ตอนที่ 11 อสูรพยัคฆ์มังกร [อ่านฟรี]
ตอนที่ 11 อสูรพยัคฆ์มังกร
ผู้แปล Doramartin
"ฉึก"
ทันใดนั้น แสงของดาบทะยานผ่านท้องฟ้ามา ตัดงูหลามวารีดำที่ขดตัวอยู่บนต้นไม้จนขาดเป็นสองท่อน เขาเก็บดีงู และใส่ไว้ในถุงผ้า
หลินหานเก็บดาบ แล้วตบกระเป๋าผ้าใบใหญ่ที่ตุงตุงอยู่ด้านหลัง สีหน้าเปล่งประกายด้วยความดีใจ
เวลาครึ่งวันเต็มๆ เกือบจะห้าชั่วยาม หลินหานไม่หยุดพักเลยแม้แต่น้อย เขาฆ่าสัตว์ร้ายในป่าหม่างแห่งเมืองต้วนเทียน และได้รับวัตถุดิบมากมาย
"งูหยกสีคราม เขี้ยวพิษ ดีงู ... ประมาณห้าตำลึงทอง... "
"ปีศาจหมีพิภพ กรงเล็บหมี ขน แก่นปีศาจ ... ประมาณยี่สิบตำลึงทอง... "
"เสือดาววายุ หนังเสือ แก่นปีศาจ... ประมาณสามสิบตำลึงทอง... "
......
บัดนี้ หลินหานมองดูวัสดุของอสูรปีศาจที่เขาล่ามาได้ แล้วคำนวนทีละตัว ได้ประมาณสี่ร้อยตำลึงทองยังขาดอีกหนึ่งร้อยตำลึงทอง
และในระหว่างที่ล่าอสูรปีศาจเหล่านี้ วิชายุทธของหลินหานก็ยังถูกขัดเกลาและมีการพัฒนาอย่างมาก
เขาสามารถฝึกสิบสามย่างก้าวแห่งมังกรทะยานจนสามารถย่างได้สิบสามก้าวเต็มๆ มันถึงขั้นบริบูรณ์แล้ว
ทั้งยังเข้าใจวิชาดาบถอดฝักจนถึงขั้นบริบูรณ์เช่นกัน เมื่อดึงดาบออกมา ดั่งเสียงฟ้าร้องดัง พลังทำลายล้างมหาศาล
ส่วนลำแสงสิบสามดาบ แม้ว่ามันจะเป็นชุดวิชาดาบระดับสูง แต่บัดนี้ ก็ถูกหลินหานเรียนรู้จนถึงขั้นอุรุสัมฤทธิ์แล้ว เขาสามารถฟันออกไปได้สิบสองดาบในคราเดียว อีกเพียงนิดเดียวเขาจะเรียนรู้ถึงขั้นบริบูรณ์ ฟาดฟันดาบสิบสามลำแสง
นี่มันสุดยอดมาก
หากคนของสำนักตระกูลหลินทราบเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะก่อให้เกิดดวงตาตกใจมากมายเพียงใด
อย่างที่ทราบ หลินหานได้ฝึกฝนลำแสงสิบสามดาบ เพียงเวลาครึ่งวันสั้นๆเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้หัวใจของหลินหานทอดถอนใจอย่างอดไม่ไหว คนอื่นๆต้องฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาหลายปีกว่าจะเรียนรู้วิชาดาบจนถึงขั้นอุรุสัมฤทธิ์ แต่เขาเรียนรู้เพียงครึ่งวันเท่านั้น ดั่งภูติผีปีศาจก็ไม่ปาน
หลินหานรู้ได้สึกถึงบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทองในจิตของเขาอีกครั้งหนึ่ง มันยกระดับคุณภาพวิชายุทธของเขาทั้งหมดให้อยู่ในระดับที่เหนือกว่าขอบเขตสามัญสำนึก
ในตอนที่หลินหานเตรียมพร้อมที่จะไล่ล่าอสูรปีศาจต่อไป เพื่อจะได้รวบรวมหนึ่งร้อยตำลึงทองที่ยังขาดอยู่ให้ครบ .....
"กรรรรรร!"
ทันใดนั้น เสียงของสัตว์ร้ายตัวหนึ่งดั่งขึ้นอย่างน่าสะพรึงจนหาใดเปรียบ สนั่นจากจุดที่ลึกเข้าไปในป่าหม่าง
เสียงคำรามนั่น ดั่งพยัคฆ์ดุจมังกร คลื่นเสียงแฝงพลังอย่างแกร่งกล้า แม้ว่าจะอยู่ไกลโพ้นแต่คราวนี้มันสามารถทำให้เลือดในกายของหลินหานเดือดเล็กน้อย
"เป็นพลังปราณที่ทรงพลังยิ่ง!"
หลินหานสื่ออารมณ์ตกใจ
หรือว่า จุดที่ลึกเข้าไปในป่าหม่างของเมืองต้วนเทียน มีสัตว์ร้ายระดับราชันอสูรอยู่เหรอ?
"นั่นคือ... "
เกือบจะเป็นเวลาเสี้ยววินาที หลินหานเพ่งสายตามองให้ไกลลึกเข้าไป เขาเห็นอสูรยักษ์โบราณขนาดเท่าภูเขา ทะยานตัวอย่างคลุ้มคลั่งอยู่ในส่วนลึกของป่าหม่าง มีพลังการมองเห็นอย่างน่าสะพรึง
หลังจากการเปลี่ยนแปลงจากเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทอง ทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นของหลินหานนั้นแข็งแกร่งมาก ราวกับมีญาณทิพย์มองได้ไกลพันลี้ก็ไม่ปาน
ยามนี้ เขาเห็นมันอย่างชัดเจนมาก
ใจกลางของป่าที่ต้นไม้เก่าแก่นับไม่ถ้วน, อสูรยักษ์นั่น ร่างกายเหมือนเสือแต่หัวเป็นหัวมังกร และมีเขาโค้งสองเขา
“หรือว่า มันเป็นเสือปีศาจสายพันธ์แปลกซึ่งสืบทอดเลือดมังกรในตำนาน ใช่อสูรพยัคฆ์มังกรในตำนานหรือเปล่า?” หลินหาคาดเดา
ปัง!
ดูเหมือนว่าอสูรพยัคฆ์มังกรจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงแม้ว่าสายตาจะดุร้ายแต่กลับก้าวเดินอย่างโซเซ มันเหยียบย่ำอย่างอิสระ และทำลายต้นไม้เก่าแก่นับไม่ถ้วน
"รีบออกไปจากที่นี่ซะ อสูรพยัคฆ์มังกรตัวนี้ ฝึกฝนมาเป็นร้อยปีแล้ว พลังปีศาจมากล้นอย่างน่าขนลุกขนพอง คงเทียบได้กับผู้มีฝีมือที่ครอบครองยุทธปัญจสวรรค์ ไม่สามารถต้านทานได้หรอก!"
ครานี้ มีร่างคนหลายคนวิ่งมาทางนี้ พวกเขาทุกคนแสดงสีหน้าความหวาดกลัว เมื่อหนึ่งในนั้นมองเห็นหลินหาน เขาก็ตะโกนทันที
อย่างไรก็ตาม คำเตือนของชายผู้นั้น หลินหานเพียงพยักหน้าให้ แต่เขายังยืนอยู่ที่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อน
ฝึกฝนเคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่ ทำให้หลินหานรู้สึกมีแรงกดดันที่มองไม่เห็นจากสัตว์ร้ายที่มีสายเลือดมังกร
ยิ่งกว่านั้น หลังจากการเปลี่ยนแปลงจากเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์สีทอง พลังตรวจจับของหลินหานก็ทรงพลังอย่างยิ่ง ทำให้หลินหานตระหนักได้ว่าอสูรพยัคฆ์มังกรตนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ลมหายใจแผ่วเบา
นี่ อาจจะเป็นโอกาส
นั่นคือ ...
สังหารอสูรพยัคฆ์มังกรตัวนี้!
หากสามารถสังหารได้ ก็สามารถรวบรวบหนึ่งร้อยตำลึงทองที่ยังขาดอยู่ได้ และอาจจะเหลือเก็บอีกจำนวนมาก
อสูรพยัคฆ์มังกรตัวนี้เป็นอสูรร้ายสายพันธ์แปลกที่อยู่ในป่าลึกของป่าหม่างแห่งเมืองต้วนเทียน มีมูลค่าและหายากอย่างยิ่ง
"คุณหนูใหญ่ รีบหนี!"
ทันใดนั้น ในบรรดากลุ่มคนไม่กี่คนที่วิ่งหนีกุลีกุจอ มีชายหนุ่มสวมชุดเกราะคนหนึ่งร้องตะโกนขึ้นทันที
"คุณหนูใหญ่?"
หลินหานเปลี่ยนสีหน้า มองไปที่ระยะไกล ที่นั่น ด้านหน้าเท้าขนาดใหญ่ของอสูรพยัคฆ์มังกร มีสาวน้อยงดงามสวมชุดสีน้ำเงินกำลังใช้วิชากาย ย่างเท้าบนอากาศวิ่งมาทางนี้
"ทักษะกายายอดเยี่ยมมาก" ดวงตาของหลินหานเป็นประกาย แต่ในวินาทีต่อมา เขามองเห็นในทันที เสื้อผ้าของหญิงสาวชุดสีฟ้าปักคำว่า "ลั่ว"
"คนของตระกูลลั่ว? หรือว่าคนเหล่านี้เป็นศิษย์แห่งสายเลือดผู้ครองเมืองแห่งเมืองต้วนเทียน? คุณหนูใหญ่นั่น หรือจะเป็นลูกสาวของเจ้าเมืองลั่วหรือ?"
ในหัวของหลินหานแสดงข้อมูลบางส่วน ทำให้เขารับรู้ถึงตัวตนของคนเหล่านี้ทันที
ตึง ตึง ตึง ......
ในเวลานี้ อสูรพยัคฆ์มังกรที่มีร่างกายขนาดใหญ่ได้คำรามขึ้นฟ้า พร้อมเดินย่ำเท้าตึงตึงเข้ามา ฝ่าเท้าหนาใหญ่ เดินกระทืบจนแผ่นดินสะเทือน
ถ้าเท้านี้เหยียบร่างคนจริงๆ ต่อให้เป็นปรมาจารย์ยุทธคนหนึ่ง เกรงว่าจะถูกเหยียบจนเละเป็นเศษเนื้อ
"ทักษะกายาของธิดาแห่งเจ้าเมืองผู้นี้ยอดเยี่ยมมาก อยู่ในระยะใกล้ขนาดนั้น แต่ทุกๆครั้งกลับสามารถหลีกหนีจากเท้าของอสูรพยัคฆ์มังกรได้อย่างเฉียดฉิว ไม่ธรรมดา"
หลินหานแอบวิเคราะห์ในใจ
ปัง!
อย่างไรก็ตาม อสูรพยัคฆ์มังกรนั้นแข็งแรงเกินไป แค่มันส่งเสียงร้องคำรามดังๆครั้งหนึ่ง พ่นลำแสงโจมตีร่างหญิงสาวชุดสีน้ำเงิน
"พรวด"
ทันใดนั้น หญิงสาวชุดสีน้ำเงินหน้าซีดเซียว นางกระเด็นลอยไปบนท้องฟ้า กระอักเลือดออกมา
"คุณหนูใหญ่!"
บรรดาชายหนุ่มของตระกูลเจ้าเมืองต่างโกรธเกรี้ยว จ้องมองอสูรพยัคฆ์มังกร แต่พวกเขาก็รู้สึกถึงความไร้พลังของตนเอง
"กรรรรรรร!"
อสูรพยัคฆ์มังกรสายตาอำมหิต บัดนี้ อสูรยักษ์ร้องคำรามอีกครั้ง ปากใหญ่เปิดอ้า พร้อมจะขย้ำหญิงสาวชุดสีนำเงินที่ตกลงไปที่พื้น
แต่.. ในเวลานี้เอง
"วิชาดาบถอดฝัก!"
บนท้องฟ้า มีร่างคนผู้หนึ่งสวมชุดสีเขียวปรากฏขึ้นโดยฉับพลัน ตวัดดาบที่ถืออยู่ในมือ ราวกับเสียงอัสนีบาต
"ฉึก"
ต่อจากนั้นแสงดาบก็เฉือนเนื้อของอสูรยักษ์ เลือดไหลเยิ้ม
"กรรรรรรร!"
อสูรยักษ์รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก มันส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างรวดร้าว
ในเวลานี้ หญิงสาวชุดสีน้ำเงินอาศัยจังหวะนี้ ฝืนกายที่บาดเจ็บทั่วร่าง หลบหนีไปจากที่เดิมทันที
ในเวลานี้ บรรดาศิษย์จากตระกูลผู้ครองเมืองต่างมองเห็น ไม่รู้เมื่อไหร่กัน ที่มีนักดาบชุดสีเขียวคนหนึ่งยืนต่อหน้าพวกเขาในจุดที่ไม่ไกลนัก
"อสูรพยัคฆ์มังกรตัวนี้ ข้าต้องการมัน"
หลินหานส่งเสียง ตวัดดาบยาวในมือของเขา จิตดาบพลุ่งพล่าน
บัดนี้ การเผชิญหน้ากับอสูรพยัคฆ์มังกร มีเพียงอย่างเดียวที่เขารู้สึกนั่นคือเลือดกำลังเดือดพล่าน
หลินหานรุ้สึกในใจเหมือนถูกปลุกปั่น ราวกับว่ามีบางสิ่งที่เขาต้องการเป็นพิเศษในตัวของอสูรพยัคฆ์มังกร
ใช่ มันเป็นความปรารถนา หรือก็คือ ความกระหายอยาก!
“มันคือบทบาทของเคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่! ใช่แล้ว อสูรพยัคฆ์มังกรตัวนี้ได้สืบทอดเลือดของเผ่ามังกรโบราณ หากข้าสกัดเลือดมังกรออกจากเลือดของมัน และกลั่นมันในร่างกายของข้าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าเหลือเชื่อ”
ดวงตาของหลินหานเนประกาย จ้องมองอสูรพยัคฆ์มังกรขนาดใหญ่ ดวงตาของเขาเร่าร้อน
ดูเหมือนว่าเขาต้องฆ่าอสูรยักษ์ตัวนี้จริงๆ
เคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่ เป็นไพ่ตายที่สำคัญที่สุดสำหรับหลินหาน สิ่งที่สามารถทำให้เคล็ดวิชาจักรพรรดิมังกรแห่งไท่กู่รู้สึกปราถนา จะต้องเป็นพลังช่วยเสริมตนได้อย่างมหันต์
"กรรรร!"
ในขณะนี้ อสูรพยัคฆ์มังกรที่ถูกเฉือนเนื้อขาดด้วยดาบของหลินหาน คล้ายกับจะรู้สึกถึงพลังยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิมังกรจากร่างของหลินหาน มันร้องคำรามอย่างหวาดกลัวและวิ่งหนีไปให้ไกลทันที
"จะวิ่งไปไหน!"
หลินหานตะโกน อสูรพยัคฆ์มังกรนี้มีผลอย่างใหญ่หลวงต่อเขา จะปล่อยให้มันหนีไปได้อย่างไร
"สิบสามย่างก้าวแห่งมังกรทะยาน!"
ในช่วงเวลานี้เอง หลินหานใช้วิชายุทธ ร่างกายทะยานออกไปเฉกเช่นมังกร ไล่ตามทันในพริบตา