ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDC บทที่ 2: ยากที่จะหาคู่ฝึก

DC บทที่ 1: ชายชราลึกลับ


ร่างสองร่างนั่งอยู่บนจุดสูงสุดของหน้าผาบาปนิรันดร์ หนึ่งชรา หนึ่งเยาว์ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาเกินจินตนาการ ชายชราปลดปล่อยออร่าเก่าแก่ซึ่งทำให้บรรยากาศรอบข้างบิดเบี้ยววกวน ชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างๆ อย่างสบายๆ ดูราวกับว่าบรรยากาศหนักทึบไม่มีผลกระทบต่อเขาเลยแม้แต่น้อย

“เจ้าหนุ่ม ทำความผิดใดรึ เจ้าถึงถูกขังอยู่สถานที่มืดมนแห่งนี้ เจ้าดูมิเหมือนคนที่ควรจะอยู่ที่นี่…” ชายชราถามชายหนุ่ม สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสนใจขณะที่เขามองไปยังชายหนุ่ม ผู้ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศของผู้สูงศักดิ์ซึ่งทำให้บรรยากาศของเขาสงบลง

ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย “ข้าทำหลายสิ่ง บางอย่างเช่นกลืนผลไม้ต้องห้ามที่สร้างขึ้นโดยจอมจักรพรรดิสวรรค์” เขากล่าวเสียงเรียบ

ชายชรายกคิ้วด้วยความประหลาดใจและสายตาที่แตกตื่นมองไปยังชายหนุ่ม

“เจ้า… เจ้า… เจ้า” ไม่มั่นใจว่าจะพูดว่าอะไร ชายชราถึงกับพูดติดอ่าง ถึงกับช็อกจนพูดไม่ออก ถือว่านี่เป็นครั้งแรกแม้ว่าจะเป็นบางคนที่อยู่มาเนิ่นนานเช่นเขา ไม่ต้องพูดถึงสายตาที่เบิกกว้างซึ่งไม่เคยได้เปิดกว้างเช่นนี้มานานนับปี

“ข้ายิ่งแปลกใจที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่หลังจากที่เจ้าทำเช่นนั้น”

ชายหนุ่มเพียงยิ้มกับคำพูดของชายชรา

ทันใดนั้นเองชายชราก็ระเบิดเสียงหัวเราะ “ข้าสามารถนึกภาพสีหน้าโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิสวรรค์เมื่อเขาได้รับข่าว ฮาฮาฮา เจ้าหนุ่ม ข้าเริ่มชื่นชอบเจ้าเสียแล้ว เจ้ามีชื่อว่าอะไรรึ”

ออร่ารอบกายชายชราสูญหายไปนานแล้ว รูปร่างท่าทางของเขาดูคล้ายกับคุณปู่ใจดียิ่งในขณะนี้

“ข้า ซูหยาง” ชายหนุ่มกล่าว

“งั้นซูหยาง… เจ้าต้องการออกไปจากสถานที่นี้หรือไม่” ชายชราฉีกยิ้ม แสดงให้เห็นฟันเหลืองสองแถว

ซูหยางหันไปมองหน้าชายชราเป็นครั้งแรก มันเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น คล้ายกับผลไม้ตากแห้ง เช่นไรก็ตามแม้ว่าใบหน้าเขาจะดูเหมือนซากศพ ตาของเขากลับใสกระจ่างดุจผิวน้ำ มันสว่างสดใสกว่าดวงดาวที่สว่างที่สุดในค่ำคืนอันเป็นนิรันดร์

“หมายความว่าเช่นไร” ซูหยางกล่าวหลังจากชั่วอึดใจภายหลัง “แม้ว่าข้าสามารถออกไปจากสถานที่แห่งนี้ มันเพียงแค่กระตุ้นให้จักรพรรดิสวรรค์โกรธยิ่งขึ้นกว่าเดิม ข้าคิดว่าข้ายินดีนั่งอยู่ที่นี่จนกว่าจิตวิญญาณของข้าจะสูญสลายไปดีกว่าต้องพบกับทัณฑ์จากความกริ้วของจักรพรรดิสวรรค์”

“แล้วถ้าข้าพูดว่าเจ้าสามารถจากไปและมิต้องกังวลกับจักรพรรดิสวรรค์” ชายชรายังคงรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ลึกลงไปในสายตามีประกายแสงที่ดูลึกซึ้ง

“แล้วเช่นไร ข้าจะสามารถทำอะไรได้หลังจากออกไป มีชีวิตอย่างผิดบาปต่อไปเช่นดังที่ข้าเป็นมาในอดีตกว่าหลายพันปี หรือแก้แค้นคนที่ใส่ความข้าผิดๆ”

“นั่น… ก็แล้วแต่เจ้า”

ซูหยางพลันยื่นมือขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำและทำท่าคว้าจับ ราวกับว่าเขาต้องการที่จะจับดวงดาวที่ส่องสว่างอยู่เบื้องบน “ถ้าเช่นนั้น… ถ้าวันใดข้าตัดสินใจที่จะจากสถานที่แห่งนี้ ข้าปรารถนา...” เขาพลันหยุดพูดและยิ้ม “ลืมมันเถอะ ข้าคิดว่าข้ายังคงอยู่อย่างชืดชาในสถานที่แห่งนี้ไปจนกว่าข้าตาย”

ชายชราพลันเริ่มหัวเราะอีกครั้ง “เจ้ายังเด็กเกินกว่าจะซ่อนความปรารถนาจากผู้เฒ่าคนนี้ เจ้าหนุ่ม แม้ว่าเจ้าจะอาศัยที่นี่ชั่วนิรันดร์ เจ้ายังคิดจะตายด้วยความชราอีกรึ ผู้เป็นอมตะเช่นเจ้าน่ะรึ ฮึฮึฮึ… ความปรารถนาของเจ้า… ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้” เขาพลันลุกยืนขึ้นและสะบัดชายผ้า ท้องฟ้ายามค่ำที่ไม่เคยมีความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่มีการสร้างหน้าผาบาปนิรันดร์พลันเปลี่ยนเป็นกลางวัน สร้างความสับสนแก่ดวงวิญญาณทุกดวงในสถานที่แห่งนั้น

“ท่าน… ท่านคือใคร” ซูหยางจ้องไปยังชายชราที่ยืนยิ้มอยู่ด้วยสายตาเบิกกว้าง

ชายชรากล่าว “เพียงแค่ชายชราที่มิมีอะไรดีดีให้ทำ ใช่แล้ว… ก่อนที่ข้าจะส่งเจ้าจากไป ข้าใคร่จะขอบใจเจ้าสำหรับสิ่งที่เจ้าทำ...”

“ขอบคุณข้า… นั่นหมายความว่าอะไรสำหรับคำขอบ-”

ก่อนที่ซูหยางจะสอบถามชายชราว่าทำไมเขาถึงกล่าวขอบคุณ แสงสว่างขาวโพลนพลันครอบคลุมโลก นำเอาการมองเห็นของเขาไป

ทันใดนั้นหลังจากบอดไปด้วยแสงสว่าง ซูหยางรู้สึกถึงปวดแปลบใกล้หัวใจราวกับถูกทิ่มแทงด้วยดาบ เขาเปิดเปลือกตากว้างจนเห็นชายหนุ่มรูปงามที่มีรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมบนใบหน้ายืนอยู่ตรงหน้าเขาบนเวทีกว้าง และในมือของเขาคือดาบเหล็ก

“เชอะ ข้าแทงพลาดหัวใจไปนิดเดียว” ชายหนุ่มรูปงามบ่นพึมพัม

ซูหยางมองลงไปเห็นดาบปักบนร่างของเขา เขาพลันตื่นตัว “ไสหัวไป” ภายในร่างซูหยางพลันระเบิดออร่าที่เปี่ยมไปด้วยรังสีอำมหิต เป็นเหตุให้ชายหนุ่มรูปงามเบื้องหน้าและหลายสิบคนรอบเวทีกระอักเลือด

และด้วยเหตุที่ชายหนุ่มหล่อเหลายืนใกล้ซูหยางที่สุด เขาล้มลงสิ้นสติในทันทีที่กระอักเลือด

สถานที่แห่งนั้นพลันตกอยู่ในความเงียบสงัด ซูหยางดึงดาบที่ยังคงปักอยู่บนทรวงอกออกโดยไม่สนใจความเจ็บ

หลังจากที่ดึงดาบออกจากทรวงอก ซูหยางใช้ช่วงเวลานี้ค้นหาในห้วงความทรงจำ

ในความทรงจำ เขาพบว่าเขาอยู่ในร่างของชายหนุ่มผู้ฝึกปราณที่มีชื่อเดียวกับเขา ซูหยาง อีกทั้งยังมีใบหน้าเหมือนกับเขาเมื่อเยาว์วัย แต่ว่าความเหมือนหยุดอยู่เพียงแค่นั้นและทุกสิ่งที่เหลือล้วนแตกต่าง พลังการฝึกปรือของเขาแทบจะไม่ปรากฏเมื่อเทียบกับพลังฝึกปรือเดิมของเขา และปัจจุบันเขาเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย นิกายซึ่งเน้นการบำเพ็ญคู่เป็นหลัก (การที่เพศตรงข้ามกันร่วมฝึกฝนผ่านความดื่มด่ำจากเพศสัมพันธ์) ราวกับว่าเขาได้เที่ยวย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เขายังเป็นเด็กหนุ่มผู้ซึ่งเริ่มฝึกฝน

ส่วนสาเหตุที่ว่าเหตุใดเขาถึงตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ซูหยางคนก่อนได้ไปเกี้ยวพาราสีศิษย์ชื่อ ซิงซิง และได้ล่วงเกินคู่ฝึกคนปัจจุบันของเธอ เอียนหมิง ชายหนุ่มรูปงามที่สิ้นสติอยู่เบื้องหน้าของเขา ซึ่งเป็นผลลัพธ์ในการต่อสู้เป็นตายระหว่างพวกเขา

“ในนามของสวรรค์ มันเกิดอะไรขึ้น” ซูหยางทันใดได้ระลึกถึงสิ่งที่ชายชราบนหน้าผาบาปนิรันดร์ได้พูดไว้ ว่าเขาจะส่งซูหยางออกไปจากสถานที่แห่งนั้น

“หรือว่าเขาจะส่งข้ากลับไปในอดีต… ไม่.. ข้านึกมิออกว่าเคยเป็นศิษย์ของนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย… นั่นหมายความว่า...”

ในระหว่างที่ซูหยางคิด เสียงตะโกนดังขึ้นทำลายความเงียบ “ทุกคนหยุด”

ชายวัยกลางคนกระโดดขึ้นมาบนเวทีและมองดูซูหยางและเอียนหมิงที่สิ้นสติ ขมวดคิ้ว “ใครให้อำนาจพวกเจ้าต่อสู้ถึงตายในวันนี้ ไสหัวไปก่อนที่ข้าจะเรียกผู้คุมกฏ”

“ขอรับ ผู้อาวุโสซวิน” บรรดาศิษย์รอบเวทีต่างพากันหลบลี้หนีไป หลงเหลือเพียงซูหยางและเอียนหมิงบนเวที

ซูหยางตัดสินใจที่จะไปจากสถานที่นี้เป็นอันดับแรกและค่อยคิดอ่านทีหลัง ก่อนที่เขาจะกระโดดออกจากเวที ชายวัยกลางคน ผู้อาวุโสซวินก็มองดูเขาและพูดว่า “เจ้าชื่ออะไร”

“ซูหยาง” เขาตอบเสียงเรียบ

ผู้อาวุโสซวินผงกศีรษะและไม่ได้มองเขาอีก เขาเดินไปหนีบเอียนหมิงที่สิ้นสติจากไป

หลังจากเดินออกจากเวที ซูหยางค้นหาจากความทรงจำและเริ่มเดินกลับไปยังห้องพัก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด