DC บทที่ 4: คลังมุกพิสุทธิ์
ภายในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย มีสถานที่หนึ่งเรียกว่า คลังมุกพิสุทธิ์ ยา หินวิญญาณ อาวุธ และของมีค่าอื่น ทุกอย่างสามารถนำออกไปได้ตราบเท่าที่มีแต้มรางวัล
แต้มรางวัลเป็นระบบเงินระบบหนึ่งซึ่งใช้เฉพาะภายในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ถ้ามีแต้มรางวัลจะสามารถแลกเปลี่ยนกับอะไรก็ได้ที่มีในคลังมุกพิสุทธิ์
แต้มรางวัลสามารถหาได้จากนิกายโดยทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อนิกายหรือกิจกรรม พวกมันยังสามารถใช้แลกเปลี่ยนกับสิ่งอื่นได้เช่นเดียวกับเงินทอง
“ต้องใช้แต้มรางวัลเท่าไรสำหรับดอกหยางบริสุทธิ์”
ซูหยางถามผู้อาวุโสที่อยู่เบื้องหลังโต๊ะ เขาตัดสินใจมาที่คลังมุกพิสุทธิ์หลังจากพบว่าตนเองนั้นช่างอ่อนแอ แต่เมื่อปราศจากคู่ฝึก มีเพียงอีกวิธีก็คือใช้ทรัพยากรจากนิกาย และวิธีนั้นก็คือเอาทรัพยากรจากคลังมุกพิสุทธิ์ ซึ่งมีของมีค่ามากมายให้ซื้อหา
“ดอกหยางบริสุทธิ์ ทำไมศิษย์นอกเช่นเจ้าต้องการยามีค่าแบบนี้” ชายชรามองที่เขาด้วยความรู้สึกทึ่ง “10,000”
“10,000” หยางเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “แต้มรางวัลได้จากภารกิจสูงสุดที่ 100 และภารกิจนั่นก็สุดโหด แต่ท่านต้องการแต้มรางวัลถึง 10,000 สำหรับดอกหยางบริสุทธิ์ธรรมดานี่ นี่มันปล้นกันกลางวันแสกๆ”
ในสายตาของเขา ดอกหยางบริสุทธิ์เป็นยาระดับต่ำสำหรับใช้โดยคนทั่วไป แต่พวกเขาทำเหมือนกับว่ามันเป็นยาระดับเทพ
“เจ้านิกายเป็นคนตั้งราคาเอง ถ้าเจ้ามีปัญหา เจ้าก็ไปคุยกับท่านเอง อย่างไรก็ตามราคานี้เป็นราคาสุดท้าย”
ซูหยางมองไปที่บัตรหยกในมือและถอนหายใจ “อัยยย... 34 แต้มรางวัล… หลังจากใช้เวลาอยู่หนึ่งปีที่นี่...”
เขามองไปรอบๆ สาวสวยมากมายผ่านเข้ามาในสายตา “ข้าต้องการคู่ฝึก… แต่มิว่าอย่างไรที่มอง… เจ้าพวกนั้นเป็นเพียงแค่เด็กพึ่งฝันเปียก...”
แม้ซูหยางอยู่ในร่างของเด็กชาย 16 ปี อายุจิตใจของเขากลับไม่ใช่เด็ก เขาไม่คิดมีความสัมพันธ์กับเด็กที่มีอายุไม่ถึงครึ่งอายุจริงของเขา ถึงแม้ว่าอายุจะไม่ใช่ประเด็นสำหรับผู้ฝึกฝนซึ่งมีอายุหลายพันปี แต่มันทำให้ซูหยางรู้สึกไม่สบายใจ
“ว่าไง เจ้ายังต้องการมันอีกหรือไม่” ผู้อาวุโสหลังโต๊ะพูดอย่างไม่ใส่ใจด้วยรู้ในคำตอบ เขาสามารถเดาได้ว่าซูหยางมีแต้มรางวัลไม่พอด้วยสถานะของเขาเป็นแค่เพียงศิษย์นอก ลืมไปได้ว่าเขาเป็นศิษย์นอก แม้กระทั่งศิษย์ในยังยากที่จะมีแต้มรางวัลถึง 10,000แต้ม
“ข้าต้องการ” คำตอบซูหยางทำให้ผู้อาวุโสตกตะลึง “แต่มิใช่ตอนนี้ ในสิบวัน ข้าจะกลับมาพร้อมกับแต้มรางวัลพอสำหรับแลก”
“เจ้า… เจ้าจะหามันเช่นไร” ผู้อาวุโสถามด้วยสายตาเบิกกว้าง
ซูหยางเพียงแต่ยิ้มให้กับคำถามของผู้อาวุโสและเดินจากไปโดยไม่ตอบ ทำให้เส้นเลือดบนหน้าผากของผู้อาวุโสปูดออกมาสองสามเส้น
–
–
–
หลังจากออกจากคลังมุกพิสุทธิ์ ซูหยางก็หาเศษผ้าแผ่นใหญ่มาเขียน หลังจากนั้นเขาก็เดินไปที่ลานฝึกซึ่งเป็นที่นิยมของเหล่าศิษย์ทั้งวันและคืน ยืนอยู่ในที่โล่งและคลี่เศษผ้าให้ทุกคนเห็นข้อความภายใน
“นวดขั้นเทพ ให้ประสบการณ์เหมือนขึ้นสวรรค์ ฟรีสำหรับลูกค้าสามคนแรก”
“นวดขั้นเทพ นั่นมิใช่ซูหยางรึ มาทำงี่เง่าอะไรวันนี้”
“ประสบการณ์เหมือนขึ้นสวรรค์ ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้านี่ต้องการแค่แต๊ะอั๋งสาว”
“ฉิบ เจ้าคนลวงโลกนี่มันแย่มาก”
เหล่าศิษย์แถวนั้นต่างพากันหัวเราะโดยไม่ยั้ง
ซูหยางยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ ด้วยท่าทางเงียบสงบแม้ว่ารอบข้างจะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
“นี่เตือนข้าให้นึกถึงสมัยยังเด็ก...” เขานึกถึงอดีตเมื่อเขายืนอยู่บนถนนทั้งวันและคืนด้วยป้ายที่เหมือนกัน
หลังจากยืนอยู่ที่นั้นหลายชั่วโมงโดยไม่มีใครเข้าหา บรรดาศิษย์บางส่วนตัดสินใจเข้าไปพูดกับเขาเอาสนุก
“เฮ้ ซูหยาง ในนามปีศาจ เจ้ามาทำอะไรที่นี่ตอนนี้วะ”
“พวกเราทั้งหมดรู้ว่าเจ้าต้องการสัมผัสเนื้อสาวตั้งแต่เจ้ามิสามารถหาคู่ฝึกได้”
“มาคิดดูว่าเจ้ามีแผนฉ้อฉล ช่างน่าอาย”
ไม่ว่าจะถูกดูถูกอย่างไร ซูหยางยังยืนหลับตานิ่ง ราวกับหลับไป
“เฮ้ย ฟังที่ข้าพูดกับเจ้า เจ้าเลวไร้ยางอาย”
ขณะที่ศิษย์นิกายนั้นกำลังเงื้อหมัด ซูหยางลืมตาและมีประกายอันตรายฉายออกมา
“หลบไปเจ้าเด็กเลว ข้ามีลูกค้า” ซูหยางพูดให้เหล่าศิษย์ตะลึง
เมื่อศิษย์นิกายหันไปก็เห็นสาวสวยยืนกอดอกอยู่ สายตาเธอจ้องมองด้วยความสงสัย
“นวดแบบไหน” เธอถามด้วยน้ำเสียงดุดัน
“แบบที่ทำให้เจ้าหายปวดหลัง”
คำพูดที่ไม่คาดคิดของซูหยางทำให้สาวน้อยเบิกตากว้าง
“เจ้า… เจ้ารู้ได้เช่นไรว่าข้าปวดหลัง”
ซูหยางไม่ได้ตอบแต่หันไปมองป้ายแล้วยิ้ม