ายและเดินมานั่งลงเก้าอี้

“อเดมัสล่ะ”

“อเดมัสขัดคำสั่งของเราเล็กน้อยเลยต้องรับบทลงโทษ แต่ไม่ต้องไปสนใจ มาเริ่มงานของเรากันเถอะ” จ้าวแห่งความโลภเอ่ยยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะมีแผ่นกระดาษและปากกาขนนกปรากฏขึ้นบนโต๊ะอันว่างเปล่า

“หากเซ็นสัญญาฉบับนี้ เจ้าจะได้รับสิ่งที่ปรารถนา..”

“รู้แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นฉันมีคำถาม”

“คำถาม?”

“คุณเป็นคนสร้างMoney Monsterขึ้นมาใช่ไหม”

“ใช่แล้ว”

“ทำไปเพื่ออะไร” ไลท์ส่งสายตาไปหาท่านจ้าวแห่งความโลภ ทำให้เธอ?ลอบยิ้มที่มุมปากไปด้วยความสุข

ตั้งแต่ได้ยินเกี่ยวกับMoney Monsterเป็นครั้งแรกไลท์ก็สงสัยมาโดยตลอด ว่าจุดประสงค์ที่มันถูกสร้างขึ้นมีไว้เพื่ออะไรกันแน่?

ทำความปรารถนาให้เป็นจริงโดยการเอาชะตากรรมไปค้ำ ใช้อนาคตและชีวิตของคนที่ไม่เกี่ยวข้องมายุ่มย่ามเพื่อความต้องการของตนเอง เอาตัวเข้าเสี่ยงต่อสู้กับอสุรกายน่ารังเกียจ ตอนนี้ไลท์ยังไม่รู้ว่าหากกลายเป็นโบรกเกอร์แล้วจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง

แต่เท่านี้ก็ทำให้ไลท์ไม่ชอบใจMoney Monster แล้ว แถมมันยังชักนำพาให้ครอบครัวของเขาที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรจนต้องเดินทางสู่ความตาย ความไม่พอใจจึงพกมาเต็มกระเป๋า

“ถ้าเราไม่ตอบล่ะ?”

“....”

“ฮะฮะ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ มันเป็นความลับทางธุรกิจ หากเราเผยแพร่ออกไปจะส่งผลเสียต่อภาพรวมของบริษัท เราสามารถบอกเจ้าได้เพียงเท่านี้”

“แบบนี้เอง..” ไลท์พยักหน้า

‘เพราะมีผลประโยชน์สินะ’

“ไม่น่าถามเลยแฮะเรา”

“สักวันเจ้าจะได้รู้อย่างแน่นอน..มีคำถามอะไรอีกหรือไม่?”

“ข้อเสนอพิเศษที่เตรียมไว้ให้ ยังไม่เห็นเขียนไว้ตรงไหนในสัญญาเลย” ไลท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเมื่ออ่านข้อความบนกระดาษจนครบ มาม่อนหลุดคำออกมาครู่หนึ่งก่อนจะสะบัดกระดาษหนึ่งที ข้อความในสัญญาก็ถูกเพิ่มขึ้นมา

“ขออภัย พอดีเราเบลอนิดหน่อย”

“....”

‘จงใจปั่นสมาธิเราสินะ’

“ข้อเสนอที่เราเตรียมไว้ให้อาจมากพอแล้ว ได้รับการ์ดที่แข็งแกร่ง มีอาวุธหายาก อาภรณ์มีคุณสมบัติพิเศษ และพลังติดตัวที่เสริมพลังให้แก่กำลังรบมหาศาล โบนัสลดค่าใช้จ่ายตอนใช้พลัง เพิ่มปริมาณเงินที่ได้รับจากการกำจัดกรีดมากยิ่งขึ้น มีโอกาสได้รับไอเทมมากขึ้นจากการกำจัดกรีด และมีโอกาสได้รับการที่ต้องการมาขึ้นมือมากยิ่งขึ้น”

“อืม” ไลท์พยักหน้าเมื่ออ่านข้อความแล้วตรงกับที่มาม่อนพูดทุกประการ เธอ(?)ยิ้มก่อนจะยื่นสัญญาให้เข้ามาใกล้เป็นการเร่งรัด ทว่า เขากลับพูดบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายต้องฉงน

“มาม่อน สนใจเล่นเกมกันไหม?”

“หืม?”

“มาเสี่ยงทายกัน ถ้าฉันชนะข้อเสนอพิเศษจะต้องมีผลมากขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ถ้าฉันแพ้เชิญเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมีไปได้เลย”

“โอ้ว!” ร่างายอันบอบบางสะท้านไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินประโยคเมื่อสักครู่ ดวงตาเบิกกว้างจับสังเกตว่าอีกฝ่ายพูดเล่นหรือไม่ แต่ก็ต้องพบว่าไม่ สายตาของชายหนุ่มที่จดจ้องมาทางนี้ไม่มีอาการสั่นคลอน เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและการเตรียมใจมาแล้วอย่างถี่ถ้วน

“โลกมากจริงๆ เลยนะ!” มาม่อนยิ้มกว้างเอ่ย

“อืม”

“กติกาล่ะ!”

“กติกาง่ายๆ เลือกมาว่าใครจะลงหัวหรือก้อย หลังจากเลือกเสร็จฉันจะดีดเหรียญลงพื้น จะได้ไม่ต้องมีใครโกงได้ เพราะเลือกทายกันตั้งแต่เหรียญยังไม่เริ่มดีดด้วยซ้ำ”

“....”

“วันนี้ฉันใช้สมองมาเยอะแล้ว ไม่อยากทำอะไรสิ้นเปลืองมากเท่าไหร่ ใช้ดวงนี่แหละเป็นตัวตัดสิน ยังไงถึงต่อให้เป็นฝ่ายแพ้ฉันก็ไม่แคร์ ชีวิตที่ไม่มีครอบครัวอยู่ไปก็ไม่มีความหมาย สู้ดับเครื่องชนไปเลยซะยังจะดีซะกว่า”

“....”

“หึ หึหึ หึหึหึ ฮะ!ๆๆๆๆ” มาม่อนหัวเราะออกมาพลางปาดน้ำตาไปด้วย เธอ(?)ขำออกมาชนิดแทบจะลืมหายใจ กุมท้องที่แข็งเกรงอย่างทุรนทุรายอยากลงไปชักดิ้นชักงอบนพื้นให้รู้แล้วรู้รอด ไลท์มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นเมื่ออีกฝ่ายทำปฏิกิริยาเช่นนี้ใส่

‘จะรับไหม’

“เพราะแบบนี้ไงเลยน่าสนใจ”

“?”

“ก็ดี มาเล่นกัน” มาม่อนแสยะยิ้มออกมา ไลท์หรี่สายตาลงและเตรียมเหรียญขึ้นดีด

“หัว” ไลท์เลือก

“ก้อย” มาม่อนเลือก

ทั้งสองได้เลือกแล้ว ต่างฝ่ายต่างเงียบงันไม่ส่งเสียงอะไรอีก ใช้สมาธิกับการจับตาดูผลของการทายผลด้วยความลุ้นระทึก มือขวาที่ใช้ดีดเหรียญของไลท์สั่นตื่นเต้นระรัวจนไม่กล้าดีด ชายหนุ่มสูดลมหายใจดังเฮือก

‘ทำทุกอย่างตามที่ใจต้องการใช่ไหมครับ พ่อ’

‘ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ผมก็จะไม่เสียใจเพราะผมทำเต็มที่แล้ว

ครอบครัวของผม ผมจะทวงคืนมันมาเอง

เสียงดัดนิ้วดังเปราะเป็นสัญญาณของการเริ่มต้น เหรียญสีทองหมุนกลางอากาศอย่างต่อเนื่องแล้วร่วงหล่นลงสู่พื้นโต๊ะ มันสั่นไปมาตามแรงกระทบสักพักก่อนจะแน่นิ่งลงในที่สุด และผลของมันก็คือ

[หัว]

“ฉันชนะ!” ไลท์ยิ้มแผดเสียงออกมา แต่พอสังเกตที่ใบหน้าของมาม่อนก็ทำให้ต้องหุบยิ้มกลับไปดังเดิม

เพราะอีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีเจ็บใจอะไรเลย แถมยังยิ้มอีกด้วย แต่ว่า..มันยังไม่จบ

“มาม่อน”

“อะไรเหรอ”

“มาเล่นอีกรอบ”

“...”

“กติกาเหมือนเดิม ฉันชนะฉันต้องได้ทุกอย่างเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่ถ้าฉันแพ้เอาทุกอย่างของฉันไปได้”

“หมายความว่าเจ้าจะเอาสิ่งที่มีอยู่ทั้งหมดมาเสี่ยงงั้นเหรอ? เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหม ถ้าหากเจ้าแพ้ทุกอย่างที่มีจะสูญเปล่านะ”

“ฉันต้องชนะ..และได้ทุกอย่างที่ต้องการ นี่คือคำพูดจากใจของฉันในตอนนี้”

“อุ๊ป! ฮะ!ๆๆๆ เอาอีกแล้ว โอ้ยท้องข้าเกรงไปหมดแล้ว น่าดีใจจริงๆ ไลท์ ลินสตอร์ม ความโลภของเจ้าช่างสุดยอดจริงๆ ข้าขอยอมรับ!”

“...”

“เจ้าชนะแล้ว..ไลท์ ลินสตอร์ม..ทุกอย่างที่เรียกร้องจะเป็นของเจ้า..”

“ถ้าอย่างนั้น..มาทำสัญญากันเถอะ”

“ด้วยความยินดี ไลท์ ลินสตอร์ม!” สิ้นเสียงของมาม่อนบนสัญญาพลันส่องแสงสว่างสีทองขึ้นอีกคราวก่อนที่ข้อความจะถูกเพิ่มเข้าไปอีกจำนวนหนึ่ง ไลท์กวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็วและหยิบปากกาขนนกขึ้น

“ไลท์ ลินสตอร์ม นี่คือทางเลือกของเจ้า” มาม่อนกล่าวและดีดนิ้ว ปรากฏฟองสบู่สีทองขึ้นกลางอากาศ พอมองตรงเข้าไปยังภายในเขาก็พบร่างของชายที่มีใบหน้าและรูปร่างคล้ายคลึงกับเขา แต่สวมสูทหรูและมีผู้คนรายล้อมนับพัน

“ในอนาคตหลังจากนี้ เมื่อเจ้าเลือกที่จะไม่ทำสัญญาและได้หลงลืมเกี่ยวกับMoney Monsterจนหมด เจ้าได้ใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทให้แก่การเรียนรู้ ได้ศึกษาต่อเพิ่มเติมในมหาวิทยาลัยชื่อดังและมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ยี่สิบห้าปีต่อจากนี้เจ้าจะกลายเป็นมหาเศรษฐีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์! มีอำนาจที่แม้แต่ประธานาธิบดียังต้องยำเกรง ทุกสิ่งทุกอย่าง เจ้าสามารถครอบครองได้อย่างง่ายดายแม้กระทั่งโลกทั้งใบ!’

“แต่อนาคตที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบนั้นจะไม่มีครอบครัวของเจ้า เจ้าพร้อมที่จะแลกมันหรือไม่”

“....”

“ไม่เห็นจะต้องคิดมากให้เสียเวลา”

จะมีประโยชน์อะไรถ้าหากอนาคตมีทุกสิ่งทุกอย่างยกเว้นสิ่งที่เราต้องการ

          อนาคตที่ไม่มีครอบครัวอยู่ด้วย ฉันไม่อยากได้มันหรอก!

 

 

 

“อ้าก!!”

“ช่วยด้วย ใครก็ได้!ช่วยด้วย”

เสียงร้องโหยหวนดังจากทั่วทุกสารทิศ แต่คราวนี้ไม่ได้มาจากกรีดอีกต่อไปแต่หากเป็นเหล่าโบรกเกอร์นั่นเอง

จำนวนที่เพิ่มมากขึ้นไม่มีหยุดหย่อน ประกอบกับความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันทำให้ร่างกายมาถึงขีดจำกัด เผยช่องว่างให้พวกอมนุษย์ได้เข้าเล่นงานอย่างตรงจุด พากันอาศัยจังหวะที่ลดการป้องกันลงเข้าจู่โจมจนปลิดชีวิตโบรกเกอร์ไปได้ไม่น้อย

ฟันอันแหลมคมกัดกินเลือดและเนื้อ ฉีกชิ้นส่วนต่างๆ ขึ้นมาทานอย่างเอร็ดอร่อย ไม่พอเท่านั้นร่างกายของพวกที่ทานโบรกเกอร์เข้าไปก็มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและพลังก็สูงขึ้นตามไปซะด้วย ส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดรับมือยากไปอีก

เมซูลบังคับร่างหลบหลีกการโจมตีอย่างทุลักทุเล ร่างกายอันบอบบางเริ่มเต็มไปด้วยบาดแผลและหยาดโลหิตที่ไหลออกมา เธอหายใจหอบแรงกำดาบแทงเข้าที่กรีดจนทะลุออกหลัง

“แอ่ก!”

“เมซูล! อันตราย!” เสียงเตือนของเจเรมี่ดังมากแต่ไกลแต่เหมือนจะสายไปแล้ว ความอ่อนล้าสะสมทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลงอย่างเห็นได้ชัด กรีดที่ควรตายจากการโจมตีลุกขึ้นและสะบัดแขนกระแทกร่างของเมซูลให้ลอยกระเด็น

“เมซูล!!!!”

“ปี้!” โลมาน้อยแหวกอากาศพุ่งมารับร่างของนายหญิงมันอย่างรวดเร็วก่อนจะเหาะหนีออกไปยังที่ปลอดภัย เจเรมี่ถอนหายใจโล่งอกแล้วหันมาสนใจคู่ต่อสู้ที่อยู่ข้างกายต่อ

“เจเรมี่ ยังไหวไหม” คุโรงาเนะกระโดดขึ้นจากมาจากผิวดินมาอยู่ข้างกายเจเรมี่

“ไม่น่าไหว ตอนนี้เหรียญน่าจะหมดอำนาจไปแล้ว กรีดไม่น่าจะเพิ่มมาเยอะไปกว่านี้แล้วล่ะ”

“ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น”

“หวังว่า? ทำไมถึงใช้คำนั้นหรือ คุโรงาเนะ”

“ตอนนี้เลยเที่ยงคืนมาสักพักแล้ว แต่กรีดไม่ลดลงเลยกลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ”

“ว่าไงนะ” เจเรมี่เบิกตาโตและกวาดมองสถานการณ์โดยรอบอย่างถี่ถ้วนพบว่าเป็นเช่นนั้นจริง

“วะ..ว้ากกก ดูนั่นสิ!!” เสียงร้องโวยวายของชายคนหนึ่งทำให้ตกเป็นเป้าสังเกต ชายผู้นั้นชี้ไปยังทิศทางที่ห่างไกลออกไป เพราะว่าเป็นคืนเดือนมืดทำให้สังเกตได้ไม่ถนัด

อมนุษย์ร่างสูงยี่สิบเมตรยกขบวนทัพเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับสัตว์ประหลาดอีกจำนวนหลายร้อยตน เรียกเสียงแห่งความสิ้นหวังระงมไปทั่วพื้นที่ หลายคนเข่าทรุดลงในทันทีเมื่อเห็นภาพนี้เข้า

“เลเวลเจ็ดกับแปด มีเลเวลเก้าด้วย..จำนวนมากขนาดนั้น ตายแน่ ฉันต้องตายแน่ๆ!”

“กรี้ดดด!!ไม่เอาแล้ว ฉันเลิกแล้ว ฉันไม่เอาแล้ว”

เสียงกรีดร้องดังขึ้นก่อนจะเริ่มพากันหนีจ้าระหวั่น เจเรมี่กับคุโรงาเนะก็ไม่อยู่เฉยๆ เตรียมตัวพากันอพยพหนีไปจากสถานที่นี้โดยเร็วที่สุด

“ถอยกำลัง!” โจนาธานออกคำสั่งให้แก่ลูกน้องนับร้อยคน เห็นได้ชัดว่าขนาดองค์กรระดับสี่มหาอำนาจยังต้องยำเกรงให้แก่ศัตรูที่เข้ามาเพิ่ม

“หัวหน้า! ถ้าเราวางแผนกันดีๆ เราอาจโค่นมันทั้งหมดลงได้นะครับ! ดูพวกมันสิ ทุกครั้งกว่าจะหาเจอกินเวลาไปหลายวัน ตอนนี้มันเสนอหน้ามาให้ฆ่าถึงที่ มันน่าเสียดายนะครับ!”

“เหลวไหล! ตอนนี้ทุกคนอ่อนล้าเกินไป จำนวนก็กดข่มกันเกินไป จะรอคอยกำลังเสริมก็เห็นทีจะไม่ทันการแล้ว เราต้องถอยออกไปก่อนตอนนี้! ปกติพอเหรียญหมดอำนาจพวกกรีดมันจะพากันถอยไปเอง แต่ครั้งนี้ไม่! ตอนนี้เลยเที่ยงคืนมาสักพักแล้วแต่ดูนั่นสิ สถานการณ์มันไม่ปกติ!” โจนาธานตวาดเสียงแข็ง สีหน้าของชายรุ่นใหญ่มีความรีบร้อนและเคร่งเครียดอย่างมาก

พวกลูกน้องที่เห็นหัวหน้าที่แข็งแกร่งและน่ายำเกรงแสดงท่าทีเช่นนี้ออกมาย่อมเริ่มร้อนใจ พากันเตรียมตัวสำหรับการถอยกำลังหนีอย่างเร่งด่วน

ไม่มีโบรกเกอร์คนไหนที่กล้าแม้แต่จะเผชิญกับศัตรูตรงหน้าอีกต่อไปแล้ว ทุกคนเริ่มพากันถอนกำลังออกจากฐาน ยูเรโนสกับมาคัสที่เฝ้ามองเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นอยู่มุมตึกได้แต่ผิวปากอย่างยินดี

“ยูเรโนส”

“อะไรเหรอ? มาคัส”

“เลยเที่ยงคืนมาแล้ว ตัดใจซะเถอะ ชิพเตอร์คนนั้นไม่ได้ใช้เหรียญแล้ว”

“ก็ไม่แน่หรอก บางทีอาจกำลังเซ็นสัญญากับมาม่อนอยู่ก็ได้”

“เซ็นสัญญามันกินเวลาเป็นชั่วโมงด้วยงั้นรึ..”

“หึหึ คอยดูต่อไปเถอะนะมาคัส เพราะอีกเดี๋ยวก็จะเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นแล้ว” ยูเรโนสยิ้มและเฝ้าจับตามองเหตุการณ์ต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ และก็เกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้น

ท่ามกลางเหล่าโบรกเกอร์ที่พากันหนีกระเจิดกระเจิง มีชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินแหวกฝูงชนออกมาจากฐาน ที่มือของเขาถือบัตรสีดำที่เขียนด้วยตัวอักษรสีทองคำโตๆ ว่า

[Money Monster Card] มันส่องแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นสะดุดตา แม้กำลังพากันหนีตายอยู่ก็ไม่พลาดที่จะหันมาเหลียวมอง พอสังเกตใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้ก็ต้องพากันเลิกลั่น

“ไลท์!” เจเรมี่เอ่ยชื่อของชายหนุ่มออกมา แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไมได้จนใจเธอเลยหากแต่มุ่งหน้าเข้าหาพวกกรีดด้วยท่าทีที่เรียบเฉย เธอกับคุโรงาเนะหยุดซะงักฝีเท้าและเตรียมจะพุ่งเข้าไปพาตัวเขากลับมาแต่ก็มีกำแพงบางอย่างขวางกั้นไม่ให้ย่างกรายแม้แต่ก้าวเดียว

“ไลท์! กลับมาก่อน! มันอันตราย”

พรึบ!

ไลท์คีบบัตรสีทำตวัดร่ายกลางอากาศ เข็มขัดสีเงินที่สวมเข้ากันเอวพร้อมชุดสีดำตัดขาว แสงสีทองพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กลายเป็นที่โดดเด่นสะดุดตาในละแวกอย่างรวดเร็วโดยไม่ว่าใครก็ต้องจดจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียวกัน

เหล่าโบรกเกอร์หยุดนิ่ง กรีดไม่เคลื่อนไหว ทุกสายตาจับจ้องราวกับโลกทั้งใบได้หยุดหมุนลงชั่วขณะ ในห้วงเวลานั้นเองกลับมีอีกบุคคลที่โผล่มาปรากฏข้างกายชายหนุ่มตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่มีใครสังเกต เป็นหญิงสาวสวมชุดสุภาพบุรุษสีขาว เธอ(?)โผล่มายิ้มให้แก่ทุกคนได้เชยชม

‘นั่นมาม่อนนี่!’

เหล่าโบรกเกอร์เห็นทีหรือจะจำไม่ได้ บุคคลตรงหน้าคือคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของพวกเขาทุกคน คำถามคือ ทำไมมาม่อนจึงมาอยู่กับไลท์ได้?

“มาม่อน!” ยูเรโนสยิ้มออกมาอย่างเบิกบานเมื่อเห็นบุคคลตรงหน้า ชายชุดขาวลุกขึ้นแสดงอาการตื่นเต้นออกนอกหน้า ไม่เก็บงำความรู้สึกเลยแม้แต่น้อยราวกับรอคอยห้วงเวลานี้มาเนิ่นนานแล้ว

“จงยินดี!” เสียงของมาม่อนเอื้อนเอ่ยดังกังวานไปทั่วพื้นที่ ก้องเข้าไปในโสตประสาทของทุกคน

“พวกเจ้าได้เป็นสักขีพยานต่อการกำเนิดของราชาองค์ใหม่!”

“ไลท์ ลินสตอร์ม ผู้ท้าทายต่อโชคชะตา ลงเดินพันกับปีศาจเพื่อขุมพลังอันยิ่งใหญ่”

“ไลท์ ลินสตอร์ม! ชายผู้มากอำนาจแห่งการทำลายและการสร้างสรรค์ใหม่ ฉลาดปราดเปรื่องและร้อยเล่ห์พันกล”

“จงประจักษ์! ต่อพลังอันยิ่งใหญ่ ผู้มีชัยเหนือพระเจ้าแห่งความโลภ” สิ้นเสียงคำเอ่ยร่างกายของไลท์ปลดปล่อยละอองแสงออกมาเป็นรูปร่าง กลายเป็นมังกรขนาดใหญ่สูงราวยี่สิบเมตร ลักษณะห่อหุ้มด้วยแผ่นโลหิตสีดำดูน่าเกรงขาม ดวงตาจดจ้องออกไปไกลให้รัศมีของผู้ปกครองอย่างแท้จริง

มันสลายร่างกลายเป็นละอองเช่นเดิมและเคลื่อนตัวไปยังสต๊อกการ์ดที่แนบไว้ตรงเข็มขัดด้านขวา ไลท์สะบัดมือคว้าปืนสีเงินที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศแล้วเล็งไปที่กองทัพกรีดจำนวนมหาศาล มือหนึ่งดึงการ์ดมาเสียบส่งเสียงสังเคราะห์ดังขึ้นระงม

[Summon Card : TankTurtle 100,000 Coin] (เต่ารถถัง)

“เช็ค”

[Payout Complete (ชำระเสร็จสิ้น)]

“อูม!” เสียงคำรามดังก่อนจะได้ยินเสียงเคลื่อนที่ของวัตถุขนาดใหญ่ ห่างไปไม่ไกลจากจุดที่ไลท์ยืนอยู่พวกอมนุษย์ขนาดเล็กถูกซัดปลิวด้วยพาหนะหุ้มเกราะที่มีรูปร่างเป็นเต่ายักษ์ ร่างกายของมันถูกทำด้วยโลหิตแข็งกล้าและป้อมปืนใหญ่ติดอยู่บนกระดอง

มันยิงปืนใหญ่เพื่อเปิดทางทำให้พวกกรีดล้มตายกันระเนระนาด แล้วจึงเดินมาหยุดลงข้างกายนายท่านของมัน

‘เจ้าพวกอมนุษย์น่าขยะแขยง’

‘เพราะพวกแก..ครอบครัวของฉันถึงได้ตาย’

‘โทษของพวกแกมีสถานเดียว..’

จงหายไปให้หมดซะ!

[Attack Card : Destiny Striker Canon 300,000 Coin]

“เช็ค”

[Payout Complete (ชำระเสร็จสิ้น)]

[Un]

“อูม” แท้งค์เทอเทิลส่งเสียงร้องหนึ่งที หัวของมันหดเข้าไปในกระดองทันทีก่อนที่ร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

กระดองแตกออกเป็นสองส่วนตามด้วนชิ้นส่วนโลหิตมากมายที่แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ แล้วประกอบขึ้นใหม่จากปืนใหญ่กระบอกเดิม กลายเป็นปืนใหญ่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมราวสามเท่าหันเป้าเล็งไปยังกลุ่มก้อนของอมนุษย์

ในพริบตานั้นพวกมันสัมผัสได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา กลายเป็นฝ่ายหันหลังหนีตายกันแทนอย่างไม่อายฟ้าอายดิน ละอองแสงสีทองถูกดูดเข้าปากกระบอกปืนราวกับกำลังสั่งสมพลังงาน ไลท์ยกปืนพกชี้ไปที่พวกอมนุษย์และเหนี่ยวไกลปืน

ปัง!

วินาทีเดียวกับที่ลั่นไกลกระสุนปืนใหญ่ก็ถูกยิงออกไปด้วยความเร็วสูง เร็วขนาดได้ยินเสียงแหวกอากาศจากที่ห่างไกล เมื่อเข้ากระทบกับวัตถุก็ไม่ต้องพรรณนาใดๆ ต่อผลที่เกิดขึ้น

มีเพียงโบรกเกอร์และกรีดบางส่วนเท่านั้นที่บอกเล่าอานุภาพการทำลายของการโจมตีครั้งนี้ได้ และมันถูกใช้งานโดยโบรกเกอร์มือใหม่เพียงคนเดียว..

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด