ตอนที่ 7 ธิดาผยองแห่งท้องนภา [อ่านฟรี]
ตอนที่ 7 ธิดาผยองแห่งท้องนภา
ผู้แปล Doramartin
"โชคช่วย มันต้องเป็นเพราะโชคช่วย!"
“ศิลาดาบนั่น ต้องเป็นเพราะตั้งอยู่มานานเกินไปจึงเริ่มผุพัง จึงถูกเจ้าหมอนี่ตัดขาด!”
"สหายหลินเจี้ยน เจ้าเป็นนักดาบอันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายนอกของพวกเราคนอย่างเป็นที่ยอมรับ เจ้าคิดว่าอย่างไร?"
ในเวลานี้ ศิษย์ตระกูลหลักแห่งทำเนียบภายนอกแต่ละคนเริ่มรู้สึกเสียหน้า พวกเขาจึงร้องตะโกน
พวกเขาไม่เชื่อว่าหลินหานจะมีวิชาดาบร้ายกาจเช่นนี้
ในเวลานี้ สีหน้าของหลินเจี้ยนก็ไม่สู้ดีนัก เขาเหลียวมองหลินหานที่มีรอยยิ้มบนใบหน้า ดวงตาเล่เหลี่ยมสื่อความมุ่งร้ายเล็กน้อยอย่างที่ไม่สามารถตระหนักถึง
“สายเลือดวิชาดาบ ต้องมีความแม่นยำ มีเพียงการระเบิดพลังเท่านั้นก็ถือว่าไม่มีอะไรเลย” หลินเจี้ยนเปล่งเสียง น้ำเสียงสื่อความหมายเหมือนผู้รอบรู้
"สหายหลินเจี้ยนกล่าวไม่ผิด นักดาบควรมีวิชาดาบแม่นยำ มีเพียงการระเบิดพลัง ท้ายที่สุดมันก็เป็นแค่คนชั้นต่ำ"
"สหายหลินเจี้ยน สมแล้วที่เป็นนักดาบอันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายนอก พูดตรงประเด็น"
ในเวลาต่อมา ศิษย์ตระกูลหลักแห่งทำเนียบภายนอกก็คล้อยตามกัน
แต่ในเวลานี้ หลินหานเดินมายังด้านหน้าของศิษย์ตระกูลหลักคนหนึ่งที่กำลังพูดจาเสียดสี
“หลินหาน เจ้าจะทำอะไร?” ดูเหมือนว่าพลังจากการตัดศิลาให้ขาดท่อนด้วยดาบเดียวยังข่มขวัญอยู่ ศิษย์ตระกูลหลักจึงต้องพูดอย่างระวังตัว
"ไม่ใช่ว่าเจ้าพูดว่าดาบของข้าไม่มีความแม่นยำไม่ใช่เหรอ?"
หลินหานยิ้มกว้าง ดาบในมือของเขาถูกดึงออกมาจากฝัก
ครืด!
แสงดาบส่องแสงในความว่างเปล่า เจิดจ้าหาใดเปรียบ
"ฉึบ!"
วินาทีต่อมา ดาบถูกเก็บเข้าฝัก
หลินหานหันหลัง แล้วเดินออกไป
"เจ้า ... " ศิษย์ตระกูลหลักโมโหมาก คล้ายกับเขาต้องการทำอะไรบางอย่าง
แต่.. ในเวลานี้
สิ่งที่ทุกคนมองเห็น เส้นผมหนึ่งที่อยู่ด้านหน้าคิ้วของศิษย์ตระกูลหลักก็ขาดทีละนิ้ว เส้นผมสามท่อนร่วงโรยลงไป แต่ละท่อนมีความยาวเท่ากัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หลินหานฟันดาบสามครั้ง
การฟันแต่ละครั้ง ตัดเส้นผมจนมีความยาวเท่ากัน
เร็ว แรง แม่น!
มันช่างเหลือเชื่อ!
ในขณะนี้ ศิษย์ตระกูลหลักนับไม่ถ้วนต่างหายใจเอาอากาศเย็นๆเข้าเต็มปอดอย่างอดไม่ไหว
พวกเขาไม่กล้าที่จะดูถูกสิ่งที่เรียกว่า "ศิษย์สวะะ" จากสาขาอีกต่อไป
หลินเจี้ยน นักดาบอันดับหนึ่งแห่งทำเนียบภายนอก ในขณะนี้ เขาก็แสดงอารมณ์ซึมกระทื่อเป็นครั้งที่สองเช่นกัน
การโจมตีด้วยดาบเมื่อครู่ วิสัยทัศน์การมองเห็นของเขายังมองตามไม่ทัน
หลินหานคนนี้เป็นตัวประหลาดอะไรกัน?
ความโหวกแหวกโวยวายของผู้คนที่นี่ในเวลานี้ ดึงดูดผู้หญิงอัจฉริยะหลายคนของทำเนียบภายนอก
ในจำนวนนั้น มีคนที่โดดเด่นที่สุดคือ หญิงสาวงดงามสวมชุดสีเขียวครามเป็นผ้าแพรบางๆ เอวบางผอมเพรียว ผิวขาวนวลเนียนเป็นยองใย กลิ่นหอมดั่งดอกกล้วยไม้ ดวงตาคู่งามกำลังมองมาด้านนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"พระเจ้า! นั่นคือหลินหรูเยียน ข้าได้เห็นนางด้วยตาคู่นี้จริง ๆ !"
"หลินหรูเยียน ธิดาผยองแห่งท้องนภาอันดับหนึ่งของทำเนียบภายนอก ไม่เพียงแค่มีใบหน้าสวยงามดั่งบุปผา ตบะแกร่งกล้า แต่ยังเป็นอัจฉริยะพบได้ยาก การประลองของทำเนียบภายนอกครั้งนี้ นางคือตัวเลือกที่จะเข้าแย่งชิงสามอันดับแรก"
"ได้ยินมาว่า นางเก็บตัวอยู่ในส่วนลึกของทำเนียบภายนอก ตบะของนางได้ก้าวเข้าสู่ยุทธทวิสวรรค์ สร้างสสารถ่องแท้ และกลายเป็นนักพรตวิชายุทธ"
ในเวลานี้ ศิษย์ตระกูลหลักจากทำเนียบภายนอกแต่ละคน ต่างถูกเด็กสาวผู้งดงามสวมชุดสีเขียวทำให้หลงไหลดุจคนเขลาดั่งคนเมามาย
ในหัวใจของศิษย์จากทำเนียบภายนอก หลินหรูเยียนเป็นธิดาผยองที่ผสมผสานความงามและพรสวรรค์เข้าด้วยกัน
"เคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่!"
ในตอนนี้ หลินหานเองก็สงสัยเช่นกัน สายตาของเขาจ้องมอง พร้อมหมุนพลังของเคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่
การรับรู้ที่ทรงพลัง ทำให้หลินหานสามารถตรวจจับขอบข่ายยุทธของหลินหรูเยียนได้
เขาเห็นแล้ว สสารถ่องแท้ในร่างของหลินหรูเยียนนั้นแข็งแกร่งมาก
“ดูเหมือนว่า หลินหรูเยียนผู้นี้ เป็นผู้แข็งแกร่งระดับนักพรตวิชายุทธ เกรงว่าตบะจะแข็งแกร่งจนถึงขอบข่ายของยุทธปัญจสวรรค์” หลินหานครุ่นคิดอย่างเงียบๆและตัดสินระดับพลัง
ในอดีต หลินหานเป็นเพียงสวะจากสาขาที่ต่ำต้อย เขาจึงไม่กล้าจ้องมองธิดาผยองแห่งท้องนภาอันเป็นศิษย์ตระกูลหลักอย่างหลินหรูเยียน
แต่ตอนนี้ แก่นแท้ ปราณและวิญญาณของเขาล้วนเปลี่ยนไป ต่างเป็นเพราะเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทองและเคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่ ทำให้จิตตำสำนึกของหลินหานเปี่ยมความมั่นใจในตนเอง
ดังนั้น ในเวลานี้ สายตาของหลินหานจึงจับจ้องหลินหรูเยียน ไม่ได้แอบซ่อน ทั้งยังสื่ออารมณ์ชื่นชม
เพราะอย่างไรเสีย สตรีผู้เลอโฉมก็เป็นที่หมายปองของสุภาพบุรุษ
ครานี้ ดูเหมือนว่าหลินหรูเยียนจะสังเกตเห็นสายตา "แทะโลม" อย่างเปิดเผยของหลินหาน นางจึงกระพริบตา ส่วนลึกในดวงตาเปล่งประกายด้วยความโกรธ
เจ้าคนจากสาขานี่ช่างกล้าจริงๆ
"เจ้าหนุ่ม วิชาดาบสูงก็ไม่มีค่าอะไร พวกเราฝึกฝนวิชาดาบเพื่อที่จะฆ่า ไม่ใช่เพื่ออวด"
ทันใดนั้น หลินเจี้ยนก็พูดออกมา
ดูเหมือนว่าเขาจงใจแสดงต่อหน้าหลินหรูเยียนผู้ซึ่งเป็นธิดาผยองแห่งท้องนภา เขามองหลินหานทันที พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงถากถาง เขากล่าวว่า: "การประลองที่เจ้าพูดก่อนหน้านี้ พูดจริงหรือไม่"
"เป็นเรื่องจริงแน่นอน"
หลินหานละสายตาของเขา และหันไปมองหลินเจี้ยน หรือจะพูดให้ถูกก็คือ เขามองไปยังดาบแผ่ไอเย็นเยียบในมือของหลินเจี้ยน พูดว่า: "ทำไม หรือเจ้าไม่กล้า?"
"ข้าไม่กล้าเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า!"
ดวงตาของหลินเจี้ยนสื่อความเย็นชา พูดจาเยาะหยัน:“ ตั้งแต่ที่ข้าก้าวเข้าสู่ยุทรจตุสวรรค์ ก็ไม่ได้ประมือกับผู้คนมาเป็นเวลานาน เพราะ ไม่มีใครสามารถต้านรับดาบของข้าได้ ได้ลองฝีมือบ้างคงดี วันนี้จะทำให้สวะจากสาขาอย่างเจ้า รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าวิชาดาบอย่างแท้จริง คนประเภทไหน ที่เจ้าไม่ควรมีเรื่องด้วยตลอดชีวิตของเจ้า!
ในเวลานี้ หลินเจี้ยนพูดไปพลาง พร้อมปลดปล่อยจิตดาบอย่างแผ่วเบาออกจากร่างกายของเขา เย็นเยียบเข้ากระดูกดำ เต็มไปด้วยจิตสังหารที่น่ากลัว
หลินหรูเยียนอยู่ไม่ไกลนัก ดูเหมือนว่านางจะรู้สึกถึงจิตสังหารของหลินเจี้ยน นางย่นคิ้วเล็กน้อย ของการสังหารคนในตระกูลเป็นเรื่องที่ไม่ดี
หลินหรูเยียนไม่เคยได้ยินเรื่องราวของหลินหาน ในเวลานี้นางรู้แค่ว่าเขาเป็นเพียงศิษย์จากสาขาคนหนึ่ง ดวงตาคู่งามจึงเต็มไปด้วยความสงสาร
ต้องประลองกับหลินเจี้ยน ไม่เท่ากับไปตายหรอกเหรอ?
อย่างไรก็ตาม พอนึกถึงสายตาแทะโลมของหลินหานที่จ้องมองตัวนางเมื่อครู่ หลินหรูเยียนจึงสบถในหัวใจอย่างเย็นชา "ให้หลินเจี้ยนสั่งสอนเจ้าสักหน่อยก็ดี ให้เจ้ารู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน"
แม้ว่าหัวใจจะสื่ออารมณ์เย็นชา แต่หลินหรูเยียนมิได้ปลดปล่อยพลังยุทธของตัวเอง ต่อให้นางไม่รู้สึกประทับใจใดใดต่อหลินหาน หากแต่ยังมีความรู้สึกสะอิดสะเอียดเล็กน้อย
แต่หลินหานเป็นสมาชิกของสำนักตระกูลหลิน ส่วนลึกในหัวใจของนางนั้น ไม่ต้องการให้คนที่มีชีวิตในตระกูลเดียวกันต้องจบชีวิตลง
"ปล่อยให้หลินเจี้ยนมอบความขมขื่นแก่เจ้าเสียก่อน" หลินหรูเยียนเตรียมพร้อม รอให้หลินหานถูกหนึ่งดาบจากการโจมตีของหลินเจียนเสียก่อน แล้วนางค่อยยื่นมือเข้าช่วย
หัวใจของหญิงสาวยังคงมีความเมตตา
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ศิษย์ตระกูลหลักจากทำเนียบภายนอกที่อยู่รอบๆเริ่มเดือดพล่าน
แม้ว่าวิชาดาบเมื่อครู่ของหลินหานจะทำให้พวกเขาตกใจ เพียงแต่.. มันก็เป็นเพียงแค่วิชาดาบ การจะตัดสินใจแพ้ชนะต้องวัดจากความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอของตบะ
“หลินหานคนนี้ ถึงแม้ว่าวิชาดาบจะยอดเยี่ยม แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน เขาได้ประลองกับหลินซื่อ ตบะของเขานั้นน้อยนิดและอ่อนแอในขอบข่ายทวิสวรรค์เท่านั้น”
"สหายหลินเจี้ยนไม่เพียงแต่แข็งแกร่งในด้านวิชาดาบเท่านั้น แต่ตบะยังก้าวข้ามสู่ยุทธิ์ตรีสวรรค์ จนหลอมรวมสสารถ่องแท้ หลินหานจักแพ้พ่ายอย่างไม่ต้องสงสัย"
ศิษย์ตระกูลหลักจากทำเนียบภายนอกที่อยู่รอบๆต่างมองไปที่หลินหาน ดวงตาของเขาแสดงความโหดร้าย
ศิษย์จากสาขาคนนี้ทำให้พวกเขารู้สึกถึงวิกฤตอันตราย หากหลินเจี้ยนสามารถกำจัดได้ การประลองของทำเนียบภายนอกจะทำให้พวกเขาสบายกขึ้นมาก
ในสายตาของศิษย์ตระกูลหลักเหล่านี้ ไม่มีความรู้สึกเห็นใจใดใดต่อศิษย์จากสาขา มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้น
ในอดีต ยามที่หลินหานอ่อนแอ พวกเขามีแต่ความดูถูกและรังเกียจในใจ
แต่ตอนนี้ เมื่อได้เห็นวิชาดาบที่ยอดเยี่ยมของหาน นอกจากความหวาดหวั่นเล็กน้อย ความรู้สึกอื่นที่หลงเหลือในใจ มีเพียงความคิดจะสังหารเท่านั้น
"เข้ามา สู้กับข้า!" บัดนี้ ดวงตาของหลินหานนั้นเย็นชา ทันใดนั้น เขาก็มองไปทางหลินเจี้ยนที่อยู่ไม่ไกลนัก
ร่างของเขาสูงโปร่ง ราวกับหอกยาวที่จะแทงทะลุฟากฟ้า
แม้จะสวมผ้าหนา แต่ก็ยากที่จะปกปิด หลินพูดทันทีว่า: "ข้าก็อยากรู้ ว่าข้าจะต้านรับดาบของเจ้าได้หรือปล่า!"
การต่อสู้ กำลังจะเริ่ม!