ตอนที่ 8 หนึ่งดาบปักคอ [อ่านฟรี]
ตอนที่ 8 หนึ่งดาบปักคอ
ผู้แปล Doramartin
เวิง!
ในเวลานี้ พลังที่หลินหานและหลินเจี้ยนปลดปล่อยได้ถึงระดับสูงสุดแล้ว
เคร้ง!
ในที่สุด หลินเจี้ยนก็ลงมือ ดาบยาวในมือของเขาตวัดดาบ ลำแสงดาบเย็นเยียบ โจมตีไปทางหลินหานทันที
"ลำแสงสิบสามดาบ ตวัดดาบคร่าชีวิต!"
หลินเจี้ยนสื่อความเหี้ยมตรงหว่างคิ้ว เขาแสยะยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปาก จิตดาบพุ่งทะยานความว่างเปล่าออกไป
ตูม!
จิตดาบอันทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมา ลำแสงดาบพุ่งออกไป ทำให้อากาศเย็นยะเยือกลงในทันที
"ลำแสงดาบรูปแบบที่สิบสาม! นี่คือวิชายุทธระดับสูง มีพลังอันทรงอานุภาพ!"
"สมแล้วที่สหายหลินเจียนเป็นนักดาบอันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายนอกของพวกเรา จิตดาบเช่นนี้ วิชาดาบระดับนี้ คาดว่าคงฝึกฝนจนถึงขั้นอณูสัมฤทธิ์แล้ว!"
"สังหารสวะต่ำต้อยจากตระกูลสาขาเสีย สำนักตระกูลหลินของเรามีแค่ศิษย์ตระกูลหลักเท่านั้นที่แข็งแกร่งที่สุด!"
ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าจิตดาบของหลินเจียนจะแพร่เชื้อได้ ทำให้ศิษย์ตระกูลหลักมากมายรอบตัวเขาเริ่มส่งเสียงตะโกน
แม้แต่หลินหรูเยียนที่อยู่ไม่ไกลนัก ดวงตาคู่งามของนางยังจ้องมองอย่างแปลกใจ
หลินเจี้ยนผู้นี้เป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งวิถีดาบอย่างแท้จริง แต่เขายังมีขอบข่ายยุทธตรีสวรรค์เท่านั้น อยู่ในขั้นก่อตัวสสารถ่องแท้ จึงตระหนักถึงวิธีการใช้จิตดาบเพียงเศษเสี้ยว
ช่วงเวลานี้ ไม่มีใครในสนามประลองที่มองหลินหานในแง่ดี ต่างเชื่อว่าหลินหานจะพ่ายแพ้ในหนึ่งการโจมตี อาจจะถึงขั้นถูกฆ่าตาย
รรรรรร!
แต่ในตอนนี้เอง เสียงร้องคำรามแห่งมังกรดังขึ้นทันที
"ฝ่ามือมังกรผงาด!"
หลินหานต้องเผชิญหน้ากับพลังดาบที่น่าสะพรึงกลัว เขาร้องตะโกนทันที
ตูม!
พลังของจักรพรรดิมังกรแห่งไทกู่ได้ปะทุขึ้นมาจากภายในร่างของเขาทันที บัดนี้ เขาเพิ่มพลังแก่ฝ่ามือมังกรผงาด มันมีผลเพิ่มพูนพลังขึ้นอย่างมาก
ครานี้ หลินหานสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังของฝ่ามือมังกรผงาดเพิ่มขึ้นจนเหนือกว่าวิชายุทธระดับต่ำ จนถึงระดับวิชายุทธระดับกลาง และอาจจะมีพลังเทียบเท่าวิชายุทธระดับสูง!
"ปัง"
ในขณะนี้ ปราณถ่องแท้บนฝ่ามือของหลินหานก่อตัวแน่นจนก่อเกิดรูปร่างของหัวมังกรอันน่าเกรงขาม ไร้ความเกรี้ยวกราดหากแต่เปี่ยมบารมีด้วยตัวมันเอง แหงนหน้าขึ้นฟ้าคำราม เลื้อยตรงพุ่งออกไป ปะทะบนดาบยาวของหลินเจี้ยนทันที
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
พลังมหึมาระเบิดขึ้นทันที ทำให้หลินเจี้ยนเปลี่ยนสีหน้า ร่างกายถอยไปด้านหลังสามก้าวจึงจะหยุด
แต่หลินหานยังยืนอยู่ที่เดิมที่ตรงนั้น ร่างกายไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิด
"ฮู!"
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนต่างสูดลมหายใจเข้าแรงๆ
หลินหาน สู้ด้วยมือเปล่า แต่สามารถโจมตีจนหลินเจี้ยนถอยหลัง?
เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปได้อย่างไร !
หรือว่าฝ่ามือของเขาถูกหล่อหลอมด้วยเหล็กกล้า ร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อสามารถสั่นคลอนดาบได้อย่างไร?
"นั่นคือวิชายุทธอะไรกัน?!"
"ดูเหมือนว่าจะเป็น ... ฝ่ามือมังกรผงาดเหรอ?
"ฝ่ามือมังกรผงาด? เป็นไปไม่ได้ ฝ่ามือมังกรผงาดเป็นวิชาฝ่ามือที่มีระดับต่ำสุดในสำนักตระกูลหลินของเรา มันจะปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร!"
เวลานี้ ศิษย์ตระกูลหลักหลายคนต่างแสดงสีหน้าเอ๋อ
“ความแข็งแกร่งทางกายภาพยอดเยี่ยมมาก หลินหานผู้นี้ ฝึกฝนวิชาหลอมกายาอันทรงพลังหรือ?” หลินหรูเยียนที่ในระยะไกลได้มองดูที่เหตุการนี้ ดวงตาคู่งามเกิดความประหลาดใจ
นี่เป็นครั้งแรกที่นางเริ่มสนใจในตัวหลินฮันซึ่งเป็นศิษย์จากสาขาผู้ต่ำต้อย
เดิมที นางตั้งใจจะลงมือเพื่อเข้าช่วยเหลือ แต่นางจำต้องหยุดการกระทำ
ดูเหมือนว่าตอนนี้หลินหานจะกลายเป็นดั่งม้ามืดที่ซ่อนตัวปะปนกับคนสามัญ
"แต่ก่อนไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่ตอนนี้กลับแสดงตัว รู้จักอดทนจริงๆ" หลินหรูเยียนหัวเราะเบา ๆ
เสียงหัวเราะนี้ กังวาลและสง่างาม ทำให้เหล่าศิษย์ชายหนุ่มต่างลุ่มหลงดั่งคนเมาดุจคนเขลา
"เจ้า ......"
ในขณะนี้ หลินเจี้ยนรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ถูกส่งมาผ่านทางปลายดาบ สีหน้าของเขาจึงมืดหม่นลงทันที รีบหันไปมองหลินหาน ดวงตาของเขาแสดงอารมณ์แฝงเร้น พูดทันทีว่า“เจ้ากำลังล้อข้าเล่นอะไรอยู่ ทำไมไม่ใช้ดาบ !”
หัวใจของหลินเจียนในขณะนี้ เปี่ยมจิตอาฆาตต่อหลินหานเหลือล้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พอได้เห็นสายตาของหลินหรูเยียนผู้เป็นธิดาผยองแห่งท้องนภากำลังจับจ้องไปทางหลินหาน ในใจของจึงเต็มไปด้วยอารมณ์เหี้ยมโหด
วันนี้ ข้าจะต้องพ่ายแพ้ต่อศิษย์สาขาผู้ต่ำต้อยอย่างนั้นเหรอ?
ยกโทษให้ไม่ได้!
เวิง!
ชั่วครู่หนึ่ง สายตาของหลินเจี้ยนแสดงความอำมหิต เขาจ้องเขม็งหลินหาน แล้วตะโกนทันทีว่า:“ชักดาบออกมาซะ พลังกายเนื้อของเจ้าเหนือกว่าข้า จะเรียกว่าการประลองดาบได้อย่างไร!”
พลังกายเนื้อเหนือกว่าเจ้า?
หลินหานจ้องมองหลินเจี้ยน เกือบจะหลุดหัวเราะเสียงดังออกมา
กล้าพูดได้เลยว่าหลินเจี้ยนผู้นี้กำลังคิดว่าวิชาดาบของข้าไม่คณามือ พึ่งพลังกายเนื้อจึงทำให้เหนือกว่าเขา
เมื่อครู่ใช้เพียงฝ่ามือมังกรผงาด เพราะหลินหานต้องการที่จะรู้สึกถึงจึตดาบของหลินเจี้ยน เพื่อให้เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทองในใจของเขาสลักตราตรึงไว้ พร้อมผสานเข้ากับวิชายุทธของตัวเอง ไว้ใช้กับตัวเองในภายหน้า
"ในเมื่อเจ้าอยากตาย ข้าจะสนองเจ้าเอง!" หลินหานรู้สึกถึงจิตสังหารอย่างไม่ปกปิดของหลินเจี้ยน จิตสังหารในใจของเขาจึงเอ่อออกมาทันที
สำหรับศัตรู หลินหานใช้วิธีฟันต่อฟันเสมอ เลือดชำระด้วยเลือด!
"วิชากระบี่ถอดฝักมีเพียงกระบวนท่าเดียว เมื่อดึงดาบ จะต้องนองเลือด!"
หลินหานส่งเสียงออกมาทันที นำเสียงเย็นชา ดวงตาดุจใบมีด จ้องมองหลินเจี้ยนที่อยู่ไม่ไกลนัก พูดขึ้นทันทีว่า: "ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าดึงดาบ ก็ต้องกล่าวปฏิญญาเป็นตาย!"
ต้องการให้ข้าดึงดาบ ก็ต้องกล่าวปฏิญญาเป็นตาย!
เมื่อคำพูดนี้ถูกเอ่ยขึ้น ทุกคนเกิดความรู้สึกหวาดกลัว
ในเวลานี้ พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังและจิตสังหารอย่างน่าสยดสยองจากตัวหลินหาน
"ดี กลัวแค่ว่าเจ้าจะทำไม่สำเร็จ!"
ดวงตาของหลินเจี้ยนขัดแย้งอยู่ครู่หนึ่ง เขามองเห็นสายตาเปี่ยมความคาดหวังของศิษย์ตระกูลหลักจำนวนมากที่อยู่รอบๆ จึงพูดออกมาทันที
ต่อจากนั้น กระดาษสีขาวอักษรสีดำ ทั้งสองประสานมือกัน
ในสำนักตระกูลหลิน ลูกศิษย์ของตระกูลไม่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าแกงกันได้ตามต้องการ แต่เมื่อพวกเขาตั้งปฏิญญาเป็นตาย ความเป็นและความตายแล้วแต่สวรรค์ ระดับสูงสุดของสำนักจะไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้
ตั้งปฏิญญาเป็นตาย
หลินเจี้ยนผู้มีสีหน้าเหี้ยมเกรียม มองไปทางหลินหาน พูดว่า: "ในที่สุดข้าจะได้ทำให้เจ้าตายอย่างไร้หลุมกลบฝัง!"
"บูม"
พลังดันอันทรงพลังปะทุออกมาจากเขา
"ขอบข่ายวิชายุทธขั้นอุรุสัมฤทธิ์!"
"หรือว่า ลำแสงสิบสามดาบที่สหายหลินเจี้ยนแสดงเมื่อครู่ เขาจงใจเผยให้เห็นขั้นอณูสัมฤทธิ์เท่านั้น"
"วางแผนมาดี เจ้าหนุ่มจากสาขานั่นต้องตายแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า!"
บัดนี้ ทุกคนได้เข้าใจในทันที แท้ที่จริงแล้วหลินเจี้ยนจงใจเสแสร้งให้หลินหานเห็นว่าอ่อนแอ เพื่อให้หลินหานตั้งปฏิญญาเป็นตาย เขาจะสามารถลงมือฆ่าหลินหานได้
ในขณะนี้ แม้แต่คิ้วของหลินหรูเยียนยังย่นคิ้วเล็กน้อย
เมื่อตั้งตั้งปฏิญญาเป็นตาย นางก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
หรือหลินหานที่พึ่งกลายเป็นม้ามืด วันนี้จะต้องจบชีวิตหรือ?
“เจ้าหนุ เจ้าตายแน่ ไร้เดียงสาจริงๆ เจ้าคิดว่าในใต้หล้านี้ตัวเองไร้เทียมทานจริงๆเหรอ?” ยามนี้ สายตาของหลินเจียนเต็มไปด้วยความโหดร้ายและจิตสังหาร
แต่หลินหานแสยะยิ้มที่มุมปากย่างเยาะหยัน เขาพูดทันทีว่า:“ออกดาบมาซะ เมื่อใดที่ข้าดึงดาบ เจ้าจะไม่มีโอกาสอีก”
"เจ้าหมอนี่ ยังจองหองอีก!"
"ลำแสงสิบสามดาบ ตวัดดาบคร่าชีวิต!"
เคร้ง!
เคร้ง!
......
ดาบยาวในมือของหลินเจี้ยนฟาดฟันออกไปในพริบตา ก่อเกิดสิบสามลำแสงดาบ พุ่งทะยานเป็นกากบาท เปี่ยมจิตสังหาร จู่โจมไปทางหลินหาน
"วิชาดาบถอดฝัก!"
บัดนี้ ดวงตาของหลินหานสื่อความเย็นชาทันที
ครืด!
ดาบถูกดึงออกจากฝัก
ปัง!
กลางอากาศราวกับมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น
"ฉึก"
ในวินาทีต่อมา ลำแสงดาบหนึ่งด้ามตัดผ่านท้องฟ้าราวกับฝ่าแล่บ ทำลายดาบทั้งสิบสามลำแสงที่หลินเจี้ยนโจมตีเข้ามา แล้วพุ่งไปแทงคอของเขา
ฉึบ!
ดาบถูกเก็บเข้าฝัก
ร่างของหลินหานยังอยู่ที่เดิม ชุดสีเขียวพลิ้วไหว ยืนตัวตรง
ในเวลานี้ ทุกคนต่างหันไปมองอีกด้านทันที
ที่ตรงนั้น ร่างของหลินเจียนแข็งทื่ออยู่ที่นั่น และมีรอยเลือดบนคอของเขา
ตุบ! ตุบ......
หยดเลือดสีแดงสดไหลทีละหยดทีละหยดจากรอยเลือดบนคอ หยดลงบนพื้นอย่างช้าๆจนย้อมพื้นหินสีคราม
ดาบปักบนคอ!
หนึ่งดาบของหลินหาน มีพลังดั่งไร้พ่าย สังหารหลินเจี้ยนจนตาย!
"นั่นคือ วิชาดาบถอดฝักในตำนาน ดึงดาบออกมาปานสายฟ้า ดาบจะต้องชโลมเลือด!"
เวลานี้ ศิษย์ทำเนียบภายนอกจำนวนนับไม่ถ้วน รู้สึกเพียงร่างกายของพวกเขาสั่นเทิ้มอย่างไม่สามารถควบคุมได้
หลินหานผู้นี้ทรงพลังเกินไป
ตอนนี้ ราวกับหลินหานฆ่าแมลงวัยตัวหนึ่งเท่านั้น เขาก้าวไปข้างหน้า และหยิบดาบยาวที่ตกอย้าด้านข้างร่างศพของหลินเจียน
นี่เป็นของรางวัลที่ดี เป็นสิ่งที่เขาต้องการ
หลินหานเดินออกจากลานประลอง ทุกคนต่างรีบรุดเปิดทางให้เขาเดิน
ดาวหางนี้ น่าสะพรึงกลัว บัดนี้จะยังมีใครในทำเนียบภายนอกกล้าหาเรื่องเขาอีก?
“ไม่ว่าอย่างไร ขอขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจ แต่ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า” หลินหานมีพลังการรับรู้อย่างแกร่งกล้า เขาสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆของหลินหรูเยียน ครานี้ เขาเดินไปข้างหน้าแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อพูดจบ หลินหานก็ลอยทะยานออกไป ดาบยาวไอเย็นเยียบสะพายสะพายหลัง ร่างกายหายไปจากสายตาของทุกคน
หลินหรูเยียนที่ยังอยู่ที่เดิม คล้ายกับนางพึ่งจะรู้สึกตัวได้ ตอนนี้ใบหน้านางแดงฉ่าด้วยความอาย แอบกระทืบเท้าเบาๆ "เจ้าบ้าหลินหาน เจ้าสารเลว ... "