บทที่ 2 ในที่สุดก็กลับมา [อ่านฟรี]
บทที่ 2 : ในที่สุดก็กลับมา
(ด้านในเพ้นต์เฮาส์ที่สวยงามของ ซิ่วซีหยา)!!!!!!!!!
ด้วยความหรูหราของเพ้นต์เฮาส์ ถูกตกแต่งให้เจ้าของห้องรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ซิ่วซีหยานั้นเหมือนฝันอย่างแน่นอนเพราะรู้สึกบ้านเหมือนมีมนต์ขลังแท้จริง บ้านของเธอตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและมีความสวยงามภายในเพ้นต์เฮาส์แห่งนี้
สิ่งที่อยู่รอบตัวเธอนอกจากนี้ทุกด้านและบางส่วนของเพ้นต์เฮาส์ของเธอเป็นสิ่งที่หรูหรา เป็นที่สะดุดตาของผู้คนที่เห็นแน่นอน
อย่างไรก็ตาม
ที่น่าประหลาดใจที่สุดคือ ซิ่วซีหยาคือคนที่ออกแบบทุกอย่างด้วยตนเองหรือการออกเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างในเพนต์เฮาส์ของเธอ เธอก็เป็นคนตกแต่งด้วยการดีไซน์ของเธอเอง ดังนั้นจึงไม่มีใครทำได้เหมือนอย่างเธอและไม่มีใครอื่นนอกจากเธอที่ทำเช่นนี้
ตอนนี้เธอกลายเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้เธอค่อนข้างตลกและน่าอัศจรรย์ที่เธอเคยรู้สึกแย่ด้านแฟชั่นและการออกแบบตกแต่งภายใน
และเธอคิดว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นนักออกแบบ แต่ตอนนี้ทุกคนต่างชื่นชมความสามารถของเธอจนตอนนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเธอไปแล้ว
ด้วยระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ซิ่วซีหยาได้กลายเป็นนักสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงและเป็นมืออาชีพมากที่สุดในฐานะนักออกแบบตกแต่งภายในและรวมถึงการเป็นนักออกแบบแฟชั่น
ตอนนี้เธอเป็นที่รู้จักในฐานะผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและอายุน้อยที่สุดในโลก ไม่มีใครคาดหวังจริงๆว่านักเรียนที่น่าเบื่อหน่ายที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งเคยห่างจากสังคมมาก่อนจะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
แม้ว่าบางคนรู้จักศักยภาพและความเฉลียวฉลาดของเธอ แต่พวกเขาก็ยังไม่คิดว่าเธอจะมาไกลได้ขนาดนี้
ซิ่วซีหยาเพิ่งประสบความสำเร็จในเวลาเพียงห้าปีเท่านั้น เขาเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จและน่าเชื่อถืออย่างแท้จริงในคนรุ่นใหม่ที่มีความทะเยอทะยานเหมือนกัน ทุกวันเป็นการต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุดนับตั้งแต่วินาทีที่เธอตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตของหลี่เหวย
มันเป็นสิ่งที่ยากที่สุดและการตัดสินใจที่เจ็บปวดที่เธอเคยทำ เลือกที่จะละทิ้งความรักที่เธอมีต่อเขาเพียงแค่นึกภาพตัวเองกับเขา เธอก็เจ็บปวดใจทุกครั้ง
แต่ก็เพื่อช่วยให้ตอนนี้เธอได้ยืนยัดอยู่ได้อย่างมั่นใจ
ลึก ๆ ข้างในเธอเชื่อว่า หลี่เหวยเป็นคนที่ทำให้เธอแข็งแกร่งและกล้าหาญกว่าที่เธอเคยเป็นมาก่อน
และแสดงให้เขาเห็นว่าเธอช่างเหลือเชื่อและพิเศษและใช้เวลาร่วมกับเขาเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดที่เธอเคยรู้สึกมาตลอดชีวิต
นั่นเป็นเหตุผลที่ ซิ่วซีหยาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ทุกอย่างที่เธอมีและตอนนี้ หลี่เหวยเป็นเหตุผลของเธอและที่ทำให้เธอไล่ตามความฝันทั้งหมดของเธอไม่ว่าเธอจะลำบากแค่ไหน
ในขณะเดียวกัน
.....
หลังจากที่มีคนมากดกริ่งหน้าประตูห้องของเธอ
ซิ่วซีหยาเดินไปข้างหน้ามุ่งตรงสู่ประตูห้อง ทำให้ เอะใจ!!! โชคไม่ดีที่มีสิ่งแปลก ๆ ทำให้เธอหยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอียงศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อยขณะที่เธอจดจ่อใช้หูข้างขวาของเธอ พิงประตูห้องเพราะได้ยินเสียงบุ๊บบี๊บดังมาจากข้างนอกหน้าประตูห้องของเธอ
เธอควรจะเป็นคนที่จะเปิดประตูห้องแต่ต้องยืนงง!!! ด้วยความสงสัยว่าคนที่มาเยี่ยมเธอตอนดึกดื่นรู้รหัสห้องเธอได้อย่างไรและรู้ดีว่ารหัสลับเพ็นส์เฮาส์ของเธอนั้นปลอดภัยที่สุด “อะไรนะ! แกร๊กๆ” เสียงประตูห้องถูกเปิดออก ซิ่วซีหยาพึมพำภายใต้ลมหายใจของเธอถามตัวเองถึงสิ่งประหลาดที่เกิดขึ้นภายในความคิดของเธอ
เธอดึงริมฝีปากล่างระหว่างฟันออกมาแล้วพยายามนึกว่าเคยพูดกับใครหรือบอกรหัสผ่านประตูของเธอให้ใครฟังหรือปล่าว??? อย่างไรก็ตามเธอมั่นใจอย่างชัดเจนว่าเธอไม่เคยทำอย่างนั้นแน่นอน
เธอมีความอ่อนไหวมากซะเป็นส่วนใหญ่เมื่อมีใครได้พูดถึงเรื่องพิเศษเช่นเรื่องส่วนตัวของเธอ เธอรู้ลึก ๆ ในตัวเธอว่าเธอเป็นคนที่เข้มงวดที่สุดในเรื่องนี้
.................
เธอพยายามใจเย็นๆ ค่อย ๆ คว้าไม้ตีกอล์ฟสีเงินของเธออยู่ข้างๆกำแพงที่เธอเอนตัวเข้ามาอย่างระมัดระวังขณะที่เธอมองไปที่ประตูหน้าห้องเมื่อถูกเปิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว เธอจ้องราวกับหาฆาตกรจากภาพยนตร์แอ็คชั่น
แต่ถือว่าเป็นความโชคดีของเธอ!!!!!!หลังจากที่ได้เห็นว่าใครมาเยี่ยมด้วยตาของเธอเอง
การแสดงออกที่น่ากลัวจากก่อนหน้านี้จางหายไปอย่างรวดเร็วและได้บรรเทาหายไปปลิดทิ้ง
และมุมปากของเธอโค้งเป็นรอยยิ้มที่สดใส "ห่าอะไร" ซิ่วซี่หยาพูดขณะที่เธอวางไม้ตีกอล์ฟลงพื้นและยิ่งยิ้ม
ดวงตาของเธอกลอกตาอย่างน่าขันขณะที่เธอกอดอกอยู่
เธอจ้องมองเพื่อนสนิทของเธออย่างสนุกสนานซึ่งกำลังเดินไปที่โถงห้องขนาดใหญ่ของเธอ ขณะที่ถือเบียร์และของว่างมากมายทั้งสองมือ
เพื่อนของเธอจ้องซิ่วซี่หยาขณะกำลังจ้องมองและพยายามที่จะเงยหน้าขึ้นเพื่อดูใบหน้าของซิ่วซี่หยาเธอจ้องมองซิ่วซี่หยาด้วยความซุกซนและรอยยิ้มอันชาญฉลาดที่แยกออกจากริมฝีปากของเธอ
ซิ่วซี่หยา ไม่สามารถรู้ได้ว่าเธอดูน่ากลัวแค่ไหนที่ถือขนมเหล่านั้นมาหาเขา ขาของเธอเริ่มเดินไปข้างหน้าตามทิศทางของหญิงสาวและเมื่อเธอเข้าใกล้ เธอจึงถามว่า
"หยิ่งหยู่ ... เธอรู้จักรหัสผ่านประตูของฉันได้อย่างไร" ซิ่วซี่หยา ถามเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"หยิ่งหยู่ พยายามที่จะเปลี่ยนหัวข้อให้นานที่สุด เธอแสดงห่ออาหารในอ้อมแขนของเธอเพื่อหลีกเลี่ยงการสนทนา "ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าคุณช่วยฉันเอาขนมไปจัดใส่จานที่ห้องครัวของคุณก่อนก่อนดีมั้ย" เธอแนะนำ
ซิ่วซี่หยา ยกขนคิ้วของเธอขึ้น แต่เธอก็ยังคิดอยู่และรีบออกมาข้างหน้าเพื่อช่วยเธอขนขนมและเบียร์ หยิ่งหยู่ รีบทำทันที กลัว “ซี่หยา”ถามเธออีกครั้ง
พร้อมกันลึก ๆ ภายในใจ ซิ่วซี่หยา รู้สึกขอบคุณและโล่งใจที่ หยิ่งหยู่ มาเยี่ยม เธอจะช่วยได้มากในการช่วยปลดปล่อยความรู้สึกของเธอที่มีตอนนี้ออกไป
เนื่องจาก หยิ่งหยู่ เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้คนเดียวของเธอ และเธอเป็นคนเดียวที่ทราบว่าเธอวางแผนที่จะมาทำงานยังต่างประเทศ หลังจากเธอได้ทิ้ง หลี่เหวย เมื่อห้าปีก่อนหลังจากที่เธอหมดหวังเสียใจจากเขา และตอนนี้ยังรู้ว่าเธอกำลังจะวางแผนกลับจีน
หยิ่งหยู่ รู้ว่าตอนนี้ ซิ่วซี่หยา ต้องการจะกลับไปที่ที่เธอจากมาและตอนนี้อาจเป็นเวลาที่เหมาะสม และสามารถที่จะบอกทุกคนได้แล้วว่า ซิ่วซี่หยา เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จและโด่งดังทั่วโลกในฐานะนักออกแบบมืออาชีพ หยิ่งหยู่ มีความศรัทธาต่อเพื่อนของเธอ ถึงมันจะท้าทายมาก แต่มันจะคุ้มค่าในตอนท้ายแน่นอน
และเธอก็คอยให้กำลังใจต่อ ซิ่วซี่หยา เสมอ เธอเห็นว่า ซิ่วซี่หยา นั้นทุ่มเทอย่างไร กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย เธอไม่เคยเสียเวลาเลยกับเวลาที่ผ่านมามันเต็มไปด้วยความหลงใหลและความฝันมากมาย
หยิ่งหยู่ จำได้ว่า ซิ่วซี่หยา กล่าวว่าเป้าหมายแรกของเธอที่ประสบความสำเร็จในการเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงเป็นที่โด่งดังนั้นคือมันออกมาดีมากดีที่สุดจนกระทั่งไม่มีใครเทียบกับตัวเองได้เลย
และเมื่อเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซิ่วซี่หยา ก็ยังมีเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างหยิ่งหยู่ ที่อยู่ข้างๆในวันที่เธอไม่มีใคร
หยิ่งหยู่ คิดว่า ซิ่วซี่หยา เมื่อห้าปีที่แล้วนั้นยากเกินไปสำหรับตัวเธอเองในการต่อสู้และการเสียสละมากมายเธอยอมแพ้เพื่อที่จะเข้าไปในชีวิตของคนอื่น จึงตระหนักว่าให้คนที่เธอรักพบกับชีวิตใหม่ที่ดีกว่า เธอเลยยอมทิ้งเขาไป เพราะตัวเธอเองไม่คู่ควรกับคนอย่างเขา
และอย่างหนึ่งอาจเป็นเพราะ หลี่เหวย นั่นแหละที่เป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งเพื่อที่จะช่วยให้เธอเปลี่ยนตัวเองให้มีค่าในชีวิตของคนอื่น แต่อย่างใด หยิ่งหยู่ ก็ไม่สามารถช่วยตัวเองไม่ให้กังวลกับ ซิ่วซี่หยา ไม่ได้ เพราะซิ่วซี่หยา มักจะทำงานหนักเพื่อจะลืมทุกอย่างเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะหยุดตัวเองไม่ให้ตัวเองคิดมากเกินไปกว่านี้
และหยิ่งหยู่ หวังว่าสักวันหนึ่ง ซิ่วซี่หยา จะหยุดร้องไห้ทุกคืน
ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทของซิ่วซี่หยา จริงๆแล้วความฝันสำหรับซิ่วซี่หยา ไม่ได้ต้องการที่จะมีชื่อเสียงและไม่ได้อยากจะมีชีวิตที่หรูหราที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่เธอปรารถนาที่จะมีแค่ความสุขที่แท้จริงเท่านั้น